Super God Gene – ตอนที่ 2883 ได้พบกันอีกครั้ง

แท่นบูชาไม่มีรอยแตกหักอีกต่อไป มันถูกซ่อมแซมจนดูเหมือนกับของใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่มีเทพสปิริตกำเนิดขึ้นมาบนแท่นบูชา

“ขอบคุณเจ้ามาก น้องชาย นี่คือรางวัลของเจ้า ข้าเชื่อว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง”
ไท่อีโยนบางสิ่งให้กับหานเซิ่นขณะที่เขาเดินเข้าไปหาแท่นบูชา

หานเซิ่นมองดูแท่นบูชาเรืองแสงสว่างไสว แสงนั้นสาดส่องออกไปทุกหนทุกแห่ง ที่ไหนก็ตามที่แสงแห่งเทพส่องไป โลหะที่ถูกทำลายก็ดูเหมือนจะถูกย้อนเวลากลับ ชิ้นโลหะแต่ละชิ้นเริ่มประกอบเข้าด้วยกัน ทั้งวิหารนั้นกำลังซ่อมแซมตัวเอง

ตอนนี้ภายในวิหารเต็มไปด้วยชิ้นโลหะที่กำลังบินอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งสิ่งก่อสร้าง รูปปั้นและเครื่องมือทั้งหมดประกอบกลับเข้าด้วยกันราวกับพวกมันถูกย้อนเวลากลับ

เนื่องจากพลังของแท่นบูชา ทั้งวิหารดูเหมือนจะเริ่มฉีกอวกาศ มันตรงเข้าไปในรอยแยกที่เกิดขึ้น

หานเซิ่นไม่กล้าจะติดตามวิหารเข้าไปในช่องว่างของอวกาศ เขาจึงออกไปจากวิหารและมองดูการซ่อมแซมตัวเองของมันจากด้านนอก

ในตอนที่วิหารซ่อมแซมตัวเองได้ประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ หานเซิ่นก็เห็นว่าโครงสร้างของวิหารนั้นดูเหมือนกับนกโลหะขนาดใหญ่

นกโลหะยักษ์นั้นดูคล้ายคลึงกับเรเวนอาทิตย์สีทองที่หานเซิ่นเคยฆ่าเมื่อก่อน แต่มันแตกต่างออกไปเล็กน้อย

วิหารดูสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มันเข้าไปในช่องว่างของอวกาศ และในที่สุดมันก็หายวับไป หลังจากนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าเขายังไม่ได้ถามคำถามกับไท่อีเลย

หานเซิ่นมองในมือของตัวเอง สิ่งที่ไท่อีโยนมาให้กับเขาคือไข่ฟองหนึ่ง มันมีขนาดเท่ากับไข่ธรรมดา แต่มันดูค่อนข้างหนักและสีของมันก็เหมือนกับโลหะ

“ทำไมเขาถึงมอบไข่ฟองหนึ่งให้กับเรา? เขาต้องการให้เราเอามันไปทำอาหารกินอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ เขาไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของไข่ฟองนี้

หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อสแกนมันดู แต่เขาไม่สามารถสัมผัสถึงพลังชีวิตจากภายในไข่ได้ มันดูเหมือนกับงานศิลปะที่ถูกทำขึ้นมาจากโลหะ

“เราไม่รู้เลยว่าไท่อีจะทำอะไรกันแน่ เขาเป็นคนที่ลึกลับ เขาซ่อมแซมวิหาร ดังนั้นมันมีโอกาสที่เขาจะเป็นเทพสปิริตของวิหารนั่น แต่จากที่สังเกตดู เขาดูไม่เห็นเหมือนกับเทพสปิริตคนหนึ่ง นี่เป็นอะไรที่แปลกจริงๆ”
หานเซิ่นไม่เข้าใจ ดังนั้นเขาจึงหยุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น เขาเอาไข่ไปเก็บและหันไปมองรอบๆ เขายังคงไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี ดังนั้นเขาจึงใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นอย่างมั่วๆโดยหวังว่าจะไปพบสถานที่ที่มีผู้คนอยู่ อย่างน้อยแบบนั้นเขาก็จะยืนยันตำแหน่งที่อยู่ของตัวเองได้

เนื่องจากหานเซิ่นไม่สามารถระบุตำแหน่งของตัวเองได้ การใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจึงจะเป็นอะไรที่อันตราย ถ้าเขาเทเลพอร์ตไปมั่วๆ เขาก็อาจจะเข้าไปอยู่ในปากของอสูรที่น่ากลัวตัวหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเขาก็อาจจะเทเลพอร์ตไปอยู่ในหม้อต้มร้อนๆ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือเขาอาจจะเทเลพอร์ตไปถูกกับคมของใบมีดเข้า ซึ่งจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ

โชคดีที่ร่างกายของหานเซิ่นนั้นแข็งแกร่ง ถึงแม้มันไม่น่าจะทำร้ายอะไรเขาได้ แต่หานเซิ่นก็ยังจำเป็นต้องระมัดระวัง หลังจากที่ทำการเทเลพอร์ต หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าร่างกายของเขากำลังอยู่ในน้ำ น้ำนั้นใสและตื้นมากๆ เขาเห็นบันไดหยกอยู่ใกล้ๆ เขาจึงบอกได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในสระน้ำหรือไม่ก็บ่อน้ำพุ

หานเซิ่นยืนขึ้นและมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่าตัวเองอยู่ในบ่อน้ำพุขนาดใหญ่

ในตอนที่หานเซิ่นยืนขึ้นมา หนุ่มสาวที่อยู่รอบๆก็หันมามองเขาด้วยความตกใจ

“เฟเธอร์?” หานเซิ่นสังเกตเห็นปีกบนหลังของหนุ่มสาวที่อยู่รอบๆ มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นคนเผ่าเฟเธอร์

หลังจากที่ข่งเฟยทำให้เผ่าเฟเธอร์กลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำ หานเซิ่นก็ไม่ได้สนใจอะไรในการมีอยู่ของพวกเขา หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่ากาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจะพาตัวเขามาอยู่ในดินแดนของเฟเธอร์แบบนี้

“นี่ที่คงจะไม่ใช่โฮลี่เฮฟเว่นหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นมองไปรอบๆ เขาสังเกตเห็นว่าเขาไม่ได้อยู่ในซีโน่เจเนอิคสเปช เขากำลังอยู่บนดวงดาวธรรมดาดวงหนึ่ง

เนื่องจากหานเซิ่นไม่ได้สนใจอะไรในเผ่าเฟเธอร์ เขาจึงไม่รู้ว่าโฮลี่เฮฟเว่นนั้นยังเป็นของเผ่าเฟเธอร์อยู่ไหม เพราะยังไงซะพวกเขาก็กลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นถึงเผ่าเฟเธอร์จะต้องการเก็บโฮลี่เฮฟเว่นที่เป็นซีโน่เจอิคสเปชขนาดใหญ่เอาไว้ มันก็เป็นเรื่องยากอยู่ดีที่พวกเขาจะทำแบบนั้น

หานเซิ่นออกมาจากบ่อน้ำพุและยิ้มให้กับเฟเธอร์สาวคนหนึ่ง
“ขอโทษนะ ข้าขอถามอะไรหน่อยได้ไหม? ที่นี่มันที่ไหนอย่างนั้นหรอ?”

“ที่นี่คือดาวของเฟเธอร์ เจ้าเป็นใครกัน? ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ในน้ำพุได้?” เฟเธอร์สาวตอบด้วยความแปลกใจ

หานเซิ่นไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับดาวของเฟเธอร์มาก่อน แต่มันเป็นดวงดาวที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอยู่ ดังนั้นหานเซิ่นจึงใช้โทรศัพท์เพื่อเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตของดาวเฟเธอร์ หลังจากนั้นเขาก็ได้รู้ว่าตัวเองนั้นอยู่บนดาวเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากระบบจักรวาลล้าง ดูเหมือนว่าตัวเขาเพิ่งจะเทเลพอร์ตออกมาจากจักรวาลล้าง

“หัวแกะหัวสุดท้ายส่งเรามาที่ระบบจักรวาลล้างอย่างนั้นหรอ”
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ บริเวณที่เขาถูกส่งไปนั้นดูแตกต่างไปจากจักรวาลล้างที่เขาเคยไปก่อนหน้านี้ มันควรจะอยู่ห่างไกลออกไปจากที่นั่น

“ข้าก็สงสัยว่าใครกันที่กล้าเข้ามาในดาวของข้า ที่แท้มันก็คือเจ้านี่เอง”
ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงพูดดังมาจากระยะไกล เมื่อเขามองไปในทิศทางนั้น เขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมา “พี่เฟย”

ชายที่กำลังเข้ามาก็คือข่งเฟย หานเซิ่นไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นข่งเฟยบนดาวดวงเล็กๆแบบนี้

“กาลเวลาช่างเป็นอะไรที่แปลกจริงๆ” ข่งเฟยพูดพร้อมกับถอนหายใจ
“ในตอนที่ข้าพบกับเจ้าครั้งแรก เจ้าอ่อนแอซะจนข้าไม่กล้าจะพูดเสียงดังกับเจ้า เพราะข้ากลัวว่าจะเผลอไปฆ่าเจ้า แต่ตอนนี้เจ้ากลายเป็นยอดฝีมือระดับเทพเจ้าไปแล้ว”

“พี่เฟย ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?” หานเซิ่นรู้สึกสงสัย ข่งเฟยมีความแค้นกับเผ่าเฟเธอร์ ทุกคนรู้ในเรื่องนั้น แต่ถึงอย่างนั้นดวงดาวที่เขาอยู่ในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเฟเธอร์จำนวนมาก นั่นเป็นอะไรที่น่าประหลาดใจ

“มากับข้าหน่อย พวกเราไม่ได้มีของหายากอะไร พวกเรามีแค่ไวน์ธรรมดาๆ มันคงจะเพียงพอสินะ”
ข่งเฟยไม่ได้ตอบคำถามของหานเซิ่น เขาให้หานเซิ่นตามเขาไป เฟเธอร์จำนวนมากเข้ามาทักทายเขา ทุกคนดูเหมือนจะเรียกข่งเฟยว่าพี่เฟย

หานเซิ่นสังเกตเห็นว่าเฟเธอร์ทุกคนที่อยู่ที่นี่นั้นดูหนุ่มสาวกันทุกคน และพวกเขาหลายๆคนก็ไม่ใช่เฟเธอร์เลือดบริสุทธิ์

มันมีต้นไม้สูงอยู่เป็นจำนวนมาก และบนต้นไม้ก็มีบ้านที่ทำจากไม้สร้างเอาไว้ ข่งเฟยอาศัยอยู่ในบ้านต้นไม้ หลังจากที่เข้าไปในบ้านแล้ว เขาก็นั่งลงบนพื้นไม้อย่างเป็นกันเองและโยนขวดไวน์ให้กับหานเซิ่น เขายกขวดไวน์ขึ้นมาดื่มก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“เฟเธอร์นั้นกลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำ พวกเขาจึงรักษาโฮลี่เฮฟเว่นเอาไว้ไม่ได้ เฟเธอร์พวกนี้คือเด็กกำพร้าที่ข้าเก็บมาหลังจากการต่อสู้”

หานเซิ่นไม่รู้จะตอบเขายังไงดี ข่งเฟยต่อสู้เพื่อความถูกต้องของตัวเองและครอบครัว เขาทำให้เผ่าเฟเธอร์นั้นตกลงมาจากการเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ชั้นสูงโดยที่ไม่ฆ่าเฟเธอร์ทั้งหมด นั่นถือเป็นความเมตตาของเขา

แต่การกระทำของเขาทำให้ชีวิตของเฟเธอร์มากมายที่ไม่รู้เรื่องอะไรได้รับผลกระทบไปด้วย มันไม่สามารถบอกได้ว่าใครผิดใครถูก มันบอกได้แค่ว่าในยุคสมัยแบบนี้ผู้คนไม่สามารถควบคุมชะตากรรมได้ การเกิดและการล่มสลายทั้งหมดถูกกำหนดโดยชะตากรรม

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset