The Boss Behind The Game – ตอนที่ 237 : คู่หวี่ถูกซุ่มโจมตี

ตอนที่ 237 : คู่หวี่ถูกซุ่มโจมตี
 
เหล่าเกมเมอร์กลับสู่ชีวิตปกติหลังจากที่ราชาแห่งทะเลได้สร้างเมืองเสร็จ
 
นอกจากการรอคอยให้ราชาแห่งทะเลนั้นเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพของเขา กิจวัตรประจําวันก็คือการตัดต้นไม้ ล่ามอนสเตอร์ อะไรทํานองนั้น
 
ตอนนี้ขนาดของตระกูลแห่งความตายในมหาสมุทรวอยด์นั้นกําลังเพิ่มขึ้น พวกมันขยายไปถึงเป่ยฉี ทําให้เกิดการปะทะกับผู้เล่นอยู่บ่อยครั้ง
 
ลู่หวู่คาดเดาเอาไว้แล้วว่าแผนการของราชาแห่งทะเลนั้นคืออะไร
 
เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามทําให้กองทัพของเป่ยฉีนั้นอ่อนล้าด้วยการใช้ประโยชน์จากอันเดดของตระกูลแห่งความตาย จากนั้นเขาก็จะรวบรวมกําลังพลมาบุกโจมตี
 
แต่ราชาแห่งทะเลนั้นไม่รู้ความสามารถของผู้เล่น พูดง่ายๆก็คือเขานั้นยังไร้เดียงสาเกินไป
 
ลู่หวู่นั้นไม่ใช่คนเดียวที่พอใจกับแผนของราชาแห่งทะเล แต่ผู้เล่นเองก็ชอบใจเช่นกัน
 
เขาเหมาะสมที่สุดที่จะเรียกว่าเป็นบอสยอมนิยมที่สุดในเกม!
 
ในขณะเดียวกัน ลู่หวู่เองก็กําลังคิดกลยุทธ์ที่จะขยับขยายดินแดนเป่ยฉี
 
ทางเหนือนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากชางสือแห่งเซิฟยุโรปนั้นอยู่ที่นั่น
 
ดังนั้นการขยายดินแดนไปทางตะวันตกซึ่งเป็นทุ่งหญ้าบาเรนและอาร์คติกอบีสที่อยู่ทางใต้นั้นจึงเป็นเป้าหมายของลู่หวู่
 
ลู่หวู่สังเกตเห็นว่าภูเขาน้ำแข็งที่อาร์คติกอบีสกําลังละลายลง หลังจากที่ฟรอสเซ่นจากไป
 
เหล่าผู้เล่นเองก็ได้รู้จากฟอรั่มเช่นกันว่า ตระกูลถล่มพสุธานั้น มีวัตถุดิบที่สามารถพัฒนารูนมาสเตอร์ได้ พวกเขาจึงออกเดินทางเพื่อสืบดูที่ทุ่งหญ้าบาเรนทางทิศตะวันตกและพวกเขาก็ได้รู้ว่าตระกูลทั้งตระกูลนั้นได้จากไปแล้ว 
 
มันเป็นข่าวดีสําหรับลู่หวู่อย่างไม่ต้องสงสัย
 
ทั้งตระกูลถล่มพสุธาและหิมะน้ำแข็งนั้น ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้มีจํานวนที่มากมาย แต่พวกเขาก็แข็งแกร่งมาก 
 
ด้วยการพึ่งพาความสามารถในการเกิดใหม่ที่ไม่มีจํากัด เหล่าผู้เล่นนั้นสามารถต่อสู้กับพวกเขาและสร้างความเสียหายได้ แต่มันก็ยังเป็นระยะห่างขนาดใหญ่จากความ แข็งแกร่งโดยรวม
 
ในตอนนี้ ตระกูลโบราณนั้นจากไปแล้ว พูดได้ว่ากองกําลังของเป่ยฉีทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของลู่หวู่
 
หลังจากที่พิจารณาอย่างรอบคอบ ลู่หวู่ก็ตัดสินใจว่าขั้นต่อไปของการขยายดินแดนนั้นก็คือขยายออกไปทางดินแดนแห่งแสงทั้งเก้าที่อยู่ทางตะวันตกของทุ่งหญ้าบาเรน
 
เนื่องจากอาร์คติกอบีสนั้นน่าจะหนาวเกินไปและไม่เหมาะกับผู้เล่น ตราบใดที่ภูเขาน้ำแข็งยังละลายไม่หมด ลู่หวู่ก็จะยังไม่ไปที่นั่น
 
หลังจากตัดสินใจแล้ว เขาก็ถามเป่ยลี่ถึงสถานะของการกระจายกําลังในดินแดนแห่งแสงทั้งเก้า
 
จากที่เป่ยลี่บอก ดินแดนแห่งแสงทั้งเก้านั้นถูกสร้างขึ้นโดยกองกําลังที่แข็งแกร่งทั้งเก้า อย่างไรก็ตาม มันไม่เหมือนกับกองกําลังเป่ยฉีที่อาศัยอยู่อย่างกระจัดกระจาย พวกเขานั้นรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
 
ดินแดนหลักนั้นถูกปกครองโดยพี่น้องทั้งเก้าแสงแห่งดาว ผู้ที่อาวุโสที่สุดในหมู่พวกเขานั้นเป็นราชา ความแข็งแกร่งของเขานั้นเทียบได้กับจักรพรรดิภูตผู้ยิ่งใหญ่หรือยิ่งกว่านั้นเสียอีก
 
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่สาหัสเอามากๆในการบุกยึดดินแดนแห่งแสงทั้งเก้านี้

เนื่องด้วยพี่น้องทั้งเก้านั้นสามัคคีกันอย่างมาก พวกเขาจะช่วยกันขับไล่คนนอกออกไป เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกโจมตี ดินแดนทั้งหมดของเป่ยฉีอาจจะล่มสลายได้ถ้าหากพวกเขาโจมตีกลับมาด้วยสงครามเต็มรูปแบบ
 
แต่ลู่หวู่เองก็ไม่ได้เร่งรีบอะไร เขาโฟกัสในเรื่องของภารกิจหลักในการพัฒนาดินแดนทางตะวันตกแทน
 
หลังจากที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว มันก็ถึงเวลาเริ่ม
 
หลังจากที่เขาต้องอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลาหลายเดือนหลัง จากที่ได้เปลี่ยนร่างไปเป็นลูกแมว เขาได้ตัดสินใจออกไปข้างนอกและเข้าร้านสะดวกซื้อ เขาอยากจะเตรียมอาหารดีๆให้กับเป่ยลี่ เขาเองก็เหนื่อยหน่ายกับขนมที่ไม่ดีต่อสุขภาพของเป่ยลี่
 
ลู่หวู่เดินลงไปข้างล่างหลังจากที่ทักทายเป่ยลี่และตรงไปที่ร้านขายของชํา
 
การที่ได้หายใจเอาอากาศที่บริสุทธิ์นอกบ้านเข้าไปและได้เห็นตะวันที่กําลังจะตกดินอันสวยงามนั้นทําให้ลู่หวู่รู้สึกดีที่ยังมีชีวิตอยู่
 
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของลู่หวู่ก็ดังขึ้นขณะที่ เขากําลังเลี้ยงเข้าตรอก
 
ลู่หวู่ปลดล็อคโทรศัพท์แล้วก็ได้รู้ว่าต้นสายก็คือบริษัทเจียเต่อ
 
“สวัสดี? ว่ายังไงล่ะคราวนี้?” ลู่หวู่ตัดสินใจรับโทรศัพท์หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก
 
“ผมจะให้คุณได้พิจารณาเป็นครั้งสุดท้าย คุณจะไม่ปลดล็อคเกมให้กับเครื่องเล่นของเขาจริงๆใช่ไหม?”
 
เสียงต้นสายนั้นแหบแห้ง แต่ลู่หวู่นั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ “บริษัทของผมนั้นยากจนและทีมงานเองก็ไม่สามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”
 
“คุณเพิ่งจะสร้างรากฐานที่มั่นคงในวงการอุตสาหกรรมเกม ผมไม่คิดว่าคุณมีประสบการณ์มากมาย คุณนั้นยังไร้เดียงสาเกินไป นี่คุณคิดว่าเราจะรับมือกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆเหรอ?” เสียงนั้นดูเหมือนกับข่มขู่
 
“โอ้? นี่คุณกําลังขู่ผมเหรอ? ตํารวจ ช่วยผมด้วย!”
 
“ตอนแรกผมเองก็คิดว่าการที่จะหาตัวคุณได้นั้นคงจะเป็นอะไรที่ยากเย็น แต่เมื่อผมได้ข้อมูลมา คุณนั้นใช้เบอร์ที่ธรรมดาและไม่ได้เข้ารหัสเอาไว้ มันเป็นอะไรที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของผมเลย แถมยังช่วยประหยัดเวลาให้ผมไปอีกเยอะเลยด้วย ในเมื่อคุณยังยืนกรานที่จะเป็นศัตรูกับเรา นั่นมันก็เป็นเรื่องที่แย่จริงๆ”
 
หลังจากที่พูดจบ เขาก็วางสายไป ทิ้งให้ลู่หวู่งนงงกับบทสนทนาที่เขาได้พูดเอาไว้
 
ทันใดนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงลมแรงที่ซัดเข้ามาทางด้านหลัง
 
แรงปะทะอย่างแรงกระแทกเข้าไปที่หัวเขา พร้อมกับร่างเงาที่ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา
 
คนๆนั้นรอให้ลู่หวู่ล้มลง แต่ลู่หวู่ก็หันกลับมามองด้วยความงุนงง เขากุมหัวที่กําลังปวดจากการถูกตี เห็นได้ชัดว่าเขานั้นงงมาก
 
น่าประหลาดใจที่เขายังยืนอยู่ได้ สายตาของหมายเลขหนึ่งเบิกกว้างทันที
 
เขาไม่ได้ใช้แรงในการตีครั้งนั้นอย่างเต็มที่ ตามที่ได้รับคําสั่งมาคือการลักพาตัวลู่หวู่ไปเพื่อใช้ประโยชน์
 
แต่มันก็น่าจะแรงพอที่จะทําให้ลู่หวู่หมดสติ เขาไม่คาดคิด าลู่หวู่จะไม่ได้รับบาดแผลใดๆเลย
 
“แกเป็นใคร!?” ลู่หวู่พูดออกมา
 
เมื่อเขาเห็นท่อเหล็กสีดําที่อยู่ในมือของชายคนนั้น เขาก็คิดถึงสิ่งที่ตัวแทนจากบริษัทเจียเต่อพูดทางโทรศัพท์ ลู่หวู่นั้นรู้ได้ทันทีว่าคนๆนี้มาจากไหน
 
หมายเลขหนึ่งโจมตีเข้าไปอีกครั้ง เขายกท่อเหล็กขึ้นและฟาดเข้าไปที่คอของลู่หวู่อย่างโหดเหี้ยม
 
ครั้งนี้เขาตีแรงกว่าครั้งก่อน มั่นใจว่าลู่หวู่ต้องทนการโจมตีในครั้งนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
 
ปั้ก!
 
แต่ลู่หวู่นั้นไม่ได้ปัดป้องกันโจมตีใดๆ เขารับการโจมตีนั้นอย่างกล้าหาญ อย่างไรก็ตาม สายตาที่เขามองหมายเลขหนึ่งนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
 
“เป็นไปได้ยังไง!?” หมายเลขหนึ่งบ่นพึมพําออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา
 
เขารู้ดีว่าเขานั้นแข็งแกร่งขนาดไหน ทั้งๆที่เขาเองนั้นสามารถแบกกระทิงได้หลังจากการทดลอง! แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นก็ยังทําอะไรลู่หวู่ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
 
หมายเลขหนึ่งเริ่มสงสัยว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติกับร่างกายของเขา เขาสงสัยว่าความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เขามีในตอนที่ทําการทดลองนั้นได้หายไปแล้ว
 
ในตอนนั้นลู่หวู่รู้ได้ทันทีว่าบริษัทเจียเต่อนั้นกําลังเล่นสกปรก ท่าทีที่เขาแสดงออกมานั้นดูหม่นหมองในทันที
 
เขาคว้าท่อเหล็กที่คาอยู่ตรงคอของเขาและดันมันออกทีละนิด หมายเลขหนึ่งเริ่มเซขณะที่ลู่หวู่พยายามดึงท่อเหล็กไปจากเขา
 
หมายเลขหนึ่งตกใจ ชายที่ดูอ่อนแอมากที่เหมือนจะยืนต้านลมยังไม่ไหว บิดท่อเหล็กที่ทําจากโลหะจนเหมือนกับลูกบอล
 
นี่เขาเป็นมนุษย์ใช่ไหม!? นี่เขาได้เข้ารับการทดลองมาเหมือนกันหรือยังไง? สายตาของหมายเลขหนึ่งนั้นเพิ่งออกกว้างด้วยความช็อก
 
ในที่สุดเขาก็รู้ถึงความสามารถของลู่หวู่ หมายเลขหนึ่งรู้ดีว่าเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายคนนี้ เขาหันหลังไปเพื่อที่จะหนี
 
เมื่อเห็นหมายเลขหนึ่งตั้งท่าพยายามจะหนี ลู่หวู่เหลือบไปมองเพื่อเล็ง เขายกลูกบอลเหล็กในมือขึ้นและขว้างตรงไปที่หมายเลขหนึ่ง
 
เสียงดังสนั่นดังขึ้นพร้อมกับหลุมที่ปรากฏขึ้นบนพื้น
 
มองไปที่หลุมที่เกิดจากลูกบอลเหล็ก หมายเลขหนึ่งนั้นตกใจกลัวจนเหงื่อไหลผ่านหน้าผากลงมา จากนั้นเขาก็ออกตัววิ่งอย่างสุดกําลังอีกครั้ง
 
“บ้าน่า บอลมันเฉียดออกซ้ายไปหน่อย!” เมื่อได้เห็นว่าเขานั้นปาพลาดเป้า ลู่หวู่ก็เริ่มไล่เป้าหมายของเขา
 
แม้ว่าหมายเลขหนึ่งนั้นจะวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเหมือนกับสายฟ้า แต่เขาก็ยังช้ากว่าลู่หวู่อยู่ดี ลู่หวู่นั้นวิ่งแซงเขาไปด้วยเวลาไม่ถึงวินาทีและโจมตีใส่เขาจนร่วงลงไปกองกับพื้น
 
หมายเลขหนึ่งนั้นรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองโดนรถไฟชนเข้าอย่างจัง อวัยวะของเขานั้นสั่นรัวและอ้วกออกมาเป็นเลือด พร้อมกับเศษชิ้นเนื้อสดๆ
 
ลู่หวู่ครุ่นคิดอยู่สักพักว่าเขาจะจัดการกับหมายเลขหนึ่งนี้ยังไงดี เมื่อเขาจ้องไปที่หมายเลขหนึ่งที่นอนอยู่บนพื้นหลัง จากที่เขาสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปอย่างหมดสิ้น
 
การฆ่าเขาทิ้งนั้นเป็นอะไรที่ง่ายดายมากสําหรับลู่หวู่
 
แต่ก็ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่ลู่หวู่ยังไม่เข้าใจ ชายคนนี้เป็นผู้บ่มพลังเช่นกันหรือ? เขามีความแข็งแกร่งและความเร็วที่เหนือธรรมดาชาติเช่นนี้ได้ยังไง?
 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset