Super God Gene – ตอนที่ 2812

 

ลุงสองและคนอื่นๆหวังว่าหานเซิ่นจะไม่หนีไปที่ลอสท์แลนด์ แต่ในตอนที่เกอร์นำทองพวกเขาไปถึงที่ลอสท์แลนด์ ความหวังของพวกเขาก็ถูกดับลง

 

“หานเซิ่นรู้ว่าเขาทำผิดพลาด นั่นจะต้องเป็นเหตุผลที่เขาเสี่ยงเข้าไปในลอสท์แลนด์ นี่พวกเราจะตามเขาเข้าไปข้างในหรือเปล่า?”
ทุกคนหันไปมองลุงสอง เป่าฉินเป็นคนที่ถามขึ้นมา

 

ลุงสองดูลังเล ถึงแม้ลอนส์แลนด์จะไม่ใช่ระบบจักรวาลร้าง แต่มันอาจจะทำให้พวกเขาหลงเข้าไปในระบบจักรวาลล้างได้

 

ระบบจักรวาลร้างนั้นเต็มไปด้วยเศษซากอารยธรรมของเซเคร็ด มันไม่มีใครรู้ว่าเซเคร็ดนั้นล่มสลายได้ยังไง และหลังจากการล่มสลายของพวกเขา ดินแดนที่เคยถูกควบคุมโดยเซเคร็ดก็กลายเป็นเขตมรณะไป มันมีซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์นับไม่ถ้วนป้วนเปี้ยนอยู่ภายในนั้น

 

พวกมันแตกต่างไปจากซีโน่เจเนอิคธรรมดาๆ ซีโน่เจเนอิคในระบบจักรวาลร้างนั้นผ่านการกลายพันธุ์มา ซึ่งทำให้พวกมันแข็งแกร่งกว่าซีโน่เจเนอิคอื่นในระดับเดียวกันมาก และพวกมันทั้งหมดก็ดูเหมือนจะบ้าคลั่ง พวกมันเต็มไปด้วยความกระหายเลือด

 

ถึงแม้ระดับเทพเจ้าจะเข้าไปข้างใน นอกซะจากพวกเขาจะเป็นขั้นทรูก็อต มันก็เป็นไปได้สูงที่พวกเขาจะไม่รอดชีวิตกลับออกมา

 

“ราชาไป๋ส่งพวกเรามาเพื่อจับตัวหานเซิ่น” เหมิงเลี่ยพูด
“ถ้าพวกเรากลับไปในตอนนี้ ภารกิจของพวกเราจะล้มเหลว”

 

“ใช่แล้ว ถ้าพวกเรากลับไปในตอนนี้ ภารกิจของพวกเราจะล้มเหลว” ลุงสองพยักหน้าและพูดต่อ
“มันควรจะไม่เป็นอะไร ถ้าหานเซิ่นเข้าไปในนั้นได้ แบบนั้นพวกเราก็เข้าไปได้เช่นกัน ข้าไม่คิดว่าเขาจะกล้าไปที่ระบบจักรวาลร้าง เขาจะต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งในลอสท์แลนด์”

 

ทุกคนรู้ว่ามันเป็นอันตราย แต่พวกเขาไม่สามารถกลับไปมือเปล่าได้ พวกเขาหวังว่าหานเซิ่นจะยังอยู่ในลอสท์แลนด์ ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงจะไปต่อ พวกเขาคิดว่าถ้าไม่ได้ตกเข้าไปในระบบจักรวาลร้าง พวกเขาก็คงจะไม่เป็นอะไร

 

ลุงสองมองไปที่หานเซิ่นและพูด “โฮลี่เบบี้ ลอสท์แลนด์นั้นอันตรายเกินไป เจ้าไม่ควรเสี่ยงเข้าไปในนั้นและให้เป่าอิงพาเจ้ากลับไป”

 

หานเซิ่นไม่คิดจะกลับไป เขาพูดอย่างกล้าหาญ
“ตอนนี้ข้าเป็นส่วนหนึ่งของเอ็กซ์ตรีมคิงเหมือนกับพวกเจ้าแล้ว และข้าก็เป็นลูกศิษย์ของราชาไป๋ ข้าจะถอยกลับไม่ได้ นั่นเป็นที่น่าอับอายสำหรับท่านอาจารย์ ลุงสองได้โปรดให้ข้าไปด้วย ข้าต้องการจะช่วยเหลือเอ็กซ์ตรีมคิงอีกแรง”

 

หานเซิ่นออกมาแบบนั้น แต่ในจิตใจเขากำลังคิดไปว่า
‘จริงๆแล้วฉันกำลังหาโอกาสเข้าไปในระบบจักรวาลร้างเพื่อตามหาเสี่ยวฮวา มันจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆถ้าได้ไปพร้อมกับพวกนาย เพราะนั่นหมายความว่าฉันจะมีที่กำบังในกรณีที่เกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้นมา หวังว่าหานเซิ่นตัวปลอมที่พวกเรากำลังไล่ล่าคนนั้นจะเข้าไปในระบบจักรวาลร้าง’

 

เมื่อได้ยินหานเซิ่นพูดแบบนั้น ลุงสองและคนอื่นๆก็มองหานเซิ่นราวกับว่าเขาเป็นดวงดาวที่เปล่งประกาย พวกเขาเริ่มจะรู้สึกว่าการที่ราชาไป๋เลือกหานเซิ่นเป็นลูกศิษย์นั้นไม่ได้เป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล

 

“ถ้าเจ้ารู้สึกแบบนั้น พวกเราก็ไปกันเถอะ! พวกเราจะจับตัวหานเซิ่นและบรรลุเป้าหมายของพวกเรา” ลุงสองพยักหน้า

 

ทัศนคติของทุกคนที่มีต่อหานเซิ่นนั้นดีขึ้นกว่าเดิม ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ค่อยชอบการที่ราชาไป๋รับคนนอกคนหนึ่งมาเป็นลูกศิษย์

 

ถึงพวกเขาจะไม่ได้ชื่นชอบหานเซิ่นซะทีเดียว แต่การที่เขาแสแสร้งว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อเอ็กซ์ตรีมคิง ทำให้ทัศนคติที่ทุกคนมีต่อเขาดีขึ้น

 

ทุกคนเดินทางเข้าไปในลอสท์แลนด์ นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นเคยเข้ามาที่นี่ เขาเห็นแสงวูบวาบบนท้องฟ้าที่เกิดเป็นภาพที่แปลกประหลาด

 

หลุมดำหนึ่งหมุนวนในวงแหวน และจุดแสงบางจุดเคลื่อนที่ไปรอบๆอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า ลอสท์แลนด์นั้นเป็นสถานที่ที่ประหลาดมากๆ หลายอย่างข้างในเป็นสิ่งที่หานเซิ่นไม่เคยเห็นมาก่อน

 

หลังจากที่เข้าไปในลอสท์แลนด์ พลังของเกอร์ก็ไม่สามารถทำงานได้อีก เขาดูหดหู่ขณะที่พูดขึ้นมา
“พลังของข้าจำเป็นต้องพึ่งสภาพแวดล้อมและบรรยากาศ แต่บรรยากาศที่นี่ถูกรบกวนมากเกินไป มันบิดเบี้ยวไปหมด ข้าไม่อาจจะจับภาพอะไรได้”

 

“เป่าอิง ดูเหมือนว่ามันจะขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว พวกเราหวังพึ่งเจ้า”
ดูเหมือนลุงสองรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ดังนั้นเขาจึงหันมาพูดกับเป่าอิงในทันที

 

ทุกคนหันไปมองเป่าอิง หานเซิ่นเองก็อยากรู้ว่าเป่าอิงมีพลังแบบไหนกันแน่ ตัวตนของเธอยังคงเต็มไปด้วยความลับ

 

เป่าอิงพยักหน้า เธอนำเอาแจกันหยกขาวออกมาถือในมือ มันเป็นแจกันเดียวกับที่หานเซิ่นเคยเห็นก่อนหน้านี้ มันน่าจะเป็นอาวุธจีโนของเธอ

 

เป่าอิงถือแจกันในมือและพูดขึ้นว่า “ข้าจำเป็นต้องใช้บางสิ่งที่เป็นของของหานเซิ่น”

 

“นั่นง่ายมาก เกอร์” ลุงสองโบกมือสั่งเกอร์

 

เกอร์ยกมือขึ้นมา ซึ่งบนนิ้วมือของเขามีฝุ่นผงอยู่เล็กน้อย
“นี่คือร่องรอยที่ข้าหามาได้ มันมีเพียงเท่านี้เท่านั้น มันจะเพียงพอไหม?”

 

“ข้าจะลองดู” เป่าอิงเอาฝุ่นผงมาใส่ในแจกัน

 

หานเซิ่นเห็นถึงการเคลื่อนไหวแปลกๆภายในแจกัน เป่าอิงรีบเอียงแจกันหยกไปด้านข้างราวกับว่าเธอกำลังเทน้ำออก แต่มันไม่มีน้ำไหลออกมา ที่ออกมาคือกลีบดอกซากุระจำนวนมาก

 

กลีบดอกซากุระนั้นเป็นเหมือนกับผีเสื้อ พวกมันทั้งหมดบินออกไปในทิศทางหนึ่ง

 

“ตามข้ามา” เป่าอิงถือแจกันหยกในมือขณะที่เริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้า กลีบดอกไม้ที่ออกมาจากแจกันนั้นยังคงนำทางไป

 

ด้วยการนำทางของกลีบดอกไม้ กลุ่มของพวกเขาเดินทางอย่างรวดเร็วผ่านดินแดนของลอสท์แลนด์ จนถึงตอนนี้มันยังไม่มีอันตรายอะไร

 

“อาวุธจีโนของเป่าอิงเป็นอะไรที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ จากการได้เห็นกลีบดอกไม้พวกนั้น ดูเหมือนว่ามันอาจจะเป็นธาตุพืช แต่มันไม่มีทางที่แจกันหยกนั่นจะประกอบขึ้นมาจากบางสิ่งที่เป็นธาตุพืช”
หานเซิ่นไม่สามารถใช้อาณาเขตตงเสวียนได้ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่ามันมีพลังอะไรกันแน่

 

“ทำไมกลีบดอกไม้ถึงบินเข้าไปในหลุมดำ?” เป่าฉินถามด้วยความแปลกใจ

 

ทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน กลีบดอกไม้กำลังพากันบินเข้าไปในหลุมดำตรงหน้าพวกเขา หลังจากที่กลีบดอกไม้เข้าไปในหลุมดำแล้ว พวกมันก็หายไป ในเวลาไม่นานกลีบดอกไม้ส่วนใหญ่ก็หายเข้าไปในหลุมดำ

 

ลุงสองมองไปที่เป่าอิงและถาม “เป่าอิง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

 

“ถ้าฝุ่นนั่นมาจากหานเซิ่น แบบนั้นเขาก็เข้าไปในหลุมดำนี้จริงๆ”
เป่าอิงหยุดไปชั่วครู่ เธอมองไปที่หลุมดำและพูดต่อ “กลีบดอกไม้เหล่านั้นยังคงมีชีวิตอยู่หลังจากที่เดินทางผ่านเข้าไปในหลุมดำ พวกมันไม่ได้ถูกฆ่าตาย นี่ควรจะเป็นหลุมดำที่ค่อนข้างเสถียร พวกเราเดินทางผ่านมันได้”

 

“ข้ากลัวว่าหลุมดำนี้จะพาพวกเราไปสู่ระบบจักรวาลร้าง มันง่ายที่จะผ่านเข้าไป แต่พวกเราจะกลับออกมายังไง?” เป่าฉินยิ้มแห้งๆ

 

“เป่าอิง เจ้ามีหนทางไหนที่จะรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ข้างในหลุมดำนั่นไหม?” ลุงสองถาม

 

เป่าอิงส่ายหัว “ข้าคิดว่ามันไกลเกินไป ข้ายังคงสัมผัสได้ถึงกลีบดอกไม้ แต่ข้าสัมผัสถึงอะไรอย่างอื่นไม่ได้”

 

“ถ้ามันไกลเกินไป หลุมดำนี้ก็อาจจะนำไปสู่ระบบจักรวาลล้างจริงๆ น้องสี่ เจ้าคิดยังไง?” ลุงสองหันไปถามเหมิงเลี่ย

 

“ถ้านี่เป็นหลุมดำที่เสถียร แบบนั้นทำไมพวกเราไม่ลงไปดูลาดราวกันก่อน?” เหมิงเลี่ยเสนอ
“ถ้าพวกเราพบว่ามันอันตรายเกินไป พวกเราก็เดินทางผ่านหลุมดำกลับมา”

 

“แบบนั้นมันจะได้ผลไหม?” ลุงสองหันไปมองเป่าอิง

 

“พวกเราลองดู” เป่าอิงมองไปที่หลุมดำ เธอยกแจกันหยกที่มีแสงประหลาดหมุนวนอยู่ภายในขึ้นมา หลังจากนั้นมันก็มีกลีบดอกไม้จำนวนมากกลับออกมาจากหลุมดำ พวกมันทั้งหมดกลับเข้าไปในแจกันหยก

 

ในตอนที่กลีบดอกไม้กลีบสุดท้ายกลับเข้าไปในแจกันหยก เป่าอิงก็พูด
“กลีบดอกไม้กลับออกมาได้ทั้งหมด และไม่มีกลีบดอกไม้ไหนที่ได้รับความเสียหายระหว่างการเดินทาง”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset