The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 25 ต้องพักเบรกที่ร้านสะดวกซื้อที่เดิมแล้วสิ

ตอนที่25 ต้องพักเบรกที่ร้านสะดวกซื้อที่เดิมแล้วสิ
ไม่ต้องงงครับตอนนี้ฟรีค่าสถานะมันเเดกคำเยอะไม่ค่อยอยากขาย เเล้วก็วันนี้อาจจะลง26อีกตอนนะครับ เตเ่ไม่ได้หมายคามว่าผมจะลง2ตอนทุกวันนะเเค่ช่วงนี้ตอนดองมันเยอะเเละเเบ่งมาให้อ่านก่อน
 
อิฟฟรามองไปที่เบลซและพวกซึ่งได้ฆ่าหนูกลายพันธ์เหล่านั้นไปอย่างง่ายดาย อิฟฟราบนต้นไม้ถอนหายใจและคิดที่จะลงมาอย่างช้าๆพร้อมกับนักศึกษาอีกสองคนพยักหน้าเห็นด้วย
หลังจากที่กำจัดหนูกลายพันธ์ไปกลุ่มใหญ่ระดับของทุกคนก็เพิ่มขึ้น
ชื่อ เอลลี่ ชาล็อตเต้ เหรียญชีวิต5เหรียญ
ระดับ3
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว(0/100) พลังธาตุ
อาชีพ นักดาบฝึกหัด
อาชีพเสริม ไม่มี
ฉายา ไม่มี
Strength(แรงกาย) : 12
Agility(ความว่องไว) : 15
Vitality(พละกำลัง) : 10
Stamina(ความทรหด) : 11
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10
ทักษะ
โจมตีดาบจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น5%
 
ชื่อ ชิน ไททานอส เหรียญชีวิต6เหรียญ
ระดับ3
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว(0/100) พลังธาตุ
อาชีพ ไม่มี
อาชีพเสริม ไม่มี
ฉายา ไม่มี
Strength(แรงกาย) : 14
Agility(ความว่องไว) : 7
Vitality(พละกำลัง) : 12
Stamina(ความทรหด) : 12
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10
ทักษะ
ในดินมีแร่ธาตุที่พังมาจากหินและแร่(สารอนินทรีย์)อยู่45% ทักษะนี้สามารถทำให้ปริมาณหินแร่ในดินเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นศิลาได้! ใช้spirituality 4-5 แต้มต่อการสร้างหนึ่งครั้ง(ไม่เกิน20กิโลกรัมต่อครั้ง)
“แต่ว่าค่าสถานะของผมเนี่ยสิ” เบลซพึมพำในใจ
ชื่อ เบลซ แร็คน่าร์ เหรียญชีวิต69เหรียญ
ระดับ9
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว(5/100) พลังธาตุ
อาชีพ ไม่มี
อาชีพเสริม นักตัดแต่งยีน
ฉายา นายแห่งอสูรอเวจี (+5ทุกค่าสถานะ เพิ่มความแรงธาตุไฟ และ เพิ่มอัมพาตธาตุสายฟ้า 50%)
Strength(แรงกาย) : 15+8
Agility(ความว่องไว) : 13+8
Vitality(พละกำลัง) : 9+8
Stamina(ความทรหด) : 18/12+8
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 21/20+8
ทักษะ
ใช้พลังธาตุน้ำควบแน่นเป็นคมดาบแล้วซัดใส่ศัตรูใช่พลังจิตวิญญาณ(Spirituality) 1-4 แต้มตามขนาดและความแรงของทักษะ
สัตว์อสูรสงคราม
ซีฟอส(เจ้าดาบน้อย)
ยูทาห์แร็พเตอร์เพลิงอเวจี(ลูก) ระดับ9
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว
พลังธาตุ เพลิง ระดับขาว
Strength(แรงกาย) : 20
Agility(ความว่องไว) : 24
Vitality(พละกำลัง) : 36
Stamina(ความทรหด) : 20/22
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 6/7
ทักษะ
ด้วยสายเลือดแห่งนรกอเวจีทำให้ใช้เพลิงที่จากนรกได้(เพลิงแรงขึ้น75%)
พืชปรสิตดอกเถาโลหิต ระดับ6
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว
พลังธาตุ พืช โลหิต ระดับขาว
Strength(แรงกาย) : 1
Agility(ความว่องไว) : 1
Vitality(พละกำลัง) : 43
Stamina(ความทรหด) : 1
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 1
ทักษะ
+3ทุกสถานะของโฮสต์ และ โฮสต์สามารถเรียกเถาออกมาช่วยโจมตีหรือป้องกันได้โดยจะมีค่าสถานะทุกอย่างเท่ากับโฮสต์ ยกเว้นVitality ในขณะเดียวกัน เถาโลหิตต้องได้รับพลังงานทุกวันจากโฮสต์
แบ่งพลังธาตุพืชให้โฮสต์ใช้ชั่วขณะ ผ่านเถาวัลย์
ดูดเลือดหรือพลังงานมาฟื้นฟูให้โฮสต์และตัวเอง
สังเกตได้อย่างชัดเจน จากจำนวนที่เบลซฆ่าไปมากกว่าที่เอลลี่หรือชินถึงเกือบเท่าตัวแต่ว่าทั้งสองคนระดับเพิ่มมาสองแต่ว่าเบลซกลับไม่เลื่อนระดับเลยแต่จากความรู้สึกของเขา เขารู้ว่ามันขาดเพียงเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนไประดับ10
“ดูท่าการเก็บระดับจากสัตว์อสูรสีขาวระดับต่ำจะไม่ค่อยมีประโยชน์กับเราแล้ว ถ้าพัฒนาช้าแบบนี้ไม่ทันการวิวัฒนาการของสัตว์อสูรแน่” เบลซคิดในใจพลางเริ่มวางแผนต่อจากที่ยึดฐานแล้ว
ตอนนั้นเองนักศึกษาที่ปืนลงมาจากต้นไม้ก็มายังร้านสะดวกซื้อที่เบลซและพรรคพวกพักกันอยู่และเริ่มทักทาย
 
“สวัสดีครับผมอิฟฟรานักศึกษาชั้นปีที่2”
“ผมหยุนเฟยยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่2”
“ผมอิโนะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่3”
หยุนเฟยและอิโนะก็มาถึงด้านหน้าของเบลซและแนะนำตัวเอง
เบลซกล่าวขอบคุณอิฟฟรากล่าวว่า
“ผมเบลซขอขอบคุณสำหรับก่อนหน้านี้!”
ก่อนหน้านี้อิฟฟราได้ช่วยเบลซและพวกโดยการล่อพวกหนูกลายพันธ์ให้มาสนใจพวกเขาเอง  เบลซก็สามารถเอาชนะและได้เพิ่มระดับเพราะ หากเบลซเข้าไปทั้งแบบนั้นก็คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บของเพื่อนๆได้แน่ๆ เพราะตั้ง20ตัวเค้าและเพื่อนยังต้องทุมเทความสนใจไปที่มันไม่สามารถแบ่งมาดูแลเพื่อนที่ยังไม่ปลุกพลัง
“ทำไมถ่อมตัวอย่างนั้นอย่างนั้นฉันยังไม่ได้ขอบคุณสำหรับเรื่องที่ช่วยเราเลยนะ!”
อิฟฟราชี้ไปที่เจ้าดาบน้อย เถาโลหิตที่กำลังดูดเลือดอยู่และถาม
“เบลซคุณได้รับสิ่งนี้มายังไง? แล้วพลังพวกนั้นหละ”
หยุนเฟยและอิโนะยังมีท่าทางของความ อิจฉาที่มีต่อเบลซและพรรคพวกเพราะยูทาห์แร็พเตอร์ตามตัวเขาไปทุกที่อย่างกับลูกเจี๊ยบ พวกเขาเพียงแค่เห็นวิธีการโจมตีที่มีโคตรประสิทธิภาพของเจ้าดาบน้อยใช้โจมตีไม่ว่าจะกัด กระชาก กรงเล็บ เหยียบ พุ่งชน กระทืบ พ่นไฟ ฆ่าหนูกลายพันธ์ได้อย่างง่ายดายมันช่างน่าอิจฉาจริงๆที่มีสัตว์เลี้ยงแบบนี้อยู่ข้างกาย
“สถานที่นี้ไม่อาจคุยได้สะดวกเท่าไรนักเข้าไปคุยด้านในดีกว่าไหม!”
เบลซชี้ไปที่ร้านสะดวกซื้อและพูด กับทั้ง3คน
สัตว์อสูรที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับการจัดการโดยเบลซและเจ้าดาบน้อยตั้งแต่ขามา แต่ในมหาลัยเขากลัวว่าจะมีสัตว์อสูรมากว่า 3000 ตัวที่รวมอยู่ในมหาวิทยาลัย
พวกเขายังไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ ภายในบริเวณด้านนอกนี้
กลุ่มอิฟฟราทั้งสามคนพยักหน้าอย่างรวดเร็วตามเบลซเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ
เข้าสู่ร้านสะดวกซื้อหยุนเฟยเอาเบียร์ออกมาเปิด ฟองเบียร์ผุดขึ้นอย่างรุนแรง เขาถอนหายใจ ยาวๆพร้อมกับปล่อยตัวตามสบายแล้วพูดว่า
“อ้า!!!ในที่สุดก็รอดชีวิตมาได้ฉันหิวน้ำสุดๆเลยตอนนี้”
เบลซเหลือบมองไปที่หยุนเฟย เบลซมุ่ยหน้าเล็กน้อยเพราะมันก็ยังไม่ปลอดภัย นอกจากนี้เขาไม่ต้องการพูดคุยที่ไม่จำเป็นเขาไม่ต้องการที่จะทำให้เกิดเสียงแม้เพียงเล็กน้อย
แน่นอนว่ารวมถึงเพื่อนของเบลซด้วย หน้าของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะโดยเฉพาะเรย์ลิน

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset