Super God Gene – ตอนที่ 2834

“โชคดีที่นี่เป็นผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในวัยหนุ่ม ถ้านี่เป็นผู้นำเผ่าเวรี่ไฮในสมัยปัจจุบันล่ะก็ มันก็คงจะไม่ง่ายแบบนี้ที่จะหลอกเขา” หานเซิ่นรู้สึกโล่งใจ

 

ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจ้องไปที่หานเซิ่นและถาม “เจ้าเรียนรู้วิชาจีโนผ่านการมองจริงๆอย่างนั้นหรอ?”

 

“ไม่ใช่ซะทีเดียว” หานเซิ่นพูด “วิชาจีโนที่ยากบางวิชานั้น ข้าก็จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อศึกษา แต่วิชาจีโนง่ายๆพวกนั้นข้าเรียนรู้ได้ในทันที”

 

“ง่ายๆ?” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่เข้าใจถึงคำว่าง่ายของหานเซิ่น

 

ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมีสีหน้าแปลกๆขณะที่เขาถามขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้น วิชาจีโนที่ยากสำหรับเจ้าคือวิชาอะไร?”

 

“วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ของเผ่าเวรี่ไฮ นั่นเป็นวิชาจีโนที่ยากมากๆ” หานเซิ่นพูด

 

ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยินแบบนั้น อย่างน้อยเผ่าเวรี่ไฮก็มีวิชาจีโนหนึ่งที่ได้รับความยำเกรงจากชายคนนี้

 

แต่หลังจากนั้นหานเซิ่นก็พูดเสริมอีกประโยค “แต่ถ้าข้าจะต้องเรียนรู้มันจริงๆ ข้าก็ฝึกมันได้ในสิบถึงสิบห้าวัน”

 

หลังจากที่หานเซิ่นพูดแบบนั้น ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็ห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ เขาถามขึ้นว่า

“เจ้าคิดจริงๆหรือว่าเจ้าจะเรียนรู้วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ได้ในเวลาแค่สิบถึงสิบห้าวันน่ะ?”

 

“ข้าคิดว่าแบบนั้น จะยังไงก็ตามมันก็ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งเดือน” หานเซิ่นมองไปที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮด้วยความดูถูก

 

“ได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาลองดูกัน ข้ามีตำราของเวรี่ไฮเซ้นส์ติดตัวอยู่ ข้าจะอ่านวิชาจีโนหนึ่งภายในนั้นให้เจ้าฟัง ถ้าเจ้าฝึกมันได้สำเร็จในหนึ่งเดือน เจ้าจะทำอะไรกับข้าก็ได้” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮโกรธ

 

“เอาสิ นั่นฟังดูเป็นข้อตกลงที่ดี” หานเซิ่นตอบตกลง

 

สำหรับหานเซิ่นแล้ว วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์เป็นบางสิ่งที่เขาจำลองได้เพียงแค่สามสิบถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น วิชาจีโนชั้นสูงแบบนั้นเป็นอะไรที่จำลองได้ยากมากๆ การเรียนรู้วิชาเวรี่ไฮเซ้นส์ในหนึ่งเดือนนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

 

นั่นจึงเป็นการเดิมพันที่หานเซิ่นจะเป็นฝ่ายแพ้ แต่เขาไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะชนะหรือแพ้การเดิมพันนั้น เขาแค่ต้องทำให้แน่ใจว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะไม่ฆ่าผีเสื้อสาวจนกว่ามันจะผ่านไปหนึ่งเดือน นั่นหมายความว่าหานเซิ่นจะชนะการเดิมพันกับพระเจ้า นั่นคือผลลัพธ์ที่เขาต้องการ

 

ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนำเอาตำราวิชาจีโนหนึ่งออกมาและเริ่มอ่านให้หานเซิ่นฟัง

 

มันคือวิชาจีโนที่มาจากเวรี่ไฮเซ้นส์ มันจำเป็นต้องใช้เวรี่ไฮเซ้นส์เป็นฐาน ไม่อย่างนั้นผู้ฝึกก็จะไม่สามารถเรียนรู้มันได้

 

หานเซิ่นไม่มีแผนที่จะเรียนรู้มัน เขาแค่จำเป็นต้องถ่วงเวลาผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ เพื่อทำให้เขาไม่ไปฆ่าผีเสื้อสาวจนกระทั่งผ่านวันนี้ไป

 

พระเจ้าสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความสนใจ หลังจากที่หานเซิ่นและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮทำการตกลงกัน พระเจ้าก็ยิ้มและพูด

“ความสามารถในการพลิกสถานการณ์ของเจ้านั้นเป็นอะไรที่ชาญฉลาดมากๆ ถ้านี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยเห็นมัน เจ้าก็อาจจะเป็นฝ่ายชนะ แต่น่าเสียดายที่เคยมีใครบางคนพยายามจะใช้วิธีการแบบเดียวกันมาก่อน ข้าจะไม่พ่ายแพ้ให้กับวิธีการเดิมเป็นครั้งที่สอง”

 

“ใครกันที่เป็นคนใช้วิธีนี้ในครั้งก่อน? มันคือหานจิงจืออย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้

 

“ไม่ใช่หานจิงจือ เขาเป็นคนจากเซเคร็ด เขาเหมือนกับเจ้า ข้าคิดว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายชนะแล้ว เพราะข้าไล่ต้อนเขาไปอยู่ในสถานการณ์ที่จนมุม แต่เขาพลิกสถานการณ์กลับมาได้เหมือนกับที่เจ้าทำ เขาปล่อยให้ข้าทำตามแผนการของตัวเอง โดยการทำแบบนั้นเขาก็พลิกสถานการณ์กลับมาได้สำเร็จ”

ดูเหมือนกับว่าพระเจ้ากำลังพยายามนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น รอยยิ้มเล็กปรากฏบนใบหน้าของเขา ก่อนที่เขาจะพูดต่อไปว่า “แต่เจ้านั้นโชคร้าย เจ้าไม่ได้เป็นคนแรกที่ใช้วิธีแบบนี้กับข้า ด้วยเหตุนั้นเจ้าจะเป็นฝ่ายแพ้”

 

“ผลลัพธ์ยังคงไม่ออกมา เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าจะเป็นฝ่ายแพ้?” หลังจากที่พูดอย่างนั้นหานเซิ่นรู้สึกหนาวขึ้นมา

 

“เจ้าพูดถูก ผลลัพธ์ยังไม่ออกมา ข้าไม่ควรด่วนสรุปว่าเจ้าจะเป็นฝ่ายแพ้” พระเจ้าพยักหน้า มันฟังดูเหมือนกับว่าเขารู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาเพิ่งจะพูดออกไป

 

หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแกล้งทำเป็นว่าเขากำลังศึกษาวิชาจีโนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮมอบให้กับเขา เขาอยากรู้ว่าพระเจ้าจะใช้วิธีการแบบไหนเพื่อพลิกสกานการณ์ในตอนนี้

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะฆ่าผีเสื้อสาวหรือเปล่า แต่ความเป็นไปได้ที่เขาจะฆ่าเธอในเวลาที่เหลืออีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้นค่อนข้างต่ำ

 

พระเจ้าไม่ได้ทำอะไรพิเศษเพื่อยั่วยุหรือล่อลวงผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ พระเจ้านั้นเพียงแค่เริ่มพูดเกี่ยวกับเวรี่ไฮเซ้นส์

 

ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮฟังมันอยู่สักพัก และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่โกรธ “เจ้าขโมยเวรี่ไฮเซ้นส์ของเผ่าข้ามาจากที่ไหน?”

 

“ยังไงเจ้าก็จะฆ่าข้าอยู่แล้ว มันสำคัญด้วยหรอว่าข้าขโมยมันมาจากที่ไหน? ข้าถามคำถามอยู่ และข้าหวังว่าเจ้าจะตอบมัน”

ก่อนที่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะตอบ พระเจ้าก็พูดต่อ “ในตำราของเวรี่ไฮเซ้นส์มันมีประโยคที่อ่านได้ว่า ‘ลืมตัวเองและกลายเป็นทุกคน’ นั่นมันหมายความว่าอะไร?”

 

“นี่เป็นความลับของเผ่าข้า” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮพูด “ข้าจะบอกเจ้าในเรื่องนั้นได้ยังไง?”

 

พระเจ้าไม่สนใจและพูดต่อ “จากที่ข้าเข้าใจ คำว่าลืมตัวเองนั้นไม่ได้หมายความว่าลืมตัวเองจริงๆ มันเหมือนกับการเป็นผู้ให้และผู้รับ ในตอนที่ได้รับผลประโยชน์ก็ยอมใช้ผลประโยชน์ของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ปฏิบัติกับผู้อื่นด้วยห่วงใย แบบนั้นแน่นอนว่าพวกเขาจะปฏิบัติกับเจ้าเสมือนเป็นคนในครอบครัวเช่นกัน นั่นคือเหตุผลที่มันมีคำกล่าวอย่าง ‘ลืมตัวเองและกลายเป็นทุกคน’”

 

“ไม่ใช่ ถ้าอีกฝ่ายมาใกล้ชิดเพียงเพราะผลประโยชน์ ถึงแม้พวกเขาจะปฏิบัติกับเจ้าเหมือนครอบครัว มันก็ถือว่าไม่นับ…” ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคัดค้าน

 

“อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะอธิบายประโยคนี้ยังไง?”

พระเจ้าไม่ได้พูดเกี่ยวกับผีเสื้อสาว เขาแค่พูดเกี่ยวกับเวรี่ไฮเซ้นส์กับผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ

 

ในตอนแรกพระเจ้าบอกว่าเขาต้องการจะถามคำถาม แต่ดูเหมือนว่าเขาตั้งคำถามขึ้นมาเพื่อให้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮคัดค้านซะมากกว่า ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกัน ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็ได้รับแรงบันดาลใจหลายอย่าง มันมีหลายสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เขาสามารถเข้าใจมันได้ทั้งหมด จิตใจของเขาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

 

หานเซิ่นรู้สึกแย่กับเรื่องนั้น เขาค้นพบแผนการที่จะถ่วงเวลาผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ แต่ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็เกิดแรงบันดาลใจขึ้นโดยคำถามของพระเจ้า และทำให้เวรี่ไฮเซ้นส์ของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขาเข้าใจโลกใบนี้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ยิ่งเขาฉลาดมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ดูเหมือนมนุษย์น้อยลงไปเท่านั้น ตอนนี้มันยากที่จะรับประกันว่าเขาจะไม่ฆ่าผีเสื้อสาว

 

หานเซิ่นไม่ได้เข้าใจถึงความหมายของเวรี่ไฮฟอร์เก็ตเลิฟ แต่ทุกคนรู้ดีว่าคนของเวรี่ไฮที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์นั้นจะไม่รักอะไร พวกเขาสามารถทอดทิ้งได้แม้แต่ร่างกายของตัวเองเพื่อรวมเป็นหนึ่งกับจักรวาล มันจะมีอะไรที่พวกเขาทอดทิ้งไม่ได้?

 

ขณะที่พูดกับพระเจ้า ใบหน้าของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็ดูเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเขาดูใจเย็นมากขึ้นกว่าเดิมจนหานเซิ่นเริ่มจะรู้สึกกังวล

 

‘เราจะทำยังไงดี?’ หานเซิ่นไม่รู้ว่าจะแก้ไขสถานการณ์นี้ได้ยังไง คำพูดของพระเจ้านั้นเป็นไปตามกฎบางอย่าง และมันทำให้หานเซิ่นรู้สึกว่าเขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน มันเหมือนกับการพายเรือทวนกระแสน้ำ มันไม่มีอะไรที่เป็นไปได้สวย

 

หานเซิ่นเข้าใจว่านั่นเป็นเพราะพระเจ้าสามารถควบคุมกฎของโลกและหัวใจของผู้คน การเผชิญหน้ากับพระเจ้าตรงๆนั้นเป็นไปไม่ได้

 

หานเซิ่นหันไปมองที่ผีเสื้อสาว เขาคิดกับตัวเอง ‘ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็คงจะต้องใช้ดาบเพื่อกอบกู้สถานการณ์’

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset