The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 15 ถึงมหาวิทยาลัยแล้วสิ

ตอนที่15 ถึงมหาวิทยาลัยแล้วสิ
หลังจากพัก5นาทีStaminaของเบลซก็กลับมาเต็มอีกครั้งด้วยการช่วยเหลือของเถาวัลย์โลหิตไม่งั้นคงต้องพักหลายสิบนาทีแน่
เบลซลุกขึ้นชำแหละหัวของพวกหนูกลายพันธ์เก็บคริสตัลสีขาวขุ่นได้อีก4ชิ้นรวมในถุงเก็บของแล้วมี8ชิ้น แน่นอนว่าขนาดของมันเล็กเขาเลยเก็บไว้กับตัวไม่ให้เปลืองช่องเก็บของ
ส่วนเจ้าดาบน้อยด้วยความที่เป็นสัตว์อสูรนอกจากStaminaจะลดช้าแล้วยังฟื้นเร็วอีกด้วยสมกับเป็นยูทาห์แร็พเตอร์ที่มีสายเลือดพิเศษจริงๆ
เบลซขี่เจ้าดาบน้อยไปมหาลัยต่อ
“ครึ่กครึก ครึ่กครึก ครึ่กครึก” เบลซมองทางรอบๆอย่างระมัดระวัง อีกประมาณ5กิโลเมตรก็จะถึงที่มหาวิทยาลัยแล้ว
5..
4…
3…
ตลอดทางแม้เบลซจะระวังตัวแต่ว่าก็ไม่เจอกับอันตรายใดๆเลย  เบลซก็แต่คิดว่ามันแปลกๆคนกระทั่งมาถึงที่มหาวิทยาลัย
“นรกเอ้ยยยยย!” เบลซอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างนี้ในใจ
 
แค่หน้ามหาลัยก็มีสัตว์อสูร20กว่าตัวแล้วเพราะว่าที่นี้คนเยอะแถมไม่มีบาเรียด้วยเลยดึงดูดสัตว์อสูรรอบๆมาเกือบหมด
“ไม่แปลกใจเลยที่สองสามกิโลเมตรก่อนไม่เจอกับสัตว์อสูรเลย” เบลซคิดในใจ
ในมหาลัยเต็มไปด้วยซากศพ เครื่องใน ชิ้นส่วนอวัยวะและบุปผาสีเลือดเกลื่อนกราดอยู่ทั่ว สัตว์อสูรต่างไล่ล่านักศึกษาอย่างโหดเหี้ยม และมีหลายตัวที่เริ่มพังเข้าไปในอาคาร ในขณะที่นักศึกษากำลังหนีตายอย่างสุดชีวิต
บ้างก็ปืนต้นไม้ ปีนเสาไฟฟ้า บ้างก็หนีเข้าไปในอาคาร
บ้างก็ผลักเพื่อนที่อยู่ข้างหน้าให้ล้มลงเป็นเหยื่อสัตว์อสูรให้ตัวเองมีเวลาวิ่งหนี
และส่วนใหญ่ก็ถูกสัตว์อสูรฆ่าและถูกกิน
“ใจเย็นๆไว้ ใจเย็นๆไว้” เบลซพยายามเรียกสติตัวเองกลับมาจากนั้นก็ขี่เจ้าดาบน้อยตรงไปที่หอพักนักศึกษาชาย
“เรย์ลิน จางมู่ ชิน หวังว่าจะยังปลอดภัยนะ” เบลซคิดในใจ
“จี๋ดดดด” หนูกลายพันธ์ตัวนึงทะยานเข้าหาเบลซ
“หลีกไป!” เบลซฟาดง้าวที่ท่วมไปด้วยเพลิงอัสนีเต็มแรง
“พุฟฟฟฟ” เลือดฟุ้งกระจายหนูกลายพันธ์ตัวนั้นตายในทันที
~อีกด้านหนึ่ง~
“บ้าชะมันทำไมมันแรงเยอะขนาดนี้เนี่ย” เอลลี่ที่เดินออกไปร้านสะดวกซื้อกำลัง
ใช้ดาบสู้กับหนูกลายพันธ์อย่างเหน็ดเหนื่อย เธอโจมตีมากกว่า 5-6 ครั้งก่อนที่เขาจะ สามารถที่จะตัดขาหน้าของมันออกขณะที่ถูกตัดออกมันก็ร้องออกมามาพร้อมกับหนูกลายพันธ์รอบข้างมีรุมเธออีกตัว กระจกบางๆถูกพุ่งกระแทกจนเกิดเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ที่สามารถพังลงมาทุกเมื่อและนักศึกษาบางคนที่เห็นเธอสามารถสู้กับพวกมันได้ก็กระเสือกกระสนเข้ามาหาเธอจากไกลๆโดยลากหนูกลายพันธ์ที่ไล่ฆ่าพวกเขามาด้วย
หลังจากที่แสงที่ทองนั้นหายไปซักพักนึงสัตว์ประหลาดพวกนี้ก็มาจากท่อระบายน้ำและเริ่มเข่นฆ่า ถึงแม้เอลลี่จะรีบกลับไปที่พักแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ชุลมุนวุ่นวายเป็นอย่างมากเลยทำได้แต่ตั้งรับอยู่ที่ร้ายสะดวกซื้อ
ด้วยความตกใจกลัวนักศึกษาคนอื่นรอบๆที่พยายามหนีไปเข้าอาคารแต่แรกก็โดนพวกหนูกลายพันธ์ไล่ฆ่าทำให้ภาระที่ตกมาถึงเธอน้อยลงไปในตัวแต่ว่าก็ไม่ตลอดไปและแรงของเธอก็ใกล้จะหมดแล้ว ฉากอันน่าสยดสยองและเสียงกรีดร้องโหยหวนจะความเจ็บปวดบั่นทอนกำลังใจของเธออย่างต่อเนื่อง
ผ่านไปนานๆเข้า
“ไอบ้าเบลซ ทำไมไม่บอกกันดีๆฮะ! ถ้าฉันตายขึ้นมานะฉันจะไปหลอกนายทุกวันเลย”
เอลลี่พูดด้วยความโมโหผสมกับความกลัวและสิ้นหวัง หยาดน้ำใส่ๆไหลออกมาจากหางตาของเธอ
~เขตหอพัก~
เบลซขี่เจ้าดาบน้อยโดยใช้ความเร็วสูงสุด ดิ่งจากหน้ามหาลัยมายังเขตหอพักแน่นอนว่าด้วยเสียงที่ดังพวกหนูกลายพันธ์จำนวนมากก็หันมามองแต่ว่าไม่ได้ไล่ล่า เพราะในสายตาของพวกมันที่นี่มีเหยื่อเยอะแยะและก่อนหน้านี้ผมก็ใช่ง้าวกรีนภาที่ท่วมไปด้วยเพลิงอัสนีบดขยี้หนูกลายพันธ์ตัวหนึ่งในการหวดครั้งเดียว ในเมื่อมีเหยื่อเยอะแยะและเขาก็สามารถฆ่าพวกมันได้อย่างง่ายดายทำไมพวกมันต้องไปเสี่ยงด้วย?
เบลซขี่โดยไล่เลขตึกไปเรื่อยๆ “พวกเรย์ลิน จางมู่ แล้วก็ ชิน อยู่ในหอปี1บล็อกที่2 เลขตึกถ้าจำไม่ผิด… 013สินะ”
เบลซมองไปรอบที่นี่ก็เหมือนข้างหน้ามหาวิทยาลัยชุลมุนวุ่นวายไปหมดแต่แล้วเขาก็กวาดตาไปที่ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไกลๆแห่งหนึ่ง ที่เขาสังเกตเห็นก็เพราะว่าตรงนั้นมีหนูกลายพันธ์รวมกันอยู่4-5ตัวและนักศึกษาที่โดนไล่ล่าอยู่พร้อมกับหนูกลายพันธ์ตัวอื่นที่อยู่รอบๆก็กำลังวิ่งไปทางนั้นด้วย จนกลายเป็นจุดเด่น
ตรงนั้นเขาเห็นเงาผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกรุมล้อม รูปร่างของเธอทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง
หญิงสาวที่มีผิวเรียบเนียนผมยาวสีดำนัยน์ตาสีฟ้าถือดาบในมือ
เห็นหญิงสาวเคลื่อนที่เหมือนลมกรด ดาบในมือของเธอทุกครั้งสีสะบัดฟาดฟันเหมือนจะกรีดอากาศออกเป็นสองซีกเพลงดาบที่สวยงามก่อให้เกิดเลือดของหนูกลายพันธ์สาดกระเซ็นไปทั่วแต่ว่ามันแค่สร้างบาดแผลให้กับมัน จำเป็นต้องฟันหลายทีถึงจะสามารถปลิดชีวิตของมันได้ข้างๆมีซากของหนูกลายพันธ์ที่ตายแล้วสองตัว
แต่ว่าก็โชคที่เธอมีการเคลื่อนไหวที่ดีไม่มีหนูกลายพันธ์ตัวใดสามารถสัมผัสสาวสวยคนนี้ได้เหมือนกับพวกมันแค่โจมตีอากาศไปเฉยๆ
เบลซมองไปที่หญิงสาวพร้อมกับทึ่งและรีบขี่เจ้าดาบน้อยไปช่วยหญิงสาว
“เป็นเธอไปได้ยังไง เอลลี่”

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset