Super God Gene – ตอนที่ 2795

“ฮ่า! ฮ่า! หานเซิ่นน้อย เจ้าดูดีกว่าเมื่อก่อนมาก” เซี่ยชิงพูดขณะที่ลูบหัวของหานเซิ่น

 

“ไปลงนรกซะ นายรีบไปหาผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตและดูว่าพวกเขาทำจีโนฟลูอิดจากดอกไม้ราชินีเสร็จแล้วหรือยัง ฉันต้องการมันในตอนนี้”
หานเซิ่นผลักมือของเซี่ยชิงออกไป เขารู้สึกแย่มากๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

แต่เซี่ยชิงดูมีความสุข เขายังคงลูบหัวของหานเซิ่นและพูด
“หานเซิ่นน้อย นายแค่ต้องรออยู่ที่นี่ พี่เซี่ยชิงคนนี้จะช่วยนายเอง”

 

“อย่าได้บอกใครเกี่ยวกับปัญหาทางร่างกายของฉัน” หานเซิ่นพูด เขาไม่อยากจะสร้างปัญหาไปมากกว่านี้

 

เซี่ยชิงตอบตกลงและไปหาผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตตามที่หานเซิ่นบอก เขานำจีโนฟลูอิดที่ถูกปรุงขึ้นจากดอกไม้ราชินีกลับมา มันเป็นขวดยาที่ใหญ่พอๆกับฝ่ามือ มันมีของเหลวสีม่วงอยู่ภายในขวด

 

หานเซิ่นเปิดขวดและจิบมันเข้าไป ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นในหัว

 

“ยีนระดับเทพเจ้า +1… ยีนระดับเทพเจ้า +1…”

หานเซิ่นแค่จิบมันเข้าไป เขาก็ได้รับยีนระดับเทพเจ้ามาสองพ้อย และมันยังคงเหลือของเหลวอยู่ในขวดอีกมาก

 

‘นี่คือหนทางที่ถูกต้องที่คนๆหนึ่งจะเพิ่มยีนระดับเทพเจ้าของตัวเอง เราเคยกินเนื้อจนท้องแทบแตกเพื่อยีนระดับเทพเจ้าแค่นิดเดียว’ หานเซิ่นถอนหายใจ

 

หานเซิ่นคิดต่อไป ‘ถ้าเรายังเพิ่มยีนระดับเทพเจ้าได้อยู่ นั่นหมายความว่าร่างกายของเราไม่ได้เป็นอะไร มันยังคงเก็บยีนได้อย่างปกติ แต่ทำไมเราถึงเป็นแบบนี้ และทำไมเราถึงใช้พลังไม่ได้?’

 

หานเซิ่นรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เขาดื่มจีโนฟลูอิดทั้งหมดเข้าไป และมันเพิ่มยีนระดับเทพเจ้าให้เขาทั้งหมดเจ็ดพ้อย แต่ร่างกายของเขาไม่ได้ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ และเขายังไม่รู้สึกถึงพลังของตัวเองเหมือนเดิม

 

“ถ้ายังไม่ฟื้นตัว เราก็คงจะต้องเก็บยีนระดับเทพเจ้าให้ครบหนึ่งร้อย และดูว่าเราจะกลายเป็นขั้นลาร์วาได้ไหม บางทีตอนนั้นร่างกายของเราอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม” หานเซิ่นพยายามจะปลอบตัวเอง

 

ตอนนี้เขากำลังเผชิญกับปัญหาอย่างหนึ่ง หานเซิ่นเคยควบคุมเด็กในชุดคลุมสีแดงได้ เขาสามารถพาเด็กในชุดคลุมสีแดงไปฆ่าพืชซีโน่เจเนอิคโดยที่ไม่มีการต่อต้านใดๆ

 

แต่ตอนนี้หานเซิ่นไม่สามารถใช้พลังได้ เขาจึงไม่กล้าจะพาเด็กในชุดคลุมสีแดงออกมาอีก และมันก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะไปฆ่าพืชซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าเช่นกัน

 

เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตไม่มียอดฝีมือระดับเทพเจ้า และเซี่ยชิงก็ยังเป็นแค่ระดับราชันเท่านั้น ดังนั้นไม่มีใครในที่นี้ที่จะจัดการกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้

 

“เราจำเป็นต้องรอให้เป่าเอ๋อและนกแดงน้อยมาถึงที่นี่ก่อน เราถึงจะออกไปล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าได้อีกครั้ง”
หานเซิ่นพยายามจะดับความใจร้อนเพื่ออดทนให้ผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไป หลังจากที่เซี่ยชิงออกไปจากสเปชการ์เด้นเพื่อไปรับตัวเป่าเอ๋อมา หานเซิ่นก็ลองฝึกวิชาจีโนดูเผื่อมันจะไปกระตุ้นให้พลังของเขากลับคืนมา

 

เนื่องจากร่างกายของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ถึงแม้เขาจะใช้ร่างกายเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด เขาก็ยังคงดูเหมือนเด็กคนหนึ่ง เขาไม่สามารถกลับไปเป็นแบบปกติอีกครั้งได้

 

วันหนึ่งหานเซิ่นกำลังอยู่ในสวนและฝึกวิชาจีโนของเขา โชคร้ายที่มันไม่มีความคืบหน้าอะไร ขณะที่เขากำลังหดหู่ ใครบางคนก็เปิดประตูและเข้ามาในสวนของเขา

 

“เซี่ยชิงกลับมาเร็วขนาดนั้นเลย?” หานเซิ่นแปลกใจ นอกจากเซี่ยชิงแล้ว คนของฟลาวเวอร์ก็อตจะไม่เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเขาถ้าไม่ได้รับอนุญาต

 

แต่หานเซิ่นรู้ว่าเซี่ยชิงไม่ควรจะกลับมาเร็วขนาดนี้ หลังจากที่หันไปมอง เขาก็สังเกตว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่เซี่ยชิง คนที่เข้ามาคือชายแกในชุดสีดำ เส้นผมและเคราของเขามีสีเทา บอกตามตรง เขาดูค่อนข้างน่ารังเกียจ

 

หานเซิ่นรู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาจำไม่ได้ว่ามีคนแบบนี้อยู่ในสเปชการ์เด้นด้วย ถ้าชายแก่คนนี้ไม่ใช่เผ่าฟลาวเวอร์ก็อต มันก็น่าสงสัยว่าเขาเข้ามาในสเปชการ์เด้นได้ยังไง

 

ชายแก่เดินเข้ามาในสวนและเห็นหานเซิ่น เขามองมาที่หานเซิ่นและพึมพำกับตัวเอง
“มันมีซีโน่เจเนอิคอายุประมานหกขวบอยู่ที่นี่ แต่เขาไม่ได้สวมใส่ชุดคลุมสีแดง และเขาก็ไม่ได้หัวโล้นเช่นกัน นี่มันถูกคนไหมนะ?”

 

เมื่อหานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็รู้สึกตกใจอย่างมาก ชายแก่นั้นกำลังพึมพำถึงเด็กในชุดคลุมสีแดง
‘นี่ชายแก่คนนี้มาเพื่อเด็กในชุดคลุมสีแดงอย่างนั้นหรอ แต่เขาเข้ามาในสเปชการ์เด้นได้ยังไงกัน?’ หานเซิ่นคิด

 

ด้วยสภาพร่างกายในตอนนี้ หานเซิ่นไม่สามารถใช้พลังหรือต่อรองกับชายแก่ได้

 

ชายแก่เลิกสนใจหานเซิ่นและมองไปรอบๆเหมือนกับว่าเขากำลังหาอะไรบางอย่าง เขาพูดกับตัวเอง
“ทั้งเมืองดอกไม้นี่มีซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนแบบนี้อยู่แค่คนเดียว เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนได้และเส้นผมก็งอกขึ้นมาได้ นี่คงจะเป็นซีโน่เจเนอิคที่เรากำลังมองหา”

 

ในตอนที่หานเซิ่นได้ยินแบบนั้น เขาก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา ชายแก่คนนั้นเข้าใจผิดและเชื่อว่าเขาคือเด็กในชุดคลุมสีแดงคนนั้น หานเซิ่นอยากจะอธิบายว่าเขาไม่ใช่เด็กในชุดคลุมสีแดง แต่ชายแก่สะบัดมือและปล่อยพลังประหลาดบางอย่างออกมา มันทำให้หานเซิ่นบินเข้าไปในแขนเสื้อของเขา

 

“เป็นวิชาที่ทรงพลังมากๆ!” หานเซิ่นเห็นว่าภายในแขนเสื้อนั้นมีเพียงแค่ความมืด เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหนกันแน่ มันเหมือนกับว่าเขาถูกดูดเข้ามาอยู่ในดินแดนที่ตัดขาดจากโลกภายนอก

 

“เรานี่โชคร้ายจริงๆ ทำไมในเวลาแบบนี้ต้องมีชายแก่ที่น่าขนลุกมาลักพาตัวเราด้วย?” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เขาถูกขังอยู่ในสถานที่ที่มืดมิดนั้นและเขาไม่สามารถทำอะไรได้

 

หลังจากที่ชายแก่จับตัวหานเซิ่นได้แล้ว เขาก็เดินทางออกจากสเปชการ์เด้นทันที มันมีพืชซีโน่เจเนอิคมากมายในสเปชการ์เด้น แต่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้คิดว่าพวกมันมีความสำคัญอะไร เขาแค่จับตัวหานเซิ่นและรีบทำการหนีไป

 

สเปชการ์เด้นที่ทรงพลังนั้นไม่สามารถหยุดการเข้าออกของชายแก่ได้ พวกเขาทั้งสองเดินทางผ่านอวกาศ และหลายวันต่อมาชายแก่ก็กลับไปถึงสถานที่ที่เขาอยู่อาศัย

 

“จริงด้วย ไป๋ว่านเจี้ยต้องการให้เขามีชีวิต เราจะฆ่าเขาไม่ได้”
ชายแก่คิดได้ว่าหานเซิ่นถูกขังอยู่ในแขนเสื้อมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว เขาจึงสะบัดแขนเสื้อเพื่อปล่อยหานเซิ่นออกมา

 

ชายแก่ที่จับตัวหานเซิ่นมาก็คือโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ที่ไป๋ว่านเจี้ยจ้าง เขาแอบเข้าไปในสเปชการ์เด้นเพื่อลักพาตัวเด็กในชุดคลุมสีแดง แต่เขาทำผิดพลาดและลักพาตัวหานเซิ่นมาแทน

 

หานเซิ่นถูกขังอยู่ในแขนเสื้อเป็นเวลาหลายวัน เขาไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนหรือว่าตอนนี้มันเป็นเวลาอะไรจนกระทั่งชายแก่ปล่อยเขาออกมา

 

สิ่งแรกที่หานเซิ่นเห็นก็คือชายแก่ที่จับตัวเขามา เขารีบมองไปรอบๆและสังเกตว่าตัวเองอยู่ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้และหญ้าที่แปลกประหลาด มันมีลำธารสีฟ้าอยู่ในหุบเขาและมีสัตว์ต่างๆมากมายป้วนเปี้ยนอยู่รอบลำธาร

 

“เจ้าควรกินนี่” ชายแก่เก็บผลไม้สองลูกจากต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆและโยนพวกมันให้กับหานเซิ่น เขารับผลไม้มาและมองไปที่ชายแก่ด้วยใบหน้าที่ซับซ้อน เขาไม่รู้ว่าควรจะอธิบายความจริงดีไหม เพราะยังไงซะเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมชายแก่ถึงต้องการตัวเด็กในชุดคลุมสีแดง ถ้าเกิดเขาบอกไปว่าตัวเองไม่ใช่เด็กคนนั้น ชายแก่อาจจะคิดว่าเขาไม่มีประโยชน์อะไรอีกต่อไป และชายแก่ก็อาจจะตัดสินใจฆ่าเขา นั่นเป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายอย่างที่สุด

 

เมื่อคิดได้แบบนั้น หานเซิ่นจึงไม่คิดจะอธิบายอะไร เขาหันไปถามแทน
“ทำไมเจ้าถึงพาข้ามาที่นี่”

 

“ข้าลักพาตัวเจ้าเพื่อสมบัติ” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์นั้นกำลังอารมณ์ดี เขานำเอารูปภาพไหมนภาออกมา เขาจ้องมองมันราวกับว่าเขากำลังมึนเมา

 

“เจ้าต้องการสมบัติอะไร?” หานเซิ่นถาม

 

“นี่คือสมบัติ” โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์พูดขณะที่ยังคงจ้องไปที่รูปภาพ

 

หานเซิ่นมองไปยังสิ่งที่ชายแก่พูดถึงและสังเกตเห็นว่ามันคือภาพวาด ในภาพวาดนั้นมีแฟรี่ที่กำลังบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset