Super God Gene – ตอนที่ 2872 นกยูงพลูโต

ร่างกายของนกยูงพลูโตนั้นส่วนใหญ่มีขนสีดำ แต่บริเวณคอและส่วนอื่นมีขนนกสีฟ้าและสีเขียว หางนกยูงที่ดูเหมือนกับดวงตานั้นก็เป็นสองสี แถมมันยังมีลูกตาสีฟ้าและรูม่านตาสีเขียวเช่นกัน

จากที่หานเซิ่นพอจะบอกได้ นกยูงพลูโตนั้นเพิ่งจะเลื่อนจากขั้นบัตเตอร์ฟลายมาสู่ขั้นทรูก็อต มันกลายเป็นขั้นทรูก็อตในระหว่างการต่อสู้รอบก่อน พลังของมันยังไม่เสถียร มันถือเป็นคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอในบรรดาสิ่งมีชีวิตที่ติดร้อยอันดับแรก ดังนั้นมันจึงเลือกคู่ต่อสู้ที่มีอันดับไม่สูงมากนัก

ในตอนนี้มันมีคนอยู่แค่สองคนเท่านั้นที่มีระดับพลังต่ำกว่านกยูงพลูโต ซึ่งสองคนนั้นก็คือหานเซิ่นและเบิร์นนิ่งแลมป์ที่ยังเป็นแค่ขั้นบัตเตอร์ฟลาย หานเซิ่นฆ่าเทพสปิริตได้สำเร็จซึ่งเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ แถมหานเซิ่นยังอยู่อันดับสุดท้ายอีกต่างหาก ส่วนเบิร์นนิ่งแลมป์อยู่อับดันที่แปดสิบสี่ ดังนั้นมันจึงอยากจะท้าสู้กับเขา

เบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าดูหม่นหมอง แต่เขาไม่ได้หวาดกลัวคู่ต่อสู้ สำหรับเขาแล้วการเข้ามาติดในร้อยอันดับแรกก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว มันจะเป็นเรื่องดีถ้าเขารักษาอันดับเอาไว้ได้ แต่การตกลงไปอยู่อันดับที่เก้าสิบเก้าก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไปสำหรับเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่า เพราะยังไงซะอันดับเก้าสิบเก้าก็จะทำให้เขาได้รับอาวุธขั้นทรูก็อตอยู่ดี การได้อาวุธขั้นทรูก็อตสำหรับเผ่าบุดด้านั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขาจะทำเพื่อเผ่าพันธุ์ในวาระสุดท้าย

เบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าไม่คิดจะยอมแพ้ในตอนนี้ การได้อันดับที่แปดสิบสี่ยังไงก็ดีกว่าการได้อันดับที่เก้าสิบเก้า เพราะนอกจากอาวุธขั้นทรูก็อตแล้ว เขายังจะได้รับวัตถุดิบขั้นทรูก็อตอีก ด้วยเหตุนั้นเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าจึงอยากจะลองดู การเผชิญหน้ากับนกยูงพลูโตขั้นทรูก็อตนั้นเป็นสิ่งที่เบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าไม่กล้าจะประมาท เขาเอามีดที่ซ่อนเอาไว้ในชุดออกมา

มีดนั้นดูประหลาดๆ มันไม่มีคมอยู่ราวกับว่ามันไม่มีใบมีด แต่ถึงอย่างนั้นมีดก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยแสงบุดด้า ซึ่งทำให้มันดูเป็นอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์

“มันดูคล้ายคลึงกับมีดเปล่าของเราอยู่ แต่มันดูแตกต่างออกไป”
หานเซิ่นไม่สามารถบอกได้ว่ามันใช่มีดเปล่าของเขาหรือเปล่า แต่แสงบุดด้าที่ออกมาจากมีดนั้นให้ความรู้สึกที่เหมือนกับพลังมารนภา ดูเหมือนว่ามันจะมีพลังเหตุอยู่ แต่มันไม่เหมือนกับพลังเหตุล้วนๆเหมือนอย่างพลังมารนภา มันมีพลังอย่างอื่นผสมอยู่ด้วย

หานเซิ่นหันไปหาพระเจ้าและถาม “นี่เผ่าบุดด้ามีพลังเหตุด้วยหรอ?”
เขาไม่แน่ใจว่าเผ่าบุดด้ามีพลังแบบไหนกันแน่

พระเจ้าหัวเราะ “ศักยภาพของเผ่าบุดด้าไม่ได้ดีนัก มันยากที่พวกเขาจะกลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงเรียนรู้วิชาจากเผ่าพันธุ์อื่นๆและประยุกต์ไปเป็นวิชาของตัวเอง นั่นคือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาอยู่รอดมาได้ ซึ่งนั่นรวมถึงวิชาการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ พวกเขาเรียนรู้มันมาจากวิชาถ่ายทอดสายเลือดของเผ่าดราก้อน บุดด้านั้นมีวิชาอยู่มากมาย แต่มันไม่มีวิชาไหนที่เป็นของพวกเขาเอง”

“พวกเขาได้พลังเหตุมาจากเผ่าเดม่อนอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

“มันไม่ได้เป็นแบบนั้น พลังเหตุภายในมีดนั้นแตกต่างไปจากของเผ่าเดม่อน นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าคิดว่ามันน่าสนใจ”

“ที่แท้เจ้าก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับมีดนั่นอย่างนั้นใช่ไหม” ในที่สุดหานเซิ่นก็เข้าใจ

“มันมีสิ่งแปลกประหลาดมากมายในจักรวาลนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่ข้าจะไม่รู้” พระเจ้าหัวเราะ

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน จู่ๆนกยูงพลูโตก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา แผนหางของนกยูงกางออก ขนนกที่ดูเหมือนกับดวงตาปลดปล่อยแสงประหลาดบางอย่างออกมา มันทำให้ทั้งอวกาศเปลี่ยนเป็นสีเขียวและสีฟ้า มันเหมือนกับว่ากำลังถ่ายทำภาพยนตร์สยองขวัญอยู่

“ถึงแม้นกยูงพลูโตจะเป็นแค่ซีโน่เจเนอิคที่ไม่ได้มีวิชาจีโนมากมายอะไร แต่พลังของมันก็เป็นอะไรที่พิเศษมากมาย”
พระเจ้าพูด “ถ้าทำลายพลังนั้นของมันไม่ได้ แม้แต่ขั้นทรูก็อตก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้”

“ข้าไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรพิเศษ เจ้าพูดอย่างกับว่ามันเป็นอะไรที่น่ากลัวและทรงพลัง แต่เบิร์นนิ่งแลมป์ไม่เห็นจะเป็นอะไร”
หานเซิ่นเห็นเบิร์นนิ่งแลมป์ถูกปกคลุมด้วยแสงสีฟ้าและสีเขียว แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

“นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พลังของนกยูงพลูโตเป็นอะไรที่น่ากลัว ในจักรวาลนี้มันมีคำกล่าวที่ว่า ‘กาลเวลาเป็นมีดสังหารที่มองไม่เห็นไม่ใช่หรอ’ อาณาเขตยมโลกของมันคือถนนสู่ความตาย ในยมโลกสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตอยู่จะถูกเปลี่ยนเป็นวิญญาณของคนตาย หลังจากนั้นนกยูงพลูโตก็จะกลืนกินพวกเขา” พระเจ้าพูด

หานเซิ่นตกใจ เขาใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อดูอาณาเขตยมโลกของนกยูงพลูโต เขาเห็นว่าแสงสีเขียวและสีฟ้ากำลังกลืนกินร่างกายของเบิร์นนิ่งแลมป์ เซลล์ของเขากำลังเปลี่ยนเป็นสีเขียวและสีฟ้า เบิร์นนิ่งแลมป์กวัดแกว่งมีดใส่นกยูงพลูโต แต่นกยูงพลูโตนั้นเป็นเหมือนกับผี ในตอนที่มีดแสงของเบิร์นนิ่งแลมป์กำลังจะสัมผัสกับร่างกายของนกยูง มีดแสงก็ทะลุผ่านไป เขาไม่สามารถทำร้ายอะไรมันได้

เบิร์นนิ่งแลมป์ลองใช้วิชาจีโนอยู่หลายวิชา แต่ไม่มีวิชาไหนที่แตะต้องตัวนกยูงพลูโตได้ นกยูงพลูโตกำลังยืนอยู่ในยมโลกพร้อมกับหางนกยูงที่ฉายแสงยมโลกออกไป

เมื่อเวลาผ่านไป ผิวของเบิร์นนิ่งแลมป์ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวและสีฟ้าที่แปลกประหลาด มันดูค่อนข้างโปร่งใส ทุกคนสามารถมองผ่านผิวหนังและเห็นเส้นเลือดของเขาที่อยู่ภายใน

“ดูเหมือนว่าพลังเหตุของมีดนั้นจะแย่กว่าของเผ่าเดม่อน” หานเซิ่นพูด

“ถึงแม้พวกมันจะเป็นพลังเหตุเหมือนกัน แต่พวกมันไม่ใช่ชนิดเดียวกัน มันเหมือนกับชนิดของเหล็ก เหล็กบางชนิดเหมาะสำหรับการนำไปทำเป็นมีด ขณะที่เหล็กบางชนิดเหมาะสำหรับการทำเป็นโล่ พวกมันแตกต่างกัน” พระเจ้าพูด

“ถ้าอย่างนั้นมีดนั่นทำอะไรได้?” หานเซิ่นถาม

“เจ้าจะได้รู้เองถ้าเจ้าดูต่อไปเรื่อยๆ” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ตอบคำถามของหานเซิ่น

ไม่ว่าจะดูยังไงเบิร์นนิ่งแลมป์ก็ดูเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ ไม่ว่าเบิร์นนิ่งแลมป์จะใช้วิชาจีโนแบบไหน เขาก็ไม่สามารถทำร้ายนกยูงพลูโตได้ นอกจากนั้นยิ่งเวลาผ่านไปร่างกายของเขาก็โปร่งใสขึ้นเรื่อยๆ เขาดูเหมือนกับคริสตัลสีเขียวและสีฟ้า

หานเซิ่นรู้สึกแปลกๆ ในอดีตเบิร์นนิ่งแลมป์ดูแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ ครั้งหนึ่งเบิร์นนิ่งแลมป์เคยเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นมดตัวหนึ่ง แต่ตอนนี้เบิร์นนิ่งแลมป์กลับดูอ่อนแอ

“ดูเหมือนว่าพลังเป็นตัวตัดสินทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ” หานเซิ่นพูดพร้อมกับถอนหายใจ

แต่หานเซิ่นไม่คิดว่าเบิร์นนิ่งแลมป์จะยอมแพ้ง่ายๆ เบิร์นนิ่งแลมป์เป็นคนที่เคร่งครัด ถ้าเขาไม่คิดว่าจะชนะได้ เขาก็จะจากไป เขาจะไม่อยู่ต่อและเสี่ยงชีวิตของตัวเองแบบนี้

ตอนนี้เขากำลังตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่แสดงทีท่าว่าจะยอมแพ้ เห็นได้ชัดว่าเบิร์นนิ่งแลมป์มีแผนการอยู่

แต่หานเซิ่นดูคิดไม่ออกว่าเบิร์นนิ่งแลมป์จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ยังไง

ร่างกายของเบิร์นนิ่งแลมป์กลายเป็นอะไรที่โปร่งใส ทันใดนั้นดวงตาของนกยูงพลูโตก็เป็นประกาย มันอ้าปากขึ้นและเริ่มดูดเบิร์นนิ่งแลมป์เข้าไป เบิร์นนิ่งแลมป์ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองเอาไว้ได้ และเขาก็ถูกดูดหายเข้าไปในปากของนกยูงพลูโตอย่างง่ายดาย นกยูงรู้สึกมีความสุขจนร้องออกมา มันเก็บหางนกยูงและอาณาเขตยมโลกก็หายไป ในตอนที่ทุกคนเชื่อว่าการต่อสู้นั้นจบแล้ว นกยูงพลูโตก็เริ่มกรีดร้องอย่างเจ็บปวด จู่ๆอกและท้องของมันก็ถูกตัดเปิดออก และเบิร์นนิ่งแลมป์ที่ถือมีดอยู่ในมือก็ออกมาจากบาดแผลนั้น

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset