Super God Gene – ตอนที่ 2910 ฟันแผ่นหิน

 

“เจ้าจะไม่ลองใช้สมบัติดูอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

ไป๋อู๋ซางหันไปมองรอยฝ่ามือที่อยู่ด้านบนของแผ่นหินและพูด “ไม่”

 

หานเซิ่นเข้าใจและคิดกับตัวเอง ‘ไป๋อู๋ซางเป็นคนที่ทะนงตัว เมื่อเห็นว่ามีคนที่ทำเรื่องนี้ได้ด้วยมือ เขาก็จะไม่ยอมใช้สมบัติช่วย รอยหมัดของเขาไม่ได้ใหญ่เท่ากับรอยฝ่ามือ แต่มันก็ยังถือว่าสุดยอดอยู่ดี ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ต้องการนกซีโน่เจเนอิคธาตุหินที่เขาได้รับ’

 

หานเซิ่นไม่ได้ทะนงตัวเหมือนกับไป๋อู๋ซาง มันไม่สำคัญว่าเขาจะทิ้งรอยที่ใหญ่ที่สุดเอาไว้ได้หรือไม่ ถ้ามันมีโอกาสที่เขาจะได้รับซีโน่เจเนอิคมา เขาก็ไม่รังเกียจที่จะลองดู

 

หานเซิ่นเดินเข้าไปตรงหน้าแผ่นหิน เขารวบรวมพลังจำนวนหนึ่งเอาไว้ในฝ่ามือ หลังจากนั้นเขาก็ใช้ฝ่ามือเหมือนกับมีดและฟันออกไปใส่แผ่นหิน หานเซิ่นใช้วิชามีดเขี้ยวดาบของเขา

 

เหล่าระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟนั้นตัดสินใจจะมองดูจากระยะไกล พวกเขาไม่กล้าเข้ามาใกล้เกินไป พวกเขาไม่ต้องการจะถูกลูกหลงไปด้วย

 

มีดลมปราณสีม่วงพุ่งออกไปฟันถูกแผ่นหินและทิ้งรอยยาวหนึ่งฟุตเอาไว้ รอยนั้นไม่ได้ใหญ่ไปกว่าอุ้งเท้าวัว ซึ่งเป็นรอยที่มีขนาดเล็กที่สุดบนแผ่นหิน

 

พลังเขี้ยวนั้นไม่สามารถแพร่กระจายบนแผ่นหินได้ รอยมีดนั้นเรืองแสงสีรุ้งขึ้นและมีนกตัวเล็กบินออกมา

 

ในตอนที่หานเซิ่นเห็นนกตัวเล็กนั่น เขาก็อยากจะร้องไห้ มันเป็นนกกระจอกสีม่วงที่เล็กมากๆ มันไม่สามารถเทียบกับโกลด์วิงบิ๊กก็อตเบิร์ดของไป๋อู๋ซางได้เลย มันเทียบกับเหยี่ยวไม่ได้ด้วยซ้ำ

 

หานเซิ่นคิด ‘ดูเหมือนว่าพลังทำลายล้างของเราจะค่อนข้างแย่ เราคงจะทำเหมือนกับที่ไป๋อู๋ซางที่เป็นขั้นทรูก็อตทำไม่ได้’

 

นกกระจอกสีม่วงตัวเล็กบินรอบๆตัวหานเซิ่นอยู่สักพักก่อนที่จะลงไปบนไหล่ของเขาและใช้หัวของมันลูบกับคอของหานเซิ่น มันดูน่ารักมากๆ

 

ถึงมันจะดูเหมือนสิ่งมีชีวิตจริงๆ แต่ไม่มีใครก็บอกได้ว่านกกระจอกตัวนี้ทำขึ้นมาจากหินเมื่อได้ลองสัมผัสมัน แม้แต่ขนของมันก็ทำขึ้นมาจากหิน

 

เหล่าระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่มองดูจากระยะไกลซุบซิบกัน

“วิชาจีโนของก็อตฟาเธอร์หานนั้นสุดยอด แต่เขายังเป็นแค่เทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลาย เมื่อเทียบพลังกับไป๋อู๋ซางที่เป็นขั้นทรูก็อตแล้ว พลังของเขายังถือว่าด้อยกว่ามาก”

 

ไป๋อู๋ซางมองไปที่นกกระจอกบนไหล่ของหานเซิ่น แต่เขาไม่ได้พูดอะไร

 

หานเซิ่นไม่ได้ทะนงตัวเหมือนอย่างไป๋อู๋ซาง ดังนั้นเขาไม่คิดจะหยุดเพียงแค่นี้ เขาเรียกตุ๊กตาสีดำออกมา

 

มันคือตุ๊กตาเทพที่เขาได้รับมาจากเบิร์นนิ่งแลมป์ มันมีความแข็งแกร่งของขั้นทรูก็อต หานเซิ่นแค่จำเป็นต้องใส่พลังเข้าไปข้างในเพื่อที่จะเปิดใช้พลังขั้นทรูก็อตของมัน

 

ตุ๊กตาเทพรับคำสั่งของหานเซิ่นและปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา มันชกออกไปในทิศทางของแผ่นหิน

 

ในจังหวะที่ตุ๊กตาเทพชกถูกแผ่นหิน นกกระจอกก็บินขึ้นจากไหล่ของหานเซิ่น มันกลับไปที่รอยมีดที่หานเซิ่นทิ้งเอาไว้บนแผ่นหินก่อนหน้านี้ ในชั่วพริบตามันก็ละลายเข้าไปในรอยมีดบนแผ่นหิน

 

หานเซิ่นรู้ว่าสิ่งมีชีวิตหนึ่งจะรับนกซีโน่เจเนอิคธาตุหินไปแค่ตัวเดียวเท่านั้น ถ้าพวกเขาโจมตีใส่แผ่นหินอีกครั้ง นกซีโน่เจเนเอิคตัวก่อนก็จะกลับไปที่แผ่นหิน

 

ปัง!

ตุ๊กตาเทพทิ้งรอยหมัดเอาไว้บนหิน แต่มันไม่ได้ใหญ่อะไรมากนัก มันไม่ได้ใหญ่ไปกว่าอุ้งเท้าวัวซึ่งเป็นรอยที่มีขนาดเล็กที่สุดบนแผ่นหิน มันพอๆกับรอยมีดที่หานเซิ่นทิ้งเอาไว้ก่อนหน้านี้

 

หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ พลังของตุ๊กตาเทพนั้นเป็นขั้นทรูก็อต ถึงแม้มันจะเป็นขั้นทรูก็อตที่อ่อนแอ แต่มันก็ยังเป็นขั้นทรูก็อตอยู่ดี มันไม่ควรจะทิ้งรอยที่มีขนาดพอๆกับรอยมีดที่เขาทำก่อนหน้านี้

 

‘ถึงแม้เราจะไม่ใช่ขั้นทรูก็อต แต่ดูเหมือนว่าพลังของเราจะถึงระดับของขั้นทรูก็อตเรียบร้อยแล้ว เราแค่ยังเทียบชั้นกับทรูก็อตระดับท็อปอย่างไป๋อู๋ซางไม่ได้’ หานเซิ่นรู้สึกว่าเขาประเมินความแข็งแกร่งของตัวเองต่ำเกินไป

 

แค่ร่างปกติของหานเซิ่นก็เทียบกับขั้นทรูก็อตทั่วๆไปได้แล้ว ถ้าเขาเข้าสู่โหมดซีโน่เจเนอิค เขาก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ถึงมันจะยังเทียบกับความสามารถของไป๋อู๋ซางไม่ได้ แต่มันก็ต้องเหนือกว่าขั้นทรูก็อตทั่วไป

 

รอยหมัดเรืองแสงสีรุ้งออกมาและนกกระจอกอีกตัวก็บินออกมา มันขนาดพอๆกับตัวก่อนหน้านี้ แต่ทว่าครั้งนี้นกกระจอกเป็นสีดำ

 

“ทรูก็อตระดับท็อปอย่างไป๋อู๋ซางนั้นแข็งแกร่งเกินไป ถึงตุ๊กตาเทพจะเป็นขั้นทรูก็อตเหมือนกัน แต่ความแตกต่างของพลังก็เห็นได้อย่างชัดเจน เขาแข็งแกร่งกว่ามาก”

หานเซิ่นมองไป๋อู๋ซางที่ยืนดูอยู่นิ่งๆ สีหน้าของเขาไม่มีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่นิดเดียว

 

“เจ้าไม่ต้องการใช้วิชาวิเศษนั้นอย่างนั้นหรอ?” จู่ๆไป๋อู๋ซางก็ถามขึ้นมา หานเซิ่นไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงวิชาอะไร

 

หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับมันอยู่ชั่วครู่และรู้สึกตัวว่าวิชาที่ไป๋อู๋ซางพูดถึงนั้นคงจะเป็นคัมภีร์นภาอำพัน

 

บอกตามตรงหานเซิ่นไม่แน่ใจว่าคัมภีร์นภาอำพันนั้นจะได้ผลกับซีโน่เจเนอิคประหลาดนี่หรือเปล่า เพราะคัมภีร์นภาอำพันนั้นมีผลทำให้โลหิตชีพจรกลับตาลปัตร ในตอนที่เขาใช้มัน เขาจะทำให้อีกฝ่ายวิวัฒนาการย้อนกลับได้

 

หานเซิ่นยังเป็นแค่ขั้นบัตเตอร์ฟลายเท่านั้น พลังของคัมภีร์นภาอำพันจึงแทบจะไม่ทำให้โลหิตชีพจรของขั้นทรูก็อตกลับตาลปัตร ซึ่งส่งผลให้เขาสามารถลดระดับของอีกฝ่ายได้เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น

 

สำหรับขั้นทรูก็อตที่ทรงพลังอย่างไป๋อู๋ซาง มันเป็นเรื่องยากมากๆที่คัมภีร์นภาอำพันจะมีผลต่อเขา

 

แต่ถึงไป๋อู๋ซางจะมีพลังมหาศาล เขาก็ไม่สามารถทำลายแผ่นหินนี่ได้ นั่นแสดงให้เห็นว่าแผ่นหินนี้ต้องเป็นขั้นทรูก็อตที่ทรงพลังเช่นเดียวกัน ซึ่งคัมภีร์นภาอำพันอาจจะไม่มีผลกับมัน

 

หานเซิ่นได้สร้างภาพว่าคัมภีร์นภาอำพันเป็นพลังที่น่ากลัว มันสามารถทำให้ขั้นทรูก็อตถูกลดลงระดับลงมาได้ ซึ่งมันช่วยทำให้ทุกคนเกรงกลัวเขา แบบนั้นแม้แต่เผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งสามก็จะไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไปใกล้สเปชการ์เด้นเพื่อรุกรานเผ่าคริสตัลไลเซอร์

 

ถ้าเกิดมีคนเห็นว่าคัมภีร์นภาอำพันใช้ไม่ได้ผลกับแผ่นหินนี่ ชื่อเสียงของเขาก็จะลดลงไป หานเซิ่นไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น

 

ถ้าไม่มีอะไรมารับประกัน หานเซิ่นก็ไม่คิดจะใช้คัมภีร์นภาอำพันในที่สาธารณะ

 

“มันก็เป็นแค่แผ่นหิน ข้าไม่จำเป็นต้องใช้มัน” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม

 

หานเซิ่นคิดว่าไป๋อู๋ซางคงจะอยากเห็นถึงพลังของคัมภีร์นภาอำพัน เขาจะไม่ทำให้อีกฝ่ายได้สมหวัง

 

หานเซิ่นเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะสะบัดมือของตัวเอง มีของบางอย่างปรากฏขึ้นภายในมือของเขา

 

มันคือมีดเหตุและผลที่หานเซิ่นได้มาจากเบิร์นนิ่งแลมป์เช่นกัน มีดเหตุและผลนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากมีดเปล่าของหานเซิ่น ถ้ามันถูกหลอมเป็นอาวุธโดยคนธรรมดาๆ มันก็คงจะไม่ได้อาวุธระดับสูงแบบนี้

 

เบิร์นนิ่งแลมป์สามารถทำให้มีดเหตุและผลกลายเป็นขั้นทรูก็อตได้นั่นก็เพราะว่าเขาใช้ทรัพยากรของเผ่าบุดด้า เขาได้ใช้ทั้งกำลังและทรัพยากรมากมายตลอดเวลาหลายปีเพื่อหลอมมีดเปล่าเล่มนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสามารถทำให้มีดเหตุและผลกลายเป็นขั้นทรูก็อตได้สำเร็จ

 

นอกจากนั้นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญที่ใช้นั้นยังเป็นพระธาตุของเผ่าบุดด้า

 

พระธาตุที่พูดถึงนั้นคือสิ่งที่ได้มาจากบุดด้าที่ตายไปแล้ว ในตอนที่บุดด้าคนหนึ่งตาย พลังงานภายในร่างกายของพวกเขาจะถูกรวบรวมและเปลี่ยนเป็นของแข็ง นั่นก็คือพระธาตุ

 

เบิร์นนิ่งแลมป์ใช้พระธาตุของเผ่าบุดด้าจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อทำมีดเหตุและผลขึ้นมา มันเป็นเรื่องยากที่จะทำมีดเหตุและผลขึ้นมาอีกเล่ม เนื่องจากพระธาตุที่เป็นส่วนประกอบหลักถูกใช้ไปจนหมดแล้ว

 

นอกจากพระธาตุของเผ่าบุดด้าแล้ว มันยังมีวัตถุดิบอื่นที่บุดด้าไม่มีวันหามาได้อีก

 

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือถึงมีดเหตุและผลจะทรงพลัง แต่พลังในการโจมตีของมันก็ต่ำมากๆ ถึงตัวมีดจะแข็งแรง แต่มันก็ไม่มีคม

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset