The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 24 ต้องปั้มระดับแล้วสิ

ตอนที่24 ต้องปั้มระดับแล้วสิ
ขณะนี้อยู่ด้านบนของต้นไม้นักศึกษาไม่ทราบชื่อตะโกนเสียงดัง
เสียงตะโกนของเขาได้ดึงดูดหนูกลายพันธ์ทั้ง 20 ตัวทันทีพวกมันกระโจนมาทางเสียงของเขา
“ไม่รู้ว่าใครแต่ว่าขอบใจนะที่ล่อออกไปให้ขอโทษที่ด่าเมื่อกี้(ตอนที่แล้ว)ละกันนะ” เบลซพูดแล้วก็คิด “สถานการณ์เหมาะกับการเพิ่มระดับเราควรไปช่วยเขาดีไหมนะ?”
โดยด้านข้างนักศึกษาไม่ทราบชื่อมีอีกคนที่กำลังบ่น:
“อิฟฟรานายบ้ารึไง! ถึงได้ตะโกนเรียกพวกมันกลับมาหาเราอีกครั้ง?”
อิฟฟราจึงตอบไปว่า
“ฉันไม่ได้บ้า!มีฝูงหนูปีศาจจำนวนมากด้านล่างนี้ ถ้าไม่มีใครมาช่วยเหลือเรา เราสามารถที่จะอยู่ บนต้นไม้นี้ได้นานเท่าไหร่กันเชียว?แล้วนาย สามารถหลบหนีออกจากวงล้อมของพวกมันเหล่านี้ได้หรือไม่(TL. ว่าจะไม่แจมละแต่ฉลาดนะเนี่ยเรา)”
นักศึกษาอีกคนเงียบทันที ถึงพวกมันจะแข็งแกร่งกว่ามนุษย์มากแต่ความเร็วกลับพอๆกันแต่ว่ามีก็มีจำนวนมากเกินไปมีพวกมันอยู่ทั่วทุกที่ในมหาลัย
นี้ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนี แต่เรื่องที่น่ากลัวกว่านั้นคือถ้าคุณหยุดวิ่งเพียงเล็กน้อยจากมันหรือได้รับบาดเจ็บที่ส่งผลต่อความเร็วหรือเหนื่อย พวกคุณจะโดนมันรุมอย่างสยดสยองคือตายสถานเดียว
หลังจากที่หนูกลายพันธ์ 20 ตัว ได้แยกไปตามเสียงของอิฟฟรา ความมั่นใจทางฝั่งเบลซก็เพิ่มขึ้น
“ลุย!” เบลซให้สัญญาณ
เจ้าดาบน้อยวิ่งไปข้างหน้าจมเขี้ยวเข้าไปที่ลำคอของหนูกลายพันธ์ตัวหนึ่งและกระชากหัวหนูกลายพันธ์ตัวแรกส่งหัวมันบินไปบนอากาศ แล้วพ่นเพลิงสีม่วงเข้มกราดไป3-4 ตัวที่อยู่ข้าง
“เพลิงอัสนี!”
เบลซตามมาทางด้านหลังเจ้าดาบน้อยแล้วตวัดง้าวเนื่องจาก ระดับที่สูงถึง9และการโจมตีประสาน2ธาตุอันรุนแรงบวกกับฉายานายแห่งอสูรอเวจีที่เพิ่มความแรงธาตุไฟ สายฟ้าอีก หนูกลายพันธ์ทั่วไปที่มีระดับ1-5ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแล้ว ที่เขาไม่กล้าบุกทีแรกเพราะกลัวว่าเพื่อนจะได้รับบาดเจ็บมากกว่า
“เปรี๊ยะ! ฟูว! บรึมมมมม!” เพลิงอัสนีระเบิดลุกไหม้ไปตามรอยฟันสังหารพวกหนูกลายพันธ์ตายไปอีก7ตัว
“ฉับ ฉับ ฉับ” หลังจากเจ้าดาบน้อยและเบลซเปิดทางให้เอลลี่ก็เข้ามาต่อเธอรวมพลังธาตุลมไว้ที่คมดาบเมื่อฟันออกไปกระแสลมได้ฉีกออกกลายเป็นความคมกริบเฉือนขั้วหัวใจและหลอดลมของพวกมันไปอีก3ตัว
“พุฟฟฟฟ! พุฟฟฟฟฟ!” ชินก็ไม่น้อยหน้าเพราะเขาเคลื่อนที่ช้าหน่อยเลยมีหลังเอลลี่แต่ด้วยแรงมหาศาลเขา เขาหวดกระบองหนามศิลาที่มีออร่าเสริมจากธาตุดินออกไประเบิดหัวของหนูกลายพันธ์ตัวแรกก่อนที่จะแหว่งไปทุบหนูกลายพันธ์อีกตัวจนยุบ แล้วก็หวดกลับอีกครั้ง
การหวดเพียงสองครั้งของเขาสามารถฆ่าพวกมันได้ถึง4ตัว แม้แต่เบลซก็ยังแปลกใจว่าคนรูปร่างปกติๆแบบชินจะมีแรงเยอะขนาดนี้ (TL.แล้วที่มึงหละเบลซ)
การจะเลื่อนระดับใดๆ เพื่อที่จะได้รับค่าสถานะจะได้ก็ต่อเมื่อตัวเขาเองฆ่าสัตว์อสูรเขาจึงจะสามารถที่จะยกระดับและได้รับความแข็งแกร่ง แน่นอนว่าเบลซยังไม่ให้เพื่อนของเขาที่ยังไม่ได้ปลุกพลังมาร่วมด้วยเพราะถ้ายัง มันก็เท่ากับเปิดระบบไม่ได้และไม่ได้เพิ่มระดับ
หนูกลายพันธ์ที่รอดอยู่อีกตัวหลบหนีทันทีหลังจากที่เห็นเพื่อนอีก19ตัวถูกล้างบางภายในไม่กี่วิ
“ฉับ” เอลลี่อาศัยความเร็วของเธอกับความคุมพลังธาตุลมรอบๆตัวเองทำให้เร็วขึ้นอีกพุ่งตามไปและตัดหลอดลมของมัน
“นี้แหละพลังความน่ากลัวของกลุ่มที่พลังธาตุเยอะๆ ถ้าอีกฝ่ายมีแต่พวกไร้ธาตุก็สบายๆเลย เพราะพลังโจมตีต่างกับเกือบ2เท่า” เบลซทำท่าดีใจกำมือขึ้นมาแล้วทำท่าแบบ “Yes!”
“Amazing!”
อิฟฟราที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้เห็นเบลซและพรรคพวกทํางานร่วมกันเป็นทีมเพื่อฆ่าหนูกลายพันธ์ เขามองตามตาไม่กระพริบพร้อมกับยกย่องเบลซในใจ
หลังจากที่เก็บกวาดเรียบร้อยเบลซและพรรคพวกก็กลับมารวมตำแหน่งอีกครั้ง
ณ จุดนี้เหลือหนูกลายพันธ์ที่ตามเสียงมาจากบริเวณรอบๆอีก8ตัวเดินมาทางพวกเบลซ
ทั้ง 8 ตัวยังคงเคลื่อนที่ไปยังพวกเขาทั้ง6คนกับ1ตัว
“ลุยต่อนี้แหละโอกาสเก็บระดับชั้นยอด”
เบลซพูดด้วยความดีใจ
ทั้งกลุ่มวิ่งอย่างรวดเร็วก้าวไปข้างหน้า โดยใช้อาวุธของเขาโจมตีไปที่พวกมันอย่างรวดเร็ว เบลซและพรรคพวกอาศัยโอกาสนี้ปั้มระดับเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้เร็วที่สุด หลังจากที่จัดการเสร็จเบลซก็ให้ทุกคนเช็คค่าStaminaของตัวเองแน่นอนว่าเอลลี่กับชินที่พึ่งปลุกพลังมาแรงใกล้หมดแล้วโดยเฉพาะชินที่ใช้แรงเยอะและยังใช้Spiritaulityไปในการสร้างของพอมาสู้ต่อตอนนี้เลยเริ่มออกอาการมึนหัว แม้แต่เบลซก็ยังเหลือมากกว่าครึ่งเล็กน้อย เลยถอยออกมาตั้งการป้องกันที่ร้านสะดวกซื้อ
แน่นอนว่าในร้านยังเหลืออาหารและเครื่องดื่ม คนที่ไม่ได้สู้อย่าง จางมู่ เรย์ลินและแฟนของเขาเซลินก็ยังรู้งานหยิบกระเป๋าสะพายหลังที่พกมาก่อนออกจากหอ กวาดน้ำ อาหารแห้ง และ อาหารพลังงานสูงลงกระเป๋า ทันที
เบลซเรียกเถาโลหิตออกมาดูดเลือดจากแอ่งเลือดเพื่อฟื้นฟูเช่นเคยในเวลาเดียวกันก็เปิดขวดน้ำลิตรป้อนให้เจ้าดาบน้อย ในขณะที่เอลลี่ ชิน ก็นั่งพักดื่มน้ำอัดลม ช็อกโกแลตที่ให้พลังงานสูง
“สุดยอดมาก! ไม่คิดเลยว่ามหาวิทยาลัยของเรานอกจากเอลลี่ ชาล็อตเต้แล้วจะซ่อน คนที่แข็งแกร่งมากๆเยอะขนาดนี้ไว้โดยที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ!” อิฟฟราท่าทางยินดีเป็นอย่างมากนักศึกษาอีกสองคนที่อยู่บนต้นไม้ก็เช่นเดียวกัน
ติดตามตอนต่อไป

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset