Super God Gene – ตอนที่ 2824

หานเซิ่นเห็นว่าสิ่งที่บินเข้ามาหาเขานั้นแบนเรียบ เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่มันตรงเข้ามาหาสิ่งประจำตัวของพระเจ้าในมือของเขา หานเซิ่นจะไม่ปล่อยให้มันทำได้สำเร็จ ขณะที่เขาถือดอกบัวสีม่วงเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง เขาก็ใช้มืออีกข้างชกออกไปใส่มัน

 

ปัง!

สิ่งที่บินเข้ามานั้นถูกหานเซิ่นชกกระเด็นออกไปในหมัดเดียว หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งจากมัน แต่เขาก็ไม่สามารถทำลายมันได้เช่นกัน

 

หานเซิ่นมองไปยังสิ่งที่บินเข้ามา และเขาก็เห็นว่ามันคืออะไร

 

มันดูเหมือนจะเป็นแท่งขนาดใหญ่สองแท่งที่ติดกันอยู่ มันมีความยาวประมาทหนึ่งฟุตและมีสีแดงคล้ำ มันไม่สะดุดตาเลยสักนิดเดียว เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่

 

หานเซิ่นชกใส่สิ่งที่ดูเหมือนกับแท่งสองแท่งและส่งมันกระเด็นออกด้านหลัง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังพยายามจะเข้ามาหาดอกบัวสีม่วงในมือของเขา

 

หานเซิ่นรวบรวมพลังมากยิ่งกว่าเดิม เขาใช้พลังทั้งหมดชกใส่มัน แต่มันก็ยังคงไม่ได้รับความเสียหายอะไร หลังจากที่ถูกชกกระเด็นออกไปด้านหลัง มันก็เพียงแค่บินตรงเข้ามาหาเขาอีก

 

ในตอนที่หานเซิ่นใช้วิญญาณอสูรหมาป่าสกายสตาร์ หมัดของเขาก็ทรงพลังเทียบเท่ากับระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่สามารถทำอะไรมันได้ นั่นทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก

 

เมื่อเห็นว่ามันบินกลับเข้ามาหาเขาอีกครั้ง หานเซิ่นก็เรียกดาบโคลด์ไลท์ออกมาฟันใส่แท่งทรงกลมสองแท่ง

 

ปัง!

แท่งทรงกลมสองแท่งถูกหานเซิ่นฟันร่วงลงไปกับพื้น แต่มันไม่ได้รับความเสียหายอะไร มันลอยกลับขึ้นมาจากพื้นและบินตรงเข้าหาดอกบัวสีม่วงอีกครั้ง

 

ครั้งนี้หานเซิ่นประหลาดใจยิ่งกว่าเดิม ลำแสงของดาบโคลด์ไลท์นั้นสามารถฆ่าซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลายได้ แต่ในตอนที่มันฟันใส่แท่งทรงกลมนี่ มันไม่แม้แต่จะทิ้งรอยขีดข่วนเอาไว้ ถึงแม้เจ้าสิ่งนั้นจะดูไม่มีพลังที่แข็งแกร่งอะไร แต่วัสดุของมันทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ

 

“สิ่งนั้นมันคืออะไรกัน?” ลอนโดและคนอื่นๆมองไปที่แท่งทรงกลมสองแท่งด้วยความแปลกใจ

 

ขณะที่เป่าอิงมองไปที่วัตถุนั้น เธอก็พูดขึ้นมา “มันดูเหมือนกับม้วนกระดาษ ข้าคิดว่ามันเป็นม้วนกระดาษที่มีบางสิ่งถูกเขียนเอาไว้”

 

“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น แต่ม้วนกระดาษนั้นดูไม่เหมือนกับกระดาษหรือหนังธรรมดาๆ” ลุงสองพูด
“ข้าไม่รู้ว่าวัสดุนั่นคืออะไรกันแน่ แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะตัดมันให้ขาดได้”

 

เมื่อได้ยินพวกเขาบอกว่ามันเป็นม้วนกระดาษ หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่ามันดูเหมือนจะเป็นอย่างที่พวกเขาบอก ระหว่างแท่งทรงกลมสองแท่งนั้นดูเหมือนจะมีบางสิ่งที่ดูเหมือนกับกระดาษสีแดงคล้ำอยู่ เนื่องจากกระดาษนั้นติดกับแท่งทรงกลมอยู่ มันก็ยากจะมองเห็นได้ถ้าไม่สังเกตให้ดีๆ

 

“นั่นเป็นอะไรที่แปลก กิเลนศักดิ์สิทธิ์เก็บกล่องโลหะนี้เอาไว้ในหนึ่งในรูปปั้น และในกล่องโลหะนั้นก็เก็บม้วนกระดาษเอาไว้ นอกจากนั้นม้วนกระดาษยังพยายามจะขโมยยีนของเทพสปิริต…”
หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่าม้วนกระดาษไม่ได้มีพลังโจมตีอะไร แต่พลังของเขาก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้เช่นกัน ด้วยเหตุนั้นในตอนที่มันบินเข้ามาอีกครั้ง เขาก็ตัดสินใจจะจับมันเอาไว้

 

ในตอนที่หานเซิ่นจับมันเอาไว้ในมือ ม้วนกระดาษก็พยายามจะดิ้นรนเพื่อเข้าไปหาดอกบัวสีม่วง แต่พลังของมันนั้นน้อยนิด ดังนั้นมันไม่สามารถหนีออกจากมือของหานเซิ่นได้

 

หานเซิ่นรู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่าม้วนกระดาษไม่ได้เป็นภัยต่อเขา ดังนั้นเขาจึงเก็บดอกบัวสีม่วงไป หลังจากนั้นเขาก็จับด้ามจับของม้วนกระดาษและค่อยๆเปิดมันออกเพื่อดูว่ามันมีอะไรอยู่ข้างใน

 

ในตอนที่หานเซิ่นดึงมันออกจากกัน เขาก็รู้สึกราวกับว่าม้วนกระดาษนั้นถูกติดด้วยกาวที่แข็งแรงมากๆ ถึงแม้หานเซิ่นจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่เขาก็เปิดมันออกมาได้เพียงแค่สองถึงสามเซนติเมตรเท่านั้น

 

หานเซิ่นรู้ว่าพลังของเขาไม่เพียงพอจะเปิดม้วนกระดาษนี่ได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงรีบมองดูสิ่งที่พอจะมองเห็นได้

 

ขณะที่หานเซิ่นมองเข้าไปในม้วนกระดาษที่เปิดออก เขาก็เห็นบางสิ่ง มันคือแถวตัวอักษรที่เขียนเรียงกันอยู่ มันถูกเขียนด้วยภาษาสามัญของจักรวาลจีโน ดังนั้นหานเซิ่นสามารถอ่านตัวอักษรแต่ละตัวได้ ตัวอักษรนั้นมีสีดำและถูกเขียนเอาไว้บนพื้นหลังสีแดง ตัวอักษรบนม้วนกระดาษอ่านได้ว่า “ไท่อี” ตามด้วยช่องว่าง หลังจากนั้นมันก็มีตัวอักษรที่อ่านได้ว่า “ฆ่าพระเจ้า”

 

หานเซิ่นคิดกับตัวเอง “ไท่อี… นั่นคือไท่อีที่เป่าเอ๋อเคยพบอย่างนั้นหรอ? นี่เขาเองก็เคยฆ่าพระเจ้าได้เช่นกัน? คิดว่าจะมีแต่คนที่มีสุดยอดยีนเท่านั้นที่จะฆ่าพระเจ้าได้ซะอีก ผู้นำเซเคร็ดนั้นวิจัยเกี่ยวกับมันอยู่เป็นเวลานาน แต่เขาก็ฆ่าพระเจ้าไม่ได้ แบบนั้นไท่อีคนนี้ฆ่าพระเจ้าได้ยังไงกัน?”

 

พลังในมือของเขาเริ่มจะอ่อนลงเรื่อยๆ และตอนนี้เมื่อเขาสูญเสียสมาธิกับชื่อของไท่อี ม้วนกระดาษก็ปิดตัวเองลงอีกครั้ง

 

ลุงสองและคนอื่นๆบินเข้ามาหาเขา ลอนโดถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “โฮลี่เบบี้ คุณเห็นอะไรข้างในม้วนกระดาษนี้ไหม?”

 

“ข้าเปิดมันไม่ได้ ข้าไม่รู้ว่าข้างในมันคืออะไร”
หานเซิ่นพูด เขาไม่ต้องการจะบอกคนอื่นเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้คนของเอ็กซ์ตรีมคิง

 

“ตอนนี้พวกเราอย่าเพิ่งพูดถึงมันเลย” เป่าอิงพูด
“พวกเราควรจะรีบออกไปจากระบบจักรวาลร้าง ที่นี่อันตรายเกินไป”

 

“มันมีอะไรต้องกลัว?” ลอนโดถาม
“ด้วยการที่มีโฮลี่เบบี้อยู่ที่นี่ ทำไมพวกเราจะต้องกลัวซีโน่เจเนอิคที่นี่อีก? เขามีความสามารถที่จะฆ่าได้แม้แต่พระเจ้า”

 

“พวกเราไปจากที่นี่กันเถอะ” หานเซิ่นรู้ถึงขีดจำกัดของตัวเองดี เขารู้ว่าที่เขาสามารถฆ่าอีวิลโลตัสได้ นั่นเป็นเพราะเทพสปิริตของสกายไวน์แรดิชและเศษเถ้าของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเขาจำเป็นต้องต่อสู้กับซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อต แม้แต่ดาบโคลด์ไลท์ก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยเขาได้ แถมเทพสปิริตนั้นไร้ประโยชน์ต่อซีโน่เจเนอิค

 

เมื่อนึกถึงดาบโคลด์ไลท์ขึ้นมาได้ หานเซิ่นก็มองเข้าไปในจิตและเห็นว่ามันมีวิญญาณอสูรดาบโคลด์ไลท์อีกสองดวง เขาได้รับพวกมันมาในตอนที่เขาสังหารกลุ่มของโคลด์ไลท์ชาร์ม

 

เขาอ่านข้อมูลของพวกมันและสังเกตเห็นว่าพวกมันเป็นดาบโคลด์ไลท์เหมือนกันกับวิญญาณอสูรดวงแรกที่เขาได้รับจากโคลด์ไลท์ชาร์ม แต่คำบรรยายของพวกมันแตกต่างออกไปเล็กน้อย หนึ่งในพวกมันบอกว่าเสีย ขณะที่อีกหนึ่งเป็นเหมือนกับวิญญาณอสูรดาบโคลด์ไลท์ดวงแรกของหานเซิ่นที่บอกว่าไม่สมบูรณ์

 

หานเซิ่นสังเกตได้ในทันทีว่าวิญญาณอสูรดาบโคลด์ไลท์ที่ถูกระบุว่าเสียนั้นมีพลังที่ต่ำกว่าวิญญาณอสูรดาบโคลด์ไลท์อีกสองดวง

 

“วิญญาณอสูรดาบโคลด์ไลท์จะรวมเข้าด้วยกันได้เหมือนกับวิญญาณอสูรหมาป่าสกายสตาร์ไหมนะ”
หานเซิ่นตื่นเต้นกับความเป็นไปได้นั้น เขาเห็นวิญญาณอสูรโคลด์ไลท์ชาร์มทั้งสามดวงเริ่มรวมเข้าด้วยกันและเกิดเป็นวิญญาณอสูรดาบโคลด์ไลท์ดวงใหม่

 

วิญญาณอสูรโคลด์ไลท์ชาร์มนี้เห็นได้ชัดว่าทรงพลังกว่าวิญญาณอสูรโคลด์ไลท์ชาร์มทั้งสามดวง เพียงแค่มองดูมันหานเซิ่นก็สามารถบอกได้ว่ามันทรงพลังกว่ามาก

 

หานเซิ่นมองดูข้อมูลของมันและรู้สึกดีใจ

 

[วิญญาณอสูรโคลด์ไลท์ชาร์ม: ดาบโคลด์ไลท์ (สมบูรณ์)]

 

‘แค่ในตอนที่มันยังไม่สมบูรณ์ มันก็ทรงพลังเหมือนกับอาวุธขั้นบัตเตอร์ฟลายเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เมื่อมันสมบูรณ์ บางทีดาบโคลด์ไลท์อาจจะเทียบชั้นกับอาวุธขั้นทรูก็อตได้เลย ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ มันก็จะเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ’ หานเซิ่นคิดอย่างตื่นเต้น เขาตั้งตารอโอกาสที่จะได้ใช้ดาบโคลด์ไลท์เพื่อทดสอบพลังของมัน

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset