Super God Gene – ตอนที่ 3039 โลหิตชีพจรเทพสปิริต

‘เป็นวิหารพระเจ้าของอีวิลโลตัสก็อตจริงๆด้วย ทำไมโลกนี้ถึงได้มีวิหารพระเจ้าของอีวิลโลตัสก็อตอยู่? โลกทั้งสองมีความสัมพันธ์กันยังไง?’ หานเซิ่นคิด

 

มิสเตอร์หยางบอกหานเซิ่นว่าทุกเมืองในอาณาจักรของจักรวาลมีวิหารพระเจ้าอยู่ เหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าวิหารพระเจ้าเป็นสิ่งที่มีอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่เมืองของมนุษย์ถูกสร้างขึ้นรอบๆวิหารพระเจ้าในภายหลัง

 

ในโลกใบนี้วิหารพระเจ้านั้นมีพลังพิเศษ ไม่ใช่เพียงแค่พวกมันจะปกป้องเมืองของมนุษย์เท่านั้น พวกมันยังมอบพลังของโลหิตชีพจรให้กับมนุษย์อีกด้วย

 

ขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เขาเห็นสามัญชนเข้าแถวเรียงต่อกันอยู่ตรงหน้า ภายใต้สายตาของทหาร สามัญชนที่อยู่หน้าสุดได้รับอนุญาตให้เดินเข้าไปในวิหาร ในตอนที่คนๆนั้นอยู่ตรงหน้ารูปปั้นของอีวิลโลตัสก็อต เขาก็จะลงไปคุกเข่าภาวณาต่อเทพสปิริตจากใจจริง

 

สามัญชนคนนั้นเป็นเด็กผู้ชายที่อายุไม่มากนัก หลังจากที่ภาวณาเสร็จ เขาก็เฉือนนิ้วตัวเองและหยดเลือดลงไปบนเตาหินสีม่วง หลังจากนั้นเขาก็มองเตาหินสีม่วงอย่างเป็นกังวล

 

แต่หลังจากผ่านไปสักพัก เตาหินก็ยังคงไม่มีความเปลี่ยนแปลง ในตอนแรกชายหนุ่มเต็มไปด้วยความหวัง แต่เมื่อเวลาผ่านไปความหวังก็ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ร่างกายของเขาเริ่มจะสั่นและขาอ่อนลงไป เขาเกือบที่จะล้มลงไปกับพื้น

 

“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่ข้าจะไม่มีโลหิตชีพจรเทพสปิริต… มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ… มันต้องมีอะไรผิดพลาด…”

ชายหนุ่มดูเหมือนกับคนบ้า หลังจากนั้นเขาก็ใช้มีดเฉือนแขนตัวเองหลายต่อหลายครั้งเพื่อหยดเลือดทั้งหมดลงไปบนเตาหินสีม่วง

 

แต่เตาหินสีม่วงก็ยังคงไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆต่อเลือดของชายหนุ่ม ชายหนุ่มดูเหมือนจะเสียสติ เขาตัดข้อมือและเส้นเลือดของตัวเองจนขาด มันทำให้เลือดในร่างกายของเขาไหลลงไปบนเตาหินเหมือนกับน้ำตก

 

“ข้าต้องมีโลหิตชีพจรเทพสปิริต… ข้าต้องมี…”

ดวงตาของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขณะจ้องไปที่เตาหินสีม่วง

 

เตาหินยังคงนิ่งสนิทไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ ที่สุดแล้วชายหนุ่มก็เสียเลือดมากจนล้มลงไปบนพื้น เขาหมดสติไปขณะที่เลือดของเขายังคงไหลออกมาเรื่อยๆ ทุกคนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีใครคนไหนดูประหลาดใจ พวกเขาดูจะเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้และไม่มีใครที่เป็นห่วงชีวิตของชายหนุ่ม

 

ชายหนุ่มที่หมดสตินั้นถูกพาตัวออกไปจากวิหารพระเจ้าโดยทหาร เขาถูกลากตัวออกไปไม่ต่างจากสุนัขที่เสียชีวิต ทหารโยนเขาทิ้งไว้บนพื้น ไม่มีใครรู้ว่าเขาตายไปแล้วหรือว่ายังมีชีวิตอยู่

 

คนที่สองที่เข้าไปในวิหารเป็นเด็กสาวที่สวมเสื้อผ้าหลายชั้น เธอดูหวาดกลัวมาก ร่างกายของเธอสั่นรัว ขณะที่เธอเดินเข้าไปในวิหารพระเจ้า แต่เธอดูต่างไปจากชายหนุ่มคนก่อนหน้า มันมีสมาชิกในครอบครัวหลายคนที่คอยให้กำลังใจเธอจากด้านนอก หลังจากที่เด็กสาวรวบรวมความกล้าได้ เธอก็เดินไปอยู่ตรงหน้าแท่นบูชา เธอคุกเข่าลงและภาวณาต่อหน้ารูปปั้นของอีวิลโลตัสก็อตเหมือนกับชายหนุ่ม ก่อนที่จะนำเอาเข็มออกมาจิ้มนิ้วมือเพื่อหยดเลือดลงไปบนเตาหินสีม่วง

 

หลังจากที่เด็กสาวหยดเลือดลงไป ไม่นานเตาหินสีม่วงก็เรืองแสงแห่งเทพออกมา แสงสีม่วงสว่างขึ้นเรื่อยๆและเริ่มก่อตัวเป็นดอกบัวแสงสีม่วงเหนือเตาหิน

 

เด็กสาวดูดีใจอย่างมากเมื่อเห็นดอกบัวแสงสีม่วง เธอร้องไห้ออกมา สมาชิกในครอบครัวของเธอที่อยู่ข้างนอกเองก็ปลาบปลื้มใจเช่นกัน พวกเขาคุกเข่าลงเพื่อขอบคุณต่ออีวิลโลตัสก็อต

 

ดอกบัวแสงสีม่วงลอยออกมาจากเตาหินไปที่หน้าผากของเด็กสาว มันแทรกซึมเข้าไปในตัวเธอและกลายสัญลักษณ์ดอกบัวแสงบนหน้าผาก หลังจากนั้นมันก็ค่อยๆจางหายไป

 

“ยินดีด้วย เจ้ามีโลหิตชีพจรของอีวิลโลตัสก็อต”

ทหารที่ก่อนหน้านี้ดูเลือดเย็นยิ้มออกมา เขาส่งเด็กสาวกลับไปอย่างมีมารยาทต่างจากที่เขาทำกับชายหนุ่มก่อนหน้านี้

 

“มิสเตอร์หยาง นี่หมายความว่าเด็กสาวได้รับโลหิตชีพจรจากอีวิลโลตัสก็อตอย่างนั้นใช่ไหม? วิหารพระเจ้าของเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อตอยู่ในระดับไหนอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม

 

มิสเตอร์หยางตอบ “วิหารพระเจ้ามีอยู่ด้วยกันสี่ระดับ เดสทรัคชั่น ดิแซสเตอร์ แอนนิฮิเลชั่นและรีบูท ยิ่งระดับของวิหารพระเจ้าสูงมากเท่าไหร่ โลหิตชีพจรที่ได้รับก็จะทรงพลังมากเท่านั้น อีวิลโลตัสก็อตเป็นเทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่น ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นการได้รับโลหิตชีพจรก็เปิดโอกาสให้คนนั้นๆฝึกวิชาได้ นี่ถือเป็นเงื่อนไขจำเป็นที่จะกลายเป็นขุนนาง”

 

หลังจากนั้นมิสเตอร์หยางก็ถอนหายใจและพูด “ถึงมันดูไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ไม่ผ่านขั้นตอนนี้ มันเหมือนกับเส้นแบ่งระหว่างสวรรค์กับนรก”

 

หานเซิ่นพยักหน้า เขามองไปที่เด็กสาว ถึงแม้เธอจะได้รับโลหิตชีพจรเทพสปิริตของอีวิลโลตัสก็อต แต่ร่างกายของเธอก็ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ พลังของเธอไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น

 

โลหิตชีพจรเทพสปิริตนั้นจริงๆแล้วเป็นเหมือนกับกุญแจ มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความแข็งแกร่งของมนุษย์ สิ่งที่ตัดสินความแข็งแกร่งของมนุษย์คือไข่ยีนและยีนเรซ

 

หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นชายแก่ผมขาวเดินเข้าไปในวิหาร เขาจึงถามด้วยความสงสัย “ทำไมถึงมีคนแก่เข้าทดสอบการเปิดโลหิตชีพจรด้วย?”

 

มิสเตอร์หยางอธิบาย “นั่นเป็นเพราะวิหารพระเจ้าทั้งหมดมีพลังที่แตกต่างกัน เกณฑ์การถูกเลือกจึงแตกต่างกันไปด้วย ถึงคนๆหนึ่งจะไม่ได้รับโลหิตชีพจรจากวิหารของอีวิลโลตัสก็อต พวกเขาก็ไปลองอีกครั้งที่วิหารพระเจ้าอื่นได้ แต่โอกาสสำเร็จนั้นน้อยมากๆ เพราะเทพสปิริตส่วนใหญ่จะมีเกณฑ์ที่ใกล้เคียงกัน”

 

หานเซิ่นมองดูอยู่อีกสักพัก นอกจากเด็กสาวคนก่อนหน้านี้ มีมนุษย์อีกหลายคนที่เข้าไปในวิหาร แต่พวกเขาไม่ได้รับโลหิตชีพจรเทพสปิริต

 

‘เมื่อก่อนฉินซิวเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับโลหิตชีพจรเทพสปิริต แต่หว่านเอ๋อมอบโลหิตชีพจรเทพสปิริตของตัวเองให้กับเขา ในโลกใบนี้ดูเหมือนว่ามนุษย์ที่ไม่มีโลหิตชีพจรเทพสปิริตจะฝึกวิชาไม่ได้ นั่นเป็นอะไรที่น่าเศร้า’ หานเซิ่นคิดขณะที่มองดู เขาไม่เข้าใจว่าโลหิตชีพจรเทพสปิริตกับการฝึกวิชาของมนุษย์นั้นมีความเกี่ยวข้องกันยังไง

 

ทันใดนั้นมิสเตอร์หยางก็เห็นหานเซิ่นเดินไปเข้าคิว เขาถามด้วยความตกใจ “นายท่านกำลังทำอะไร?”

 

“นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก ข้าจึงอยากลองทดสอบดู” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“นายท่าน…” มิสเตอร์หยางต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขารีบห้ามตัวเองเอาไว้

 

หลังจากที่เข้าคิวอยู่สักพัก มันมีเสียงตื่นเต้นดังขึ้นมา มีชายคนหนึ่งร้องตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ เลือดของเขาเผยให้เห็นดอกบัวแสงสีม่วงบนเตาหินสองดอก

 

‘พลังของอีวิลโลตัสก็อตจะมีปฏิกิริยาแบบไหนกับเลือดของฉันกัน’ หานเซิ่นคิด

 

ไม่ไกลออกไปจากวิหารพระเจ้า พีชฟูลกำลังมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เมื่อเธอเห็นหานเซิ่นกำลังเข้าคิวอยู่ เธอก็ดูประหลาดใจ หลังจากนั้นเธอก็หัวเราะกับตัวเอง

“ไม่รู้ว่าข้าจะหาข้อมูลเกี่ยวกับเขาได้ยังไง แต่ตอนนี้เขากลับมาที่วิหารพระเจ้าเพื่อรับการทดสอบ นี่ถือว่าช่วยได้มาก”

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset