Super God Gene – ตอนที่ 3015 เงื่อนงำเกี่ยวกับพระเจ้า

 

“เป็นแบบนี้นี่เอง” หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หานหยี่เฟยก็ดูตื่นเต้นอย่างมาก เธอมองข้อมูลที่อยู่บนหน้าจอด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

 

หานเซิ่นถามขึ้นมา “สถานการณ์เป็นยังไง? มันมีหนทางที่จะเอาเลือดสีฟ้าออกไปจากร่างกายไหม?”

 

“ตอบคำถามข้ามาก่อน” หานหยี่เฟยไม่รอให้หานเซิ่นตอบตกลง เธอถามต่อในทันที

“เจ้าออกมาจากก็อตแซงชัวรี่ใช่ไหม?”

 

“ใช่แล้ว” หานเซิ่นพยักหน้า มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วที่เขาจะปิดบังเรื่องนั้นในตอนนี้

 

หานหยี่เฟยมองหานเซิ่นด้วยความสนใจ “เจ้าเป็นลูกผสมระหว่างคริสตัลไลเซอร์กับผู้นำเซเคร็ดใช่หรือไม่?”

 

“ข้าไม่รู้” ถึงแม้หานเซิ่นจะเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานนั้น แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์

 

“ใช่ เจ้าเป็น” หานหยี่เฟยบอกหานเซิ่นอย่างมั่นใจ

 

หานเซิ่นไม่เข้าใจและถามขึ้นว่า “เจ้าแน่ใจได้ยังไง?”

 

หานหยี่เฟยพูด “นั่นเป็นเพราะข้าเป็นคนที่รับผิดชอบการวิจัยเลือดของผู้นำเซเคร็ด ข้อมูลการวิจัยของข้ามีเพียงแค่ผู้ช่วยที่ได้เห็นมัน ถ้าไม่มีข้อมูลนั้น มันก็ไม่มีเผ่าพันธุ์ไหนที่จะรวมเข้ากับเลือดสีฟ้าได้”

 

“ผู้ช่วยของเจ้าคือคริสตัลไลเซอร์อย่างนั้นหรอ?”

หานเซิ่นนึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้หานหยี่เฟยเคยบอกเขาว่าหลังจากที่ยีนของคริสตัลไลเซอร์ได้รับการปรับปรุง สติปัญญาของพวกเขาก็พัฒนาขึ้น หานหยี่เฟยและผู้นำเซเคร็ดจึงได้ใช้พวกเขาเป็นผู้ช่วยในการวิจัย

 

“ใช่ เป็นคริสตัลไลเซอร์ ถ้าเจ้าเป็นคริสตัลไลเซอร์และเจ้ารวมเข้ากับเลือดสีฟ้าได้ เจ้าก็ต้องเป็นลูกผสมระหว่างคริสตัลไลเซอร์กับผู้นำเซเคร็ดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เนื่องจากการวิจัยนั้นไม่ได้ประสบความสำเร็จซะทีเดียว ซึ่งทำให้เลือดของผู้นำเซเคร็ดนั้นอ่อนมากๆ มันจะไม่ส่งผลกระทบกับเลือดตามธรรมชาติของคริสตัลไลเซอร์ ด้วยเหตุนั้นผู้คนจึงสันนิษฐานไปว่าเจ้าคือคริสตัลไลเซอร์ธรรมดาคนหนึ่ง”

 

หานหยี่เฟยหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อด้วยรอยยิ้ม

“ไม่อยากจะเชื่อว่าเลฟต์เครซี่จะฉลาดถึงขนาดนั้น เขาเห็นข้อมูลเพียงแค่เล็กน้อย แต่เขากลับทำแบบได้ มันคงจะเป็นอะไรที่ยากลำบากมากๆสำหรับพวกเขา”

 

“ถึงแม้ข้าจะเป็นลูกผสมระหว่างคริสตัลไลเซอร์กับเลือดของผู้นำเซเคร็ด แล้วเกี่ยวข้องยังไงกับแมวเก้าชีวิต?” หานเซิ่นถาม

 

“แมวเก้าชีวิต โกสต์คาร์ ฟีนิกซ์และกิเลนศักดิ์สิทธิ์คือสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ของเซเคร็ด ความจริงแล้วพวกเขาเป็นการวิจัยที่สำคัญของผู้นำเซเคร็ด มันแตกต่างไปจากการวิจัยสุดยอดยีน การวิจัยของอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่นั้นมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสปิริตศักดิ์สิทธิ์ และเปลี่ยนพวกมันให้เป็นสิ่งที่ต่อกรกับเทพสปิริตได้ แต่มีเพียงแค่กิเลนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ ส่วนอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือนั้นไม่สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวเก้าชีวิต มันมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นในระหว่างการวิจัย”

 

เมื่อพูดถึงเรื่องนั้นสีหน้าของหานหยี่เฟยก็ดูจริงจังขึ้นมา เธอเงียบไปและไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

“มันมีปัญหาอะไร?” สีหน้าของหานเซิ่นแสดงให้เห็นถึงความร้อนรน เขาไล่ตามเรื่องนี้มาเป็นเวลานานหลายปี และในที่สุดเขาก็กำลังจะได้รู้ความจริง

 

“ข้าไม่รู้” คำตอบของหานหยี่เฟยเกือบจะทำให้หานเซิ่นกระโดดขึ้นมา

 

“เจ้าจะไม่รู้ได้ยังไง?” หานเซิ่นเบิกตากว้าง เขาจ้องไปที่หานหยี่เฟย

 

“ข้าไม่รู้จริงๆ กระบวนการวิจัยเพื่อสร้างสปิริตศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นอะไรที่อันตราย ในระหว่างการทดลอง แมวเก้าชีวิตได้รับสปิริตมากเกินไปจนรับไม่ไหว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้มันเสียชีวิต”

 

หลังจากนั้นหานหยี่เฟยก็มองมาที่หานเซิ่นและพูด “ข้าเพิ่งมารู้จากเจ้าในตอนนี้ว่าแมวเก้าชีวิตนั้นยังไม่ตาย และเลือดของมันก็ใกล้เคียงกับเลือดสีฟ้า นั่นควรจะเป็นไปไม่ได้”

 

หานเซิ่นมีสีหน้าแปลกๆ ความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาในหัวของเขา ในที่สุดเขาก็พูดออกมาด้วยความแปลกใจ

“เจ้าจะบอกว่าที่แมวเก้าชีวิตคืนชีพกลับขึ้นมาเป็นเพราะผู้นำเซเคร็ดอย่างนั้นหรอ? นั่นหมายความว่าแมวเก้าชีวิต…”

 

ก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดออกมา เขาคิดว่าความเป็นไปได้นั้นเป็นอะไรที่น่าตกใจเกินไป

 

หานหยี่เฟยพยักหน้าและพูด “จากการคาดเดาของข้า มันมีความเป็นไปได้อยู่สองอย่าง อย่างแรกคือมันเป็นอย่างที่เจ้าพูด บางทีผู้นำซเคร็ดคงใช้ร่างของแมวเก้าชีวิตเพื่อทำการทดลองบางอย่าง และแมวเก้าชีวิตก็กลายเป็นภาชนะสำหรับเขา อีกความเป็นไปได้หนึ่งคือผู้นำเซเคร็ดมอบเลือดของเขาให้กับแมวเก้าชีวิต หลังจากนั้นแมวเก้าชีวิตก็คืนชีพขึ้นมาในฐานะสายพันธุ์ใหม่ มีเพียงแค่สองความเป็นไปได้ที่จะอธิบายว่าทำไมเลือดของแมวเก้าชีวิตถึงได้คล้ายคลึงกับเลือดของผู้นำเซเคร็ด นั่นเป็นเหตุผลที่พลังของแมวเก้าชีวิตต่อต้านพลังของเลือดสีฟ้าได้ มีเพียงแค่พลังเซเคร็ดที่จะยับยั้งพลังเซเคร็ดได้”

 

“เจ้าคิดว่ามันน่าจะเป็นความเป็นไปได้ไหน?” หานเซิ่นมีสีหน้าแปลกๆ เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ปีศาจสาวเตือนให้เขาระวังแมวเก้าชีวิตก่อนที่เธอจะตาย

 

“ข้าไม่รู้” หานหยี่เฟยปิดเครื่องทดลองและปล่อยให้หานเซิ่นออกมา

 

หานเซิ่นยื่นเส้นยืนสายขณะที่ถามขึ้นว่า “มันมีหนทางที่จะลบล้างเลือดสีฟ้าที่อยู่ภายในตัวของข้าออกไปไหม?”

 

“เมื่อยีนถูกรวมเข้าด้วยกันแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะลบล้างยีนนั้นออกไป”

หานหยี่เฟยหยุดไปชั่วครู่ ก่อนที่จะถามขึ้นว่า “ทำไมเจ้าถึงต้องการกำจัดมันออกไป? ถ้ามันเป็นแค่ยีนเลือดสีฟ้า มันก็อาจจะเป็นปัญหาสำหรับเจ้า แต่เจ้ามียีนเลือดสีฟ้ากลายพันธุ์ของแมวเก้าชีวิตอยู่ ยีนเลือดสีฟ้ากลายพันธุ์นั้นจะไม่ถูกตัดขาดจากกฎของจักรวาล เจ้าแค่จำเป็นต้องรวมพลังทั้งสองให้เป็นหนึ่งเดียว หลังจากนั้นเจ้าก็จะควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์ และเจ้าจะไม่เป็นเหมือนอย่างผู้นำเซเคร็ดที่ถูกทำลายโดยพลังของจักรวาล เจ้าจะประสบความสำเร็จมากกว่าเขา บางทีเจ้าอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้สุดยอดยีนเพื่อฆ่าเทพสปิริต”

 

“ทำไมข้าถึงต้องฆ่าเทพสปิริต?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

 

หานเซิ่นเคยเป็นเทพสปิริตด้วยผลของมงกุฎสกายก็อต ถึงแม้เทพสปิริตจะเป็นอันตราย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจำเป็นต้องถูกกำจัด

 

เมื่อเทียบกันแล้วในความพยายามที่จะทำให้เผ่าพันธุ์ของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น เผ่าพันธุ์ต่างๆนั้นได้ก่อกรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าเทพสปิริตซะอีก ภัยอันตรายที่เกิดจากพวกเขานั้นแย่ยิ่งกว่าสิ่งไหนๆที่เทพสปิริตทำ

 

นอกซะจากเขาจะเกิดมาเป็นศัตรูของเทพสปิริต เขาก็ไม่เห็นว่ามันจะมีเหตุจำเป็นอะไรที่ต้องฆ่าเทพสปิริต

 

หานหยี่เฟยมองหานเซิ่นอย่างแปลกๆ หลังจากผ่านไปสักพักเธอก็ถอนหายใจออกมา

“เจ้ายังไม่เข้าใจว่าแท้จริงแล้วเทพสปิริตคืออะไร ถ้าเจ้าเข้าใจ เจ้าจะไม่รู้สึกแบบนั้น”

 

“เจ้าทำให้ข้าเข้าใจได้” หานเซิ่นมองไปที่หานหยี่เฟยด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ

 

“มันยากที่จะอธิบายอย่างกะทันหัน”

เห็นได้ชัดว่าหานหยี่เฟยไม่ต้องการตอบคำถามนั้น เธอเปลี่ยนเรื่องและพูดขึ้นว่า “เจ้าควรอยู่ที่นี่ ข้าจะหาทางช่วยเจ้าควบคุมพลังของเลือดสีฟ้า ส่วนการจะกำจัดเลือดสีฟ้าไปนั้น ข้าไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้”

 

“หลังจากที่ข้าควบคุมมันได้แล้ว ข้าจะใช้วิชาจีโนอื่นที่ข้ามีได้ไหม?” หานเซิ่นถาม

 

“เป็นไปไม่ได้ ยีนเลือดสีฟ้าของผู้นำเซเคร็ดนั้นทรงพลังเกินไป ถึงเจ้าจะไม่ถูกตัดขาดจากกฎของจักรวาล เจ้าก็ใช้วิชาจีโนอื่นไม่ได้อยู่ดี เจ้าจะใช้ได้เพียงแค่พลังนี้ แต่มันก็เป็นอะไรที่มากพอ” หานหยี่เฟยพูด

 

หานเซิ่นมีสีหน้าแปลกๆขณะที่ถาม “เจ้าแน่ใจหรือว่าหลังจากที่มีพลังของเลือดสีฟ้า ข้าจะใช้พลังอื่นไม่ได้อีก?”

 

“ข้าแน่ใจ เจ้าเองก็มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ไม่ใช่หรอ?” หานหยี่เฟยพูด

 

“อีกอย่างหนึ่ง ข้าสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับหานจิงจื่อที่เจ้าพูดถึง บอกข้าเกี่ยวกับเรื่องของเขา” หานหยี่เฟยหลี่ตา

 

“ข้าจะบอกเจ้า แต่เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน ข้าต้องการจะรู้ว่าเทพสปิริตคืออะไร” หานเซิ่นพูด

 

หานหยี่เฟยมองหานเซิ่นอย่างจริงจังอยู่สักพักก่อนที่จะพูดขึ้นว่า

“เอาสิ ข้าจะพยายามอธิบาย แต่ข้าไม่สัญญาว่าเจ้าจะเข้าใจมัน”

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset