Super God Gene – ตอนที่ 2913 ตุ๊กตา

ในก็อตแอเรียมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่เป็นจำนวนมาก แต่มันขึ้นอยู่กับดวงว่าจะหาพวกมันเจอหรือไม่ หานเซิ่นไปที่ก็อตแอเรียสองครั้งและเขาก็อยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายวัน แต่เขาก็ไม่ได้เห็นก็อตสปิริตสตอร์มเกิดขึ้นมา

 

‘ดูเหมือนว่าการจะล่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายในก็อตแอเรียจะเป็นเรื่องยาก มันยังมีที่อื่นที่อาจจะมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าชั้นสูงอยู่อีกไหมนะ?’ หานเซิ่นครุ่นคิด ทันใดนั้นก็มีสถานที่หนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขา

 

ระบบจักรวาลร้าง สถานที่แห่งนั้นเป็นเหมือนกับสวรรค์สำหรับคนที่ต้องการค้นหาซีโน่เจเนอิคระดับสูง มันเต็มไปด้วยซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้านานาชนิด แต่พวกมันทุกตัวดูเหมือนจะตกอยู่ในความบ้าคลั่งตลอด ด้วยเหตุนั้นมันจึงเป็นสถานที่ที่อันตราย

 

แต่ด้วยพลังของหานเซิ่นในตอนนี้ เขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมากนัก

 

“เสี่ยวฮวาควรจะอยู่ในระบบจักรวาลร้าง ด้วยพลังของเราในตอนนี้ถ้าเราหาเสี่ยวฮวาเจอ เราก็จะช่วยเขาจากแมวเก้าชีวิตได้” หานเซิ่นตัดสินใจว่าจะเข้าไปในระบบจักรวาลร้าง

 

ก่อนหน้านี้เหตุผลที่เขาไม่ไปไม่ใช่เพราะว่าเขาไม่สนใจ แต่มันเป็นเพราะว่าเขายังขาดพลังที่จะทำแบบนั้น ถ้าเขาตายในระบบจักรวาลร้าง มันก็ไม่มีใครจะไปช่วยเสี่ยวฮวา

 

หานเซิ่นรู้ว่าเสี่ยวฮวาไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นเป้าหมายแรกของเขาจึงเป็นการเพิ่มระดับของตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ

 

“ตอนนี้มันควรจะถึงเวลาแล้ว” หานเซิ่นจัดการเรื่องภายในสเปชการ์เด้นให้เรียบแล้วและเตรียมตัวออกเดินทางไปในระบบจักรวาลร้างตามลำพัง

 

มันไม่มีอะไรที่เขาต้องคอยจัดการมากนัก ตั้งแต่ที่ซินเสวียนมาอยู่ในจักรวาลจีโน เธอก็รับหน้าที่คอยดูแลสเปชการ์เด้นในช่วงที่เขาไม่อยู่ และเธอก็ทำงานได้เป็นอย่างดี มันทำให้คนที่เป็นผู้นำอย่างหานเซิ่นรู้สึกอับอายไปเลย

 

“น่าเสียดายถึงแม้หนิงเยวี่ยจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟแล้ว แต่เขาก็ยังกำจัดผลกระทบของดาบสีเขียวที่มีต่อเขาไม่ได้ ดาบสีเขียวเล่มน้อยนั้นทรงพลังกว่าที่เราคิดเอาไว้” หานเซิ่นหวังว่าหนิงเยวี่ยจะหายเป็นปกติโดยเร็วเพราะเขาจะมีประโยชน์อย่างมาก

 

หานเซิ่นส่งหลิงเอ๋อกลับไปที่สหพันธ์ โรงเรียนของเธอใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ดังนั้นเธอจำเป็นต้องกลับไปเพื่อเรียนหนังสือ เธอไม่สามารถอยู่ในจักรวาลจีโนต่อ

 

ถึงแม้ร่างกายของหลิงเอ๋อจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของจักรวาลจีโนได้ดีกว่าสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ แต่หานเซิ่นก็ยังอยากให้เธอมีชีวิตวัยเด็กที่สงบสุขในสหพันธ์

 

หานเซิ่นเก็บข้าวของที่จำเป็นและเตรียมตัวจะไปที่ระบบจักรวาลร้าง แต่ทันใดนั้นจู่ๆเขาก็รู้สึกว่าตัวเองหนักขึ้นมา เป่าเอ๋อขึ้นมาเกาะที่คอของเขาและพูด

“พ่อ สเปชการ์เด้นมันน่าเบื่อ! เป่าเอ๋อต้องการจะไปกับพ่อ”

 

“ครั้งนี้มันอันตรายเกินไป หนูควรรออยู่ที่นี่ ครั้งหน้าพ่อจะพาหนูไปด้วย”

ถึงแม้เป่าเอ๋อจะเป็นเด็กพิเศษ แต่ระบบจักรวาลร้างก็อันตรายเกินไป หานเซิ่นไม่คิดจะพาเธอไปด้วย

 

“ไม่เอา! เป่าเอ๋อต้องการจะไปตอนนี้” เป่าเอ๋อใช้มือของเธอจับคอของหานเซิ่นเอาไว้แน่น เธอปฏิเสธจะปล่อยเขาไป และไม่ว่าหานเซิ่นจะพูดยังไง เขาก็ไม่สามารถโน้มน้าวเธอได้ เธอต้องการจะไปกับเขาให้ได้

 

หานเซิ่นรู้สึกผิด ดังนั้นเขาจึงตกลงจะพาเป่าเอ๋อไปด้วย

“ก็ได้ แต่หนูต้องเป็นเด็กดี หนูห้ามออกห่างไปจากพ่อ”

 

ตัวเป่าเอ๋อนั้นไม่ได้อ่อนแอ และหานเซิ่นก็ค่อนข้างมั่นใจในความสามารถของตัวเอง ถึงแม้เขาจะไม่สามารถสู้กับศัตรูได้จริงๆ เขาก็สามารถพาเป่าเอ๋อหนีไปได้

 

“หนูรักพ่อที่สุด” เป่าเอ๋อกระโดดกอดหานเซิ่นอย่างร่าเริงและหอมแก้มของเขา

 

หานเซิ่นลูบหัวของเป่าเอ๋ออย่างจำใจ เขาไม่สามารถขัดใจเธอได้

 

มันมีหลายหนทางที่จะเข้าไปในระบบจักรวาลร้าง หนทางที่ตรงที่สุดก็คือการใช้ลูกบาศก์สี่แกะ เพราะมันจะทำให้หานเซิ่นสามารถเข้าไปในระบบจักรวาลร้างได้ในทันที ไม่อย่างนั้นเขาก็ไปเปิดประตูสู่จักรวาลร้างจากในสหพันธ์

 

หานเซิ่นคิดเกี่ยวกับมันอยู่สักพักและตัดสินใจจะเข้าไปในระบบจักรวาลร้างด้วยการเดินทางผ่านอวกาศของจักรวาลจีโน

 

หานเซิ่นอ่านข้อมูลเกี่ยวกับระบบจักรวาลร้างไปมากมาย แต่เขาก็ไม่พบข้อมูลอะไรที่มีประโยชน์ ข้อมูลส่วนใหญ่ที่เขาเห็นเป็นแค่การคาดเดาจากตำนานที่เก่าแก่เท่านั้น

 

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะยอดฝีมือระดับเทพเจ้าธรรมดาที่เข้าไปในระบบจักรวาลร้างนั้นแทบไม่ใครรอดชีวิตกลับออกมา ผู้คนที่กล้าจะเข้าไปนั้นมักจะเป็นยอดฝีมือขั้นบัตเตอร์ฟลายหรือสูงกว่า คนแบบนั้นมักจะไม่มาโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาภายในระบบจักรวาลร้างลงบนอินเตอร์เน็ต ข้อมูลเหล่านั้นมักจะถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด

 

บนอวกาศ หานเซิ่นเห็นเครื่องจักรขนาดยักษ์ที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควัน มันเหมือนกับว่ามีหิมะตกในอวกาศที่กว้างใหญ่ และทำให้ดวงดาวต่างจมอยู่ใต้หิมะ

 

แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่หิมะจะตกในอวกาศ สิ่งที่ปกคลุมดาวเคราะห์น้อยและเหล่าเครื่องจักรนั้นต้องเป็นอะไรอย่างอื่น แต่หานเซิ่นไม่รู้ว่าพวกมันคืออะไร พวกมันดูเหมือนกับเถ้าของภูเขาไฟ

 

นี่คือชายแดนของระบบจักรวาลร้าง ถึงแม้เขาจะเพิ่งเข้ามาในระบบจักรวาลร้าง มันก็ให้ความรู้สึกอ้างว้างมากๆ มันทำให้ผู้คนใจคอไม่ค่อยดี

 

ซากของยานรบที่พังทลายกับดาวเคราะห์น้อยมักจะชนกันเป็นครั้งคราว ชิ้นส่วนของยานรบและดาวเคราะห์น้อยปกคลุมด้วยฝุ่นควันสีเทา หลังจากที่ชนกัน บางส่วนของพวกมันก็เผยออกมาให้เห็น

 

“ตอนนี้พวกเราอยู่ห่างจากอีสท์โฮลี่การ์เด้นแค่ไหนกัน”

หานเซิ่นเคยไปที่อีสท์โฮลี่การ์เด้นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้เส้นทางในการเข้ามาสู่จักรวาลร้างของเขานั้นต่างออกไป เขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน

 

“พ่อ นั่นคืออะไร?” เป่าเอ๋อที่นั่งอยู่บนไหล่ของหานเซิ่น เธอชี้ออกไปยังยานอวกาศที่พังทลาย

 

หานเซิ่นมองยังตำแหน่งที่เป่าเอ๋อชี้ออกไป และเขาก็เห็นยานอวกาศที่ชนเข้ากับอุกกาบาต ฝุ่นควันสีเทาที่ปกคลุมพวกมันเริ่มจะถล่มลงมาราวกับหิมะ

 

มันเป็นยานรบที่มีรูปร่างเหมือนกับซีกหนึ่งของวงกลม หลายส่วนของยานนั้นพังทลาย มันดูเหมือนกับแอปเปิลที่ถูกกัดครั้ง

 

เนื่องจากฝุ่นควันหลุดออกไป พวกเขาจึงเห็นจุดที่พังทลายของยาน มันมีแสงสีส้มเล็ดลอดออกมา แสงสีส้นนั้นเดี๋ยวสว่างเดี๋ยวมืด ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เป่าเอ๋อสังเกตเห็นมัน

 

หานเซิ่นบินเข้าไปหายานอวกาศอย่างระมัดระวัง เขาใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนสแกนยานรบอย่างละเอียด แต่เขาไม่พบซีโน่เจเนอิคที่อาจจะซ่อนตัวอยู่ภายใน

 

โชคดีที่ความกังวลของหานเซิ่นไม่เป็นจริงขึ้นมา เขาไม่สามารถสัมผัสถึงซีโน่เจเนอิคได้ เขาจึงเข้าไปในยานรบจากส่วนที่พังทลาย

 

ภายในยาวรบนั้นดูยุ่งเหยิง เครื่องมือและสายไฟได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนใหญ่ในยานนั้นถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันสีเทา

 

แสงสีส้มที่ริบหรี่นั้นมาจากมุมหนึ่งของยาน หานเซิ่นโบกมือเพื่อปัดเป่าสิ่งที่ละเกะละกะอยู่ให้พ้นทาง สิ่งที่เรืองแสงอยู่นั้นเป็นตุ๊กตาที่น่ารักมากๆ

 

ตุ๊กตานั้นมีใบหน้าของเด็กผู้หญิง เธอมีผมสีดำและดวงตาที่กลมโต เธอสวมใส่ชุดที่สวยงาม แต่ว่ามันปกคลุมไปด้วยฝุ่น ด้วยเหตุนั้นมันจึงดูเก่ามากๆ

 

จุดที่ปล่อยแสงสีส้มออกมานั้นคือบริเวณอกของตุ๊กตา คอของตุ๊กตามีสร้อยคออยู่ ที่เรืองแสงขึ้นมานั้นเป็นอัญมณีสีส้ม มันเป็นอัญมณีที่ริบหรี่เหมือนกับแสงของโคมไฟ

 

หานเซิ่นหยิบตุ๊กตาเด็กผู้หญิงกับสร้อยคอขึ้นมา ฝุ่นควันสีเทาหลุดออกและฟุ้งไปทั่ว

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset