Taming Master – ตอนที่ 220

อึก-

เอียนซึ่งได้พบคฤหาสน์ของเซราฟิมผ่านความช่วยเหลือของเฮสก้า กลืนน้ำลายทันทีที่เขาเข้าไปทางประตูหน้า

‘ว้าว… คฤหาสน์อะไรกันเนี่ย? มันดูเหมือนปราสาทของราชาปีศาจเลย’

ในจุดที่เอียนเข้ามาในคฤหาสน์ของเซราฟิมรู้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นคฤหาสน์ที่เขาอาศัยอยู่คนเดียว อาคารที่มีขนาดเกือบเท่ากับปราสาทของลอร์ดที่อยู่ในเมืองโลตัสของทวีปทางตอนเหนือ

เอียนถูกข่มขู่ด้วยความยิ่งใหญ่และเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง

‘ถ้าฉันเข้าไปข้างในตามเส้นทางนี้ ฉันจะได้พบกับเซราฟิมใช่ไหม?’

เส้นทางถูกวางตามสวนในลักษณะที่คดเคี้ยว

สิ่งที่น่าสนใจคือภายในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวซึ่งมืดสนิทและเต็มไปด้วยแสงสลัวสีแดงเข้ม มีสวนที่สวยที่ไม่เหมาะกับมันอยู่ด้วย

ทิวทัศน์นั้นค่อนข้างแตกต่างกัน แต่สร้างบรรยากาศที่เหมือนฝัน

เอียนหันหน้าของเขาไปหาคาร์เซอุสเล็กน้อยซึ่งตามมาทางด้านหลังของเขา

“คาร์เซอุส รู้สึกเหมือนมีใครอยู่ข้างในไหม?”

คาร์เซอุสที่หยุดเดินปิดตาของเขาและจดจ่ออยู่กับตัวเองในไม่ช้าเขาก็ส่ายหัวอย่างช้าๆ

“อืม ข้าไม่แน่ใจเจ้านาย ข้าคิดว่ามีสิ่งที่เหมือนกับตราประทับที่ทรงพลังอยู่เหนือสวนแห่งนี้”

ภายในเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว เอียนเพิ่งจะมาพร้อมกับคาร์เซอุสในร่างมนุษย์ของเขาเมื่อเขาเคลื่อนไหว

นี่เป็นเพราะสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆของเขาโดดเด่นเกินกว่าที่ควร

“อืมม… อะไรวะเนี่ย? ความลึกลับที่ไร้เหตุผลนี้นั้นทำให้น่ากลัวนิดหน่อย”

เอียนพูดพึมพำในขณะที่เขาเริ่มเดินอีกครั้งและคาร์เซอุสเริ่มตามหลังของเขาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามจากนั้น เสียงที่ต่ำและหยาบกร้านผ่านเข้ามาถึงหูของทั้งสองคน

 

 

เมื่อได้ยินเสียงนั้น เอียนหันหน้าของเขาและเขาเริ่มมองหาเจ้าของเสียงและเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ

 

 

เอียนซึ่งแสดงรอยยิ้มเจื่อนๆได้เกาหัวของเขาขณะที่เขาพูดไปบนท้องฟ้า

 

“ท่านคือเซราฟิมงั้นหรอ?”

 

 

เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ

“ครับ ผมมาหาท่านเซราฟิม”

 

 

เอียนเปิดหน้าต่างเควสต์ของเควสต์ที่เขาได้รับจากอิเรียลอีกครั้งและเขาพูด

“ผมมาที่นี่เพราะว่าอิเรียลส่งผมมา ผมต้องการพูดคุยเกี่ยวกับปีศาจร้ายที่เป็นภัย”

 

 

เมื่อเอียนพูด ในสวนของคฤหาสน์ได้เงียบสงบสักครู่หนึ่ง

และเซราฟิมพูดต่ออีกครั้ง

 

 

เมื่อคำพูดของเซราฟิมจบลงและเอียนก็กำลังโต้กลับอะไรบางอย่าง ไฟสีแดงก็เริ่มเปล่งประกายในรูปวงกลมใต้ฝ่าเท้าของเอียนและคาร์เซอุส

“นี่คืออะไร?”

คาร์เซอุสตอบกลับ

“ข้าคิดว่ามันคือวงเวทย์มนตร์”

“วงเวทย์มนตร์สามารถวาดจากระยะไกลได้งั้นหรอ?”

“ข้าไม่รู้…”

และร่างของทั้งสองคนที่ยืนอยู่บนนั้นได้ลอยอยู่บนอากาศก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากนั้นไม่นาน

 

* * *

 

“ฮ่าๆ คงไม่มีใครรู้ว่ามีหนทางอื่นในการได้รับอาชีพคู่นอกเหนือจากวิธีการเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจใช่ไหม?”

เขตทางเหนือของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว

ชายที่ยืนอยู่หน้าดันเจี้ยนที่มืดมิดซึ่งอยู่นอกประตูทางเหนือในโซน 100 ของอาณาจักรปีศาจ แสยะยิ้มในขณะที่เขาพึมพำ

“แน่นอน เอียน ฉันรู้ว่าโชคและทักษะของนายนั้นยอดเยี่ยมมาก อย่างไรก็ตามฉันจะแสดงให้นายเห็นว่ายังมีกำแพงที่นายไม่สามารถเอาชนะไปได้”

ชายคนนั้นนำผู้ติดตามหลายสิบคนเข้ามาในดันเจี้ยน

ที่เอวของเขามีดาบใหญ่ที่ให้แสงสีน้ำเงินเปล่งออกมาและไอเทมนั้นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของนักดาบเวทมนตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในไคลัน

เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ‘อิลาฮัน’ หัวหน้ากิลด์ของกิลด์ดาร์ครูน่า

“หัวหน้าครับ การเตรียมการได้เสร็จสมบูรณ์แล้วครับ”

“เยี่ยมมาก”

อิลาฮันเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆจนถึงจุดที่เขาสันนิษฐานว่าเดิมอยู่ใกล้อันดับที่ 1 มากที่สุดในการจัดอันดับที่รวมผู้เล่นที่ตั้งค่าไว้เป็นส่วนตัวเข้าด้วยกัน

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสงครามของทั้งสองอาณาจักรในทวีปกลางสิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของอาณาจักรไคม่อน อิทธิพลของกิลด์ดาร์ครูน่าซึ่งมีพลังของอาณาจักรไคม่อนก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

ในบรรดาวิดีโอที่อัปโหลดในชุมชนเมื่อไม่นานมานี้ มีวิดีโอของอิลาฮันที่ฝ่าวิหารของโฮลดรีมซึ่งเป็นดันเจี้ยนที่ยากที่สุดของทวีปกลาง

ในตอนนั้น วิดีโอดังกล่าวเป็นประเด็นที่ร้อนแรงอย่างมากและเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็เพราะอิลาฮันฝ่าดันเจี้ยนโดยไม่ใช่ด้วยพลังของปาร์ตี้กิลด์ แต่เป็นพลังของเขาเพียงอย่างเดียว

ฉากของผู้เล่นที่เจาะเข้าไปในดันเจี้ยนได้อย่างง่ายดายด้วยผู้ติดตามที่ใช้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเท่านั้น ช่วยไม่ได้ที่จะสร้างความชื่นชมจากผู้เล่นจำนวนมาก

เนื่องจากในตอนแรกวิหารของโฮลดรีมเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสถานที่ที่มีความเป็นไปได้ที่จะโจมตีหากมีปาร์ตี้ผู้เล่น 20 คนเต็มที่มีเลเวลมากกว่า 160

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมความมั่นใจของอิลาฮันจึงสูงขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

อย่างไรก็ตามมีเพียงสิ่งเดียวที่รบกวนเขาและสิ่งนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเอียน

นี่เป็นเพราะคนที่มีประสบการณ์รู้ถึงความสามารถในการต่อสู้ของเอียนอย่างถูกต้องระหว่างการบุกโจมตีป้อมปราการไพโรนั้นไม่ใช่คนอื่นนอกจากอิลาฮัน

‘ฉันช้ากว่าเอียนเล็กน้อยในการเข้าสู่อาณาจักรปีศาจ แต่เนื่องจากฉันมีเควสต์ลับ… ฮ่าๆ’

ถ้าอิลาฮันสำเร็จเควสต์ที่เขากำลังดำเนินการอยู่ในตอนนี้ เขาเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นคนที่ไม่มีใครเทียบได้

‘ฮ่าๆ ครึ่งปีศาจจะไม่สามารถเอาชนะปีศาจที่แท้จริงได้’

แสงสีแดงความชั่วร้ายส่องประกายผ่านดวงตาทั้งสองของอิลาฮัน

 

* * *

 

สถานที่ที่เอียนหายตัวไปกับวงเวทย์มนตร์สีแดงคือห้องทำงานของเซราฟิม

ห้องทำงานของเซราฟิมมีการตกแต่งด้วยชิ้นงานที่ประณีตซึ่งชวนให้นึกถึงรูปแบบแฟนซีของยุคบาโรกและโรโคโคของยุโรป

ชายร่างมหึมานั่งอยู่บนแท่นหินกลางห้องนั้นและมองลงไปที่เอียน

เขาคือเซราฟิม

“เอาล่ะ เด็กๆ เจ้ากำลังบอกว่าเจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับปีศาจร้ายจากอิเรียลใช่ไหม?”

เมื่อเซราฟิมพูด เอียนพยักหน้า

“ใช่ครับ อิเรียลบอกผมว่าปีศาจร้ายจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง ดังนั้นเธอจึงบอกให้ผมมาขอความช่วยเหลือจากท่าน เซราฟิม”

“อืมม ความช่วยเหลือของข้างั้นรึ…”

“ผมไม่รู้แน่ชัด แต่เธอบอกว่าความโกรธในอาณาจักรปีศาจจำเป็นต้องถูกต้านไว้เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามเต็มรูปแบบระหว่างโลกมนุษย์และอาณาจักรปีศาจ”

เซราฟิมพยักหน้าอย่างช้าๆ

“ถูกต้อง อิเรียล เด็กคนนั้นน่าหลงใหลอย่างแท้จริง เธอรู้สถานการณ์ภายในของอาณาจักรปีศาจได้อย่างไรจากสถานที่นั้น…”

เซราฟิมหลับตาอย่างช้าๆ

เขาเป็นคนที่ดูเหมือนจะเป็นนักรบที่มีรูปร่างที่หยาบและใหญ่ แต่ภายในรูม่านตาสีฟ้าใสของเขามีภาพของนักปราชญ์ที่เต็มไปด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาด

“อย่างไรก็ตาม เจ้ามาเวลาที่เหมาะเจาะพอดีเลย”

“ยะ… อย่างงั้นหรอครับ?”

เอียนถามกลับอย่างระมัดระวังขณะที่เขารอคำพูดต่อไปของเซราฟิม

‘ถึงเวลาที่เควสต์จะปรากฏขึ้นแล้วหรือยัง?’

และตามที่เอียนทำนายไว้ หน้าต่างเควสต์ก็โผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

กริ๊ง-

 

‘เซราฟิม’ คือ ‘ครึ่งปีศาจ’ รวมถึงปีศาจที่อยู่ระดับขุนนาง

เพราะเขาเป็นคนที่เป็นต้นกำเนิดวีรบุรุษของมนุษย์ก่อนที่เขาจะกลายเป็นปีศาจ เขาไม่ต้องการให้สงครามเต็มรูปแบบระหว่างอาณาจักรปีศาจและโลกมนุษย์เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้เมื่อปีศาจร้ายมีบทบาทสำคัญ พลังส่วนหนึ่งของอาณาจักรปีศาจกำลังวางแผนโจมตีโลกมนุษย์และพวกเขาก็เริ่มล้างอำนาจที่อยู่ตรงกันข้ามกับแผนนั้นทีละคน

พวกเขายังไม่แพร่กระจายอสูรเวทย์มนตร์ของพวกเขาไปยังปีศาจที่อยู่ในระดับขุนนางหรือสูงกว่า แต่ปีศาจระดับสูงสองคนตกอยู่ในแผนการของปีศาจร้ายและเริ่มถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษหรือถูกลอบสังหาร

ก่อนที่พลังของปีศาจร้ายจะเติบโตขึ้น พลังของปีศาจธรรมดาจะต้องรวมตัวกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และพลังที่สามารถต่อต้านพวกมันจะต้องก่อตัวขึ้น

ไปที่ ‘ป้อมปราการของปีศาจ’ ที่อยู่ในโซน 80 ของอาณาจักรปีศาจและถ่ายทอดความจริงนี้ให้กับราชาปีศาจ ‘ริคาร์โด้’

ระดับความยากเควสต์ : SS

เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จในการทำเควสต์ ‘จุดเริ่มต้นของปีศาจ ll (ลับ) (เชื่อม)

เวลาจำกัด : 30 วัน

รางวัล : ?

*นี่เป็นเควสต์ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้

 

เอียนซึ่งอ่านเนื้อหาเควสต์ทั้งหมดได้พยักหน้าอย่างช้าๆ

‘มันเป็นเควสต์การเดินทางที่เรียบง่ายที่ฉันต้องหา NPC ในครั้งนี้เช่นกัน แน่นอนว่าการผ่านเข้าสู่โซน 80 จะไม่ง่ายซะทีเดียว’

ยิ่งไปกว่านั้น มีเวลาจำกัด 30 วัน

เวลาจำกัดนั้นไม่สั้น ถึงอย่างนั้นก็เพียงพอที่จะกดดันเอียน

เอียนถามเซราฟิม

“ผมต้องไปที่ปราสาทเพื่อไปพบกับราชาปีศาจริคาร์โด้หรอครับ? “

เมื่อเอียนถาม เซราฟิมพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ

“ถูกต้อง เจ้าจะต้องส่งจดหมายที่ข้ามอบให้เจ้าไปให้ท่าน”

ในเวลาเดียวกันกับที่คำพูดของเซราฟิมจบลง คัมภีร์สีเหลืองปรากฏขึ้นต่อหน้าของเอียน

 

 

เซราฟิมพูดต่ออีกครั้ง

“เจ้าไม่สามารถไปสายได้ แต่เนื่องจากไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะต้องตรงเวลามากนักจึงเป็นการดีที่สุดที่จะเคลื่อนไหวหลังจากการเตรียมตัวอย่างละเอียด ดูเหมือนว่าด้วยความสามารถในปัจจุบันของเจ้า โซน 80 จะเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างมากสำหรับเจ้า”

เป็นไปตามที่คาดไว้ปีศาจระดับขุนนาง เซราฟิมล่วงรู้ระดับของอาณาจักรปีศาจจากการมองเพียงครั้งเดียว

เอียนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ

“ครับ ความจริงที่ว่าผมวางแผนที่จะเคลื่อนไหวหลังจากได้รับอาชีพคู่แล้ว”

“แน่นอนว่านั่นก็เป็นความคิดที่ดี หากเจ้าเป็นครึ่งปีศาจที่มีระดับของปีศาจระดับสูง เจ้าจะสามารถได้รับอาชีพคู่ได้โดยไม่ยากเช่นกัน”

เซราฟิมชี้ไปที่หอคอยที่ตั้งอยู่ด้านนอกหน้าต่างขณะที่เขาพูดต่อ

“สิ่งปลูกสร้างนั่นนั่นคือหอคอยอาชีพ ถ้าเจ้าไปที่นั่น เจ้าควรจะได้รับอาชีพคู่ตามที่เจ้าต้องการ”

“ผมเข้าใจแล้วครับ”

เอียนตอบกลับ แต่แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะได้รับอาชีพคู่จากหอคอยอาชีพ

‘ฉันควรไปโซน 107 ก่อนและไปพบกับเซอร์เวี่ยนที่ห้องปฏิบัติการ’

เมื่อนึกถึงการได้รับอาชีพลับจากเซอร์เวี่ยน เอียนเริ่มตื่นเต้นแล้ว

“อ้อ ท่านเซราฟิม”

“ว่าไง”

“ท่านรู้จักปีศาจระดับสูงที่ชื่อว่า ‘ยันโค’ ไหม?”

เมื่อเอียนถาม เซราฟิมแสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย

“แน่นอนว่าข้ารู้จักยันโค อย่างไรก็ตามเจ้ารู้จักเขาได้ยังไง?”

เอียนได้สรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับยันโคอย่างกระชับและอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง

แน่นอนว่าเอียนไม่ลืมที่จะแสดงความสามารถของตัวเองทีละเล็กทีละน้อยตามที่เขาบอก

‘เนื่องจากการสร้างความสัมพันธ์กับปีศาจระดับขุนนางจะเป็นการช่วยเหลือที่ดี’

เซราฟิมผู้ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดของเอียนแสดงยิ้มอันขมขื่นเมื่อเขาพูด

“เฮ้อ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว… เจ้ากำลังบอกว่ายันโคถูกขังอยู่ในหอคอยแห่งการลงโทษก่อนที่ข้าจะรู้ตัวใช่มั้ย?”

“ถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตามผมไม่เคยคิดเลยว่าผู้เป็นผู้บังคับบัญชาอันดับสองของปราสาทแห่งเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวจะไม่รู้ถึงเรื่องนี้”

เซราฟิมถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูด

“นี่เป็นเพราะปีศาจร้ายได้ครอบงำเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยวนี้ไปเกือบหมดแล้ว พวกเขาปิดตาและหูของข้า”

“ปีศาจร้ายน่ะหรอ?”

เซราฟิมพยักหน้าอย่างช้าๆ

“ถูกต้อง มันก็ตั้งนานแล้วตั้งแต่ราชาปีศาจไฮค่อนผู้ปราสาทได้ตกลงไปในหนทางของปีศาจร้ายเช่นกัน”

เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น เอียนแสดงอาการตึงเครียด

‘อะไรวะเนี่ย? ถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นไปได้ไหมที่ยันโคอาจจะไม่ได้รับการปล่อยตัว แม้ด้วยความแข็งแกร่งของเซราฟิมเช่นกัน?’

การปลดปล่อยของยันโคจะมีอิทธิพลต่อพลังการต่อสู้ของเอียนอย่างมาก

เนื่องจากยันโคเป็นปีศาจระดับสูงที่เป็นเลเวล 350 ถ้าเข้าร่วมกับพลังการต่อสู้ของเอียนเขาก็จะมีพลังการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยประมาณ 1.5-2 เท่า

และราวกับว่าเขาได้อ่านความคิดของเอียน เซราฟิมพูดต่อ

“อย่างไรก็ตาม เมื่อรู้ความจริงแล้ว ข้าจะสามารถปลดปล่อยยันโคจากหอคอยแห่งการลงโทษได้อย่างน้อยก็ด้วยพลังของข้า ดังนั้นอย่ากังวลไปเลย”

เอียนถอนหายใจอย่างโล่งอก

“เฮ้อ โล่งอกไปที ผมคิดว่าผมต้องได้รับความช่วยเหลือจากเขาเพื่อที่จะไปให้ถึงโซน 80 ของอาณาจักรปีศาจอย่างปลอดภัย”

เซราฟิมพยักหน้า

“ข้าจะนำยันโคออกมาภายในสามวันโดยเร็วและช้าที่สุดห้าวัน เจ้าสามารถได้รับอาชีพคู่ภายในเวลานั้นและกลับมา”

“ผมจะทำอย่างนั้นครับ”

สมองของเอียนแล่นอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามความรู้สึกที่เขาลืมบางสิ่งบางอย่างยังคงอยู่ หลังจากนั้นไม่นานเอียนก็สามารถจดจำสาเหตุของสิ่งนั้นได้

‘อ่อใช่ ตลาดค้าทาส! ฉันควรถามเรื่องตลาดค้าทาสด้วย’

เขาไม่แน่ใจว่าบทบาทแบบไหนที่ทาสสามารถใช้ในอาณาจักรปีศาจ แต่ถึงกระนั้นการมีสักคนจะดีกว่าการไม่มีอะไรเลยอย่างแน่นอน

เอียนถามเซราฟิมทันทีเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับตลาดค้าทาส

“ท่านเซราฟิม ก่อนที่เราจะไป มีอีกหนึ่งสิ่งที่ผมสงสัย”

“ว่ามา”

เอียนหยิบสัญญาทาสที่เขาเก็บไว้ในคลังของเขาออกมาและยกมันขึ้นมาในขณะที่เขาพูดต่อไป

“ผมต้องการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับตลาดค้าทาสที่อยู่ในในกลางของเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว”

เอียนหันไปหาเซราฟิม

อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างเซราฟิมไม่ตอบสนองใดๆ

“ท่านเซราฟิม…?”

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาจับจ้องอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เขาก็ไม่ได้ตอบสนองแม้แต่นิดเดียวแม้เอียนว่าจะเรียกเขา

เอียนหันหน้าของเขาไปยังที่ที่สายตาของเขาอยู่

และที่ที่เซราฟิมจ้องมองอยู่คือสัญญาทาสที่อยู่ในมือของเอียน

‘อะไรกันเนี่ย? ทำไมเขาจึงจ้องมองสิ่งนี้อย่างตั้งใจล่ะ?’

เอียนเรียกเซราฟิมอีกครั้ง

“ท่านเซราฟิม!”

และเซราฟิมซึ่งตั้งสติแล้วรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขายิ้มอย่างอายๆ

“ฮะ ฮ่าๆ ขอโทษ ข้าใจลอยกับไอเทมที่เจ้าถืออยู่ในมือของเจ้าสักครู่หนึ่ง”

เอียนมองกลับไปกลับมาที่สัญญาทาสที่อยู่ในมือและที่เซราฟิมขณะที่เขาพูดพึมพำกับตัวเอง

‘เขาอ่านเนื้อหาที่เขียนในสัญญาจากระยะนั้นงั้นหรอ?’

และขณะที่เอียนเอียงคอ เซราฟิมพูดต่อ

“เจ้านี่โชคดีสุดๆไปเลย”

Taming Master

Taming Master

เกมเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ‘Kailan’ ‘เอียน’ นักเล่นเกมเสมือนที่ใครๆต่างก็รู้จัก เขาลบตัวละครเลเวล 93 ของตนเพื่อที่จะได้รับอาชีพลับ… แต่อาชีพที่เขาเลือกนั้นเป็นอาชีพที่ไร้ประโยชน์ที่สุดใน ‘Kailan’ นั่นคือ นักอัญเชิญ? ยิ่งไปกว่านั้น การโทรตามจากศาสตราจารย์ทำให้เขาสติแตก! เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนคุมความประพฤติ เขาจะต้องรีบเพิ่มเลเวลของตนให้ถึงระดับเดิมกับที่เขาได้ลบไป ภายใน2เดือน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset