Super God Gene – ตอนที่ 2768

 

หานเซิ่นบินไปเรื่อยๆ ขณะที่ตรวจเช็คแผนที่ที่เพิ่งได้รับมา จากการดูแผนที่คร่าวๆ เขายืนยันได้ว่าระบบจักรวาลที่เขาอยู่ในตอนนี้อยู่ใกล้ๆกับระบบจักรวาลร้างขนาดใหญ่จริงๆ

 

“น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้ไปสำรวจระบบจักรวาลร้างนั่น ไม่อย่างนั้นเราก็คงจะไปกับพวกเขาแบบฟรีๆ” หานเซิ่นพูดกับตัวเอง

 

แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พบคนที่คุ้นเคยอีกครั้งหนึ่ง เขาเห็นดราก้อนวันกำลังบินเข้ามา

 

“ดอลลาร์!” ดราก้อนวันรู้สึกแปลกใจที่ได้พบกับหานเซิ่นที่นี่

 

หานเซิ่นไม่มีทางเลือกนอกจากคุยกับดราก้อนวัน ดราก้อนวันกำลังจะตรงไปที่ซีโน่เจเนอิคสเปชที่เพิ่งถูกค้นพบเช่นเดียวกัน แต่มันคงจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับเผ่าดราก้อน เพราะเขาเดินทางมาตามลำพัง

 

“ดอลลาร์ เจ้าสนใจไปสำรวจซีโน่เจเนอิคสเปชร่วมกับข้าไหม?”
ดราก้อนวันมีความคิดเหมือนกับบาร์ การมียอดฝีมืออย่างหานเซิ่นไปด้วยนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี

 

“พวกเราไปด้วยกัน แต่พวกเราจะต้องแบ่งรางวัลกันแบบห้าสิบห้าสิบ” หานเซิ่นพูดออกไปตรงๆ เขาไม่อยากจะเสียเวลาพูดอ้อมค้อม

 

ดราก้อนวันไม่ลังเล เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนอยู่แล้ว!”

 

เมื่อดราก้อนวันยอมรับข้อตกลงของหานเซิ่น เขาก็เริ่มอธิบายสถานการณ์ภายในซีโน่เจเนอิคสเปชนั่น

 

เนื่องจากมันอยู่ใกล้กับระบบจักรวาลร้าง พื้นที่ส่วนใหญ่ของมันจึงไม่ได้ถูกสำรวจ และมีเผ่าพันธุ์ชั้นสูงไม่มากนักที่จะไปที่นั่น ดังนั้นซีโน่เจเนอิคสเปชนั่นจึงถูกยึดครองโดยเผ่าพันธุ์เล็กๆที่รู้จักกันในชื่อเรดแร็ทส์

 

เรดแร็ทส์เป็นเผ่าพันธุ์ขนาดเล็ก คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาเป็นเพียงแค่ระดับราชันเท่านั้น พวกเขาไม่มีแม้แต่คนที่เป็นระดับครึ่งเทพอยู่ในเผ่า

 

ในระบบจักรวาลที่พวกเขาอยู่ไม่ได้มีซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวอยู่มากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เป็นอะไร

 

แต่เมื่อไม่นานมานี้ ดาวดวงหนึ่งในระบบจักรวาลก็เกิดระเบิดขึ้นมา หลังจากการระเบิดของดวงดาว เผ่าเรดแร็ทส์ก็ค้นพบว่าดาวดวงนั้นซ่อนทางเข้าสู่ซีโน่เจเนอิคสเปชเอาไว้

 

เผ่าเรดแร็ทส์ดีใจกับเรื่องนี้ และพวกเขาก็ส่งคนเข้าไปสำรวจซีโน่เจเนอิคสเปชนั่น แต่หลังจากนั้นมันก็มีบางสิ่งเกิดขึ้น

 

สมาชิกกว่าหนึ่งร้อยล้านคนของเผ่าเรดแร็ทส์ถูกส่งเข้าไปสำรวจในซีโน่เจเนอิคสเปช แต่มีเพียงแค่เรดแร็ทส์คนเดียวที่กลับออกมา

 

จากคำให้การของเรดแร็ทส์ที่รอดชีวิตกลับมา ซีโน่เจเนอิคสเปชนั้นเป็นสถานที่ที่น่ากลัวมากๆ มันมีดวงอาทิตย์อยู่นับไม่ถ้วน ซึ่งทำให้ภายในซีโน่เจเนอิคสเปชนั้นร้อนมากๆ พวกเขาพยายามจะเข้าใกล้หนึ่งในดวงอาทิตย์ แต่จู่ๆดวงอาทิตย์ก็ระเบิดขึ้น เรดแร็ทส์นับล้านถูกสลายกลายเป็นผุยผง และมีเรดแร็ทส์เพียงคนเดียวที่รอดกลับมาได้ เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงถูกไว้ชีวิต เพราะตามหลักแล้วเขาควรจะตายไปในแรงระเบิดเหมือนกับเรดแร็ทส์คนอื่นๆ

 

ไม่ใช่แค่นั้น เรดแร็ทส์ที่รอดมาได้ยังเป็นแค่ระดับไวเคานท์อีกด้วย เขาไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเรดแร็ทส์คนอื่นที่ตายไป มันจึงยากที่จะจินตนาการว่าเขารอดออกมาได้ยังไง

 

และไม่กี่วันหลังจากนั้นเรดแร็ทส์ที่รอดกลับมาได้ก็วิวัฒนาการ มันเลื่อนจากระดับไวเคานท์ไปสู่ระดับเอิร์ล และมันยังคงเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ การวิวัฒนาการอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนตกใจ

 

ในตอนที่ดราก้อนวันไปถึง เรดแร็ทส์ที่รอดกลับมานั้นเพิ่งจะกลายเป็นระดับราชัน

 

สถานการณ์นี้เป็นอะไรที่แปลกประหลาด และเรดแร็ทส์ที่วิวัฒนาการขึ้นอย่างกะทันหันก็ดึงดูดความสนใจของทุกเผ่าพันธุ์ พวกเขาอยากรู้ความจริงว่าอะไรกันที่เป็นตัวกระตุ้นการวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของเรดแร็ทส์คนนั้น พวกเขาสงสัยว่าเรดแร็ทส์คนนั้นคงจะได้รับบางสิ่งจากภายในซีโน่เจเนอิคสเปช และนั่นทำให้เขาวิวัฒนาการได้รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

 

หลายเผ่าพันธุ์ส่งทีมเข้าไปในซีโน่เจเนอิคสเปช แต่พวกเขาไม่ได้ยินข่าวจากทีมที่ถูกส่งเข้าไปอีกเลย ด้วยเหตุนั้นตอนนี้เผ่าพันธุ์ต่างๆจึงถูกบังคับให้ส่งยอดฝีมือระดับเทพเจ้าไปสำรวจที่นั่น

 

หลังจากที่ได้ยินดราก้อนวันอธิบายเรื่องทั้งหมด หานเซิ่นก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา เขาเองก็อยากรู้ว่าทำไมเรดแร็ทส์ที่รอดชีวิตกลับมาถึงวิวัฒนาการได้รวดเร็วขนาดนั้น ในจักรวาลจีโนนี้ความเร็วในการวิวัฒนาการถือเป็นเหมือนกับปาฏิหาริย์

 

หานเซิ่นและดราก้อนวันมุ่งหน้าไปยังทางเข้าของซีโน่เจเนอิคสเปชนั่น ในระหว่างทางดราก้อนวันดูเหมือนจะมีเรื่องบางอย่างที่ยังคาใจอยู่ เขามองไปที่หานเซิ่นอย่างเงียบๆ เขาอดไม่ได้ที่จะไอกลบเกลื่อนและพูดขึ้นว่า
“ดอลลาร์ นี่เจ้าไม่สนใจหรือยังไงว่าทำไมข้าถึงได้เลื่อนเป็นระดับเทพเจ้าได้อย่างรวดเร็ว?”

 

“นี่การกลายเป็นระดับเทพเจ้าเป็นอะไรที่พิเศษหรือยังไง?” หานเซิ่นมองดราก้อนวันด้วยความสับสน

 

ดราก้อนวันพูดอะไรไม่ออก ความเร็วที่เขากลายเป็นระดับเทพเจ้านั้นทำให้เขาเป็นหนึ่งในคนเก่งที่สุดของเผ่าดราก้อน แต่หานเซิ่นทำเหมือนกับว่านั่นเป็นบางสิ่งที่ธรรมดาๆและไม่ได้พิเศษอะไร นั่นทำให้เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย เขามีเจตนาจะพูดอวดเล็กน้อย แต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้แล้วในตอนนี้

 

หลังจากที่พวกเขาไปถึงที่หมาย หานเซิ่นก็ไม่สามารถเก็บความประหลาดใจเอาไว้ได้ ทางเข้าของซีโน่เจเนอิคสเปชนั้นเป็นเหมือนกับหลุมดำ มันคงจะกลายเป็นแบบนั้นหลังจากการระเบิดของดวงดาว

 

พวกเขาทั้งคู่มาที่นี่เพื่อสำรวจข้างใน ดังนั้นพวกเขาจะไม่ถอดใจหรือสะพรึงกลัวกับภาพที่ขู่ขวัญ พวกเขามุ่งหน้าเข้าไปในหลุมดำ ทันทีที่พวกเขาทำแบบนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองถูกเทเลพอร์ตผ่านช่องว่างของอวกาศ

 

สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ภายในซีโน่เจเนอิคสเปชนั้นทำให้หานเซิ่นรู้สึกตกใจ ดราก้อนวันบอกว่ามันเต็มไปด้วยดวงอาทิตย์ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าในซีโน่เจเนอิคสเปชนั้นจะเป็นอวกาศ

 

แต่หลังจากที่เข้าไปข้างใน เขาก็รู้สึกตัวว่ามันเป็นผืนดินที่กว้างใหญ่ แผ่นดินนั้นทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตา มันมีทั้งภูเขา ก้อนหินและต้นไม้อยู่ทุกหนทุกแห่ง

 

แต่มันแตกต่างไปจากผืนดินปกติ ทั้งภูเขา ก้อนหินและต้นไม้นั้นต่างก็ดูเหมือนกับถ่าน มันเหมือนกับว่าทั้งโลกใบนี้ถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน

 

ทุกอย่างที่มองเห็นได้นั้นถูกย้อมด้วยเฉดสีขาวดำ ทัศนียภาพไม่ได้มีสีสันเหมือนอย่างที่ผืนดินปกติควรจะเป็น ดินแดนโดยรอบเป็นสีดำสนิทสีเดียว

 

อากาศนั้นร้อนอย่างน่าสะพรึงกลัว มันเหมือนกับว่าสถานที่แห่งนี้สามารถติดไฟได้ทุกเมื่อ หานเซิ่นเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าและสังเกตเห็นสิ่งที่ดราก้อนวันบอกกับเขา ดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่หลายดวงลอยอยู่บนท้องฟ้า พวกมันมีอย่างน้อยเป็นสิบดวง

 

“ดวงอาทิตย์พวกนี้คืออะไรกัน? พวกมันเป็นดาวเคราะห์อย่างนั้นหรอ? หรือว่าพวกมันจะเป็นสิ่งมีชีวิตบางอย่างกัน?”
หานเซิ่นสงสัย เขาจ้องมองไปที่ดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าขณะที่พูด เขาอยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์เกินกว่าที่จะสัมผัสอะไรเกี่ยวกับพวกมันได้ เขาสัมผัสได้แค่ความร้อนที่น่ากลัวที่ออกมาจากพวกมันเท่านั้น

 

“ข้าไม่รู้ แต่ที่ข้ารู้แน่ๆก็คือว่าดวงอาทิตย์พวกนี้คงจะไม่ได้อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก” ดราก้อนวันพูด

 

“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?” หานเซิ่นมองไปที่ดราก้อนวันด้วยความสับสน

 

ดราก้อนวันชี้ไปยังภูเขาที่ดำเหมือนกับถ่าน มันถูกเผาจนไหม้เกรียม
“มองดูตรงนั้น มันมีสิ่งก่อสร้างตั้งอยู่บนยอดภูเขาลูกนั้น นั่นหมายความว่ามันเคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ที่นี่”

 

หานเซิ่นมองไปตามทางที่ดราก้อนวันชี้ออกไป และเขาก็เห็นว่าท่ามกลางภูเขาที่ไหม้เกรียมนั้นมีหอคอยตั้งอยู่ มันดูเหมือนจะมีเจ็ดชั้น แต่เหมือนกับภูเขา ก้อนหินและต้นไม้ที่อยู่รอบๆ หอคอยนั่นดำเหมือนกับถ่าน

 

พวกเขาทั้งคู่บินไปที่หอคอย ในตอนที่พวกเขาไปถึงที่นั่น พวกเขาก็เห็นสิ่งก่อสร้างอีกมากมายที่ดำเหมือนกับถ่าน พวกเขาดูเหมือนจะมาเจอกับเมืองๆหนึ่งเข้า ถึงแม้พวกเขาจะไม่เห็นสิ่งมีชีวิต แต่เมื่อดูจากขนาดของเมืองแล้ว มันจะต้องมีสิ่งมีชีวิตเคยอาศัยอยู่ที่นี่อย่างน้อยหนึ่งแสนชีวิต

 

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเมืองๆนี้กลับถูกเผาจนดำเป็นถ่าน มันดูเหมือนจะถูกแผดเผาจนดำเป็นถ่านในเสี้ยววินาที เพราะทุกอย่างยังคงตั้งตรงอย่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่ใบไม้ก็ยังคงมีเส้นใบของพวกมันอยู่

 

“สถานที่แห่งนี้ เหมือนเราขะเคยเห็นมันมาก่อนที่ไหนสักแห่ง… เดี๋ยวก่อนนะที่นี่เหมือนกับสถานที่ภายในก็อตแซงชัวรี่ที่เราพบกับนกแดงน้อย ที่นี่คือฟินิกซ์เนอร์วาน่า?” หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset