Taming Master – ตอนที่ 251

ดวงตาทั้งสองของเอียนเบิกโพลง

‘นะ ในที่สุด! เจ้านี่ก็วิวัฒนาการ!’

นอกเหนือจากการตกใจแล้ว เอียนก็แทบจะฉีกยิ้มออกมา

‘ฮ่า ไม่มีใครรู้เลยว่าฉันต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนจนถึงตอนนี้ที่เลี้ยงเจ้านี่มา! นี่คือหัวใจของผู้ใหญ่ที่เฝ้าดูเด็กของพวกเขาโตขึ้นงั้นหรอ?’

ในขณะที่มีความคิดว่าบุ๊กค์จะโกรธอย่างมากหากเขาได้ยิน เอียนจ้องไปที่บุ๊กค์ซึ่งส่องแสงอยู่ตลอดเวลา

Whoong-!

แสงสีฟ้าที่เปล่งประกายออกมาจากกระดองของเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆและเมื่อเป็นเช่นนั้น ความคาดหวังของเอียนก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

‘มันกลายเป็นมังกรอเวจีงั้นหรอ? ไม่สิ อย่างที่พวกเขาบอกว่ามันต้องการซินตะมานิเพื่อที่จะกลายเป็นมังกรอเวจี มันจะต้องกลายเป็นเต่ามังกรซึ่งเป็นช่วงก่อนหน้านั้น’

อย่างไรก็ตามในตอนนั้น เอียนก็ค้นพบจุดแปลกๆ

‘ห้ะ? แต่ว่าทำไมมีเพียงกระดองของมันและไม่ใช่ทั้งร่างกายที่เปล่งแสงล่ะ?’

สายตาของเอียนเริ่มตรวจสอบบุ๊กค์อย่างละเอียด

‘อะไรวะเนี่ย? ความรู้สึกไม่สบายใจนี่มัน…’

เดิมที เมื่อมีการวิวัฒนาการสัตว์เลี้ยง ร่างกายของพวกมันจะไม่เปล่งประกายตั้งแต่เริ่มต้น

เริ่มต้นจากที่ที่หนึ่งบนส่วนหนึ่งของร่างกายของพวกมัน แสงก็กระจายออกไปและในที่สุดก็เป็นกรณีปกติที่ร่างกายของพวกมันจะกลายเป็นแสงสีขาว

อย่างไรก็ตาม แสงที่กระจายไปยังกระดองทั้งหมดของบุ๊กค์ไม่ได้ขยายออกไปอีกจากที่นั่น

เอียนลอบเข้าหาด้านข้างของบุ๊กค์ขณะที่เขากระซิบ

ในขณะที่เขารู้สึกว่าเขาอาจรบกวนวิวัฒนาการของบุ๊กค์ เขาจึงพูดเสียงดังไม่ได้

“บุ๊กค์ นายกำลังอยู่ในช่วงของการวิวัฒนาการงั้นหรอ?”

เอียนได้วิวัฒนาการสัตว์เลี้ยงจำนวนมากจนถึงตอนนี้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่เริ่มต้นการสนทนากับสัตว์เลี้ยงที่อยู่ระหว่างการวิวัฒนาการ

เอียนรอคำตอบจากบุ๊กค์ด้วยสีหน้ากังวล

อย่างไรก็ตามในตอนนั้นจากบุ๊กค์ซึ่งได้รับความตึงเครียดอย่างหนักทั่วทั้งร่างกายของมัน เสียงที่เงียบมากซึ่งจะได้ยินก็ต่อเมื่อคุณฟังอย่างระมัดระวังก็ดังขึ้นมา

Bbook- Bbook- Bboo-bbook-.

เอียนแสดงท่าทางงุนงง

“เฮ้ นายกำลังวิวัฒนาการอยู่ใช่ไหมบุ๊กค์?”

ขณะที่บุ๊กค์ไม่ตอบสนอง เอียนซึ่งรู้สึกโล่งใจก็หันหน้าไป

อย่างไรก็ตามจากนั้น ช่วยไม่ได้ที่เอียนจะขมวดคิ้ว

“บุ๊กค์ เจ้านาย ท่านกำลังพูดถึงอะไรบุ๊กค์? ฉันไม่ได้วิวัฒนาการบุ๊กค์”

ด้วยความสิ้นหวังที่ไม่สามารถอธิบายได้ซึ่งเกิดขึ้นกับเอียนพร้อมกับการตอบกลับของบุ๊กค์ เขาก็ล้มลงกับพื้นทันที

มันรู้สึกราวกับว่าความเหนื่อยล้าที่สะสมมาจากการล่าโดยไม่ได้พักผ่อนเป็นเวลาสองสามวันกำลังเข้ามาหาเขาในทันที

“เฮ้อ อะไรวะเนี่ย บุ๊กค์ แกไม่ได้วิวัฒนาการงั้นหรอ?”

เช่นนั้น บุ๊กค์ก็เคี้ยวหญ้าวิญญาณปีศาจที่เหลืออยู่ในปากของมันและกลืนกินก่อนที่มันจะตอบกลับ

“ยังหรอกบุ๊กค์ อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังจะวิวัฒนาการแล้วบุ๊กค์”

ในขณะนั้นการแสดงออกของเอียนที่เริ่มหดหู่จากความสิ้นหวังก็สดใสขึ้นราวกับเรื่องโกหกราวกับว่าเขากำลังตั้งคำถามเมื่อเขาเคยรู้สึกหดหู่ใจ

“ฮ่า อย่างนั้นหรอ? ใช่ ใช่ไหม? นายสามารถวิวัฒนาการได้ใช่ไหม?”

บุ๊กค์พยักหน้า

“ถูกต้องบุ๊กค์ ฉันสามารถวิวัฒนาการได้บุ๊กค์”

คำพูดของเอียนตามมาทันที

“ถ้างั้นนายกำลังทำอะไรอยู่ ไม่วิวัฒนาการตอนนี้เลยล่ะ? รีบวิวัฒนาการเร็วเข้า บุ๊กค์”

และบุ๊กค์พยักหน้าอย่างแรง

“รับทราบบุ๊กค์! แค่เชื่อในตัวฉันบุ๊กค์!”

อย่างไรก็ตาม ไม่มีทางที่บุ๊กค์ดาวรุ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตซัมมอนเนอร์ของเอียนจะวิวัฒนาการได้อย่างง่ายดาย

ข้อความระบบที่คาดไม่ถึงโผล่ขึ้นมาต่อหน้าของเอียน

กริ๊ง-

 

 

อย่างไรก็ตาม…

 

 

หน้าต่างเควสต์ปรากฎขึ้นต่อหน้าของเอียน

กริ๊ง-

 

หลังจากพยายามมาเป็นเวลานาน ‘บุ๊กค์’ สัตว์เลี้ยงของท่านก็พบกับเงื่อนไขวิวัฒนาการทั้งหมดในที่สุด

บุ๊กค์ซึ่งสำเร็จการรวบรวมพลังงานธรรมชาติ ‘จิตวิญญาณของเต่า’ ของมันมาหลายร้อยปี ในที่สุดก็พยายามที่จะวิวัฒนาการจาก ‘เต่าอเวจี’ เป็น ‘เต่ามังกร’

ค้นหา ‘ผนึกแห่งอเวจี’ ซึ่งเป็นกุญแจดอกสุดท้ายที่จำเป็นในการวิวัฒนาการเป็นเต่ามังกรและมอบให้ ‘บุ๊กค์’

ระดับความยากเควสต์ : ไม่ทราบ

เงื่อนไขเควสต์ : ผู้เล่นที่ครอบครอง ‘เต่าอเวจี’ / ถึงระดับสูงสุดของ ‘จิตวิญญาณของเต่า’ ของ ‘เต่าอเวจี’

เวลาจำกัด : ไม่มี

รางวัล : การวิวัฒนาการของเต่าอเวจี

*ถ้าท่านปฏิเสธ บุ๊กค์จะผิดหวัง

 

“…”

นอกเหนือจากการงุนงง ยังไม่มีคำใดออกมาจากเอียน

‘ไม่สิ เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจ้าบุ๊กค์ให้เควสต์แก่ฉันในตอนนี้? ไม่ใช่ใช่ไหมว่าเจ้านี่จะให้ฉันทำเควสต์ แต่โดยปกติแล้วเป็นกระบวนการที่คุณต้องทำเพื่อที่จะวิวัฒนาการเต่ามังกรงั้นหรอ?’

ยิ่งไปกว่านั้น ประโยคสุดท้ายที่แนบมาในตอนท้ายของหน้าต่างเควสต์เป็นจุดเด่นอย่างง่ายดาย

‘ที่บอกว่าบุ๊กค์จะต้องผิดหวังถ้าฉันปฏิเสธ…’

ขณะที่เอียนหันหน้าไปรอบๆ บุ๊กค์ก็จ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

“เจ้านาย ฉันต้องการผนึกแห่งอเวจีบุ๊กค์”

เสียงถอนหายใจเบาๆออกมาจากปากของเอียน

“เฮ้อ ก็ได้ พี่คนนี้จะไม่ทำให้นายผิดหวังอีกครั้งใช่ไหม?”

“ถูกต้องบุ๊กค์ เจ้านายของฉันจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังบุ๊กค์”

เอียนหรี่ตาทั้งสองข้างของเขา

‘ตามที่คาดไว้ ความรู้สึกว่าเจ้านี่เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันได้รับเควสต์…’

เอียนพยักหน้าอย่างช้าๆขณะที่เขาตอบกลับ

“แน่นอนว่าผนึกแห่งอเวจีหรืออะไรก็ตาม ฉันจะได้รับมัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งใครจะไปรู้กันล่ะ? ไม่ว่ามันจะอยู่ในโรงประมูลก็ตาม”

บุ๊กค์ตอบกลับอย่างเจ็บปวด

“ท่านจะไม่สามารถได้รับมันอย่างง่ายดายบุ๊กค์”

“…”

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีคำกล่าวว่ายุติธรรมคือยุติธรรม เอียนจึงตัดสินใจที่จะคิดในแง่ดี

‘ถูกต้อง อย่างน้อยที่สุด เนื่องจากมีการเขียนไว้ในส่วนรางวัลของเควสต์ว่าการวิวัฒนาการของบุ๊กค์ ถ้าฉันพบผนึกหรืออะไรก็ตาม เขาจะวิวัฒนาการในครั้งนี้อย่างแน่นอน’

เอียนซึ่งอยู่ในความสิ้นหวังสงบลงเล็กน้อยพึมพำกับตัวเอง

“จะว่าไปแล้ว ที่ไหนกันที่ฉันควรจะไปหาผนึกแห่งอเวจี?”

เมื่อเขาพูดอย่างนั้น กาก้าซึ่งลอยอยู่ข้างเอียนก็พูดขึ้นมา

“เจ้านาย”

“ห้ะ?”

“ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับการมองหานักสำรวจคนนั้นในตอนนั้นก่อน?”

“นายหมายถึงนักสำรวจอ่ะนะ?”

กาก้าพยักหน้าขณะที่มันพูดต่อ

“ท่านก็รู้นักสำรวจคนนั้นแหละ ที่ทำให้ท่านฝันถึงความฝันที่เกิดขึ้นเมื่อพันปีก่อน… นักสำรวจที่น่าจะเก่งที่สุดในหมู่มนุษย์แล้ว”

เอียนที่ครุ่นคิดถึงคำพูดของกาก้าอยู่ครู่หนึ่งก็ปรบมือขณะที่เขาลุกขึ้นยืน

“โอ้ ใช่แล้ว! ใช่ลิลซันหรือเปล่า? ถ้าเป็นคนๆนั้นก็เป็นไปได้ว่าคนๆนั้นจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับผนึกแห่งอเวจี”

หากเป็นไปเพื่อยกระดับความสามารถของพวกเขา คนส่วนใหญ่ที่มีอาชีพ ‘นักสำรวจ’ จะมีความเร่าร้อนที่พวกเขาจะค้นหาอย่างละเอียดไปทั่วทุกมุมของทวีป

และถ้าเป็นลิลสันผู้เล่นในการจัดอันดับ 1 ซึ่งเป็นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดในหมู่พวกเขาเอียนก็รู้สึกราวกับว่าเขาจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผนึกแห่งน้ำด้วยเช่นกัน

กาก้าพูดต่อ

“ท่านต้องไปพบเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างน้อยหนึ่งครั้งเพื่อที่จะได้รับ ‘โบราณวัตถุ’ ที่ฉันนำกลับมาก่อนที่จะกลับมาจากความฝัน เจ้านาย”

เอียนพยักหน้า

“เขาเป็นคนที่ฉันต้องการตามหาอยู่แล้ว”

เอียนเริ่มจัดการความคิดที่ซับซ้อนของเขา

‘ในท้ายที่สุด ผู้เล่นที่ชื่อลิลซันอาจจะกลายเป็นการ์ดลับซึ่งจะมีวิวัฒนาการของบุ๊กค์ก็เป็นได้’

โบราณวัตถุที่กาก้านำมาจากความฝันของเอียนด้วย มันเป็นแผนที่โบราณที่ระบุตำแหน่งของ ‘ซินตะมานิ’

ด้วยการค้นหาลิลซันและประเมินแผนที่โบราณและหากเขาสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับผนึกแห่งอเวจีจากเขาได้ด้วยก็เป็นไปได้ว่าเขาสามารถวิวัฒนาการบุ๊กค์ให้เป็น ‘เต่ามังกร’ ได้ในครั้งเดียว

“ถ้ามันเกิดขึ้น ฉันก็คงไม่หวังอะไรอีกแล้ว…”

ต่อหน้าของเอียนซึ่งพึมพัม บุ๊กค์เอียงคอ

“ท่านกำลังพูดอะไรอยู่บุ๊กค์?”

เอียนส่ายหน้า

“อ่า ไม่มีอะไรหรอก ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับฉันควรหาผนึกแห่งอเวจีมาให้นายยังไง”

บุ๊กค์พูดต่อ

“ตามที่คาดไว้ ฉันมีท่านเท่านั้น เจ้านาย! รีบไปหาผนึกกันเร็วๆบุ๊กค์ ฉันต้องการวิวัฒนาการแล้วบุ๊กค์!”

ในรูปแบบน่ารักของบุ๊กค์ซึ่งกดดันเขาอย่างเร่งด่วนขณะที่มันเข้าไปใกล้เท้าของเอียนและถูหัวของมันกับเท้าของเอียน เอียนก็หัวเราะออกมา

“รอสักเดี๋ยวนะ มีสถานที่ที่เราต้องไปก่อนหน้านั้น”

บุ๊กค์ตอบกลับอย่างสดใส

“บุ๊กค์ รับทราบบุ๊กค์!”

เอียนลูบหัวบุ๊กค์หนึ่งครั้งก่อนที่เขาจะเปิดหน้าต่างข้อมูลเควสต์

‘ไหนดูสิ เควสต์มังกรชั่วร้ายคาร์ลิฟาร์อยู่ที่ไหนอีกแล้ว? ‘

เอียนกำลังวางแผนที่จะไปเยือนป่าแห่งความรักที่ซึ่งอิเรียลอยู่ ก่อนที่เขาจะไปตามหาลิลซัน

‘ไม่มีทางที่ฉันจะเสียเควสต์ลับไปถึงสองครั้ง’

ไม่มีทางที่เขาจะรู้เหตุผลว่าทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้น แต่ถึงแม้จะไม่มีการจำกัดเวลา เขาก็ล้มเหลวในการทำเควสต์มังกรชั่วร้ายคาร์ลิฟาร์

อย่างไรก็ตาม โชคดีที่เควสต์นั้นไม่ได้จบลงและเปลี่ยนเป็นเควสต์อื่นแทนและมีการ จำกัดเวลาสิบวัน

‘ไหนดูสิ… ตอนนี้ฉันเหลือเวลาอีกสามวัน’

‘เอียนซึ่งมีหลายสิ่งที่ต้องทำ เริ่มเร่งความเร็วของเขา

 

* * *

 

“เอ่อ… ดันเจี้ยนนี้ ทำไมมันถึงน่าขนลุกจัง?”

สองวันที่แล้ว

รอปเลย์ผู้เล่นระดับสูงสุดของอาชีพวอริเออร์ที่มีเลเวล 180 กำลังวิ่งอยู่ในดันเจี้ยนโบราณที่อยู่ตรงมุมของทวีปกลาง

และแน่นอนเขาไม่ได้อยู่คนเดียว

เนื่องจากมันเป็นดันเจี้ยนที่ขึ้นชื่อเรื่องการเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในพื้นที่ตอนกลางของทวีปตอนกลาง แม้ว่าเขาจะเป็นเลเวล 180 ก็ตาม แต่การเล่นเดี่ยวในดันเจี้ยนนี้มันมากเกินไป

“ปาร์ตี้ของเรา ฉันรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังพยายามเป็นครั้งที่ห้าแล้ว แต่มันค่อนข้างจะเป็นความรู้สึกที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆจนถึงตอนนี้ “

จากคำพูดของเฮเรียซึ่งเป็นอาชีพนักบวชเพียงคนเดียวในกลุ่ม สมาชิกปาร์ตี้ทุกคนพยักหน้า

“อืมม มันเป็นบรรยากาศที่เยือกเย็นพอที่จะรู้สึกเหมือนว่าประตูมิติที่นำไปสู่อาณาจักรปีศาจจะเปิดออก…”

“อาณาจักรปีศาจงั้นเหรอ? ฉันรู้สึกเหมือนเป็นสุสานแทน ความรู้สึกแบบนี้แม้แต่ซอมบี้ก็อาจโผล่ขึ้นมาก็ได้…”

มีภาพลวงตาที่ดูเหมือนด้วยเหตุผลบางอย่างพลังงานที่น่ากลัวอยู่บนอากาศและมันยังให้ความรู้สึกเหมือนสีทั่วไปของดันเจี้ยนซึ่งเดิมเป็นสีเหลืองเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ปาร์ตี้ยังคงออกล่าต่อไป

นี่เป็นเพราะไม่มีอะไรแตกต่างจากมอนสเตอร์ที่ปรากฏอย่างแน่นอน

Bang- Ba-bang-!

“เฮเรีย ฮีลไปตรงนั้น!”

“รับทราบ รอแปปนะ!”

“แรมเพิล จัดการมัมมี่ที่อยู่ด้านหลัง!”

“โอเค!”

และขณะที่พวกเขาล่าเช่นนั้น เวลาก็ผ่านไป 1 ชั่วโมงอย่างบ้าคลั่ง

ปาร์ตี้ที่ยืนอยู่ในห้องแห่งความลับซึ่งอยู่ในช่วงครึ่งหลังของดันเจี้ยนแสดงความไม่พอใจ

“ห้ะ? บอสที่ควรจะอยู่ที่นี่หายไปไหนกันแน่?”

“หืมม? นี่เป็นครั้งแรกที่มันเกิดขึ้น… เราไม่ได้รีเซ็ตดันเจี้ยนแน่นะ?”

“ไม่รู้สิ”

“เป็นไปได้ไหมว่าปาร์ตี้ที่มาดันเจี้ยนก่อนหน้าเราเพิ่งออกไปหลังจากฆ่าบอส”

“นั่นเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีทางที่มอนสเตอร์ธรรมดาที่เราเผชิญหน้าระหว่างทางที่นี่จะอยู่ดีใช่ไหมล่ะ?”

อย่างไรก็ตามจากนั้น เมื่อปาร์ตี้สูญเสียในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

จากใจกลางห้องแห่งความลับที่บอสควรจะอยู่ กระแสสีแดงเริ่มก่อตัวขึ้น

รอปเลย์บ่นด้วยท่าทางงุนงง

“อะไรวะนั่น? ประตูมิติของอาณาจักรปีศาจจะเปิดขึ้นตามที่ฉันพูดงั้นหรอ?”

ในขณะที่พวกเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ปาร์ตี้ทุกคนเริ่มจ้องไปที่กระแสสีแดงขณะที่จับอาวุธแต่ละชิ้นขณะที่พวกเขายืนอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากนั้นไม่นานกระแสสีแดงก็เริ่มก่อตัวเป็นปีศาจยักษ์

“อะ อะไรวะเนี่ย…?”

ความยิ่งใหญ่ที่น่าทึ่งเริ่มเต็มไปทั่วห้องบอส

อย่างไรก็ตามในตอนนั้นปีศาจที่ปรากฏตัวอยู่ตรงกลางห้องแห่งความลับเริ่มค่อยๆพูดด้วยเสียงเบาๆ

 

 

ปาร์ตี้นั้นสบตากันอย่างลับๆ

“ก็แค่บอกว่า… จะดีที่สุดไหมหากออกไปจากที่นี่โดยเร็วที่สุด?”

“ไม่ตลกหน่า ฉันแทบจะไม่สามารถโค่นแม้แต่อสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำได้ แต่สิ่งนั้นดูเหมือนราชาปีศาจ ปาร์ตี้ของเราอาจจะถูกฆ่าจนหมด”

และปีศาจพูดต่อไป

 

 

หลังจากนั้น ข้อความระบบหนึ่งอันก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของปาร์ตี้

กริ๊ง-

 

Taming Master

Taming Master

เกมเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ‘Kailan’ ‘เอียน’ นักเล่นเกมเสมือนที่ใครๆต่างก็รู้จัก เขาลบตัวละครเลเวล 93 ของตนเพื่อที่จะได้รับอาชีพลับ… แต่อาชีพที่เขาเลือกนั้นเป็นอาชีพที่ไร้ประโยชน์ที่สุดใน ‘Kailan’ นั่นคือ นักอัญเชิญ? ยิ่งไปกว่านั้น การโทรตามจากศาสตราจารย์ทำให้เขาสติแตก! เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนคุมความประพฤติ เขาจะต้องรีบเพิ่มเลเวลของตนให้ถึงระดับเดิมกับที่เขาได้ลบไป ภายใน2เดือน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset