Super God Gene – ตอนที่ 2749

ตอนที่ 2749 ไล่ตาม

 

ปลาไหลไฟฟ้าไม่ปล่อยให้หานเซิ่นมีโอกาสได้คิด มันยังคงพ่นสายฟ้าออกมา และเมื่อไหร่ก็ตามที่หานเซิ่นเห็นมันอ้าปาก สายฟ้าลูกใหม่ก็จะพุ่งออกมาใส่เขา

 

หานเซิ่นกัดฟันและยกโล่เมดูซ่าส์เกซขึ้นตรงหน้าตัวเอง มันป้องกันสายฟ้าที่กำลังจะถูกร่างกายของเขา

 

แต่หานเซิ่นประเมินความน่ากลัวของสายฟ้านั่นต่ำเกินไป สายฟ้านั่นไม่สามารถทำอะไรโล่เมดูซ่าส์เกซได้ก็จริง แต่ในตอนที่สายฟ้าระเบิด มันปลดปล่อยตาข่ายไฟฟ้าไปถึงตัวหานเซิ่นที่ซ่อนอยู่ด้านหลังโล่

 

ถ้าหานเซิ่นใช้พลังของโล่เมดูซ่าส์เกซได้ เขาก็จะสามารถเปิดใช้การป้องกันที่แท้จริงของมันได้ แต่ตอนนี้หานเซิ่นใช้มันเหมือนกับชิ้นโลหะธรรมดาชิ้นหนึ่ง เขาไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงของมันได้ เขาสามารถป้องกันได้แค่พลังที่เข้ามาจากด้านหน้าเท่านั้น

 

สายฟ้าช็อตร่างกายของหานเซิ่นอีกครั้ง และทำให้ร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรงยิ่งกว่าคนที่มีอาการชักกระตุก

 

“เรานี่โชคร้ายจริงๆ” หานเซิ่นส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดขณะที่ยังคงชักกระตุกต่อไป ปลาไหลไฟฟ้านั้นเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง หานเซิ่นแทบจะไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนกับเจ้าปลาไหลได้ ถึงแม้เขาจะใช้ทุกอย่างต่อสู้กับมัน พลังสายฟ้าของมันดูจะเพิกเฉยต่อการโจมตีและการป้องกันของเขา ถึงแม้มันจะไม่สามารถฆ่าเขาได้ แต่มันก็ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส และมันยังลดความสามารถในการต่อสู้ของเขาลงไปอย่างมาก

 

เจ้าปลาไหลไฟฟ้าดูเหมือนจะรู้ว่าการโจมตีของมันได้ผลกับหานเซิ่น ดังนั้นมันจึงระดุมปล่อยลูกสายฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่อง หานเซิ่นไม่สามารถป้องกันสายฟ้านั่น และเขาก็ไม่สามารถหลบหลีกมันได้เช่นกัน ดังนั้นเขาทำได้แค่ใช้โล่ป้องกันสายฟ้าที่พุ่งเข้ามา ซึ่งทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น เขาก็จะถูกไฟฟ้าช็อตจนชักกระตุกอย่างรุนแรง มันเหมือนกับว่าร่างกายของเขาติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำให้ร่างกายของเขาสั่นไหวอย่างรวดเร็ว

 

‘เพียงแค่ฉันเก็บอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ นี่แกคิดว่าแกจะปฏิบัติกับฉันเหมือนกับแมวเหมียวทั้งที่จริงๆแล้วฉันเป็นเสือได้อย่างนั้นหรอ?’
หานเซิ่นคิดอย่างเกรี้ยวโกรธ หลังจากนั้นเขาก็เรียกชุดเกราะมนตราออกมาและใช้พลังในการแช่แข็งของอิเทอนิตี้ใส่ตัวเอง

 

ปัง!

สายฟ้าอีกลูกพุ่งมาถูกโล่เมดูซ่าส์เกซและระเบิดออกมาถูกตัวของหานเซิ่นที่อยู่ด้านหลังโล่ แต่ครั้งนี้สายฟ้าไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้ หานเซิ่นใช้พลังแช่แข็งของอิเทอนิตี้เพื่อทำให้ชุดเกราะมนตราและร่างกายของเขาไม่ได้รับผลต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ สายฟ้าของเจ้าปลาไหลไม่สามารถแพร่กระจายผ่านชุดเกราะและเนื้อหนังของเขาได้ ดังนั้นมันจึงไม่ได้ทำให้ร่างกายของเขาเป็นอัมพาต

 

“ตอนนี้ถึงตาของฉันบ้าง” หานเซิ่นยกโล่และมีดเขี้ยวผีสิงขึ้น เขาดันสายฟ้าของปลาไหลไฟฟ้ากลับไปพร้อมกับเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อหาโอกาสจู่โจมศัตรู

 

พลังของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าแข็งแกร่งกว่าหานเซิ่น แต่โชคดีที่โล่เมดูซ่าส์เกซของหานเซิ่นนั้นรับการโจมตีส่วนใหญ่เอาไว้ สายฟ้าที่ระเบิดออกมานั้นไม่สามารถทำร้ายอะไรหานเซิ่นที่ยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของอิเทอนิตี้ได้

 

มีดลมปราณของหานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรปลาไหลไฟฟ้าได้ เจ้าปลาไหลไฟฟ้าทำลายพวกมันทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ผู้ชายและปลาไหลดูเหมือนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เอาชนะกันไม่ได้ หนึ่งในพวกเขากำลังมองหาโอกาสที่จะใช้มีดแสง ขณะที่อีกฝ่ายพ่นสายฟ้าออกมานับไม่ถ้วน พวกเขาทำให้ท้องทะเลรอบๆปั่นป่วนจนเกิดเป็นวังวนที่รุนแรง

 

ปัง!

หานเซิ่นป้องกันสายฟ้าที่กระหน่ำโจมตีเข้ามาอีกชุดหนึ่งด้วยโล่ และแรงกระแทกก็ส่งร่างกายของเขากระเด็นกลับไปด้านหลังสิบเมตร นี่เป็นครั้งหนึ่งร้อยที่หานเซิ่นถูกผลักไปด้านหลัง

 

‘ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องหามีดระดับเทพเจ้าสักเล่ม มีดเขี้ยวผีสิงนั้นเป็นแค่ระดับราชัน เห็นได้ชัดว่ามันไม่แข็งแรงพอกับระดับของเราในตอนนี้’ หานเซิ่นคิดอย่างเศร้าใจเมื่อเขาเห็นรอยร้าวที่เกิดขึ้นบนใบมีดของมีดเขี้ยวผีสิง

 

หานเซิ่นใช้มีดเล่มนี้มาเป็นเวลายาวนาน ดังนั้นมันน่าเศร้าที่ต้องเห็นมันแตกร้าวแบบนี้

 

“อ้า!” หานเซิ่นร้องตะโกน เขาแทงมีดเขี้ยวผีสิงไปข้างหน้าและปลดปล่อยมีดแสงไปห้อมล้อมพื้นที่ทั้งหมด มีดแสงหลั่งไหลมาบรรจบกันเป็นสายธารของมีดแสงที่ตรงเข้าไปหาปลาไหลไฟฟ้า

 

โซ่สสารของปลาไหลไฟฟ้าระเบิดออกจากร่างกายของมันเป็นตาข่ายสายฟ้า สายธารที่ไม่มีที่สิน้สุดของมีดแสงนั้นเป็นเหมือนกับอุทกภัยที่ไหลเข้าท่วม และหลังจากที่ปะทะกันอยู่สักพัก ในที่สุดมีดแสงก็ทะลุผ่านตาข่ายสายฟ้าไฟไปถูกเกล็ดของเจ้าปลาไหล

 

มีดแสงนับไม่ถ้วนของหานเซิ่นเข้าจู่โจมปลาไหลฟ้าฟ้าราวกับพายุลูกเห็บ ทุกการกระแทกก่อให้เกิดเสียงแหลมของโลหะ และหลังจากที่ทนรับมีดแสงนับพัน ในที่สุดเกล็ดของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าก็มีเลือดไหลออกมา

 

เจ้าปลาไหลไฟฟ้าส่งเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นสายฟ้าขณะที่มันเคลื่อนที่หนีไป หานเซิ่นหยุดชะงักไปชั่วครู่ด้วยความตกตะลึงกับความเร็วของเจ้าปลาไหล แม้แต่ปีกอะพอลโลของเขาก็ไม่สามารถไล่ตามเจ้าปลาไหลได้ทัน

 

“นี่แกคิดจะหนีอย่างนั้นหรอ? การหนีจากฉันไม่ใช่เรื่องง่าย แกกินเหยื่อของฉันไป ไม่ว่ายังไงแกต้องชดใช้” หานเซิ่นใช้วิชาเทเลพอร์ตและรีบตามมันไป

 

พลังสายฟ้าของเจ้าปลาไหลไฟฟ้านั้นรวดเร็วมากจนความสามารถในการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นเกือบจะไล่ตามมันไม่ทัน เขาไม่สามารถลดระยะห่างลงได้

 

“มาดูกันสิว่าแกจะทำแบบนั้นได้นานสักแค่ไหน” หานเซิ่นพึมพำด้วยความโกรธ เขาเรียกชุดเกราะตงเสวียนออกมาแทนชุดเกราะมนตรา ชุดเกราะตงเสวียนนั้นเชื่อมต่อกับจักรวาล ซึ่งทำให้เขาสามารถดึงพลังจากจักรวาลมาใช้ได้ นั่นหมายความว่าพลังงานของหานเซิ่นเรียกได้ว่ามีไม่จำกัด เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานมากเกินไป เขาสามารถใช้การเทเลพอร์ตได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเหนื่อยล้า

 

หลังจากที่ศาสตร์ตงเสวียนกลายเป็นระดับเทพเจ้า พลังงานที่เขาได้จากจักรวาลก็สูงขึ้นกว่าเดิม ตราบใดเขาสวมใส่ชุดเกราะตรงเสวียน ร่างกายของเขาก็เหมือนกับมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีแก๊สอยู่ไม่จำกัด เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะใช้พลังไปมากขนาดไหน แม้แต่ระดับเทพเจ้าขั้นสูงที่แข็งแกร่งกว่าหานเซิ่นก็อาจจะพ่ายแพ้ถ้าการต่อสู้ยืดเยื้อจนผลแพ้ชนะถูกตัดสินกันด้วยพลังงานที่มีอยู่

 

ปลาไหลนั้นไม่ได้รู้ถึงเรื่องนี้ ดังนั้นมันพยายามจะใช้พลังสายฟ้าเพื่อว่ายไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และหลังจากที่หานเซิ่นไล่ตามมันอยู่ครึ่งวัน เขาก็สัมผัสได้ว่าเจ้าปลาไหลเริ่มจะเคลื่อนที่ช้าลง

 

‘แกจะหนีไปได้อีกนานสักแค่ไหนกัน ถึงแม้แกจะหนีไปได้อีกสามวัน ฉันก็ยังไล่ตามแกได้ทัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันไล่ตามศัตรูที่พยายามวิ่งหนี’ หานเซิ่นคิดกับตัวเองด้วยความรู้สึกอวดดี

 

ขณะที่เขากำลังคิด เขาก็เห็นป่าปะการังอยู่ด้านหน้า ป่าปะการังมีสีเลือดที่ดูโอ่อ่าและสวยงาม ปะการังทั้งหมดสูงสิบเมตรและเรืองแสงอ่อนๆออกมา เจ้าปลาไหลไฟฟ้าหายตัวเข้าไปในป่าปะการังใต้น้ำนั่น

 

“แกคิดว่าเมื่อแกหนีไปซ่อนตัวในนั้น ฉันจะหาตัวแกไม่เจออย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นเบะปากด้วยความเย้ยหยัน เขาใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อค้นหาทั่วทั้งป่าปะการัง

 

หลังจากที่ศาสตร์ตงเสวียนเลื่อนสู่ระดับเทพเจ้า รัศมีอาณาเขตของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ในตอนนี้เขาสามารถสัมผัสทั่วป่าปะการังโลหิตที่กว้างหลายหมื่นไมล์ได้

 

ด้วยระยะการค้นหาที่กว้างขนาดนั้น หานเซิ่นมั่นใจว่าจะค้นหาได้แม้แต่ปลามีนโนตัวเล็ก เจ้าปลาไหลไฟฟ้าตัวใหญ่นั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง

 

ในตอนที่อาณาเขตของหานเซิ่นครอบคลุมทั้งป่าปะการังโลหิต เขาก็รู้สึกแปลกใจ อาณาเขตของเขาดูเหมือนจะไม่สามารถเจาะทะลวงเข้าไปในป่าปะการังโลหิตได้

 

“แปลกจริงๆ อาณาเขตตงเสวียนของเราค้นหาเจ้าปลาไหลในปะการังโลหิตไม่ได้? ปะการังนั้นไม่น่าจะเป็นอะไรที่พิเศษไปได้ ป่านั้นใหญ่โตซะขนาดนี้ ดังนั้นปะการังแต่ละชิ้นก็ต้องมีค่าน้อยกว่าหัวของกำหล่ำปลี” หานเซิ่นมองไปที่ป่าปะการังโลหิตด้วยความแปลกใจ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset