Super God Gene – ตอนที่ 2957 แอสทรอลอินสทรูเมนท์

รูปปั้นหยกของหว่านเอ๋อร์นั้นถูกสร้างขึ้นมาจากเขาของกิเลนศักดิ์สิทธิ์ และมันก็มีดวงวิญญาณของฉินซิวอยู่ภายใน ในตอนที่วิญญาณของฉินซิวจางหายไป รูปปั้นหยกก็ย่อขนาดเล็กลงจนพอมาอยู่ในมือของหานเซิ่น ฉินซิวบอกให้หานเซิ่นนำรูปปั้นไปที่ปราสาทศักดิ์สิทธิ์

 

หานเซิ่นสงสัยมาโดยตลอดว่าฉินซิวต้องการให้เขาเอารูปปั้นหยกมาที่นี่เพราะอะไร ในตอนที่รูปปั้นหยกต้องการจะบินออกไปจากอกของเขา หานเซิ่นก็รู้ว่ามันมีบางสิ่งไม่ปกติ

 

หานเซิ่นอยากจะเอารูปปั้นหยกออกมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่อีแร้งแก่นั้นมาถึงปราสาทศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยแล้ว มันมาพร้อมกับควันสีดำ ขณะที่มันพุ่งเข้าไปหาหานเซิ่นเหมือนกับสายลม

 

หานเซิ่นเทเลพอร์ตไปหลบด้านหลังรูปปั้นของฉินซิว อีแร้งแก่โมโหอย่างมาก แต่มันต้องยับยั้งพลังของตัวเองเอาไว้ มันไม่ต้องการจะสร้างความเสียหายกับรูปปั้นของฉินซิว

 

“ออกมาจากตรงนั้นเดี๋ยวนี้!” อีแร้งแก่ตะโกนอย่างเกรี้ยวโกรธ ขนนกสีดำของมันบินออกไปเหมือนกับลูกธนูและตรงเข้าไปหาหานเซิ่น

 

หานเซิ่นไม่ได้ตอบกลับ เขาเคลื่อนที่ไปรอบๆรูปปั้นเพื่อหลบการโจมตี แต่ขนนกสีดำนั้นเหมือนกับมีชีวิต มันสามารถเปลี่ยนทิศทางการบินได้อย่างอิสระและไล่ตามหานเซิ่นไปเรื่อยๆ มันบินโค้งรอบรูปปั้นอย่างสมบูรณ์แบบ

 

ถึงแม้หานเซิ่นจะไม่เคยเห็นมาก่อนว่าฉินซิวมีหน้าตาเป็นยังไง แต่ออร่าที่รูปปั้นปลดปล่อยออกมานั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีทางที่เขาจะลืมไปได้ ออร่าพิเศษนั้นเหมือนกับวิญญาณของฉินซิว มันไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจะลอกเลียนแบบได้

 

แต่หานเซิ่นยังคงรู้สึกแปลกๆ เนื่องจากในตำนานกล่าวว่าผู้นำเซเคร็ดนั้นสวมใส่ชุดเกราะและไม่มีใครเห็นใบหน้าของเขา แต่รูปปั้นหินนี้สวมใส่เสื้อผ้าและใบหน้าก็เผยออกมาให้เห็น

 

หานเซิ่นเทเลพอร์ตไปมารอบๆรูปปั้น ด้วยการที่อีแร้งแก่ไม่ต้องการจะสร้างความเสียหายกับรูปปั้น มันจึงระมัดระวังอย่างมาก ซึ่งทำให้มันไม่สามารถทำอะไรหานเซิ่นได้

 

“อย่าได้สร้างความเสียหายกับรูปปั้น!” ปีศาจสาวบินเข้ามาในปราสาทพร้อมกับอสูรยักษ์ไร้ดวงตา

 

“แน่นอนว่าข้าจะไม่ทำแบบนั้น!” อีแร้งแก่ตะโกนด้วยโทนเสียงรำคาญ

 

ถ้าไม่ใช่เพราะรูปปั้น อีแร้งแก่ก็คงจะกดหานเซิ่นลงกับพื้นและไม่ปล่อยให้เขาเทเลพอร์ตไปมาแบบนี้ ซึ่งทำให้มันรู้สึกโมโห

 

ปีศาจสาวและอสูรไร้ดวงตามาเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย แต่หานเซิ่นถนัดเรื่องการต่อสู้กับศัตรูเป็นกลุ่ม แถมเขายังมีรูปปั้นที่สามารถใช้เป็นที่กำบังได้ ดังนั้นถึงปีศาจสาวและคนอื่นจะแข็งแกร่ง พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับหานเซิ่นได้ มันทำให้พวกเขารู้สึกหดหู่อย่างมาก

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านนอกปราสาท “ข้ามีหนทางจะช่วยพวกเจ้าจับตัวหานเซิ่น พวกเจ้าสนใจไหม?”

 

พวกปีศาจสาวหันไปมองและเห็นว่าคนที่พูดขึ้นมาก็คือราชครูกู่เยวียนของเอ็กซ์ตรีมคิง หลังจากที่หนีไปนั้นราชครูกู่เยวียนไม่ได้ออกไปจากที่นี่ ราชครูกู่เยวียนนั้นสะกดรอยตามพวกเขาจนมาถึงปราสาทศักดิ์สิทธิ์

 

ราชครูกู่เยวียนไม่ได้เข้ามาในปราสาท เขาแค่ยืนอยู่ข้างนอก

 

ก่อนที่ปีศาจสาวจะได้พูดอะไร ราชครูกู่เยวียนก็พูดขึ้นมาก่อน

“ข้ามีสมบัติที่จะช่วยแก้ปัญหาในตอนนี้ของพวกเจ้า แต่ข้าต้องการให้พวกเจ้าช่วยข้าเรื่องหนึ่ง นั่นฟังดูเป็นยังไง?”

 

“เจ้าต้องการจีโนฟลูอิดร่างกายศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม?” ปีศาจสาวพูดขณะที่มองไปที่ราชครูกู่เยวียน

 

ราชครูกู่เยวียนพูดอย่างจริงจัง “เจ้าคงจะรู้สินะว่าร่างกายแห่งราชันของเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงนั้นเป็นแค่ตัวทดลองในการทำจีโนฟลูอิดร่างกายศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา และมันเป็นตัวทดลองที่ล้มเหลว สำหรับข้าแล้ว การทำให้ร่างกายแห่งราชันสมบูรณ์แบบคือความปรารถนาเดียวของข้า”

 

“น่าเสียดายที่ข้าต้องทำให้เจ้าผิดหวัง” ปีศาจสาวพูด

“จีโนฟลูอิดร่างกายศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่เคยถูกผลิตขึ้นมา ในตอนที่เซเคร็ดถูกทำลาย จีโนฟลูอิดร่างกายศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงไม่เสร็จสมบูรณ์”

 

“ข้าไม่ได้คาดหวังที่จะได้รับจีโนฟลูอิดร่างกายศักดิ์สิทธิ์ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว” ราชครูกู่เยวียนพูด

“ข้าแค่หวังจะได้รับข้อมูลของจีโนฟลูอิดร่างกายศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้นำเซเคร็ดเคยทำการทดลอง เพื่อที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะได้นำไปพัฒนาต่อ พวกเจ้าคงจะให้กับข้าได้สินะ”

 

“ถ้าเจ้าช่วยพวกเราจัดการหานเซิ่น ข้าจะมอบข้อมูลเกี่ยวกับจีโนฟลูอิดร่างกายศักดิ์สิทธิ์ให้กับเจ้า” ปีศาจสาวพูด

“แต่อย่าได้คาดหวังกับมันมาก หลังจากการต่อสู้นั้น ข้อมูลส่วนใหญ่ได้ถูกทำลายไป มันจึงเหลือข้อมูลแค่บางส่วนเท่านั้น”

 

“ขอบคุณพวกเจ้าที่ยอมตกลงในเรื่องนี้” ราชครูกู่เยวียนพูดพร้อมกับโค้งคำนับ

 

“เจ้าจะช่วยพวกเราจับตัวเขาได้ยังไง?” อีแร้งตะโกนถามขึ้นมาขณะที่พยายามไล่จับหานเซิ่น

 

ราชครูกู่เยวียนเอาของบางอย่างออกมาจากในเสื้อ เขาโยนมันให้กับปีศาจสาวและพูด

“ด้วยสมบัติชิ้นนี้ ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าจะฆ่าหรือจับตัวเขาได้อย่างง่ายดาย”

 

ปีศาจสาวรับสิ่งนั้นมาและสังเกตเห็นว่ามันคือลูกบอลที่ดูเหมือนกับโมเดลของดาวเคราะห์

 

ปีศาจสาวจดจำได้ในทันทีว่ามันคืออะไร “แอสทรอลอินสทรูเมนท์ นี่ทาสรับใช้คนนั้นขโมยมันไปจากห้องทดลองอย่างนั้นหรอ?”

 

สีหน้าของราชครูกู่เยวียนไม่เปลี่ยนแปลง เขาพูดขึ้นว่า

“เมื่อก่อนในตอนที่เซเคร็ดล่มสลาย บรรพบุรุษของพวกเราต้องการจะเก็บรักษาพลังของผู้นำเซเคร็ดจากการถูกทำลายโดยสมบูรณ์ เขาหวังว่าวันหนึ่งจะได้รับใช้เซเคร็ดอีกครั้ง เมื่อเซเคร็ดถูกสร้างขึ้นมาใหม่”

 

ถึงแม้ปีศาจสาวจะรู้ว่าราชครูกู่เยวียนพูดจาไร้สาระ แต่เธอไม่มีอารมณ์จะมาโต้เถียงกับเขา เธอแค่พูดขึ้นว่า “ถ้าสิ่งนี้จับตัวหานเซิ่นได้ ข้ารับประกันได้เลยว่าเจ้าจะได้รับสิ่งที่เจ้าต้องการ”

 

“ขอบคุณพวกเจ้าอย่างมาก” ราชครูกู่เยวียนโค้งคำนับอีกครั้ง

 

หานเซิ่นรู้อยู่แล้วว่าราชครูกู่เยวียนเป็นบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ เขาไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเลยที่ราชครูกู่เยวียนทรยศเขา แต่เขาไม่รู้ว่าแอสทรอลอินสทรูเมนท์คืออะไร และมันมีพลังแบบไหนกันแน่

 

ปีศาจสาวถือแอสทรอลอินสทรูเมนท์เอาไว้และมองดูมันเรืองแสงเหมือนกับดวงดาว มันกำลังหมุนอย่างรวดเร็ว

 

แอสทรอลอินสทรูเมนท์เป็นเหมือนกับแสงไฟที่หมุนไปมาในผับ มันส่องแสงไปทั่วทั้งปราสาทศักดิ์สิทธิ์ มันทำให้เซิ่นรู้สึกว่าทุกสิ่งรอบๆตัวเขากำลังเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน

 

เขากำลังอยู่ในปราสาทศักดิ์สิทธิ์ แต่ด้วยเห็นบางอย่าง เขาไปปรากฏตัวอยู่ในอากาศ ทุกสิ่งทุกอย่างในปราสาทศักดิ์สิทธิ์นั้นหายไป

 

ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เข้าใจว่าแอสทรอลอินสทรูเมนท์คือสมบัติธาตุอวกาศ มันสามารถดึงสิ่งมีชีวิตมาสู่อวกาศได้ นอกซะจากเขาจะทำลายแอสทรอลอินสทรูเมนท์ในมือของอาเหมยได้ เขาก็จะถูกขังอยู่ในอวกาศนั้นตลอดไป

 

“เด็กน้อย ทีนี้เจ้าจะหนีไปที่ไหนอีกล่ะ?” อีแร้งแก่เย้ยหยันหานเซิ่น ก่อนหน้านี้ในปราสาท มันกลัวว่าพลังของมันจะไปสร้างความเสียหายให้กับรูปปั้น ตอนนี้เมื่อมาอยู่ในอวกาศ มันก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป มันสามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้อย่างเต็มที่

 

เมื่อเห็นควันสีดำที่เหมือนกับเมฆดำบนท้องฟ้ากำลังเคลื่อนที่เข้ามาหา หานเซิ่นก็ไม่ได้หนีไปไหน เขาเอาขวดไวน์ออกมาและดื่มมันจนหมดในครั้งเดียว

 

“ถ้าพวกเจ้าต้องการจะต่อสู้ อย่างนั้นพวกเราก็มาสู้กัน!” ออร่าของหานเซิ่นเป็นเหมือนกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุ มันปกคลุมทั้งอวกาศ

 

ในหัวของหานเซิ่นมีเสียงประกาศดังขึ้นมา “ยีนระดับเทพเจ้า+1… ยีนระดับเทพเจ้าเต็มหนึ่งร้อยยีน… ร่างกายต่อสู้เริ่มการวิวัฒนาการ…”

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset