The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 14 ต่อสู้จริงครั้งแรกแล้วสิ

ตอนที่14 ต่อสู้จริงครั้งแรกแล้วสิ
เพื่อความเข้าใจสัตว์อสูรคือสัตว์ที่วิวัฒนาการมานะครับ ฉะนั้นหนูกลายพันธ์ถือว่าเป็นสัตว์อสูรชนิดหนึ่ง
———————————
“ครึ่กครึก ครึ่กครึก ครึ่กครึก”
เบลซชี่เจ้าดาบน้อยและตรงไปยังมหาวิทยาลัยโดยใช้ทางที่เขาคุ้นเคย
อาจจะเรียกได้ว่าโชคดีก็ได้ที่หลังจากเดินทางมา1กิโลเมตรแล้วแต่ว่ากลับไม่มีหนูยักษ์ตัวไหนเลยที่ไล่ตามเขา สองข้างทางของถนนเต็มไปด้วยกลิ่นคาวคละคลุ้งเป็นช่วงๆ และรถที่ชนกันบางจุด
ในมือของเบลซถืออาวุธคู่กายของเขา
ง้าวกรีดนภา อาวุธขาว ระดับ6 แต่ทันใดนั้นเอง
“จี๊ดดดด” หนูยักษ์ตัวนึงวิ่งเข้ามาจากทางข้างหน้า
“ก๊าสสสสสสสสส!” เจ้าดาบน้อยส่งเสียงขู่ขณะที่วิ่งไปข้างหน้าด้วย
ระยะห่างของทั้งสองใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“ฟูวววว” เปลวเพลิงสีม่วงถูกพ่นออกมาจากปากของเจ้าดาบน้อย
“จี๊ดดดดดดด” เพลิงสีม่วงไหม้ขนบริเวณหัวของหนูยักษ์ มันร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นเพื่อจะดับไฟ
เบลซแทงง้าวออกไปมันตรงไปที่หัวของหนูยักษ์ทันที
“ฉึก!” ง้าวจมเข้าไปในหัวของหนูยักษ์มันตายทันที
“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ2ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิตx1”
เบลซโล่งใจเมื่อได้ยินเสียงประกาศจากระบบแต่ยังวางใจมากไม่ได้เพราะเกิดเสียงเขารีบผ่าหัวมันออกมาเก็บคริสตัลสีขาวใสแล้วรีบจากไปทันที
หลังจากวิ่งไปอีกเบลซไปซีฟอสก็เจอหนูกลายพันธ์วิ่งเข้ามาหาบ้างทีละตัวสองตัวแน่นอนว่าพวกเขาหนึ่งคนหนึ่งตัวจัดการมันได้สบายๆ
หลังจากที่วิ่งมาได้ราวๆ10กิโลเมตร เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ถนนแคบลงเล็กน้อยแต่ที่หนักคือมีซอยตัดเยอะแยะและบาเรียที่คุ้มกันบ้านก็หายไปแล้วด้วยไปรู้ว่าจะมีใครวิ่งลากหนูกลายพันธ์มาให้พวกเขารึปล่าว
“ลดความเร็วลงหน่อย” เบลซพูดเจ้าดาบน้อยจึงวิ่งลดค่อยๆความเร็วลงเหลือราวๆ30 กม./ช.ม. เบลซถึงบอกให้มันหยุดลดความเร็ว เสียงที่วิ่งก็เบาลงตามไปด้วย
“แพร้ง!”
ในขณะที่วิ่งไปเรื่อยๆตึกตรงถนนแยกข้างๆซอยเล็กๆเป็นถนน2เลนมีเสียงกระจกแตกชายคนนึงถูกอะไรบางอย่างตบจนกระเด็นออกมาจากประตูกระจก
“จี๊ดดดดด” หนูกลายพันธ์ตัวนึงวิ่งตามออกมาจากแต่กวาดกรงเล็บทันที
“อ๊ากกก!” ชายคนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“สงสัยบาเรีย15นาทีคงหมดไปพักนึงแล้วสิ  ไปช่วยดีไหมนะ?” เบลซคิดในใจแต่เข้ามองไปรอบๆทางตรงข้ามมันมีหนูกลายพันธ์มาเพิ่มอีก4ตัวรวมกับตัวแรกเป็น5ตัว ถ้าเขาไปช่วยก็คงจะโดนล้อมแต่ว่าก่อนหน้านี้เขาและเจ้าดาบน้อยได้ฆ่าพวกหนูกลายพันธ์ไปพอสมควรระดับก็เพิ่มใช้พอได้
“อีกอย่างนี้พึ่งเริ่มช่วงแรกของวันหายนะพวกนี้ยังไม่โหดมากฝึกสู้ตอนอยู่ในวงล้อมหน่อยก็ดี” เบลซคิดอย่างนั้นจึงให้เจ้าดาบน้อยวิ่งเข้าไปในซอยด้วยความเร็วสูงสุด
“ซูวววว!” เสียงปะทะอากาศด้วยความเร็วเมื่อเจ้าดาบน้อยพุ่งมาถึงเบลซก็ตวัดง้าวออกไป
“ฉัวะ…พุฟฟฟ” หัวของหนูกลายพันธ์รอยละลิ่วออกจากลำคอพร้อมเลือดที่ไหลออกมาเป็นสาย
“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ1ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิตx1”
จากนั้นเบลซก็ลงจากหลังของซีฟอสแล้วก็หันไปทางหนูกลายพันธ์อีก4ตัวที่พุ่งมา
“เพลิงสายฟ้า!”
“พรึบบ! เปรี๊ยะ!” เพลิงสีเหลืองส้มและสายฟ้าสีขาวลุกท่วมและวนอยู่รอบๆ ง้าวของเบลซ
“ฟูววววววว” เมื่อหนูกลายพันธ์ทั้ง4ตัวเข้ามาใกล้เจ้าดาบน้อยพ่นเพลิงสีม่วงออกไปแบบกวาด ด้วยสันชาตญาณพวกมันกระโดดถอยหลังหลบ
“ฉัวะ! แครก! ในขณะที่มันกระโดดถอยหลังง้าวที่ท่วมไปด้วยเพลิงสายฟ้าซัดใส่หนูกลายพันธ์สองตัว ขณะเดียวกันซีฟอสก็กระโดดเหยียบหนูกลายพันธ์จนล้มลงและกัดเข้าทีลำคอของหนูกลายพันธ์อีกตัวตายทันที
“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ1ถูกสังหารไม่ได้รับเหรียญชีวิต”
“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ3ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิตx1”
“ซีฟอสสังหารหนูกลายพันธ์(ขาว) ได้รับเหรียญชีวิตx1”
“จี๊ดดด” หนูตัวสุดท้ายกระโจนเข้าใส่เบลซในระยะใกล้แน่นอนว่าเขาชักง้าวกลับมาไม่ทัน เบลซจึงยื่นมือซ้ายออกไป
“ฉึก ฉึก ฉึก” เถาวัลย์สีเขียวปลายแหลมและรอบๆเต็มไปด้วยหนามสีแดงสดยื่นออกมาจะข้อมือและรอบๆสามเถา เถาทั้งสามแทงเข้าไปจังๆยัง หัว คอและอกของหนูกลายพันธ์ตัวสุดท้าย(TL. ซะขนาดนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแล้วม้างง)
“หนูกลายพันธ์(ขาว) ระดับ4ถูกสังหารได้รับเหรียญชีวิตx2”
“ฮูวว ฮาา ฮูวว ฮาา” เบลซเหนื่อยหอบจากการเดินทางอย่างตึงเครียดมาตลอดสิบกว่ากิโลเมตรนี้
ดอกเถาโลหิตทั้งสามเถาแยกย้ายเอาปลายเถาไปยังแอ่งเลือดของพวกหนูกลายพันธ์เบลซรู้สึกว่าอาการเหนื่อยของเขาหายไปเร็วขึ้นแต่ก็ยังต้องนั่งพักซักหน่อยอยู่ดี
“ระบบ”
ชื่อ เบลซ แร็คน่าร์ เหรียญชีวิต11เหรียญ
ระดับ4
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว
พลังธาตุ ระดับ ขาว (0/100)
อาชีพ ไม่มี
อาชีพเสริม นักตัดแต่งยีน
ฉายา นายแห่งอสูรอเวจี (+5ทุกค่าสถานะ เพิ่มความแรงธาตุไฟ และ เพิ่มอัมพาตธาตุสายฟ้า 50%)
Strength(แรงกาย) : 13+8
Agility(ความว่องไว) : 12+8
Vitality(พละกำลัง) : 9+8
Stamina(ความทรหด) : 7/10+8
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 26/20+8
ทักษะ ไม่มี
สัตว์อสูรสงคราม
ซีฟอส(เจ้าดาบน้อย)
ยูทาห์แร็พเตอร์เพลิงอเวจี(ลูก) ระดับ3
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว
พลังธาตุ เพลิง ระดับขาว
Strength(แรงกาย) : 19
Agility(ความว่องไว) : 21
Vitality(พละกำลัง) : 35
Stamina(ความทรหด) : 20
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 7
ทักษะ
ด้วยสายเลือดแห่งนรกอเวจีทำให้ใช้เพลิงที่จากนรกได้(เพลิงแรงขึ้น75%)
พืชปรสิตดอกเถาโลหิต ระดับ2
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว
พลังธาตุ พืช โลหิต ระดับขาว
Strength(แรงกาย) : 1
Agility(ความว่องไว) : 1
Vitality(พละกำลัง) : 39
Stamina(ความทรหด) : 1
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 1
ทักษะ
+3ทุกสถานะของโฮสต์ และ โฮสต์สามารถเรียกเถาออกมาช่วยโจมตีหรือป้องกันได้โดยจะมีค่าสถานะทุกอย่างเท่ากับโฮสต์ ยกเว้นVitality ในขณะเดียวกัน เถาโลหิตต้องได้รับพลังงานทุกวันจากโฮสต์
แบ่งพลังธาตุพืชให้โฮสต์ใช้ชั่วขณะ ผ่านเถาวัลย์
ดูดเลือดหรือพลังงานมาฟื้นฟูให้โฮสต์
เลื่อนอีกระดับแล้วเบลซอมยิ้มออกมาเล็กน้อย
แน่นอนว่าการเลื่อนระดับจะเพิ่มค่าสถานะมา1แต้มโดยสุ่มตามความเหมาะสมเช่นถ้าคนที่มีสไตล์การต่อสู้เป็นความเร็ว ค่าสถานะส่วนใหญ่ก็จะไปลงที่Agility
แต่ว่าในกรณีของเบลซตอนนี้ค่า Spirituality ของเขามากจนเกินพอขนาดใช้เพลิงสายฟ้าไปมันก็ยังไม่ค่อยลด  มันเลยยังไม่ค่อยเพิ่มแต่ว่าค่าVitalityของเขาน้อยมากจนเป็นจุดอ่อนก็เลยเพิ่มขึ้นคละๆไปกับ StrengthและStaminaจากการที่ผมต้องใช้แรงสู้และเดินทางเป็นระยะเวลานาน
และเป็นความโกงของดอกเถาโลหิตที่พอเลเวลอัพก็จะอัพไปที่ค่าvitalityอย่างเดียวค่านี้ถ้ายิ่งสูงโครงสร้างร่างกายจะยิ่งแข็งแรงทำให้อึดและพลังป้องกันสูงขึ้นพอระดับสูงขึ้นเรื่อยๆจะยิ่งเห็นชัดไม่นานมันจะกลายเป็นอาวุธกันตายและชุดเกราะชั้นเลิศของเขา

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset