Super God Gene – ตอนที่ 3077 การแข่งขันยีนที่น่ากลัว

ตอนที่ 3077 การแข่งขันยีนที่น่ากลัว

 

หลังจากที่ได้ยินว่ามีเรื่องแบบนั้นอยู่ด้วย หานเซิ่นก็ตัดสินใจจะหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ มิสเตอร์หยางนั้นไม่ได้รู้อะไรมาก เขาบอกกับหานเซิ่นเกี่ยวกับข้อมูลทั่วๆไปเพียงเท่านั้น

 

ถึงแม้งานพิธีกรรมจะถูกจัดขึ้นที่วิหารของราชวงศ์ทุกปี แต่คนปกตินั้นไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ อย่างมากที่สุดพวกเขาก็ทําได้แค่ถ่ายภาพเหตุการณ์จากระยะไกล ด้วยเหตุนั้นมันจึงพอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับวิหารของราชวงศ์อยู่บ้างในอินเตอร์เน็ต

 

หานเซิ่นทําการค้นหาข้อมูลอยู่สักพักและได้รู้เกี่ยวกับตําแหน่งที่ตั้งของวิหารอัลฟาของราชวงศ์ฉิน เขายังได้รู้อีกว่าวิหารนั้นมีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นยังไง

 

“ทําไมวิหารนี้ถึงได้ดูเหมือนกับวิหารโลหะที่ไท่อีซ่อมแซม?” หานเซิ่นมองไปที่วิหารในภาพวิดีโอด้วยความแปลกใจ

 

นอกจากที่ภายนอกของวิหารนี้จะดูเก่ากว่าแล้ว รูปลักษณ์ของวิหารอัลฟ่าของราชวงศ์ฉินนั้น ดูเหมือนกับวิหารโลหะไม่มีผิด แต่ที่ด้านหน้าของวิหารถูกเขียนเอาไว้ว่า “วิหารอัลฟาฉิน” แทนที่จะเป็น “วิหารโลหะ”

 

หานเซิ่นตัดสินใจจะไปดูวิหารนั่นด้วยตัวของเขาเอง เพราะยังไงซะถ้าเขาต้องการจะเข้าไปใน วิหาร เขาก็ต้องสอดแนมให้ดีก่อน

 

สภาพของวิหารในตอนนี้แตกต่างไปจากเมื่อก่อน มันมีหลายจุดของวิหารที่พังทลายลงมาด้วยเหตุนั้นการที่วิหารมีขนาดใหญ่โต ถึงแม้วิหารนั้นจะมียามรักษาการณ์เฝ้าอย่างแน่นหนา แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะคุ้มกันวิหารได้อย่างทั่วถึง

 

หานเซิ่นไม่กล้าจะเข้าไปใกล้มากจนเกินไป เขาเพียงแค่เดินไปรอบๆวิหารเพื่อหาว่ามันมีหนทางที่จะแอบเข้าไปได้ไหม แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ต้องขมวดคิ้ว

 

การป้องกันวิหารนั้นแน่นหนากว่าที่เขาคาดเดาเอาไว้ มันมีเครื่องมือต่างๆติดตั้งเอาไว้ทั่ววิหาร ด้วยเหตุนั้นการที่เขาไม่สามารถใช้วิชาจีโนได้ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะแอบเข้าไปในวิหารโดยที่ไม่ทําให้คนอื่นรู้ตัว

หานเซิ่นไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า แต่เขารู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งที่อยู่ภายในวิหารกําลังเรียกหาเขา มันเรียกให้เขาเข้าไปข้างใน

 

แต่น่าเสียดายที่หานเซิ่นไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงล้มเลิกความคิดที่จะเข้าไปในวิหาร เขาจําเป็นต้องคิดหาทางอื่น

 

ในระหว่างที่เดินทางกลับไปยังที่พัก หานเซิ่นก็เห็นอาหารว่างที่ดูน่าอร่อย เขามองดูเวลาและสังเกตเห็นว่ามันใกล้จะถึงเวลาทานอาหารกลางวันแล้ว ดังนั้นเขาจึงซื้อพวกมันกลับไปด้วย

 

ในตอนที่เขากลับมาถึงที่พัก หานเซิ่นก็เรียกมิสเตอร์หยา งเจียงปู้กู่และคนอื่นๆให้มากินอาหารด้วยกัน ดูเหมือนว่ามีเพียงแค่หลี่ปิงหยูที่ไม่อยู่ พวกเขาห้าคนนั่งรอบโต๊ะอาหาร ขณะที่หานเซิ่น นําอาหารที่ดูเหมือนกับพายออกมาและกําลังจะเริ่มกิน จู่ๆเจียงปู้กู่ก็หยุดเขาเอาไว้

 

“นายน้อยจะกินสิ่งนี้ไม่ได้” เจียงปู้กู่พูด

 

หานเซิ่นวางพายลงและถาม “ข้ากินพายนี้ไม่ได้?”

 

เจียงปู้กู่พยักหน้า “ในจักรวาลนี้มียีนเรซอยู่มากมาย ไม่สําคัญว่าพวกมันจะเป็นยีนเรชระดับสูงหรือระดับต่ํา ทุกยีนเรซนั้นจะมีลักษณะเฉพาะตัว ถ้าพวกมันถูกใช้ในทางที่ถูก แม้แต่ยีนเรซระดับต่ำก็เป็นอะไรที่มีประโยชน์ มันจึงมีคํากล่าวที่ว่ามันไม่มียีนเรซที่เป็นขยะ มันมีแต่ผู้ใช้ยีนเรซที่เป็นขยะ”

 

“เจ้าจะบอกว่ามันมียีนเรซอยู่ในพายนี้อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นขมวดคิ้ว

 

เจียงปู้กู่บอกให้คนอื่นๆวางชิ้นพายลงและพูดต่อไปว่า

 

“ถ้าข้าดูไม่ผิดล่ะก็ มันมีแมลงกินอวัยวะอยู่ในพายนี้ ถ้านายน้อยกินพายนี้เข้าไป พวกมันจะเติบโตอย่างรวดเร็วในร่างกายของนายน้อย พวกมันจะกัดกินอวัยวะภายในทั้งหมดของนายน้อยจนไม่มีอะไรเหลือ ถึงแม้พวกมันจะเป็นแค่ยีนเรซระดับมาร์ควิส แต่ในสมัยอดีตมีผู้ใช้ยีนเรซระดับเทพเจ้ามากมายที่ต้องตายเพราะแมลงกินอวัยวะพวกนี้ แมลงกินอวัยวะนั้นเป็นยีนเรซที่หาได้ยากมากๆ ข้าไม่แน่ใจว่านายน้อยไปล่วงเกินใคร พวกเขาถึงขนาดใช้วิธีการแบบนี้ ในพายนี้มีแมลงกินอวัยวะอยู่ถึงหกตัว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการจะฆ่านายน้อย”

 

“แมลงกินอวัยวะ!” สีหน้าของมิสเตอร์หยางเปลี่ยนไป เขารู้ว่าแมลงกินอวัยวะนั้นน่ากลัวขนาดไหน

 

สีหน้าของหานเซิ่นเปลี่ยนไปเช่นกัน ตัวเขาเองไม่ได้หวาดกลัวแมลงกินอวัยวะ แต่มนุษย์ของจักรวาลนี้แตกต่างออกไป ถึงมันจะมียอดฝีมืออยู่มากมายที่สามารถทําลายท้องฟ้าและผืนดินได้ แต่ร่างกายที่แท้จริงของพวกเขาไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่ มันมีแค่ตอนที่พวกเขารวมร่างกับยuนเรซเท่านั้นที่ร่างกายของพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับหานเซิ่นที่วิวัฒนาการร่างกายของตัวเองแล้ว มันแตกต่างกันอย่างมาก

 

ถึงแมลงกินอวัยวะจะเข้าไปในร่างกายของหารเซิ่น พวกมันก็ไม่ส่งผลอะไรต่อเขา แต่สําหรับมิสเตอร์หยางและคนอื่นๆแล้ว พวกมันคือหายนะ แม้แต่คนอย่างเจียงปู้กู่ก็ไม่แน่ใจว่าจะรอดชีวิตจากพวกมันได้

 

เจียงปู้กู่หยิบมีดขึ้นมาและตัดพายเปิดออก เขาเขี่ยเนื้อที่อยู่ภายในพายออกมาและภายในเนื้อนั้นมีแมลงขนาดเล็กตัวหนึ่งอยู่ ขนาดของมันพอๆกับเม็ดงา ด้วยเหตุนั้นถ้าไม่สังเกตดีๆ มันก็ยากที่จะสังเกตถึงมันได้ ซึ่งโดยปกติแล้วผู้คนจะไม่นั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพื่อตรวจสอบสิ่งที่อยู่ข้างในก่อนที่พวกเขาจะกินเข้าไป

 

ใบหน้าของทุกคนดูแย่ และคนที่ดูแย่ที่สุดคือตัวหานเซิ่นเอง ถ้าเจียงปู้กู่ไม่อยู่ที่นี้ด้วย มิสเตอร์หยางและคนอื่นก็อาจจะไม่รอด

 

“ไม่ต้องกังวล ถึงแมลงกินอวัยวะจะน่ากลัว แต่พวกมันไม่มีพิษภัยอะไร ตราบใดที่พวกมันอยู่นอกร่างกายของพวกเรา พวกมันจะหลับไหลและไม่ทําอะไรทั้งนั้น ดังนั้นไม่มีความจําเป็นต้องกลัวพวกมัน”

 

เจียงปู้กู่หยิบเอาแมลงกินอวัยวะทั้งหกตัวออกมาและใส่มันลงไปในถ้วนใบหนึ่ง ถึงแม้พวกมันจะถูกย้ายไปอยู่ในนั้น พวกมันก็ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

 

หานเซิ่นถามขึ้นว่า “เจ้าหาได้ไหมว่าใครกันที่จะทําเรื่องแบบนี้?”

 

เจียงปู้กู่ส่ายหัว “ถ้าพวกเรามียีนเรซกระจกนภาอยู่ พวกเราก็อาจจะหาตําแหน่งของคนที่วางแผนฆ่านายน้อยได้ น่าเสียดายที่ยีนเรซนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากๆภายในอาณาจักรฉิน”

 

หานเซิ่นมองไปที่เจียงปู้กู่และถาม “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกมันเข้าไปในร่างกาย? เจ้าของพวกมันจะสัมผัสถึงเรื่องนั้นได้ไหม?”

 

“เมื่อแมลงกินอวัยวะเข้าไปในร่างกายแล้ว เจ้าของของพวกมันจะสัมผัสถึงเรื่องนั้นได้” เจียงปู้กู่พูด

 

“โดยปกติแล้วด้วยความเร็วในการขยายพันธุ์ของแมลงกินอวัยวะ พวกเราจะตายภายในสามวัน อวัยวะภายในร่างกายของพวกเราทั้งหมดจะถูกกินจนไม่มีเหลือ”

 

หานเซิ่นพยักหน้า เขาหยิบแมลงกินอวัยวะทั้งหกขึ้นมาและเดินออกจากห้องไป หลังจากที่เขาพ้นจากสายตาของคนอื่นๆแล้ว หานเซิ่นก็ใส่แมลงกินอวัยวะทั้งหกเข้าไปในปากของเขาและกลืนพวกมันเข้าไป หลังจากนั้นเขาก็เดินออกไปข้างนอก

 

“มันได้ผล!” โหลวจิ๋วที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆกับโรงแรมที่หานเซิ่นพักอยู่นั้นรู้สึกดีใจเมื่อสัมผัสได้ว่าแมลงกินอวัยวะเริ่มทํางาน

 

ไม่นานหลังจากที่เขารู้สึกว่าแมลงกินอวัยวะกําลังถูกเคลื่อนที่ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงตามการเคลื่อนไหวของพวกมัน และเขาก็ได้เห็นหานเซินเดินออกมานอกโรงแรมตามลําพัง เขาคิดว่ามันน่าแปลก เขาขมวดคิ้วและคิดกับตัวเอง “แปลกจริงๆ ทําไมแมลงกินอวัยวะทั้งหกตัวถึงอยู่ภายในร่างกายของเขา?”

 

แต่หลังจากนั้นเขาก็คิดว่าแบบนี้มันก็ดี การที่แมลงกินอวัยวะถึงหกตัวอยู่ภายในร่างกายของ หานเซิ่นมันจะช่วยเร่งเวลาที่พวกแมลงจะกินอวัยวะภายในของหานเซิ่น

 

โหลวจิ๋วนั้นไม่คิดว่าจะมีใครที่รอดจากการถูกกินโดยแมลงกินอวัยวะได้ ตอนนี้เมื่อในร่างกายของหานเซิ่นมีแมลงกินอวัยวะอยู่ถึงหกตัว เขาก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าหานเซิ่นต้องตายอย่างแน่นอน

 

“เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าจําเป็นต้องโทษตัวเองในเรื่องนี้ มันเป็นความผิดของเจ้าที่ไปล่วงเกิ นมิสเตอร์จิน” โหลวจิ๋วหัวเราะอย่างชั่วร้าย

 

โหลวจิ๋วใช้พลังในการสัมผัสแมลงกินอวัยวะเพื่อติดตามหานเซิ่นไป เขายังจําเป็นที่ต้องเอาแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์มาจากหานเซิ่น เขาคิดที่ไปจะเอามันมาหลังจากที่หานเซิ่นตายไปแล้ว

 

โหลวจิ๋วสัมผัสได้ว่าแมลงกินอวัยวะนั้นเริ่มจะขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วภายในร่างกายของหานเซิ่น มันมีพวกมันเป็นจํานวนมากจนเขารู้สึกแปลกใจ

 

“ดูเหมือนว่ามันจะใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งวันเพื่อทํางานนี้ให้เสร็จ ด้วยการทํางานที่ดีขนาดนี้ มิสเตอร์จินจะต้องให้รางวัลกับข้าอย่างงามเป็นแน่”

 

โหลวจิ๋วตามหลังหานเซิ่นไปสักพัก และเขาก็เห็นหานเซิ่นเดินไปซื้ออาหารบนร้านค้าที่ตั้งอยู่ริมถนน โหลวจิ๋วหัวเราะอย่างชั่วร้ายและพูดอยู่ในใจว่า

 

“เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากําลังเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขายังมีหน้ามาซื้อหาอาหารกินอีก เขาเป็นเหมือนกับหมูอ้วนโง่เขลาที่เอาแต่กินอย่างเดียว

 

ทันใดนั้นสีหน้าของหานเซิ่นก็เปลี่ยนไป เขาเอามือกุมท้องของตัวเองและย่อตัวลงไปด้วยความเจ็บปวด หลังจากนั้นเขาก็เริ่มวิ่งออกไปในทิศทางของโรงพยาบาล เขาวิ่งไปตามถนนและเข้าไปในตรอกที่ไร้ผู้คน เขาล้มลงไปบนพื้นและเริ่มร้องโอดครวญ ขณะที่ร่างกายของเขาสั่นรัว มันดูเหมือนกับว่าเขากําลังจะตาย

 

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครภายในตรอกนั้น โหลวจิ๋วก็คิดว่านี่เป็นโอกาสเหมาะและคิดว่ามันไม่มีความจําเป็นที่ต้องซ่อนตัวอีกต่อไป เขาจึงเดินเข้าไปในตรอกและเดินเข้าไปหาหารเซิ่น

 

“พยายามทําตัวให้ฉลาดกว่านี้ในตอนที่เจ้าไปเกิดชาติหน้า อย่าได้ล่วงเกินคนที่เจ้าไม่อาจจะล่วงเกิน”

 

โหลวจิ๋วพูดก่อนที่จะเอื้อมมือออกไปเพื่อจับตัวหานเซิ่น แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ หลังจากที่ผู้คนถูกกินโดยแมลงกินอวัยวะ พวกเขาจะมีเลือดไหลออกมาเป็นจํานวนมาก แต่เขาไม่เห็นเลือดแม้แต่นิดเดียวบนตัวของหานเซิ่น

 

โหลวจิ๋วเห็นท่าไม่ดีและต้องการจะหันกลับเพื่อหนีไป แต่ทันใดนั้นมีคนๆหนึ่งเข้ามาขวางหน้าเขาเอาไว้ ก่อนที่จะจับเขาที่คอและยกตัวเขาขึ้น

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset