The Boss Behind The Game – ตอนที่ 179 : การกำเนิดใหม่ของชางสือ (2 ใน 1)

ลู่หวู่ที่กำลังบ่มพลังอยู่บนโซฟาอยู่ ทันใดนั้นหวู่กัวอี้ก็โทรเข้ามา

 

หวู่กัวอี้โทรเข้ามาบอกเขาว่าพวกเขานั้นพร้อมที่จะเปิดให้บริการแบทเทิลออนไลน์ในเซิฟเวอร์ต่างประเทศได้ตลอดเวลา

 

ในตอนนี้ เขาวางแผนไว้ว่าจะเปิดเซิฟเวอร์ที่ยุโรปและรอให้จำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นจนคงที่ จากนั้นเขาก็จะรอดูความเสถียรในเซิฟเวอร์ยุโรปและเซิฟเวอร์ท้องถิ่นก่อน จึงจะเริ่มให้บริการในเซิฟเวอร์เอเชีย เซิฟเวอร์อเมริกา และอีกหลายประเทศ ดังนั้น หวู่กัวอี้จึงอยากรู้ว่าลู่หวู่นั้นเตรียมทุกๆอย่างเอาไว้พร้อมหรือยัง

 

แผนชั่วคราวสำหรับเซิฟเวอร์หลักทั้งเจ็ดเซิฟเวอร์นั้นเป็นความคิดของลู่หวู่

 

เขาตั้งใจว่าจะเตรียมการให้ทุกเซิฟเวอร์ทั่วโลกกระจายออกเป็นเจ็ดเซิฟเวอร์หลักซึ่งเป็นเซิฟเวอร์ประจำท้องถิ่น เซิฟเวอร์ยุโรป เซิฟเวอร์เอเชีย เซิฟเวอร์อเมริกา(อเมริกาเหนือ) เซิฟเวอร์ออสเตรเลีย(โอเชียเนีย) เซิฟเวอร์อาฟริกา เซิฟเวอร์บราซิล(อเมริกาใต้) ตามลำดับ แต่เขาก็ไม่คิดว่าหวู่กัวอี้นั้นจะเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยได้รวดเร็วขนาดนี้

 

ลู่หวู่อธิบายถึงการเตรียมการของเขาในทันที แต่เขาอยากให้หวู่กัวอี้ได้เริ่มโปรแกรมเกมสักนิดหน่อยก่อน สำหรับเซิฟเวอร์ยุโรปนั้น เขาจะทำมันให้เสร็จภายในสิบวัน

 

ในฐานะผู้เล่นแบทเทิลออนไลน์ หวู่กัวอี้นั้นสงสัยและได้ถามลู่หวู่ว่าผู้เล่นจากเซิฟเวอร์ยุโรปนั้นสามารถเข้าร่วมกับเซิฟเวอร์ท้องถิ่นได้ไหม

 

ลู่หวู่ไม่มีอะไรต้องเก็บเป็นความลับ เขาจึงบอกหวู่กัวอี้ไปตามตรงว่าผู้เล่นจากเซิฟเวอร์ยุโรปนั้นจะอยู่ตำแหน่งเดียวกับผู้เล่นในเซิฟเวอร์ท้องถิ่น แต่จะไม่อยู่ในเป่ยฉี พวกเขาจะอยู่ที่ชางสือแทน ที่ทางเหนือของเป่ยฉีเลยนอร์ทร็อคขึ้นไป

 

หลังจากที่เขาได้รู้ว่ามันเป็นแผนที่ขนาดใหญ่กว่าเป่ยฉี หวู่กัวอี้ก็ถามด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเซิฟเวอร์ใหม่นี้ หลังจากหวู่กัวอี้เข้าใจสถานการณ์แล้ว เขาก็ทำตามที่ลู่หวู่ได้วางแนวทางเอาไว้เพื่อเปิดการประชุมและเตรียมตัวโปรโมทแบทเทิลออนไลน์ในเซิฟเวอร์ยุโรป

 

หลังจากที่เซิฟเวอร์ยุโรปกำลังจะเปิดให้บริการ ลู่หวู่ก็ไม่สามารถเก็บเหรียญวิญญาณเอาไว้ได้อีกต่อไป เขาโทรหาเป่ยลี่ที่กำลังกินอยู่ในทันทีเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับแผนที่จะปล่อยผู้เล่นลงที่ชางสือและปัญหาเกี่ยวกับจุดเกิดในชางสือ

 

ในตอนนี้ลู่หวู่มีเหรียญวิญญาณอยู่มากกว่ายี่สิบล้านเหรียญ การเกิดใหม่ที่ชางสือนั้นจะไม่เป็นปัญหาแม้แต่น้อย ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือการสร้างสถานการณ์สำหรับผู้เล่นที่จะเข้าไปในดินแดนแห่งชางสือ

 

เป่ยลี่แนะนำว่าพวกเขาควรจะตัดสินใจหลังจากที่ได้เกิดใหม่ที่ชางสือ

 

ไม่นาน ทั้งสองคนก็ปรากฏขึ้นในช่องของสิ่งประดิษฐ์

 

“เริ่มกันเถอะ!” ลู่หวู่บอกกับเป่ยลี่

 

เมื่อได้ยิน เป่ยลี่ก็พยักหน้า จากนั้นไอเดียก็เข้ามาในหัวของเธอ พลังวิญญาณที่ถูกเก็บเอาไว้ในสิ่งประดิษฐ์ถูกแยกออกมาและกลายเป็นลูกบอลสีขาวส่องประกาย

 

ขณะที่พลังวิญญาณไหลไปอย่างต่อเนื่อง ลูกบอลสีขาวก็ส่องแสงอ่อนๆออกมา มีลูกบอลสีดำที่กลิ้งไปมาอยู่ด้านในเหมือนกับว่ามันมีชีวิต

 

ลู่หวู่มองดูเหรียญวิญญาณของเขาที่ค่อยๆถูกระบบจัดการในช่องเก็บของด้วยหัวใจที่แหลกสลายราวกับว่าของรักของหวงของเขานั้นถูกขโมยไป

 

ตอนแรกเขามีเหรียญวิญญาณอยู่ทั้งหมด 20.8 ล้านเหรียญ แต่เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แสงสีขาวก็ได้กลืนกินมันไปกว่าครึ่งแล้วและยังไม่มีทีท่าว่ามันจะหยุดลงเลย มันกลับลดจำนวนลงเร็วกว่าเดิม

 

“โอ้ ไม่นะ ความแข็งแกร่งของชางสือนั้นมันทรงพลังเกินกว่าที่พวกเราคาดเอาไว้เยอะเลย ฉันคิดว่าเราไม่สามารถฟื้นคืนชีพเขาได้ถ้าเรามีเหรียญวิญญาณไม่ถึง 50 ล้านเหรียญ” เป่ยลี่พูดออกมาด้วยความประหลาดใจขณะที่เธอมองดูแสงสีขาว

 

ลู่หวู่พูดไม่ออก

 

“แล้วเราจะทำยังไงต่อ?” ลู่หวู่อึ้ง มันเหลือน้อยกว่า 10 ล้านเหรียญแล้วในตอนนี้ ขณะที่เขามองดูเงินที่หายไปอย่างรวดเร็ว หัวใจของเขาก็ปวดร้าวมากขึ้นจนเขารู้สึกว่าหัวใจของเขามีเลือดทะลักออกมา

 

“เราไม่มีตัวเลือกอื่น เราต้องยอมแพ้ที่จะฟื้นคืนชีพเขาอย่างสมบูรณ์ เราต้องฟื้นฟูเขาขึ้นมาส่วนนึงก่อน”

 

ทันใดนั้นเป่ยลี่ก็เข้าไปกอดแสงไปนั้นและฉีกมันออก บังคับให้มันหยุดกลืนกินเหรียญวิญญาณ

 

หัวใจของลู่หวู่ปวดร้าวอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อเข้าเห็นเหรียญวิญญาณ 3 ล้านเหรียญที่เหลืออยู่ในกระเป๋าของเขา มันแพงเหลือเกิน!

 

อย่างไรก็ตาม ลู่หวู่ก็สบายใจขึ้นมาได้เปราะหนึ่งเมื่อเขาจำได้ว่าเขากำลังจะมีสิ่งมีชีวิตที่สุดยอดเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา

 

หลังจากที่ถูกรบกวน ลูกบอลแสงขนาดใหญ่ก็ร่วงลงบนพื้นและเด้งอยู่อย่างนั้น

 

“เป็นยังไงบ้าง เขาฟื้นหรือยัง?” ลู่หวู่ถามด้วยความกังวล

 

“เขาฟื้นแล้ว แต่เขายังอยู่ระหว่างการกลับมามีชีวิต นายต้องรอสักพัก” เป่ยลี่นั่งไขว่ห้างอยู่บนลูกบอลนั่น เด้งไปพร้อมกับมัน

 

ขณะที่พวกเขากำลังรออยู่ ของเหลวเหนียวๆสีดำในลูกบอลก็เริ่มขยายตัวและห่อหุ้มอยู่ด้านในของลูกบอล เป่ยลี่ลงจากลูกบอลและไปยืนข้างๆลู่หวู รอไปด้วยกัน

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ลูกบอลสีดำนั้นก็ขยับ ผิวของมันค่อยๆละลายไป เปิดเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน

 

ลู่หวู่ลุกลนเมื่อเขาได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในนั้น

 

เด็กน้อยที่ดูเหมือนจะมีอายุราวแปดถึงเก้าขวบ ขดตัวแก้ผ้าอยู่บนพื้น นอนหลับตาอยู่

 

“นี่เธอเอามาผิดคนหรือเปล่าเนี่ย?” ลู่หวู่ถามเป่ยลี่ด้วยความสงสัย

 

เป่ยลี่ส่ายหัว “อาจจะเป็นเพราะเรามีพลังวิญญาณไม่เพียงพอ แต่นี่เป็นชางสือผู้เยี่ยมยอดจริงๆเหรอ?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลู่หวู่ก็ใช้สิ่งประดิษฐ์ตรวจสอบร่างกายของชางสือน้อยคนนี้

 

[ชางสือ (กำเนิดใหม่)]:

 

ข้อมูลตัวละคร: ลอร์ดคนเก่าของดินแดนแห้งชางสือ ผู้ที่ได้ก่อกบฏมาชั่วชีวิตและต่อสู้กับสวรรค์เพื่อยืดเวลาชีวิตของหญิงสาวที่เขารัก แต่มันก็ล้มเหลวเนื่องจากเขาได้พ่ายแพ้ต่อสวรรค์ เขาไม่สามารถเดินข้ามสะพานแห่งการหลงลืมได้เนื่องจากเขาจะต้องชดใช้ต่อบาปของเขา เขาจึงยินยอมที่จะปล่อยให้วิญญาณของเขาแหลกสลายไป

 

สถานการณ์ของตัวละคร: การฟื้นฟูถูกรบกวน ความสามารถของเขาจึงฟื้นฟูแค่เพียงราชาแห่งภูตระดับต้นเท่านั้น (ความสามารถและวิชาของเขายังคงอยู่เหมือนเดิม)

 

เมื่อลู่หวูเห็นค่าสถานะของชางสือ สีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง เขาได้ใช้เงินไปเกือบๆยี่สิบล้านเหรียญเพื่อแลกกับเด็กคนหนึ่งที่เป็นราชาแห่งภูตระดับต้น แม้แต่ตงกั่วหรือเสี่ยวเทียน เขานั้นก็แทบไม่ต้องใช้สักแดงเลย

 

ในตอนนั้น ร่างกายของชางสือสั่นขณะที่เขาค่อยๆลืมตาขึ้น

 

เขาค่อยๆใช้มือยันตัวลุกขึ้น ดูงุนงง เห็นแค่เพียงเป่ยลี่และลู่หวู่ที่ยืนจ้องเขาอยู่ด้วยความดูถูก

 

“เจ้า…เจ้าเป็นใคร? วิญญาณของข้าแหลกสลายไปแล้วไม่ใช่หรือไง?” ชางสือน้อยถามด้วยความสับสน

 

ปั้ก! ลู่หวู่กระโดดลงมาและตบหัวของเขา “ไอ้หนู ข้าเป็นหัวหน้าที่นี่ ถ้าเจ้าเรียกตัวเองว่าฝ่าบาทอีกครั้ง ข้าจะฆ่าเจ้า!”

 

ชางสือลูบหัวตัวเอง ท่าทางสับสน เมื่อเขาก้มหัวลง ตาของเขาก็โตขึ้นด้วยความช็อคเมื่อเขาเห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขา “ทำไมข้าตัวเล็กอย่างนี้?”

 

ลู่หวู่เหลือบไปมองเขาด้วยความดูแคลนและพูดเหน็บแนม “ฮืมม มันดูเล็กจริงๆนั่นแหละ!”

 

“พวกเจ้าเป็นใคร!? ที่นี่ที่ไหน?” ชางสือตะโกนเมื่อเขาได้สติและรีบปกปิดร่างกายส่วนล่างของเขา เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมามองที่ลู่หวู่

 

“ชางสือน้อย พวกเราเป็นคนที่ชุบชีวิตเจ้าขึ้นมาจากวิญญาณที่แหลกสลาย รู้สึกยังไงที่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง?” ลู่หวู่ถามพร้อมรอยยิ้ม

 

หลังจากที่ชางสือได้ยินคำเหล่านั้น ความจำของเขาที่อยู่บนสะพานแห่งการหลงลืมก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา ทำให้หน้าเขาซีดลงทันที “ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาช่วยข้า ถ้าข้ายังมีชีวิตอยู่ สงครามระหว่างผู้อมตะกับอันเดอร์เวิลด์ก็จะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เจ้าได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่แล้ว!”

 

“ไม่ต้องห่วง พวกที่อยู่ในโลกอมตะนั้นคิดว่าเจ้านั้นได้ตายไปแล้ว พวกเขาเห็นวิญญาณของเจ้าแหลกสลายด้วยตาของพวกเขาเอง!” เป่ยลี่พูดขณะที่ท้าวเอวพร้อมกับความภาคภูมิใจ

 

“มันเป็นไปได้ยังไง? พวกเจ้าทำได้ยังไง!?”

 

ชางสือดูสงสัยท่าทางไม่มั่นใจ

 

ในมุมมองของเขา ผู้ที่สนใจในตัวของเขานั้นทรงพลังเหมือนกับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ มันเป็นไปไม่ได้ที่ทริคเหล่านี้จะหลอกลวงสายตาของพวกเขาได้

 

“เจ้าได้ตายไปแล้วจริงๆ และวิญญาณของเจ้าก็แหลกสลายไปแล้ว แต่ตอนนี้ส่วนหนึ่งของวิญญาณของเจ้าได้ถูกฟื้นฟู เจ้าจะเข้าใจได้หรือยังถ้าข้าพูดแบบนี้?” เป่ยลี่อธิบายอีกครั้ง

 

“นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย แม้แต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เองก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูวิญญาณที่แหลกสลายได้ พวกเจ้าอย่าคิดโกหกข้า” ชางสือดูดื้อด้าน สีหน้าของเขาบอกว่าเขาไม่มีวันเชื่อสองคนนี้

 

เมื่อได้ยิน ลู่หวู่ก็กระโดดเข้าไปตบหัวชางสืออีกครั้งพร้อมกับแยกเขี้ยว “ข้าจำเป็นต้องทำให้เจ้าเชื่อด้วยหรือไง? ข้าไม่ได้มาปรึกษาอะไรกับเจ้า พวกข้าช่วยชีวิตเจ้า ดังนั้นตอนนี้พวกข้าคือหัวหน้า สิ่งที่เจ้าต้องทำก็คือเชื่อฟัง!”

 

“อะไรคือจุดประสงค์ที่พวกเจ้าชุบชีวิตข้าขึ้นมา?” ชางสือถามทันทีเหมือนกับเขาคิดอะไรได้

 

“พวกเราอยากให้เจ้าครองบัลลังก์ดินแดนแห่งชางสือและกลายเป็นชางสือผู้เยี่ยมยอด!”

 

“มันเป็นไปไม่ได้ ข้าพังพินาศแน่ๆถ้ากลับไป พวกสัตว์ที่โง่เง่าจากโลกอมตะไม่ปล่อยข้าเอาไว้แน่!”

 

“ข้าไม่ได้สั่งให้เจ้าเป็นชางสือผู้เยี่ยมยอดอย่างเปิดเผย ข้าต้องการแค่ให้เจ้าควบคุมกองกำลังใหม่จากดินแดนแห่งชางสือ เริ่มจากต่ำสุดและค่อยๆปีนขึ้นไปเหนือสุด จนกระทั่งเจ้าได้ปกครองดินแดนแห่งชางสืออีกครั้ง!” ลู่หวู่อธิบาย

 

“เจ้าอยากให้ข้าเป็นศัตรูกับกองทัพที่เคยเป็นของข้าเอง? ข้าจะไม่มีวันทำตามคำสั่งของเจ้า!” ชางสือนั้นดื้อด้าน เขาคิดว่าจะไม่ทำอย่างแน่นอน

 

“ลี่น้อย เธอล้างสมองไอ้นี่ได้ไหม? เขาดื้อเกินไป ตงกั่วยังควบคุมได้ง่ายกว่าเยอะเลย!” ลู่หวู่หมดหนทาง

 

เป่ยลี่ยิ้มอ่อนและพูดว่า “ชางสือ พวกเราได้จัดการกับเจ้าแล้วตอนที่เจ้ากำลังเกิดใหม่ ลองค้นหาข้อมูลในหัวของเจ้าดู แล้วเจ้าจะเข้าใจ”

 

เมื่อได้ยิน ชางสือก็รีบตั้งสมาธิและค้นหาลงไปในทะเลแห่งความคิด

 

ลูกบอลสีทองประกายปรากฏขึ้นในหัวของเขา มันขยายออกเมื่อเขาโฟกัสสติของเขาไปที่มัน ข้ามูลเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดพรั่งพรูเข้าสู่สมองของเขา

 

ชางสือยืนเหม่อลอยขณะที่เขาอ่านข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้ามาเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์กับผู้เล่น

 

หลังจากนั้น…

 

เมื่อชางสือมองขึ้นไปอีกครั้ง เขามีสีหน้าที่งงงวย “พวกเจ้าคือผู้ที่มาขัดแผนการในการต่อต้านสวรรค์ของข้า?”

 

เป่ยลี่พยักหน้าจริงจัง “ข้าไม่ปฏิเสธว่าเจ้านั้นเป็นอัจฉริยะ แต่ในบางมุม เจ้าก็เป็นแค่คนโง่ เจ้าคิดจริงๆหรือว่าการเอาชนะต่อสวรรค์มันจะง่ายขนาดนั้น? แม้แต่พวกเราสองคนที่มีสิ่งประดิษฐ์ยังไม่กล้าทำอะไรชัดเจนเหมือนเจ้าเลย!”

 

เมื่อเขาได้ยิน ไฟแห่งความโกรธก็พรั่งพรูออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจเขา แต่ไม่นานเขาก็มืดมนและได้ถอนหายใจออกมา “ข้าไม่มีทางเลือก”

 

เป่ยลี่สตั้นเมื่อได้ยินคำพูดของชางสือ เมื่อเธอนึกถึงเหตุผลที่ชางสือวางแผนต่อต้านสวรรค์ เธอก็เข้าใจความรู้สึกของชางสือได้

 

“งั้น นี่จะเป็นอีกหนึ่งโอกาสของเจ้า ฉะนั้นจับมันไว้ให้แน่น เจ้าอาจจะมีโอกาสพริกชีวิตอีกครั้ง!”

 

ความเศร้าโศกปรากฏขึ้นบนในหน้าอันอ่อนวัยของเขา “เธอจากไปแล้ว และข้าเองก็ไม่เหลือเหตุผลอะไรให้อยู่ต่อบนโลกใบนี้อีกแล้ว ยิ่งกว่านั้น เจ้ายังอยากให้ข้าต่อสู้กับกับกองทัพของข้าเองอีก ข้าขอตายดีกว่าต้องช่วยเจ้า”

 

ลู่หวู่กระโดดไปที่ไหล่ของชางสือและใช้มือกดหัวเขา “เด็กน้อย ไม่มีใครสั่งให้เจ้าฆ่ากองทัพของตัวเองสักหน่อย เจ้าไม่รู้หรือไงว่าสิ่งประดิษฐ์นั้นมีพลังในการจัดสรรสิ่งต่างๆ? ตราบใดที่พวกข้าจัดการกับพวกเขาโดยไม่ทำลายจิตวิญญาณของพวกเขา พวกเขาก็จะยังมีชีวิตอยู่ เชื่อไหมล่ะ?”

 

ชางสือสตั้นเมื่อเขาได้ยิน ในตอนนั้นเขารู้ถึงพลังที่แท้จริงของสิ่งประดิษฐ์และคุณสมบัติที่ทรงพลังในการจัดสรรของมันดี เขาจึงเข้าใจได้ดีถึงสิ่งที่ลู่หวู่กำลังพูดถึง

 

หลังจากที่คิดอยู่สักพัก ชางสือก็ส่ายหัว “ข้าเบื่อกับเรื่องพวกนี้ ข้าไม่อยากจะสู้กับอะไรอีกแล้ว แต่ข้าหวังว่าเมื่อเจ้าได้พิชิตชางสือแล้ว เจ้าจะปล่อยกองทัพของข้าไป ถ้าเจ้าจำเป็นต้องสังหารพวกเขา ได้โปรดดูดพวกเขาเข่าสิ่งประดิษฐ์และอนุญาตให้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของพลังของพวกเจ้า!”

 

ลู่หวู่ผิดหวังเมื่อมองหน้าชางสือที่ไม่มีกำลังใจในการต่อสู้ เขาทำได้แค่รู้สึกผิดหวังเมื่อคิดถึงเหรียญวิญญาณจำนวนมากที่ต้องเสียไปในตอนที่ชุบชีวิตชางสือ

 

“เจ้าแน่ใจนะ?” เป่ยลี่ถามขณะที่หัวเราะออกมา

 

“ข้าเบื่อ ข้าไม่อยากจะสู้อีกแล้ว!” ชางสือยังคงส่ายหัว ดูเหมือนว่าเขาไม่คิดอะไรต่อโลกใบนี้อีกแล้ว

 

ทันใดนั้น เป่ยลี่ก็ยื่นมือออกไปแล้วโบกมือ ลูกบอลสีขาวส่องแสงประกายปรากฏขึ้นในมือของเธอ มันเปลี่ยนรูปร่างไปอย่างธรรมชาติเมื่อเธอใช้มือของเธอนวดมัน

 

“เจ้าแน่ใจนะ?” เป่ยลี่ถามอีกครั้ง

 

เมื่อมองไปที่ลูกบอลสีขาว ท่าทางของชางสือก็เปลี่ยนไปเนื่องจากเขารู้สึกถึงความคุ้นเคย

 

“หยุด…หยุดขยำมันสักที หยุดเถอะ!” ชางสือดูเหมือนใจสลายเมื่อเขาเห็นเป่ยลี่ดึงและบิดมันอย่างต่อเนื่อง

 

“หวู่ เราแค่ส่งเขาไปเกิดใหม่เถอะ นี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการเติมเต็มยุคสมัยของนาย – โชคชะตาแห่งความรักในอดีต เฮ้อ ช่างน่าเสียดาย” เป่ยลี่ดูผิดหวังมาก

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลู่หวู่ก็กระโดดออกจากไหล่ของชางสือและส่ายหัวเช่นกัน “มันช่างน่าเสียดายจริงๆ ในเมื่อเจ้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ พวกเราก็ควรจะมีเหตุผลและส่งเจ้ากลับไปเพื่อเกิดใหม่”

 

“ไม่ไม่ไม่! ข้าตกลง!” ชางสือมองไปที่แสงไฟสีขาวและขอร้องด้วยความจริงใจ

 

สีหน้าของเป่ยลี่และลู่หวู่ไม่เปลี่ยน เป่ยลี่ยังคงขยำแสงไฟในมือของเธอต่อไป เหมือนกับว่าเธอไม่ได้ยินสิ่งที่ชางสือได้พูดออกมา

 

“นั่นคือเธอใช่ไหม?” ร่างกายของชางสือสั่นเทาขณะที่เขากำลังเข้าไปหาเป่ยลี่ เขาอยากจะยื่นมือออกไปและสัมผัสกับแสงไฟดวงนั้น แต่เป่ยลี่ก็ขยับหนี หลบเขา

 

“ข้าสัญญา ข้าสัญญาต่อเจ้า! ได้โปรดส่งเธอคืนให้ข้า!”

 

ขณะที่เขายืนใกล้ๆมัน ชางสือสัมผัสได้จากลูกบอลที่ส่องแสงประกายนั้น เขามั่นใจว่ามันต้องมาจากคนที่เขารักมากที่สุดบนโลกใบนี้

 

“ไม่มีทาง!” เป่ยลี่พูดออกมาอย่างสดใสขณะที่ขยำมันต่อไป

 

“ข้าต้องทำยังไงเจ้าถึงจะมอบเธอให้กับข้า?” ชางสืออ้อนวอน ความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีก่อนหน้านี้มันหายไปหมดสิ้น

 

“ข้าได้รู้ว่าข้าไม่สามารถสั่งให้เจ้ากลายเป็นศัตรูกับกองทัพของเจ้าได้ ถ้าอย่างนั้นเราก็ควรจะลืมมันไปซะดีไหม?” ลู่หวู่ทำท่าทางเหมือนกับว่าไม่อยากจะเห็นภาพแบบนั้น

 

“พวกเขาไม่ได้ตายจริงๆ ข้าสามารถดูดซับพวกเขาทั้งหมดเข้าไปในสิ่งประดิษฐ์ได้ แล้วก็เอาพวกเขามาทำงานให้กันข้า” ชางสือรีบอธิบาย

 

“มันไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยเหรอ? ข้าไม่คิดว่ามันเป็นความคิดที่ดีนะ”

 

“ตรงไหนกันที่โหดร้าย? กฎแห่งการเอาชีวิตรอดก็คือการต่อสู้เพื่อปกครองในอันเดอร์เวิลด์แห่งนี้ มันไม่เคยเปลี่ยนแม้จะผ่านมานับล้านปี มันเป็นสิ่งที่มีเหตุผลมากที่สุดแล้ว!”

 

“ความปรารถนาที่เจ้าอยากจะมีชีวิตอยู่นั้นมากมายจริงๆ!”

 

ลู่หวู่ยิ้มและส่งสัญญาณให้เป่ยลี่ด้วยสายตา เมื่อเป่ยลี่เห็น เธอจึงโยนลูกบอลในมือของเธอให้กับชางสือ

 

ชางสือรีบคว้าลูกบอลที่ส่องแสงประกายนั้นทันที เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ส่งออกมาจากมัน ท่าทางของเขาก็เต็มไปด้วยความรัก

 

“ความรักที่ลอยฟุ้งนี่ทำให้ข้าเอียนเหลือเกิน”

 

ลู่หวู่สะบัดมือดูเหมือนรังเกียจก่อนที่จะถาม “ชางสือ เจ้าอยากจะชุบชีวิตเธอขึ้นมาไหม?”

 

“ข้าต้องการ!” ชางสือตอบโดยไม่ลังเล

 

“ฮืมม คิดดูดีๆนะ จากนี้ไปเจ้าจะต้องดูแลทุกอย่างที่เกิดขึ้นในดินแดนชางสือ โดยเฉพาะเรื่องการประกาศ ข้าต้องบอกตรงๆว่าข้าใช้ 150 ล้านเหรียญวิญญาณเพื่อชุบชีวิตเจ้าขึ้นมา แม้ว่ามันจะไม่ต้องใช้มากขนาดนั้นเพื่อชุบชีวิตเธอ เธอก็จะต้องใช้อย่างน้อย 80 ล้านเหรียญ ในตอนนี้สิ่งที่เจ้าต้องทำก็คือการหาเหรียญวิญญาณอย่างขยันขันแข็งเพื่อชุบชีวิตคนที่เจ้ารักให้เร็วที่สุด”

 

“ตกลง!” ชางสือแสดงออกถึงความมุ่งมั่นผ่านสีหน้าของเขา ด้วยความกระหายต่อเหรียญวิญญาณ

 

“เห็นไหม ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลหรอก เจ้าจะต้องมอบเหรียญวิญญาณทั้งหมดที่เจ้าได้มาให้กับพวกข้า เพราะมันจะเป็นค่าใช้จ่ายในการชุบชีวิต แต่ข้าจะไม่เอา 80 ล้านเหรียญแรกที่ได้จากดินแดนแห่งชางสือ เจ้าจะได้เก็บให้พอที่จะใช้ชุบชีวิตเสี้ยนเค่อ แต่ข้าอยากจะคุยให้เข้าใจก่อนว่าหลังจากนั้น เหรียญวิญญาณทั้งหมดที่เจ้าได้มาจะต้องเอามาให้ข้า ช่วยจำมันเอาไว้ด้วย”

 

“ขอบคุณมาก!” ชางสือมีความสุขมาก

 

จากมุมมองของชางสือ ลู่หวู่นั้นมีเมตตามาก ไม่ใช่แค่ช่วยชุบชีวิตให้กับเขา แต่วางแผนที่จะชุบชีวิตเสี้ยนเค่ออีกด้วย เพื่อที่ว่าเขาจะได้อยู่ด้วยกัน

 

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าจะชุบชีวิตเสี้ยนเค่อได้ยังไง จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้นั้นเอ่อล้นอยู่เต็มอก เขาไม่สามารถรอที่จะเริ่มผจญภัยสู่ดินแดนแห่งชางสือและทำให้สุดความสามารถ

 

“ทำไมเจ้าจึงไม่ไปอยู่ที่บ้านข้าสักสองสามวันก่อน จะได้คุ้นเคยกับโลกแห่งการมีชีวิตอยู่ เมื่อเซิฟเวอร์ยุโรปเปิด มันจะเป็นความรับผิดชอบของเจ้าที่จะต้องดูแลมัน จำเอาไว้ว่าตอนเริ่มนั้นเจ้าจะต้องพัฒนาตัวเกมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และรอให้จำนวนผู้เล่นเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะเริ่มรวบรวมเหรียญวิญญาณ”

 

ลู่หวู่ทำได้แค่เตือนชางสือเมื่อเขาได้เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นของเขา

 

เขากังวลว่าชางสือจะหิวกระหายต่อเหรียญวิญญาณจนถูกครอบงำ แล้วเขาจะเอาเปรียบผู้เล่นมากเกินไปและทำให้เกมนั้นเป็นบ่อเงินสำหรับเขา

 

“ข้าเข้าใจแล้ว!”

 

ตอนนี้ชางสือได้พบกับเสี้ยนเค่อแล้ว เขาถูกโน้มน้าวเรื่องภารกิจของเขา เขายอมแม้กระทั่งเรียกตัวเองไม่เหมือนเดิม

 

มันเป็นเรื่องจริงที่ความรักนั้นทำให้คนกลายเป็นบ้า!

 

The Boss Behind The Game

The Boss Behind The Game

Type: Author:
อ่านนิยาย The Boss Behind The Game เรื่องย่อ ลู่หวู่ผู้พัฒนาเกมที่ไร้จุดหมายรู้สึกลำบากใจเนื่องจากเขาพบว่า เขาได้เป็นทายาทสายตรงของราชาอันเดอร์เวิลด์ นอกจากชื่อยศถาบรรดาศักดิ์ก็ไม่มีสิ่งใดที่บรรพบุรุษทิ้งให้เขาเลย ยิ่งไปกว่านั้นพวกลูกน้องทั้งหมดของบรรพบุรุษยังได้ก่อกบฏและแย่งชิงอาณาเขตที่เป็นของสืบทอดของเขา ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ทำให้ลู่หวู่สร้างเซิฟเวอร์เกมต่อสู้ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนลึกลับคนใหม่ของเขาและส่งนักเล่นเกมจากโลกจริงไปยังอันเดอร์เวิลด์โดยใช้ความเป็นจริงเสมือน จากนั้นเขาได้สร้างเควสหลัก อาชีพของตัวละคร ดันเจี้ยน เควสเนื้อเรื่องและตัวละครเอ็นพีซีสำหรับเกม จากการใช้จุดแข็งของเหล่านักเล่นเกมเหล่านี้ทำให้ลู่หวู่เริ่มการเดินทางเพื่อเรียกคืนมรดกที่ถูกต้องของเขา จะมีอะไรผิดพลาดไหม?

Options

not work with dark mode
Reset