Super God Gene – ตอนที่ 2906 ติดอยู่ในภูเขา

 

หานเซิ่นบิดแขนของเด็กผู้หญิงผมทองและทำให้เธอหันกลับไปอีกด้าน หลังจากนั้นเขาก็กดเธอไปติดกับกำแพงของภูเขา ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นๆรู้สึกตกใจ พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าผลจะออกมาเป็นแบบนั้น

 

“ไม่แปลกใจเลยที่ท่านพ่อรับเขาเป็นลูกศิษย์ เขาไม่ได้ทำตัวโอ้อวดทั้งๆที่เขามีพลังมากขนาดนั้น” ไป๋ว่านเจี้ยพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

ไป๋หลิงซวงพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าการคาดเดาของพวกเราจะไม่ถูกต้อง โฮลี่เบบี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อคอยดูความสามารถของพวกเราเท่านั้น ท่านพ่อคงจะต้องสั่งให้เขาคอยปกป้องพวกเรา”

 

หลังจากที่พูดแบบนั้น เธอก็ถอนหายใจและพูดต่อ “ถ้าข้ารู้ว่าจะเป็นแบบนั้น ข้าก็คงจะไม่หนีมาแบบนี้”

 

“ใครจะรู้ว่าโฮลี่เบบี้มีพลังถึงขนาดนั้น? มันโทษพวกเราไม่ได้ที่วิ่งหนีเอาตัวรอด ถึงเขาจะไปรายงานกับท่านพ่อ มันก็จะไม่เป็นอะไร” ไป๋ว่านเจี้ยไม่เสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง

 

ไป๋เวยและไป๋อู๋ฉางมองไปที่หานเซิ่นด้วยความตกใจ พวกเขาทำอะไรเด็กผู้หญิงผมทองไม่ได้ แต่โฮลี่เบบี้กลับสามารถกดเธอติดกำแพงด้วยมือข้างเดียว พลังขนาดนั้นเป็นอะไรที่น่าตกใจ

 

ขณะที่หานเซิ่นกดเด็กผู้หญิงผมทองติดกับกำแพงของภูเขา เขาก็ถามเบาๆว่า “เจ้าคือใครกัน?”

 

เขาอยากจะรู้ว่าเด็กผู้หญิงผมทองมาจากที่ไหน เธอสามารถช่วงชิงสปิริตของสิ่งมีชีวิตอื่นได้ แถมเธอยังดูเหมือนกับหว่านเอ๋อ และเธอยังมีออร่าของเทพสปิริต มันเป็นอะไรที่แปลกมากๆ

 

เด็กผู้หญิงผมทองนั้นไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ มันเหมือนกับว่าเธอไม่ได้ยินสิ่งที่หานเซิ่นพูด เธอหันกลับมาหาหานเซิ่น เธอไม่ได้สนใจเลยว่าแขนของเธอถูกหานเซิ่นจับเอาไว้ เธอหักแขนของตัวเองเพื่อหันหน้ากลับมา เธอมองไปที่หานเซิ่นและใช้แขนอีกข้างเพื่อจับที่เอวของเขา

 

ตูม!

ทั้งหมดที่หานเซิ่นเห็นก็คือแสงสีทองแว็บขึ้นต่อหน้าเขา จังหวะต่อนั้นเขาและเด็กผู้หญิงผมทองก็หายเข้าไปในภูเขาด้วยกัน เครื่องจักรคริสตัลภายในภูเขาเรืองแสงขึ้นมาพร้อมกัน มันสร้างแสงคริสตัลที่ห่อหุ้มหานเซิ่นและเด็กผู้หญิงผมทองเอาไว้ภายใน

 

หานเซิ่นรู้สึกตกใจ เขาต้องการจะเทเลพอร์ตออกไปจากภูเขา แต่เขารู้สึกว่าอวกาศรอบๆตัวถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ เขาไม่สามารถเทเลพอร์ตออกไปได้

 

แสงคริสตัลเริ่มแข็งตัวกลายเป็นคริสตัล มันกลายเป็นคริสตัลทรงกลมที่ดูเหมือนกับไข่ยักษ์ก่อนหน้านี้

 

หานเซิ่นชกใส่เด็กผู้หญิงผมทอง แต่ภายในคริสตัล พลังของเด็กผู้หญิงผมทองดูเหมือนจะเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับที่น่ากลัว พลังหมัดของหานเซิ่นดูเหมือนกับหมัดของสามัญชนที่ชกใส่กำแพงเหล็ก เขาไม่สามารถทำอะไรเด็กผู้หญิงผมทองได้

 

เปลือกคริสตัลปกคลุมทั้งคู่เอาไว้ภายใน มันเหมือนกับไข่คริสตัลที่หานเซิ่นเห็นในตอนแรก

 

แขนที่หักของเด็กผู้หญิงผมทองฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ เธอจับตัวหานเซิ่นและพลังที่น่ากลัวก็รุกรานเข้าไปในร่างกายของเขา มันพยายามที่จะช่วงชิงสปิริตของหานเซิ่นไป

 

ด้วยพลังของอิเทอร์นิตี้ เด็กผู้หญิงผมทองไม่สามารถช่วงชิงสปิริตของหานเซิ่นไปได้ แต่หานเซิ่นก็ไม่สามารถหนีไปจากการจับกุมของเด็กผู้หญิงผมทองได้เช่นกัน พวกเขาทั้งคู่ติดแหง็กอยู่ภายในไข่ยักษ์

 

หานเซิ่นคิด ‘นี่ราชาไป๋ดีกับเราก็เพื่อหลอกให้เรามาที่นี่และให้เด็กผู้หญิงผมทองช่วงชิงสปิริตของเราอย่างนั้นหรอ?’

 

ด้วยพลังประหลาดของเด็กผู้หญิงผมทองและด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องจักรคริสตัลภายในภูเขา แม้แต่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตก็ไม่สามารถต่อสู้กับเธอได้

 

แต่ถ้าราชาไป๋จะหลอกให้เขาติดกับโดยการส่งเขามาที่นี่เพื่อปกป้ององค์ชายและองค์หญิง มันก็ดูจะไม่ถูกเท่าไหร่

 

เพราะถึงราชาไป๋จะหลอกหานเซิ่นจริง เขาก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าหานเซิ่นจะต่อสู้กับเด็กผู้หญิงผมทองเพื่อปกป้องเหล่าองค์ชายและองค์หญิงตามที่ถูกสั่งหรือเปล่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะควบคุมได้ หานเซิ่นสามารถละทิ้งหน้าที่และหนีไปได้ เหตุผลที่เขาตัดสินใจจะอยู่ที่นี่ต่อ นั่นก็เป็นเพราะเขาสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของเด็กผู้หญิงผมทอง

 

ราชาไป๋ไม่สามารถรู้ได้ว่าหานเซิ่นจะสนใจในตัวเด็กผู้หญิงผมทอง ดังนั้นสิ่งที่หานเซิ่นคิดจึงไม่สมเหตุสมผล

 

ภายใต้พลังเสริมจากไข่คริสตัล เด็กผู้หญิงผมทองก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายทั้งร่างของเธอเป็นเหมือนกับปลาหมึกที่จับตัวหานเซิ่นเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

 

หานเซิ่นพยายามชกใส่เธอ แต่เขารู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของเธอถูกปกป้องโดยชั้นของคริสตัล เขาไม่สามารถเจาะทะลวงมันได้

 

ภายในภูเขาของสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ หานเซิ่นถูกเด็กผู้หญิงผมทองจับตัวเอาไว้ในไข่คริสตัลยักษ์ มันเหมือนกับว่าหานเซิ่นและเด็กผู้หญิงผมทองถูกแช่ในน้ำแข็ง เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

 

หานเซิ่นใช้แม้กระทั่งหอกสกายไวน์แรดิชก็อต แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรเด็กผู้หญิงผมทองได้ เธอแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆและหานเซิ่นก็รู้สึกร่างกายของเขากำลังเกิดการรั่วไหล เขาไม่สามารถทนต่อพลังดูดของเด็กผู้หญิงผมทองได้

 

“ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด”

หานเซิ่นถูกบังคับให้ต้องใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด เขาต้องการจะใช้จังหวะนั้นเพื่อหนีออกไปจากที่นี่

 

แต่ทว่าในตอนที่หานเซิ่นใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด พลังของเขาก็ไปกระตุ้นหว่านเอ๋อคนที่หลับไหลอยู่ในหอคอยแห่งโชคชะตา มันทำให้ร่างกายของเธอส่องสว่างแสงสีทองออกมา

 

ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเหมือนกับทุกครั้ง เขาคิดว่าพลังของหว่านเอ๋อจะลบล้างพลังของโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด ด้วยเหตุนั้นเขาจึงตั้งใจจะหนีออกไปก่อนที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น

 

ใครจะรู้ว่าในครั้งนี้ จู่ๆหว่านเอ๋อก็ตื่นขึ้นมาจากการหลับไหล

 

ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นๆเห็นแค่ว่ามีแสงสีทองแว็บขึ้นมาก่อนที่หานเซิ่นและเด็กผู้หญิงผมทองจะหายตัวไป หลังจากนั้นแสงคริสตัลในภูเขาก็ปะทุขึ้นไปสู่ท้องฟ้าราวกับภูเขาไฟระเบิด

 

พวกเขาไม่กล้าจะเข้าไปใกล้ภูเขา พวกเขารอคอยจากระยะไกล แต่หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน พวกเขาก็ยังไม่เห็นหานเซิ่นออกมาจากภูเขา แสงคริสตัลยังคงปะทุขึ้นมาจากภูเขา

 

เหล่าองค์ชายและองค์หญิงคนอื่นๆได้ยินเรื่องทั้งหมดจากไป๋ว่านเจี้ย พวกเขาหันไปมองไป๋อู๋ฉางที่ตอนนี้มีผมสีขาว พวกเขาจึงไม่กล้าจะไปที่เกาะต่อไป

 

หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน ในที่สุดสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ก็เปิดขึ้นอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็ยังไม่ออกมาจากภูเขา เหล่าองค์ชายและองค์หญิงกลับไปที่กระดูกของมังกรปีศาจอวกาศและเทเลพอร์ตออกไปจากสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์

 

ไป๋ว่านเจี้ย ไป๋เวย ไป๋หลิงซวงและไป๋อู๋ฉางถูกเรียกตัวไปพบโดยราชาไป๋ พวกเขารายงานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับโฮลี่เบบี้ให้ราชาไป๋ฟังโดยที่ไม่ปกปิดอะไรแม้แต่นิดเดียว

 

ไป๋ว่านเจี้ยและไป๋หลิงซวงกลัวว่าราชาไป๋อาจจะต่อว่าพวกเขาหลังจากที่ได้ยินเรื่องทั้งหมด แต่ราชาไป๋ไม่ได้ดูแตกต่างไปจากปกติหลังจากที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด ราชาไป๋ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาแค่ถามคำถามเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงผมทองและโฮลี่เบบี้อีกไม่กี่คำถาม ก่อนที่จะบอกให้ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นๆออกไปได้

 

“โชคดีที่ท่านพ่อส่งโฮลี่เบบี้มาคอยปกป้องพวกเรา ไม่อย่างนั้นใครจะรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น?” ไป๋ว่านเจี้ยพูด

 

“ท่านพ่อฉลาดจริงๆ” ไป๋หลิงซวงพูด “โฮลี่เบบี้ที่ท่านพ่อรับเป็นลูกศิษย์นั้นช่วยชีวิตของอู๋ฉางและน้องเวยเอาไว้”

 

หลังจากที่พวกเขาออกไปแล้ว ราชาไป๋ก็ขมวดคิ้ว หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็พูดกับตัวเอง

“เขาไม่ควรจะแพ้ ถ้าเขาฆ่าพระเจ้าเกราะนภาได้ ทำไมเขาถึงเอาชนะผลจากการทดลองนั่นไม่ได้? นี่ผลจากการทดลองนั่นทรงพลังยิ่งกว่าเทพสปิริตอย่างนั้นหรอ?”

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset