Super God Gene – ตอนที่ 2762

ปราสาทภายในขวด ใบหน้าของหานเซิ่นดูมืดมน เขานั่งอยู่บนพื้นขณะที่ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด

 

เขาไม่เคยรู้สึกอับอายเหมือนอย่างที่เขากำลังรู้สึกในตอนนี้ เขาจำเป็นต้องให้เด็กผู้หญิงคนนั้นเข้ามาช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ ถ้ากู่หว่านเอ๋อไม่ได้เข้ามาขวางมีดเทพเอาไว้ เขาก็คงจะไม่มีโอกาสได้ใช้ลูกบาศก์สี่แกะเพื่อหนีมา หานเซิ่นจะไม่มีวันลืมสีหน้าของกู่หว่านเอ๋อในตอนที่เขาจำเป็นหนีเอาตัวรอดมา

 

“เราจะต้องหาหนทางเอาชนะมีดเฮงซวยนั่นและพากู่หว่านเอ๋อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้”
หานเซิ่นสงบจิตใจและพยายามคิดอย่างมีเหตุผล เขารู้ว่าความรู้สึกโกรธและอับอายไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร เขาจำเป็นต้องหาทางรับมือกับมีดเทพนั่นเพื่อจะช่วยกู่หว่านเอ๋อ เขาจำเป็นต้องพาเธอมาจากที่นั่น

 

“ถ้าเราใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด เราก็ไม่ควรจะถูกทำร้ายโดยซุปเปอร์สเปชสแลซ แต่ถึงหว่านเอ๋อและร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของเราจะไม่ขัดแย้งซึ่งกันและกัน ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดของเราก็คงจะอยู่ได้ไม่นานอยู่ดี แบบนั้นเราจะป้องกันซุปเปอร์สเปชสแลซโดยที่ไม่ใช่ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดได้ยังไง? และถึงเราจะป้องกันซุปเปอร์สเปชสแลซได้ก็ยังไม่พอ เราจำเป็นมีหนทางที่จะโต้กลับและทำลายมีดเล่มนั้น แม้แต่แอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ก็ทำร้ายมันไม่ได้ และพลังของเราก็ด้อยกว่าเธอมากนัก มันคงจะเป็นอะไรที่ยากยิ่งกว่าสำหรับเราที่จะทำลายมีดเล่มนั้น”
แต่หานเซิ่นไม่คิดจะยอมแพ้เพราะเรื่องแค่นี้ เขาใช้เวลาคำนวณถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นที่นั่น มันยังคงมีโอกาสที่เขาจะทำได้สำเร็จ ซึ่งเขาคำนวณว่ามันอยู่ในอัตราหนึ่งในหมื่น แต่นั่นจะไม่สั่นคลอนความมุ่งมั่นของเขา

 

อิมมอร์ทัลดราก้อนยังคงรักษาร่างกายของหานเซิ่นอย่างไม่หยุด เนื่องจากในตอนที่เขาอยู่ในฟาร์มของพระเจ้า เขาได้รับบาดแผลเพิ่มรวดเร็วเกินไป อิมมอร์ทัลดราก้อนจึงรักษาบาดแผลได้เพียงบางส่วนเท่านั้น เขาได้รับบาดเจ็บมากซะจนเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บหนักขนาดไหนกัน

 

“เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้ ดังนั้นการจะหลบหลีกจึงเป็นไปไม่ได้ นอกซะจากเราจะลบอดีต…” เมื่อคิดได้แบบนั้น ดวงตาของหานเซิ่นก็เป็นประกายขึ้นมา

 

“บางทีเราควรจะลองอนัตตาของอัลฟ่าเผ่าเวรี่ไฮ อนัตตาเกี่ยวกับการหาหนทางให้ร่างกายตัดขาดจากจักรวาล แบบนั้นปีศาจนั่นก็จะไม่เห็นอดีตของเรา” หานเซิ่นคิดว่านี่เป็นบางสิ่งที่เขาควรจะลองดู เขามีประสบการณ์ของอัลฟ่าเผ่าเวรี่ไฮ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะฝึกอนัตตา

 

แต่ถึงอนัตตาจะป้องกันซุปเปอร์สเปชสแลซได้ หานเซิ่นก็ยังไม่มีหนทางที่จะทำลายมีดเทพอยู่ดี

 

หานเซิ่นไม่สามารถคิดเกี่ยวกับหนทางที่จะทำลายมีดเทพ แต่สำหรับตอนนี้เขาจำเป็นต้องฝึกอนัตตาซะก่อน เขาจำเป็นต้องดูว่าจะสามารถใช้มันป้องกันซุปเปอร์สเปชสแลซได้ไหม

 

เนื่องจากหานเซิ่นไม่มีเวรี่ไฮเซ้นส์เป็นฐาน เขาจึงใช้แค่วิชาใต้นภาเป็นฐานของมัน เขาใส่อนัตตาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวิชามีดใต้นภา

 

หลังจากที่ผ่านไปสองอาทิตย์ หานเซิ่นก็ยังไม่ก้าวออกไปจากปราสาทแม้แต่ก้าวเดียว ตั้งแต่ที่แอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ปรากฏตัว ร่างกายของหานเซิ่นก็ไม่มีเกล็ดงอกขึ้นมาอีก และปะการังโลหิตก็ไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรเลย ถ้าหานเซิ่นไม่ได้เห็นมันกลายเป็นแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ เขาก็คงจะคิดไปว่ามันเป็นแค่ชิ้นของปะการังธรรมดาๆ

 

“ดูเหมือนว่าเลือดของแอนเชี่ยนท์บลัดดราก้อนเลดี้ที่เรามียังไม่เพียงพอที่จะสนับสนุนการเกิดใหม่ของเธออย่างสมบูรณ์ แต่นั่นไม่เป็นไร เราไม่รู้ว่าเธอเป็นมิตรหรือศัตรู ดังนั้นนี่ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้”
หานเซิ่นมองไปที่ปะการัง หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจเดินออกไปจากปราสาท

 

สองอาทิตย์ที่ผ่านมา หานเซิ่นได้พยายามที่จะทำให้อนัตตาละลายเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวิชามีดใต้นภา แต่เขาพบกับปัญหาบางอย่างที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ เขาจำเป็นต้องมีไอเดียอย่างสองอย่าง แต่มันไม่มีอะไรที่จะบันดาลใจเขาภายในปราสาทนี้ มันยากที่จะคิดไอเดียบางอย่างขึ้นมา

 

หานเซิ่นเดินวนรอบปราสาทเป็นวงกลม แต่เขาก็ยังคงไม่เข้าใจและเขาก็รู้สึกรำคาญเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะรู้ว่าในตอนนี้เขาจำเป็นต้องสงบจิตสงบใจเอาไว้ ความคิดเกี่ยวกับกู่หว่านเอ๋อและสถานการณ์ของเธอก็ทำให้เขาจะเป็นบ้า เขาไม่สามารถใจเย็นอยู่ได้

 

หานเซิ่นเรียกไซเรนเวอร์จิ้นออกมา เขาพูดกับเธอโดยหวังว่าจะได้รับไอเดียบางอย่างจากเธอ แต่ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอะไรที่น่าผิดหวัง ไซเรนเวอร์จิ้นไม่เคยเห็นซุปเปอร์สเปชสแลซมาก่อน ดังนั้นเธอไม่มีหนทางที่จะป้องกันมันได้

 

หลังจากที่ไซเรนเวอร์จิ้นใช้เวลาครึ่งวันพูดเรื่องไร้สาระ หานเซิ่นก็ส่งเธอกลับเข้าไปในขวดดังเดิม

 

ในปราสาทไม่มีใครที่จะมอบคำแนะนำให้กับหานเซิ่นได้ หลังจากที่ลังเลอยู่อีกสักพัก ในที่สุดแล้วเขาก็ตัดสินใจเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา เขาจะไปพบกับจอมมารที่ถูกขังอยู่ในนั้น

 

ในตอนนี้จอมมารเป็นนักโทษเพียงคนเดียวที่หานเซิ่นขังเอาไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตา สิ่งมีชีวิตอื่นทั้งหมดที่เคยอยู่ในนี้ถูกส่งไปในสถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์หมดแล้ว มีเพียงแค่จอมมารเท่านั้นที่ดูอันตรายเกินกว่าที่จะปล่อยให้ออกไปจากหอคอยแห่งโชคชะตา

 

“เจ้าต้องการบางสิ่งจากข้า?” จอมมารถูกขังอยู่ในหอคอยมาอย่างยาวนาน แต่เขาไม่ได้ดูโกรธหรือร้อนใจเหมือนกับนักโทษทั่วๆไป มันดูเหมือนกับว่าเขากำลังอยู่ระหว่างการพักร้อน แทนที่จะเป็นการถูกขังอยู่ในคุก หานเซิ่นชื่นชมในจิตใจที่แข็งแกร่งของจอมมาร ถ้าหานเซิ่นถูกขังอยู่ในนี้เป็นเวลาหลายปี เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะดูสงบนิ่งแบบนี้ได้

 

“ข้าได้พบกับสิ่งมีชีวิตที่มีพลังซุปเปอร์สเปชสแลซ แต่ข้าไม่รู้ว่าจะป้องกันมันยังไง” แทนที่จะพยายามปิดบัง หานเซิ่นพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นออกไปตรงๆ

 

สติปัญญาของจอมมารนั้นสูง เขาไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกโดยคำโกหก ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้พยายามจะปิดบัง

 

“นั่นเป็นเรื่องง่าย ถ้าเจ้าสัญญาว่าจะปล่อยข้าไป ข้าจะสอนวิธีรับมือพลังซุปเปอร์สเปชสแลซให้กับเจ้า”
จอมมารพูดอย่างสงบนิ่ง ในตอนที่เขาพูดเกี่ยวกับเงื่อนไข เขาไม่ได้ดูตื่นเต้นเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย

 

“พลังของเจ้าอยู่ในระดับต่ำที่สุดของจักรวาลแห่งนี้ และคู่ต่อสู้ของข้าก็เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดของที่นี่ เจ้าคิดจริงๆหรือว่าข้าจะเชื่อเจ้า?” หานเซิ่นถามขณะที่จ้องไปที่จอมมาร

 

“ข้าเชื่อ นั่นคือเหตุผลที่เจ้ามาที่นี่ไม่ใช่หรือยังไง?”
จอมมารหยุดไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็พูดต่อไปว่า “แถมความแข็งแกร่งและความรู้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ควบคู่กันไป ยังไงซะธาตุกาลเวลาและอวกาศในจักรวาลนี้ก็เหมือนกันกับธาตุกาลเวลาของที่อื่น พวกมันทำงานเหมือนกันกับที่พวกมันทำในก็อตแซงชัวรี่ ซุปเปอร์สเปชสแลซเองก็เช่นกัน เหตุผลเบื้องหลังของพวกมันเหมือนกัน ถ้าเจ้าเข้าใจเรื่องนั้น เจ้าก็จะหาหนทางรับมือกับมันได้”

 

“ถ้าอย่างนั้นก็บอกมา ข้าจะรับมือกับซุปเปอร์สเปชสแลซได้ยังไง?” หานเซิ่นถาม

 

“ตกลงกับเงื่อนไขของข้าก่อน” จอมมารพูด

 

“เจ้าจะต้องพิสูจน์ให้ข้าเห็นก่อนว่าเจ้ารับมือกับพลังซุปเปอร์สเปชสแลซได้จริงๆ” หานเซิ่นพูดขณะที่มองไปที่จอมมารอย่างไร้สีหน้า

 

ชายคนนี้อันตรายเกินไป หานเซิ่นจะไม่ปล่อยจอมมารออกไป นอกซะจากจะไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ

 

นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความแข็งแกร่งของจอมมาร เพียงแต่ชายคนนี้น่ากลัวเกินไป ถึงแม้จอมมารจะเป็นแค่ระดับบารอน แต่หานเซิ่นก็จะไม่มอบโอกาสให้จอมมารหนีไปได้

 

จอมมารมองหานเซิ่นและยิ้มออกมา “เจ้าต้องการจะหลอกข้า เจ้าต้องการให้ข้ามอบหนทางให้กับเจ้า หลังจากนั้นเจ้าก็จะละทิ้งข้อตกลงและขังข้าเอาไว้ที่นี่”

 

“บอกบางสิ่งที่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน” หานเซิ่นพูด

 

จอมมารเป็นคนเฉียบแหลม เขาไม่ได้พูดซ้ำว่าหานเซิ่นจะไม่ยอมมอบอิสรภาพให้กับเขา เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“ตามหลักทฤษฎีแล้ว มันมีแค่หนทางเดียวที่จะรับมือกับซุปเปอร์สเปชสแลซ”

 

“หนทางอะไร?” หานเซิ่นรีบพูด เขาคิดว่าจอมมารจะไม่ยอมบอก แต่ชายคนนั้นกลับยอมพูดออกมา

 

“มันคือการฆ่าตัวเอง” จอมมารดูจริงจัง คำตอบนี้ของจอมมารทำให้หานเซิ่นรู้สึกสับสน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset