Super God Gene – ตอนที่ 2753

หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวว่าตัวเองมองข้ามความจริงเรื่องหนึ่งไป

 

ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดนั้นจะทำให้เขาอยู่ยงคงกระพัน นั่นคือคุณสมบัติพิเศษของมัน มันสามารถกำจัดพลังงานด้านลบที่กำลังส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาได้ แต่ถ้าเขาได้รับผลกระทบจากพลังที่มาจากภายในตัว แทนที่จะเป็นสิ่งที่บุกรุกเข้ามาจากภายนอก ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของเขาก็จะไม่ทำอะไรกับมัน

 

“นี่หมายความว่าจุดดำพวกนี้เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายของเรากำลังเกิดความเปลี่ยนแปลงของตัวมันเองอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นคำนึงถึงความเป็นไปได้นั้น แต่มันดูจะเป็นไปไม่ได้
“ร่างกายของเราไม่ควรจะก่อให้เกิดจุดดำพวกนี้ขึ้นมา นอกซะจากเราจะได้รับผลกระทบจากพลังภายนอก แต่ทำไมร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดถึงไม่กำจัดพวกมันเหมือนทุกครั้งล่ะ?”

 

ถ้าจุดดำพวกนี้ไม่เป็นภัยตัวต่อหานเซิ่น แบบนั้นร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดก็จะไม่ทำอะไรกับมัน ถึงแม้หานเซิ่นจะสันนิษฐานว่าจุดดำพวกนี้อาจจะเป็นบางสิ่งที่มีประโยชน์กับตัวเขา แต่เขาก็ไม่ชอบใจกับการที่ต้องถูกเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกปกคลุมด้วยเกล็ด

 

หานเซิ่นพยายามคิดเกี่ยวกับวิธีที่จะกำจัดพวกมัน แต่ก็ไม่มีวิธีไหนที่ประสบความสำเร็จ และจุดดำก็ยังคงแพร่กระจายไปมากขึ้นเรื่อยๆ จุดดำหลายจุดเริ่มจะชัดเจนและเกิดเป็นรูปเป็นร่างของเกล็ดงูแล้ว

 

หานเซิ่นคิดว่าการที่เขามีเกล็ดงอกขึ้นมานั้นอาจจะเป็นผลกระทบจากปะการังโลหิต ดังนั้นเขาจึงโยนมันกลับลงไปในทะเล

 

แต่ไม่นานหลังจากนั้น หานเซิ่นก็สังเกตว่าปะการังโลหิตประหลาดนั้นกลับมาหาเขา มันเหมือนกับมังกรดำที่รอคอยเขาอย่างเงียบๆ

 

หานเซิ่นพยายามจะโยนปะการังทิ้งไปหลายต่อหลายครั้ง แต่มันไม่ได้ผล และเกล็ดก็งอกขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้เขาอยากจะร้องไห้

 

แต่สำหรับตอนนี้เกล็ดยังไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเขา จริงๆแล้วพวกมันเพิ่มการป้องกันของเขาให้สูงขึ้นอีกด้วย ในตอนที่การโจมตีมาถูกเกล็ดของเขา พวกมันก็จะช่วยรับความเสียหายกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าเกล็ดงอกปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของเขา พลังป้องกันทางกายภาพของเขาก็จะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ

 

แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ไม่อยากจะกลายเป็นตัวประหลาดที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดอยู่ดี

 

คนเราไม่สามารถซ่อนเปลวไฟด้วยกระดาษ ดังนั้นในตอนที่เอ็กซ์ควิสิทกลับมา เธอก็เห็นว่าร่างกายของหานเซิ่นปกคลุมไปด้วยเกล็ด มันทำให้เธอรู้สึกสับสน

 

หานเซิ่นไม่ได้พยายามจะบิดบังอะไร เขาบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งรวมถึงเรื่องของปะการังโลหิตและร่างของมังกรที่ตายไป เขาไม่อยากจะกลายเป็นสัตว์ประหลาด ถึงแม้มันจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นก็ตาม เขาไม่สามารถกำจัดเกล็ดพวกนี้ออกไปได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอความช่วยเหลือ

 

ในหมู่ของเวรี่ไฮมียอดฝีมืออยู่มากมาย พวกเขาทุกคนต่างก็เป็นผู้คนที่รอบรู้ พวกเขาศึกษาวิชาจีโนทั่วทั้งจักรวาล บางทีหนึ่งในพวกเขาอาจจะรู้วิชาที่จะกำจัดเกล็ดพวกนี้ไปได้

 

เอ็กซ์ควิสิทตกใจยิ่งกว่าเดิม ขณะที่หานเซิ่นเล่าเรื่องราวของเขา ดวงตาของเธอเบิกกว้าง และเธอก็จ้องไปที่ปะการังโลหิตที่ดูเหมือนกับมังกร

 

“มังกรขั้นทรูก็อตนั่น มันมีพลังแบบไหนกันแน่? ทำไมมันถึงได้ทำให้ร่างกายของข้ามีเกล็ดงอกออกมา? มันมีหนทางที่จะกำจัดพวกมันออกไปไหม?”
หานเซิ่นถามอย่างรีบร้อน เขาเกลียดเกล็ดพวกนี้มากๆ เขาจินตนาการไปว่าในตอนที่เขากลับบ้าน ลูกสาวของเขาอาจจะจำพ่อของเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ

 

เอ็กซ์ควิสิทยืนนิ่งไป เธอไม่ได้มอบคำตอบให้กับหานเซิ่นในทันที แต่ใบหน้าของเธอดูเหมือนกำลังครุ่นคิด

 

“มีอะไรอย่างนั้นหรอ? นี่ช่วยพูดอะไรสักหน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นร้องขอ

 

เอ็กซ์ควิสิทขยับริมฝีปากอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเธอก็พูดสิ่งที่หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดเอาไว้

 

“ทะเลฝังมังกรไม่ได้มีมังกรขั้นทรูก็อตอะไรนั่นอยู่ นั่นเป็นเพียงแค่ตำนาน…” เอ็กซ์ควิสิทมองหานเซิ่นอย่างแปลกๆ

 

“ไม่มี?” หานเซิ่นตกตะลึง หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา
“นั่นเป็นไปได้ยังไง? ถ้าอย่างนั้นป่าปะการังโลหิตและร่างของมังกรที่ข้าพบคืออะไรกัน?”

 

“ข้าไม่รู้ว่าป่าปะการังโลหิตหรือร่างของมังกรนั่นมาจากไหน แต่ข้ามั่นใจว่าทะเลฝังมังกรนั้นไม่ได้มีมังกรขั้นทรูก็อตอะไรนั่น หรืออย่างน้อยๆมันก็ไม่ได้มีซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตอยู่ ที่มันถูกเรียกว่าทะเลฝังมังกรก็เพราะว่ายอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรเสียชีวิตที่นั่น หลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่แห่งนั้น และที่สุดแล้วตำนานเกี่ยวกับมังกรชั่วร้ายขั้นทรูก็อตก็ถูกสร้างขึ้นมา” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

“ถึงแม้ตำนานนั่นจะเป็นแค่เรื่องแต่ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทะเลฝังมังกรจะไม่ได้มีร่างของมังกรขั้นทรูก็อตอยู่” หานเซิ่นพูด

 

เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงคำถามในจิตใจของหานเซิ่น ดังนั้นเธอจึงพูดต่อไปว่า
“เมื่อนานมาแล้วทะเลฝังมังกรนั้นไม่ได้มีอยู่ มันมียอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรไปที่นั่นเพื่อต่อสู้ การต่อสู้นั้นได้ทำลายล้างภูมิประเทศแถบนั้นจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ มันไม่ได้มีซีโน่เจเนอิคชั้นสูงอยู่ที่นั่น และเนื่องจากการต่อสู้ที่รุนแรง แม้แต่ทรัพยากรท้องถิ่นของพื้นที่นั้นก็ถูกทำลายไปด้วย มันไม่มีซีโน่เจเนอิคชั้นสูงตัวไหนที่จะไปที่นั่นด้วยตัวเอง ปลาไหลไฟฟ้าที่เจ้าฆ่าไปเป็นหนึ่งในซีโน่เจเนอิคที่ผู้อาวุโสของพวกเราจับไปปล่อยในทะเลเพื่อให้มันเติบโต ซีโน่เจเนอิคส่วนใหญ่ในทะเลก็ถูกพาตัวไปที่นั่นด้วยวิธีการแบบเดียวกัน ที่ผู้อาวุโสของพวกเรานำซีโน่เจอิคไปโยนลงในทะเลก็เพราะพวกเขาพยายามจะเพิ่มจำนวนซีโน่เจเนอิคในทะเลฝังมังกร ถ้าสิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตเคยตกลงไปในทะเลฝังมังกรจริงๆ ทางเผ่าเวรี่ไฮก็คงจะไม่ลำบากทำอะไรแบบนั้น”

 

หลังจากที่หานเซิ่นได้ยินสิ่งที่เธอพูด เขาก็ยอมแพ้ เธอคงจะพูดถูก ถ้าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ในทะเลจะมีร่างของซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตอยู่

 

“ถ้าเป็นไปไม่ได้ที่จะพบร่างของซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตที่นั่น แบบนั้นร่างกายที่เราเจอคืออะไรกัน? และยังป่าปะการังโลหิตนั่นอีก” หานเซิ่นรู้สึกสงสัย

 

เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงคำถามของหานเซิ่น “ข้าเองก็ไม่แน่ใจ จากที่ข้ารู้เกี่ยวกับทะเลฝังมังกร มันไม่ควรจะมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอยู่ที่นั่น…”

 

หานเซิ่นคิดอยู่สักครู่ หลังจากนั้นเขาก็ถามขึ้นว่า “ทำไมยอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรคนนั้นถึงตายในทะเลฝังมังกร? เขาเป็นใครกัน? มันเป็นไปได้ไหมที่ป่าปะการังโลหิตและร่างของสิ่งมีชีวิตที่ข้าเจอจะเกี่ยวข้องกับเขา?”

 

เอ็กซ์ควิสิทยิ้มแห้งๆขณะที่สายหัว “ข้าไม่ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องราวของเขามากนัก เพราะยังไงซะมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ข้ารู้แค่ว่ายอดฝีมือที่ถูกเรียกว่ามังกรที่ตายไปที่นั่นมาจากเซเคร็ด”

 

“เซเคร็ด?” หานเซิ่นตกใจ เขาพยายามควบคุมความคิดของตัวเอง ไม่อย่างนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็อาจจะสัมผัสได้ถึงความจริงที่ว่าเขามีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับเซเคร็ด

 

“เอาแบบนี้เป็นไง? ข้าจะพาเจ้าไปหาลุงเก้า เขาเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องการนำซีโน่เจเนอิคไปปล่อยลงในทะเลฝังมังกร บางทีเขาอาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้” เอ็กซ์ควิสิทพูดหลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่

 

หานเซิ่นไม่ปฏิเสธข้อเสนอแบบนั้น เขาและเอ็กซ์ควิสิทจึงรีบไปเยี่ยมเยือนลุงเก้าของเผ่าเวรี่ไฮ

 

ถึงแม้หานเซิ่นอยากจะรู้เกี่ยวกับคนที่ถูกเรียกว่ามังกรนี้ แต่เขาก็ไม่กล้าจะถามออกไป เขากลัวว่าอาจจะไม่สามารถควบคุมจิตใจไม่ให้คิดเกี่ยวกับเซเคร็ดได้ ถ้าเป็นแบบนั้น เอ็กซ์ควิสิทก็อาจจะรู้ว่าลูกชายของเขาอยู่ในเผ่าเซเคร็ดในตอนนี้

 

เอ็กซ์ควิสิทพาหานเซิ่นไปพบกับลุงเก้า ชายคนนั้นชอบหานเซิ่น ดังนั้นเขาดีใจที่เห็นหานเซิ่นมาเยือน ลุงเก้าดูเหมือนจะเป็นชายที่เบิกบาน แต่เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวของหานเซิ่น ใบหน้าของเขาก็ดูถมึงทึง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset