ซินหยูพยายามลืมตาขึ้นมา เขาโล่งใจที่ได้ยินเสียงไซเรนของตำรวจและเสียงเท้าเพราะรู้ว่าความช่วยเหลือมาถึงแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีเงาปรากฏขึ้นจากความมืดและดึงผมของเขาลึกเข้าไปในความมืดนั้น
ความสิ้นหวังปกคลุมหัวใจของซินหยูเมื่อเขาได้รู้ว่าคนๆนั้นคือลุงของหวู่ฮ่าว เขาอยากต่อต้านและร้องออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เขาไม่มีพละกำลังมากพอเนื่องจากเขาเสียเลือดไปเป็นจำนวนมาก เขาทำได้เพียงมองอย่างไร้หนทางในขณะที่ชายคนนั้นลากเขาลึกเข้าไปในโรงพยาบาลร้าง
ซินหยูได้ยินเสียงชายคนนั้นในความมืด “ท่านลอร์ด ทำไมพิธีกรรมถึงไม่มีผลกับเขา? ข้าเกือบจะได้รับผลไปด้วยเช่นกัน”
“ได้เลย!”
“เข้าใจแล้ว!”
หลังจากบ่นพึมพำกับตัวเองสักพักหนึ่ง ชายคนนั้นก็หยิบมีดขึ้นมาและเดินตรงไปที่ซินหยู
ขณะที่เขากำลังจะแทงเข้าไปที่คอของซินหยู ร่างเงาอีกร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาข้างๆซินหยูในทันที
“เหมียว!”
เสียงก้องไปในโรงพยาบาลร้าง และลุงของหวู่ฮ่าวก็ร่วงลงไปกองกับพื้นด้วยสีหน้าที่หวาดกลัว
เขารู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังดึงวิญญาณเขา สูบลมออกจากปอดและทำให้เขาหายใจไม่ออก
เขาดิ้นรน พยายามมองขึ้นมาและเห็นว่าแมวตัวนั้นยืนอยู่ด้านหน้าของเขา มันสีขาวเหมือนหิมะและมีดวงตาสีเขียวส่องประกาย ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังถูกดวงตาคู่นั้นดูดเข้าไป
เขาตื่นตระหนกและพยายามลุกขึ้นเมื่อเขาเห็นที่ชาทั้งสี่ข้างของแมวตัวนั้นลุกโชนไปด้วยไฟสีเขียว
“เหมียว!” ด้วยเสียงร้อง แมวตัวนั้นกระโดดจากจุดที่มันอยู่ กระแทกตัวของมันเข้าไปที่ชายคนนั้น
ตุ้บ!
เสียงที่แหลมคมดังขึ้นมาจากความช็อคของชายคนนั้น เขารับรู้แล้วว่าจิตวิญญาณของเขาถูกดึงออกจากร่างและร่างกายของเขาก็ร่วงลงไปกองอยู่บนพื้นอย่างไม่มีสติ
“ข้าน่าจะกินเจ้า!” ลู่หวู่จ้องไปที่วิญญาณของชายคนนั้นที่ลอยอยู่กลางอากาศและอ้าปากเพื่อดูดเขาเข้าไป
แรงดูดมหาศาลพร้อมกับพลังงานสีเขียวถูกซัมม่อนออกมา สร้างลมวนในปากของลู่หวู่
ชายคนนั้นไม่สามารถต่อต้านพลังงานลึกลับนั้นได้ เขาถูกดูดเข้าไปในร่างกายของลู่หวู่ทันที
เหลือบไปมองซินหยูที่หมดสติอยู่ ลู่หวู่โมโหมาก เขาคิดอยู่สักพักและหยิบข้าววิญญาณจากสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมาก่อนที่จะแบ่งมันออกเป็นสองส่วนด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด จากนั้นเขาก็โยนครึ่งหนึ่งลงไปในปากของตัวเองและเอาอีกครึ่งหนึ่งใส่ปากของซินหยู
หลังจากแน่ใจแล้วว่าซินหยูไม่เป็นอะไร ลู่หวู่วิ่งไปที่ที่พิธีกรรมเลือดถูกวาดเอาไว้ เขาตรวจสอบลวดลายของพิธีกรรมนั้นอย่างละเอียดก่อนที่จะเป่ากระแสลมที่เต็มไปด้วยพลังงานสีเขียวเพื่อทำลายมัน ลู่หวู่ออกมาจากที่นั่นทันทีที่ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย
…
เมื่อกลับถึงบ้าน ลู่หวู่มองไปที่เป่ยลี่ที่กำลังขบเคี้ยขนมของเธออยู่ เขายกอุ้งเท้าขึ้นมาเพื่อทักทาย “ฉันจัดการมันไปแล้ว!”
เป่ยลี่พยักหน้า “เห็นแล้วหล่ะ ฉันรู้อยู่แล้วว่าเขาวางแผนจะทำอะไร เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมนะ ช่างน่าเสียดาย!”
ลู่หวู่กระโดดขึ้นไปบนโซฟาเมื่อได้สิ่งที่เป่ยลี่พูด “บอกฉันมาคร่าวๆว่าแผนก่อกบฏของเขาคืออะไร”
เป่ยลี่พยักหน้า “ต้องบอกเลยว่าเขาอัจฉริยะมาก เขาวางแผนรวบรวมวิญญาณของมนุษย์และใช้มันสร้างหุ่นเชิดเพื่อสงคราม หวังที่จะต่อกรกับเทพเจ้าด้วยการใช้ความสามารถของมนุษย์!”
“ไม่ใช่ว่ามันก็เหมือนกันกับสิ่งประดิษฐ์ของเราเหรอ?” ลู่หวู่สงสัย
“ฉันถึงบอกไงว่าเขานั้นอัจฉริยะที่สามารถคิดวิธีนี้ขึ้นมาได้ แต่โชคร้ายหน่อยที่เขาไม่มีสิ่งประดิษฐ์คอยช่วย เขาจึงทำได้แค่พึ่งพาพิธีกรรมสังเวยเลือดเพื่อรวบรวมดวงวิญญาณของมนุษย์ที่จะต้องใช้เวลานานกว่า ฉันพนันว่าพิธีกรรมวิญญาณนั้นเป็นแค่การทดลอง เขาต้องเพิ่มจำนวนพิธีกรรมพวกนี้ขึ้นแน่ถ้ามันสำเร็จ!”
“มีเรื่องสำคัญอีกอย่าง วิธีที่เขาใช้มันชั่วร้ายเกินไป โลกมนุษย์จะต้องวุ่นวายแน่ๆถ้าเขาทำได้สำเร็จ นั่นเป็นเหตุผลที่เราจะต้องหยุดเขาให้ได้”
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของเป่ยลี่ ลู่หวู่ก็คิดถึงบางคนที่จิตวิญญาณของเขาล้มเหลวในการเคลื่อนย้ายไปที่อันเดอร์เวิลด์
“เป็นไปได้ไหมว่าผู้รอดชีวิตจะเป็นผู้เล่นของเรา วิญญาณของเขาไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปได้เนื่องจากมันถูกเชื่อมกับสิ่งประดิษฐ์เอาไว้แล้ว?”
“ใช่ เขาเป็นผู้เล่นของเราและวิญญาณของเขาก็ถูกเชื่อมต่อกับสิ่งประดิษฐ์เอาไว้ ไม่มีใครสามารถเคลื่อนย้ายวิญญาณของเขาได้อีก แม้แต่คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ก็ตาม”
ลู่หวู่เริ่มเข้าใจความตึงเครียดของเรื่องนี้หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายจากเป่ยลี่
เขาไม่สามารถเอาชนะชายที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ได้ถ้าชายคนนั้นแข็งแกร่งมากเกินไป
“เราควรจะทำยังไงดี?” ลู่หวู่ถามด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“เปิดโปงเขา เดี๋ยวจะมีคนมาจัดการเขาเอง!” เป่ยลี่ยิ้มหรี่ตา
ลู่หวู่สตั้น “เธอหมายความว่าไง?”
เป่ยลี่หัวเราะคิกคัก “ฉันจดรูปแบบพิธีกรรมเอาไว้หมดแล้ว มันง่ายมากที่จะค้นหาว่ามันมาจากที่ไหน ฉันมั่นใจว่าจะต้องมีคนกระหายที่จะล่าตัวมัน…”
…
ปราสาทในดินแดนของชางสือ อันเดอร์เวิลด์
ใบหน้าของชางสือบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขากำหมัดแน่น
เขาเฝ้ารอคอยวิญญาณดวงที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ด้วยความตั้งใจ เขาพยายามไม่ทำตัวให้เป็นที่สังเกตุต่อคนอื่นๆเนื่องจากเขาอยากที่จะอยู่เงียบๆ อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่าจะมีคนมาหยุดเขาในตอนที่เขาเพิ่งจะเริ่มเท่านั้น
ความโกรธและกลัวเติบเต็มหัวใจของเขา
เขาวางแผนมานานหลายปี พิธีกรรมเลือดที่ถูกใช้เพื่อส่งดวงวิญญาณถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ
เขาไม่รู้ว่าใครที่จ้องจะเล่นงานเขาและไม่รู้ว่าพวกนั้นรู้แผนการของเขาได้อย่างไร
มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้และชางสือก็มั่นใจว่าพวกนั้นจะไม่หักหลังเขาอย่างแน่นอน นอกเหนือจากนี้ หัวใจของของเขานั้นได้ถูกกักขังเอาไว้ในดันเจี้ยนมาเป็นเวลานานแล้ว เธอไม่มีทางหักหลังเขาแน่นอน!
ชางสือคิดหนัก เขารู้สึกว่ามีมือที่ไม่สามารถมองเห็นได้กำลังลอยไปมาอยู่บนหัวกำลังรอคอยโอกาสที่จะปลิดชีวิตของเขา
“ท่านเหนือหัว เราควรจะจับพวกวิญญาณมาเพิ่มเพื่อทำตามแผนต่อไหม?” ชายที่มีดาบยาวสีดำอยู่บนหลังถามขึ้นมา
ความกังวลเผยออกมาให้เห็นผ่านใบหน้าของชางสือเมื่อเขาได้ยินคำถามนั้น
“ข้าเลือกวิญญาณดั้งเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและความสนใจจากคนอื่นๆ แต่ตอนนี้… ข้าสงสัยว่าคนที่มันขัดขวางแผนการของเราจะรู้แล้วว่าข้าเป็นใคร!”
“แล้วเราควรจะทำยังไงดี?” ชายคนนั้นกัดฟันแน่น
“ทำตามแผนเดิมต่อไป ติดต่อรี่หยิง อี้หลง และเฟินสุย… ให้พวกเขาส่งคนที่มีฝีมือดีที่สุดมาให้ข้า ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว ไม่มีทางที่ข้าจะหยุดแผนการของข้า ข้าวางแผนนี้มานานกว่าหมื่นปี!”
“รับทราบ!”
ในขณะที่ชายดาบดำกำลังจะออกไป แสงไฟที่น้ำเงินก็ปรากฏขึ้นมาด้านบนของปราสาท
ลำแสงส่องผ่านท้องฟ้าลงมาเหมือนกับดาบที่ฟาดฟันลงมา
สีหน้าของชางสือเปลี่ยนไปเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงความกดดันจากด้านนอก ความกลัวเกิดขึ้นบนใบหน้าของชายดาบดำ “เท..เทพเจ้า!”
ร่างของชางสือหายไปจากจุดที่เขาอยู่และปรากฎขึ้นบนฟ้าทันที เขายื่นมือขึ้นไปบนท้องฟ้าและโบกแขนก่อนที่ฝ่ามือขนาดใหญ่จะปรากฎขึ้นกลางอากาศและควบคุมแสงสีน้ำเงินนั้นเอาไว้
ชางสือมองไปบนท้องฟ้าด้วยท่าทางตรึงเครียด “พวกเจ้าจากสวรรค์ พวกเจ้ามาที่ดินแดนของข้าในอันเดอร์เวิลด์นี้ทำไม?”
ร่างเงาทั้งแปดที่มีออร่าแห่งเทพปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเมื่อชางสือพูดจบ พวกเขาแต่ละคนยืนอยู่บนเมฆ พวกเขาดูเหมือนกันทุกคนและแสดงท่าทางไม่ใส่ใจกับคำพูดของชางสือ
“ชางสือ เจ้าล้ำเส้นไปแล้ว พวกเรามาที่นี่เพื่อคุมตัวเจ้าไปภายใต้คำสั่งของเป่ยตู๋ เที่ยนซุน!”
“ล้ำเส้น? มีหลักฐานงั้นรึ?” ชางสือคิดเอาไว้แล้ว แต่เขาก็ยังสงบนิ่ง
แผนที่ของพิธีกรรมเลือดปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของผู้นำของเทพทันที
“แผนที่นี้มันชี้มาที่ปราสาทของเจ้าและถูกเชื่อมต่อกับเครื่องรางหยินของเจ้า ยังจะปฏิเสธอีกรึ!?”
“ข้าเป็นส่วนหนึ่งของอันเดอร์เวิลด์ ถ้าหากว่าข้ามีความผิด จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเฝิงตูควรจะมาจับกุมตัวข้าด้วยตัวเอง!” การกระทำของชางสือเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อเขาโบกมือของเขา ผมของเขาสะบัดไปตามสายลม “แล้วพวกเจ้ามาเกี่ยวอะไรกับข้า?”
