Super God Gene – ตอนที่ 2783

ไป๋ว่านเจี้ยใช้อาวุธระดับเทพเจ้าตัดผ่านสมองของฟลาวเวอร์ก็อตคนหนึ่ง แต่ถึงสมองจะถูกทำลาย ฟลาวเวอร์ก็อตคนนั้นก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

 

สเปชการ์เด้นที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยเสียงการฆ่าฟัน เหล่าราชันที่มานั้นตอนนี้ถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว แม้แต่เหล่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก เลือดกระจัดกระจายทุกหนทุกแห่ง

 

“ไปกันเถอะ!” หานเซิ่นมองไปที่ไผ่เดียวดายและเห็นว่าชายเผ่านภาที่มีพรสวรรค์คนนั้นยังมีพลังที่จะต่อสู้ต่อไป ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับชายคนนั้นมากนัก เขาคว้าแขนของเซี่ยชิงและบินตรงลึกเข้าไปในสเปชการ์เด้น

 

ส่วนลึกของสเปชการ์เด้นนั้นไม่ได้ปลอดภัยเช่นเดียวกัน แต่หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงตัวตนของไวโอเล็ตที่ไหนสักแห่งบริเวณนั้น และดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว มันมีฟลาวเวอร์ก็อตคนอื่นอยู่กับเขาด้วย

 

เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตหลายคนโผล่ขึ้นมาจากพื้นและพยายามจะหยุดหานเซิ่นเอาไว้ แต่หานเซิ่นชกใส่ฟลาวเวอร์ก็อตกระเด็นออกไปราวกับเป็นกระสอบทราย ไม่มีใครหยุดหานเซิ่นได้ เขาฟันฝ่าเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตจนมาถึงส่วนที่ลึกที่สุดของสเปชการ์เด้น ที่นั่นเขาได้พบกับต้นไม้ต้นหนึ่ง เขาชกกำปั้นใส่ลำต้นของต้นไม้จนเกิดเป็นรูขนาดใหญ่ขึ้น ดูเหมือนว่าต้นไม้นั้นจะกลวงโบ๋ หานเซิ่นจึงพาเซี่ยชิงข้างใน เมื่อพวกเขาเข้าไปข้างใน เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตที่ไล่ตามพวกเขามาก็ถอยออกไป

 

“ที่นี่ดูแปลกมากๆ” เซี่ยชิงพูดขึ้นมาขณะที่เดินตามหลังหานเซิ่น

 

“มันแปลกจริงๆนั่นแหละ” หานเซิ่นพยักหน้าเห็นด้วยขณะที่มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง

 

พวกเขาทั้งคู่เดินไปบนเส้นทางใต้ดิน แต่ผนังรอบๆตัวพวกเขาไม่ได้ทำขึ้นมาจากดินหรือหิน พวกมันเป็นเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่พันกันเป็นกำแพงที่แข็งแรง ยิ่งไปกว่านั้นเถาวัลย์ยังกึ่งโปร่งใส ซึ่งทำให้พวกมันดูเหมือนกับเส้นเลือด หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่าภายในเถาวัลย์นั้นคืออะไร แต่เขาสามารถบอกได้ว่ามีบางสิ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่ภายในนั้น

 

หลังจากที่เดินไปได้ไม่นานพวกเขาก็เห็นว่าทางข้างหน้าเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น พวกเขาออกไปสู่พื้นที่ว่างขนาดใหญ่ เถาวัลย์นับไม่ถ้วนร่วมตัวกันเป็นกำแพงของโลกใต้ดินอันกว้างใหญ่

 

หานเซิ่นพบไวโอเล็ตและฟลาวเวอร์ก็อตคนอื่นที่นั่น พวกเขากำลังยืนอยู่หน้าเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมพื้นกับเพดาน

 

“ไวโอเล็ต เจ้าเป็นผู้ชายที่ชั่วร้ายมากๆ กลลวงของเจ้านำภัยมาสู่ผู้คนมากมาย เจ้าคิดว่าจะรอดตัวไปได้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามขณะที่เดินเข้าไปหาไวโอเล็ตอย่างช้าๆ

 

แต่ไวโอเล็ตและคนอื่นไม่แม้แต่จะชำเลืองมองหานเซิ่น มือของพวกเขาประสานในท่าสวดภาวนา และพวกเขาก็กำลังพึมพำกับตัวเอง

 

แต่ไวโอเล็ตนั้นตอบกลับหานเซิ่น “ถ้าพวกเราไม่ทำแบบนี้ ฟลาวเวอร์ก็อตก็จะต้องสูญพันธุ์ มันจะไม่มีอนาคตสำหรับพวกเรา”

 

ขณะที่ไวโอเล็ตพูด หานเซิ่นและเซี่ยชิงก็เดินมาถึง แต่ทั้งสองคนหันไปมองสิ่งที่กำกำลังดึงดูดความสนใจของพวกเขา และพวกเขาก็ได้เห็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งอยู่ภายในเถาวัลย์ที่พัวพันกันอยู่ตรงใจกลาง มันดูเหมือนกับยักษ์

 

สิ่งมีชีวิตในเถาวัลย์นั้นมีความสูงหนึ่งร้อยเมตร และร่างกายทั้งร่างของมันก็ดูเหมือนกับหยก ผิวหนังของมันแวววาวราวกับคริสตัล เถาวัลย์จำนวนมากเชื่อมต่อกับร่างกายของมันจากจุดต่างๆ พวกมันกำลังดูดซับพลังงานออกจากร่างกายของยักษ์

 

“มันคืออะไร?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่รูปปั้นยักษ์หยก เขารู้สึกได้ถึงออร่าที่คุ้นเคยจากยักษ์ที่อยู่ตรงหน้า

 

“เขาคือพระเจ้า” ไวโอเล็ตตอบ

 

“พระเจ้า? เขาเป็นพระเจ้าแบบไหน?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

“เขาไม่ได้เหมือนกับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าเศษสวะพวกนั้น นี่คือพระเจ้าที่แท้จริง เขาคือพระเจ้าที่ทำได้ทุกสิ่ง” สีหน้าของไวโอเล็ตดูเหมือนกับคนบ้าที่ควบคุมตัวเองไม่ได้

 

“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเขาคือพระเจ้าจริงๆน่ะ?”
ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจว่าทำไมยักษ์นี่ถึงมีออร่าที่คุ้นเคย ถึงแม้ยักษ์นี่ดูเหมือนว่าตายไปแล้ว แต่ร่างกายของมันก็ยังคงให้ความรู้สึกที่หานเซิ่นเกลียด มันไม่ใช่พระเจ้า แต่มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ้างตัวว่าเป็นพระเจ้าเหมือนอย่างราชาจุน

 

“ข้าแค่รู้ว่าเขาคือพระเจ้า” ไวโอเล็ตพูด หลังจากนั้นเขาก็อธิบายต่อ
“สเปชการ์เด้นที่พวกเจ้ารู้จักนั้นเคยเป็นเห็ดหลินจือเล็กๆ มันมีขนาดเท่ามือคนๆหนึ่ง แต่เนื่องจากอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง สปอร์ของเห็ดหลินจือขนาดเล็กนั่นปลิวมาบนร่างของพระเจ้าที่ตายไป มันดูดซับพลังของพระเจ้าและเติบโตจนกระทั่งมันเป็นอย่างทุกวันนี้ เห็ดหลินจือใหญ่โตจนกลายเป็นซีโน่เจเนอิคสเปช และมันก็ให้กำเนิดพืชซีโน่เจเนอิคมากมาย… ถ้าสิ่งมีชีวิตนี้ไม่ใช่พระเจ้า แบบนั้นแล้วศพของสิ่งมีชีวิตอะไรที่จะมอบพลังแบบนั้นได้?”

 

หานเซิ่นมองไปที่ยักษ์หยก เท่าที่เขารู้พระเจ้าไม่สามารถโจมตีสิ่งมีชีวิตในจักรวาลจีโนได้ แต่สิ่งมีชีวิตของจักรวาลจีโนก็ไม่ควรจะแตะต้องพวกเขาได้เช่นกัน

 

ถ้ายักษ์หยกตัวนี้เป็นพระเจ้าเหมือนอย่างราชาจุนจริงๆ ถึงแม้เขาจะตายไป มันก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะใช้ศพของเขาเป็นฐานสำหรับการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตอื่น

 

‘สิ่งนี้คืออะไรกันแน่? มันเป็นศพของพระเจ้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?’ หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัวขณะที่เขาพยายามคิด

 

ก่อนที่หานเซิ่นจะได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น ไวโอเล็ตก็พูดต่อไปด้วยท่าทางตื่นเต้น
“บรรพบุรุษของพวกเราได้เป็นพยานต่อการเริ่มต้นของเห็ดหลินจือ และพวกเขาได้ปกป้องที่แห่งนี้ด้วยชีวิตของพวกเขา พวกเขาพยายามจะหาคำตอบว่าพระเจ้านี้คืออะไรกันแน่ แต่พวกเขาหาคำตอบไม่พบ แต่ทว่าเผ่าพันธุ์ของพวกเราเริ่มจะมีดอกไม้ขึ้นบนหัว ดอกไม้เหล่านั้นมอบความสามารถที่จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วให้กับพวกเรา แต่ถึงพวกเราจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเราก็ไล่ตามสิ่งมีชีวิตอื่นในจักรวาลที่พัฒนามากว่าพันล้านปีไม่ได้ แต่ความเร็วในการพัฒนาของพวกเรานั้นถูกเร่งอย่างก้าวกระโดด”

 

“หลังจากที่ผ่านหลายช่วงอายุคน ในที่สุดพวกเราก็ค้นพบหนทางที่จะดูดซับพลังจากพระเจ้าโดยตรง… พวกเขาแค่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองเป็นพืช พวกเราลอกเลียนแบบสิ่งที่เห็ดหลินจือทำกับศพของพระเจ้า มันดูดซับพลังของศพของพระเจ้าเข้าไป และพวกเราก็มีเจตนาที่จะทำแบบเดียวกัน”

 

“ข้าไม่คิดว่าแผนของพวกเจ้าเป็นไปได้สวย เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตนั้นแข็งแกร่งขึ้นก็จริง แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นบ้ากันหมด”
ตอนนี้หานเซิ่นเข้าใจแล้วว่าทำไมจู่ๆเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตถึงได้มีระดับพลังที่น่าสะพรึงกลัวแบบนั้น มันเป็นเพราะพวกเขาดูดซับพลังจากศพของพระเจ้าเข้าไป

 

“นั่นก็ใช่ แต่พวกเราเชื่อว่าพวกเราสำเร็จมากกว่าล้มเหลว ในตอนนี้พวกเราดูดซับพลังงานจากศพของพระเจ้าได้โดยตรง พวกเราไม่จำเป็นต้องกินพืชซีโน่เจเนอิคอีกต่อไปแล้ว การทำแบบนี้เป็นอะไรที่รวดเร็ว ความแข็งแกร่งของพวกเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นพิสูจน์ว่าทฤษฎีของพวกเรานั้นถูกต้อง”

 

“ในอดีต มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเราจะไปถึงระดับเทพเจ้า แต่ตอนนี้หลังจากที่ดูดซับพลังจากศพของพระเจ้าเข้าไปตรงๆ ทุกคนก็เริ่มกลายเป็นระดับเทพเจ้าราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในโลก”

 

ขณะที่ไวโอเล็ตพูดแบบนั้น ใบหน้าของเขาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิ
“แต่มันเป็นอะไรที่น่าเสียดาย ในตอนนี้ภาวะแทรกซ้อนอย่างหนึ่งแสดงขึ้น พวกเขาทนรับพลังของพระเจ้าไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มจะกลายเป็นพืช แม้แต่ความรู้สึกนึกคิดก็เริ่มจะสูญสิ้น พวกเขาแม้กระทั่งฝังตัวเองลงในพื้นดินเหมือนอย่างพืช… แต่ข้าแตกต่างออกไป…”

 

“ทำไมเจ้าถึงแตกต่างออกไป?” หานเซิ่นรู้ว่านี่คือจุดที่สำคัญที่สุด เขาจ้องมองไปที่ไวโอเล็ต ซึ่งดูเหมือนจะบ้าขึ้นเรื่อยๆ

 

ใบหน้าของไวโอเล็ตเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
“ข้าคือคนที่ถูกเลือก ข้ารับพลังของพระเจ้าได้โดยที่ไม่กลายเป็นพืชเหมือนกับคนอื่นๆ แต่ทว่าข้ามีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง ข้าจำเป็นต้องผ่านการทดสอบที่พระเจ้ามอบให้กับข้า”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset