Super God Gene – ตอนที่ 2895 สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์

หานเซิ่นอยู่ในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์และกินไทม์โกสต์จนหมด การกินซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตนั้นใช้เวลานานยิ่งกว่าซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลาย แต่ซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตก็มอบยีนระดับเทพเจ้าให้กับหานเซิ่นมากกว่า หลังจากที่กินไทม์โกสต์เข้าไปจนหมด หานเซิ่นก็ได้รับยีนระดับเทพเจ้ามาทั้งหมดสิบสี่ยีน ถ้าเขากินซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลายเข้าไปล่ะก็ อย่างมากเขาก็จะได้รับแค่สองถึงสามยีนเท่านั้น

น่าเสียดายที่หานเซิ่นหาซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตตัวอื่นภายในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ไม่ได้อีก เขาจึงทำแบบนั้นอีกครั้งไม่ได้

หลังจากที่กลับออกมาจากปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าเป่าอิงกำลังรอคอยเขาอยู่ด้านนอก

“ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่เป่าอิง

“ฝ่าบาทต้องการพบคุณโฮลี่เบบี้” เป่าอิงพูด

‘ราชาไป๋ต้องการพบเรา? นี่เขาจะเปิดโปงตัวจริงของเราอย่างนั้นหรอ?’
หานเซิ่นพยายามคาดเดาเหตุผล เขาตามเป่าอิงไปที่ชั้นบนสุดของหอคอยเอ็กซ์ตรีมคิง

หอคอยเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นคือสถานที่ฝึกสำหรับกษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิง นอกจากกษัตริย์แล้ว ไม่มีใครเข้ามาใช้มันได้ แม้แต่สหายที่ใกล้ชิด ภรรยาหรือลูกหลานของพวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์จะเข้ามาข้างใน

ในเมื่อราชาไป๋เรียกตัวเขาไปพบที่นั่น มันก็ต้องมีเป็นเรื่องบางอย่างที่สำคัญมากๆ

หานเซิ่นรู้ว่าในตอนนี้เขาคงจะเอาชนะราชาไป๋ไม่ได้ แต่เขามั่นใจว่าสามารถหนีเอาตัวรอดได้

เป่าอิงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาข้างใน ดังนั้นเธอจึงรออยู่ข้างนอก

การตกแต่งภายในหอคอยเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างเรียบง่าย พื้นที่ภายในนั้นทำขึ้นมาจากหินที่เหมือนกับหยกสีเหลือง มันทำให้คนที่มารู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย มันแตกต่างไปจากสถาปัตยกรรมอื่นของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงโดยสิ้นเชิง

มันไม่มีซีโน่เจเนอิคหายากหรือสมบัติที่ทรงพลังอะไรอยู่รอบๆ การตกแต่งภายในนั้นเป็นอะไรที่เรียบง่ายอย่างมาก

หานเซิ่นเดินขึ้นไปยังชั้นบนสุดของหอคอยเอ็กซ์ตรีมคิง ระหว่างทางที่ขึ้นไปนั้นเขาไม่เห็นอะไรพิเศษ

“โอลี่เบบี้มาแล้วสินะ! เข้ามาข้างใน!” เสียงของราชาไป๋ดังมาจากชั้นบนสุดของหอคอย ประตูหินที่ปิดอยู่เริ่มเปิดออก

หานเซิ่นเห็นราชาไป๋กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หินหยกสีเหลือง เขาสวมชุดสบายๆ ถ้าออร่าของเขาไม่ได้เป็นอะไรที่พิเศษ มันก็คงจะบอกได้ยากว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้คือผู้นำของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง

“นั่งลง” ราชาไป๋ชี้ไปยังเก้าอี้หินที่อยู่ถัดไปจากเขา

หานเซิ่นนั่งลงตามที่ถูกบอกและถามขึ้นว่า “ฝ่าบาทเรียกหาข้าด้วยเรื่องอะไรอย่างนั้นหรอ?”

ราชาไป๋ยิ้มให้กับหานเซิ่น “ที่ข้าเรียกเจ้ามาวันนี้ ก็เพราะมีบางสิ่งที่ข้าจำเป็นต้องให้เจ้าช่วย”

“ข้านั้นอ่อนแอ แบบนั้นข้าจะช่วยฝ่าบาทได้ยังไง?” หานเซิ่นถาม

“เจ้าควรจะรู้ว่าข้ามีลูกชายและลูกสาวมากมาย ถึงแม้พวกเขาไม่ได้มีพรสวรรค์กันทุกคน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ถือว่าแย่ ดังนั้นมันจึงเป็นบางสิ่งที่ทำให้ข้าลำบากใจอย่างมาก ถ้าเจ้าเป็นข้า เจ้าจะมอบบัลลังก์ให้ลูกชายหรือลูกสาวคนไหนของข้า?” ราชาไป๋กำลังคิดหนัก

หานเซิ่นแปลกใจ “นี่เป็นเรื่องสำคัญต่อทั้งเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง ข้าเป็นแค่คนนอกคนหนึ่ง ข้าคงจะออกความเห็นอะไรไม่ได้!”

หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าราชาไป๋จะถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนั้น

“เจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า ดังนั้นเจ้าไม่ใช่คนนอก ไม่มีความจำเป็นต้องกังวล แค่เจ้าบอกข้ามาตรงๆ” ราชาไป๋พูด

หลังจากที่คิดอยู่ชั่วครู่ หานเซิ่นก็พูดขึ้นว่า “ข้าไม่ได้รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับลูกชายและลูกสาวของฝ่าบาท แต่ข้าเคยได้ยินว่าคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดก็คือไป๋อู๋ฉาง ขณะที่คนที่ฉลาดที่สุดคือไป๋ว่านเจี้ย”

ในตอนที่หานเซิ่นพูดแบบนั้น ความคิดที่ชั่วร้ายก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ทั้งสองคนเป็นพี่น้องที่มีพ่อแม่คนเดียวกัน ถ้าราชาไป๋จะเลือกคนใดคนหนึ่งระหว่างพวกเขา มันก็มีโอกาสที่พวกเขาทั้งสองคนจะต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงบัลลังก์

ดูเหมือนราชาไป๋จะมองทะลุถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เขาหลี่ตามองไปที่หานเซิ่นและพูด
“ข้าไม่ได้ให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจ ดังนั้นเจ้าจะเลือกใครก็ได้ เจ้าแค่ต้องบอกข้ามาว่าถ้าเจ้าเป็นข้า เจ้าจะเลือกใคร”

“ถ้าเป็นข้าล่ะก็ ข้าจะเลือกไป๋ว่านเจี้ย” หานเซิ่นรู้ว่าแผนการชั่วร้ายนั้นใช้ไม่ได้ผลกับคนอย่างราชาไป๋ ดังนั้นเขาจึงแค่ตอบไปตามตรง

“เหตุผลล่ะ?” ราชาไป๋มองไปที่หานเซิ่นด้วยความสนใจ

“ไป๋ว่านเจี้ยเป็นองค์รัชทายาทเรียบร้อยแล้ว ถ้าฝ่าบาทจะเลือกคนอื่นมาเป็นองค์รัชทายาทแทน มันก็คงจะมีปัญหาตามมา แถมไป๋ว่านเจี้ยก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์มากๆ” หานเซิ่นพูด

“แต่เจ้าบอกว่าไป๋อู๋ฉางนั้นมีพรสวรรค์มากกว่า? ทำไมเจ้าถึงไม่เลือกเขา?” ราชาไป๋พูด

“มันไม่สำคัญว่าคนๆหนึ่งจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหน เขาอาจจะเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะปกครองคนทั้งแผ่นดินได้ เมื่อเทียบกับไป๋ว่านเจี้ย ข้าคิดว่าไป๋ว่านเจี้ยจะปกครองคนได้ดีกว่า”
นั่นคือสิ่งที่หานเซิ่นรู้สึกจริงๆ เขาคิดว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้มีคุณสมบัติในการปกครองผู้คนเช่นกัน โชคดีที่เขามีซีโร่ นางฟ้า หวงฟูจิ้ง ซินเสวียนและคนอื่นๆคอยช่วยเหลือ ถ้าไม่มีความช่วยเหลือจากพวกพ้อง มันก็คงจะเป็นเรื่องยากที่เขาจะปกครองดาวอุปราคาหรือสเปชการ์เด้น

ราชาไป๋พยักหน้า เขาหยุดคิดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า
“ในตอนนี้ทั้งว่านเจี้ยกับอู๋ฉาง และยังลูกชายลูกสาวอีกหลายคนเป็นระดับเทพเจ้าเรียบร้อยแล้ว ข้ามีแผนที่จะเปิดสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ให้พวกเขาเข้าไปฝึกข้างใน แต่สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์นั้นอันตรายมากๆ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นระดับเทพเจ้าแล้ว แต่มันก็ไม่ได้รับประกันว่าพวกเขาจะกลับออกมาอย่างปลอดภัย ดังนั้นข้าต้องการคนที่จะคอยปกป้องพวกเขา ในตอนที่ชีวิตของพวกเขามีภัย คนๆนั้นจะต้องทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะมีชีวิตรอด”

“มันมีเอ็กซ์ตรีมคิงยอดฝีมืออยู่รับไม่ถ้วนและหลายๆคนก็เป็นถึงขั้นทรูก็อต ฝ่าบาทส่งพวกเขาไปไม่ดีกว่าหรอ?”
หานเซิ่นรู้ว่าราชาไป๋ต้องการให้เขาคอยคุ้มครองเหล่าองค์ชายและองค์หญิง แต่เขาไม่ต้องการจะทำอะไรแบบนั้น

“ข้าหาคนอื่นมาปกป้องพวกเขาได้ แต่นั่นจะทำให้พวกเขาพึ่งพาคนที่ข้าเลือก”
ราชาไป๋พูดพร้อมกับหัวเราะ “มันจะไปขัดขวางการฝึกของพวกเขา ดังนั้นคนๆนั้นจะต้องเป็นเจ้า”

“ข้าคงจะทำเรื่องนี้ไม่ได้ ด้วยพลังอันน้อยนิด ข้าแทบจะปกป้องตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ แบบนั้นข้าจะไปปกป้องพวกเขาได้ยังไง?”
หานเซิ่นส่ายหัว เขาไม่อยากมัวเสียเวลากับเรื่องแบบนี้ เขาต้องการจะล่าซีโน่เจเนอิคเพื่อเก็บยีนระดับเทพเจ้าให้เต็มโดยเร็วที่สุด

“เจ้าทำได้ นั่นก็เพราะว่าเจ้าคือดอลลาร์” ราชาไป๋พูดด้วยรอยยิ้ม

หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘นี่เขาบอกว่าเราเป็นดอลลาร์จริงๆด้วย” หานเซิ่นไม่ได้ยอมรับ แต่เขาก็ไม่ได้พูดปฏิเสธเช่นกัน

“ทำไมฝ่าบาทถึงมอบงานที่สำคัญแบบนี้ให้กับคนนอกอย่างข้า? ฝ่าบาทไม่กังวลหรือว่าข้าจะละเลยและไม่ตั้งใจปกป้องพวกเขา? แบบนั้นลูกชายและลูกสาวของฝ่าบาทก็จะตายกันหมด” หานเซิ่นถาม

“นั่นจะไม่เกิดขึ้น” ราชาไป๋พูดด้วยความมั่นใจ “ข้ารู้ว่าเจ้าจะไม่ทำอะไรแบบนั้น”

หานเซิ่นไม่รู้จะพูดยังไงดี เขาไม่รู้ว่าทำไมราชาไป๋ถึงได้มั่นใจในตัวเขาแบบนั้น

ราชาไป๋หยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดด้วยรอยยิ้ม “ถึงแม้พวกเขาจะตายไปกันหมด ข้าก็ยังมีลูกเพิ่มได้ ข้ายังไม่ได้แก่ขนาดนั้น”

หานเซิ่นอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เขาไม่สามารถปฏิเสธงานนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงยอมรับมัน หลังจากที่เขารับผลประโยชน์จากราชาไป๋มาตั้งมากมาย มันก็เป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธคำขอของอีกฝ่าย

และนอกจากการปกป้องเหล่าองค์ชายและองค์หญิงแล้ว ราชาไป๋บอกว่าเขาจะได้ฝึกในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ด้วยเช่นกัน ราชาไป๋บอกว่านี่จะช่วยให้เขาเพิ่มระดับขึ้น

หานเซิ่นสับสนเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่เขาก็พยักหน้ายอมรับหน้าที่นี้

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset