The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา – ตอนที่ 47 เจ้าเมืองน้อยแสดงอำนาจ 1

EP.47  เจ้าเมืองน้อยแสดงอำนาจ  1

ออกเดินทางตั้งแต่รุ่งสาง แต่จนตะวันตกดินแล้วก็ยังไม่พ้นป่าสัตตะดารา แต่ก็อยู่ห่างจากเมืองหยินซานในระยะร้อยลี้แล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจเดินทางในตอนกลางคืนต่อ เพราะพลังของหลินมู่อวี่กับถังเสี่ยวซีรุดหน้าไปมากแล้ว ชวีฉู่จึงไม่กังวลถ้าจะต้องเจอสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่ง ถึงตนเองจะไม่ลงมือ แต่พวกสัตว์วิญญาณในป่าสัตตะดารารอบนอกแค่ฝีมือเด็กสองคนนี้ก็จัดการได้แล้ว

       ตลอดทางหลินมู่อวี่ฝึกหมัดเสียงปีศาจอยู่บนหลังม้าเงียบๆ เดี๋ยวก็โคจรพลัง เดี๋ยวก็กำหนดลมหายใจ เดี๋ยวก็ออกหมัดโจมตีต้นไม้ที่อยู่ไกลออกไป ตลอดทางมานี้เขาไม่ยอมเสียเวลาเลยสักนิดเดียว ทุกครั้งที่ออกหมัดเสียงปีศาจ ความเร็วและพลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าอานุภาพก็สูงขึ้นด้วย ชวีฉู่มองชื่นชมเขาอยู่ในใจ เจ้าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์จริงๆ ในระยะเวลาอันสั้นก็สามารถเรียนพิฆาตอสนีบาต เกราะศิลาเขียวและหมัดเสียงปีศาจสามสุดยอดวิชาติดต่อกันได้ ถ้ามีเวลามากกว่านี้จะขนาดไหนเนี่ย

        กลางดึก พวกเขามาถึงเมืองหยินซาน เมื่อทั้งสามคนขี่ม้ามาถึงประตูเมือง องครักษ์ในชุดสีแดงนายหนึ่งเดินขึ้นมาจูงม้าของถังเสี่ยวซี ถวายความเคารพแล้วกล่าวขึ้น “ยินดีกับองค์หญิงซีที่เลื่อนระดับสำเร็จ ผ่านขอบเขตมนุษย์เข้าสู่ขอบเขตปฐพีชั้นหนึ่ง!”

        ถังเสี่ยวซียิ้มบางๆ “ขอบใจมาก เข้าเมืองกันเถอะ คืนนี้พักโรงเตี๊ยม พรุ่งนี้เช้าค่อยเดินทางกลับเมืองหลวง ข้าไม่ได้กลับไปตั้งนานแล้ว”

       “ ขอรับ”

        องครักษ์เงยหน้ามองหลินมู่อวี่ที่นั่งอยู่บนหลังม้า พูดด้วยความประหลาดใจ “เจ้าเด็กคนนี้ดูคุ้นตานัก…”

        หลินมู่อวี่ตอบ “ข้าคือคนที่อยู่ที่ร้านโอสถไป่หลิงไงขอรับ”

        “ อย่างนี้นี่เอง เจ้าก็คือหลินมู่อวี่ที่ปรุงโอสถเกรดหนึ่งใช่ไหม”

       “ ใช่ขอรับ”

      “ ฮ่า” ไม่รู้ว่าทำไมองครักษ์ถึงหัวเราะออกมา เขาหัวเราะแห้งๆ แล้วเอ่ยขึ้น “พรุ่งนี้ก็เป็นวันที่นักปรุงโอสถรุ่นเยาว์แห่งเมืองหยินซานแย่งชิงป้ายอาญาสิทธิ์แล้ว เจ้าเมืองน้อยฮว๋าหวันต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน แต่ในเมื่อเจ้ากลับมาทัน พรุ่งนี้จะต้องมีการประลองที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน องค์หญิงซี ท่านอยากดูหรือไม่ขอรับ”

        ถังเสี่ยวซีทนกับความเย้ายวนนี้ได้ที่ไหนกัน นางหันไปมองชวีฉู่ ชวีฉู่ยิ้มอย่างจนปัญญา “เอาเถอะๆ พรุ่งนี้ชมการประลองเสร็จค่อยออกเดินทาง อีกอย่างครั้งนี้องค์หญิงเป็นผู้แทนพิเศษ ป้ายอาญาสิทธิ์ก็ต้องมีองค์หญิงเป็นผู้ประทานให้ถึงจะถูก”

       “ อือ ขอบคุณผู้อาวุโสชวี”

        ดังนั้นถังเสี่ยวซีเหมือนจะจงใจที่จะหลบเขา หลังจากหลินมู่อวี่ส่งถังเสี่ยวซีกับชวีฉู่ที่โรงเตี๊ยมแล้ว เขาก็รีบควบม้ากลับร้านโอสถไป่หลิง ตอนที่เขาผลักประตูร้านเข้าไป ก็เห็นฉู่เหยายืนอยู่ใต้ต้นไม้มาแต่ไกล มีแสงล้อมอยู่รอบตัว นางที่กำลังฝึกวิญญาณยุทธ์เตียวม่วงอยู่ เจ้าเตียวม่วงน่ารักมาก หน้าตาคล้ายจิ้งจอกอัคคีของถังเสี่ยวซีมาก แค่พลังด้อยกว่าเท่านั้นเอง จิ้งจอกอัคคีเป็นวิญญาณยุทธ์อันดับสอง ส่วนเตียวม่วงเป็นวิญญาณยุทธ์อันดับห้า เป็นความแตกต่างระหว่างวิญญาณยุทธ์ของชาวบ้านธรรมดากับวิญญาณยุทธ์ของตระกูลสูงศักดิ์

       “ พี่ฉู่เหยา!” หลินมู่อวี่เรียกเสียงเบา

        ฉู่เหยาลืมตาคู่งามนั้น นางกระโดดเข้าไปหาพร้อมกางแขนทั้งสองข้างกอดเขาเอาไว้อย่างดีใจ “อาอวี่ เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว! หึ ศิษย์พี่หวังหยิ่งบอกว่าเจ้าอาจจะไม่ได้กลับมา มาให้ข้าดูหน่อยเร็ว!”

       นางดึงแขนหลินมู่อวี่เข้ามาอย่างสนิทสนม มองเขาที่ดูเหมือนจะบึกบึนขึ้น แถมการไหลของปราณรอบตัวก็ดูทรงพลังกว่าเมื่อก่อนมาก ที่เปลี่ยนไปมากที่สุดก็คือแววตา ความมั่นใจและสุขุมช่วยยืนยันพลังของเขาที่แข็งแกร่งขึ้น

       “ พี่ฉู่เหยา ข้ามีวิญญาณยุทธ์แล้ว” หลินมู่อวี่คลี่ยิ้ม

        ฉู่เหยาตื่นเต้น “หืม เป็นวิญญาณยุทธ์อะไร”

        หลินมู่อวี่เปล่งเสียงเบาๆ ทันใดนั้นน้ำเต้าเขียวก็ปรากฏขึ้นมา เขาแนะนำด้วยท่าทีเขินอายนิดหน่อย “น้ำเต้าเขียว วิญญาณยุทธ์อันดับสิบ ทว่าพอฝึกแล้วก็คล่องมือดีเหมือนกัน”

       “ อ้อ…” ฉู่เหยารีบพูดปลอบใจ “ไม่เป็นไรนะ วิญญาณยุทธ์อันดับสิบก็คือวิญญาณยุทธ์เหมือนกัน ช่วยเจ้าตอนฝึกได้ ดีแล้วๆ การชิงป้ายอาญาสิทธิ์พรุ่งนี้ข้าจะเป็นตัวแทนร้านโอสถไป่หลิงเข้าร่วมเอง อย่างน้อยพลังข้าก็ถึงระดับยี่สิบเอ็ดแล้ว”

       “ ว้าว พี่ฉู่เหยาพัฒนาขึ้นเร็วมากเลย ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนท่านเพิ่งจะทะลวงจากระดับสิบเก้าไปถึงยี่สิบเองนี่”

       “ ก็ใช่น่ะสิ!” ฉู่เหยายืดอกพูดด้วยความมั่นใจ “ตอนนี้ทั้งร้านโอสถไป่หลิงข้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพลังสูงสุด อาอวี่ เจ้าคิดว่าข้าจะเอาชนะฮว๋าหวันได้ไหม”

       “ ค่อนข้างยาก” หลินมู่อวี่ลูบจมูก พูดตามความจริง

        ฉู่เหยายิ้มแล้วตบบ่าของเขา “หึ เจ้ามั่นใจในตัวศิษย์พี่ของเจ้าหน่อยไม่ได้หรือ เอาล่ะ เจ้ากลับมาดึกแบบนี้ ต้องหิวแน่เลย ข้าจะไปทำอะไรให้เจ้ากิน เมื่อวานข้าขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรมาได้กระต่ายป่ามาสองตัว เก็บไว้ให้เจ้าครึ่งตัวโดยเฉพาะเลยนะ หึๆ หลัวไคเจ้าจอมตะกละนั่น ถ้าไม่ใช่ข้าจ้องเขาอยู่ละก็ เจ้านั่นต้องกินส่วนของเจ้าหมดแน่นอน!”

        หลินมู่อวี่อดหัวเราะไม่ได้ อบอุ่นอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กลับมาที่นี่แล้วมีความรู้สึกเหมือนกลับบ้าน

       ค่ำคืนนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉู่เฟิง หวังหยิ่ง หลัวไคพอรู้ว่าหลินมู่อวี่กลับมาแล้ว ต่างก็แวะมาหา ฉู่เหยาออกจากห้องของหลินมู่อวี่เป็นคนสุดท้าย พอฉู่เหยาออกไป หลินมู่อวี่รีบขึ้นไปนั่งขัดสมาธิโคจรพลังปราณบนเตียงทันที บนโลกใบนี้ระดับพลังวัดกันที่ระดับของความแข็งแกร่ง ปราณยิ่งบริสุทธิ์และแข็งแกร่งเพียงใด ระดับพลังที่ได้รับการประเมินก็จะยิ่งสูงขึ้น ข้าจะชักช้าไม่ได้

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา หลินมู่อวี่ บุตรชายมหาเศรษฐีพันล้านที่ชีวิตสมบูรณ์แบบสุดๆ คนทั้งโลกต่างพากันอิจฉา เขามีโลกอีกใบคือการเป็นเซียนเกมที่ไต่ไปถึงระดับเทพยุทธ์ แต่แล้ววันหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง และหันหลังให้โลกที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะพ่อต้องการให้เขาไปช่วยสืบทอดกิจการ ในวันที่เขาตัดสินใจหันหลังให้โลกใบนี้ หลินมู่อวี่ตัดสินใจลบแอคเคาน์ เพื่อจะได้ไม่ต้องโหยหาโลกใบนี้อีกต่อไป ในระหว่างที่เขาลบแอคเคาน์และรีเซ็ทระบบเพื่อออฟไลน์นั้น จู่ๆ รอบตัวก็เต็มไปด้วยความมืดมิด เขาถูกฉุดกระชากลงไปสู่ดินแดนที่ไม่คุ้นเคย มีเพียงเสียงชายชราผู้หนึ่ง ที่บอกว่าเส้นทางของเขายังไม่จบง่ายๆ หลินมู่อวี่ต้องเอาตัวรอดในโลกใหม่พร้อมปริศนาว่าใครคือต้นเหตุที่ทำให้เขาติดอยู่ในเกมและไม่สามารถออฟไลน์ออกไปได้ การผจญภัยในโลกแฟนตาซีสุดล้ำของหลินมู่อวี่จึงต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง…

Options

not work with dark mode
Reset