The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 39 ได้รถบัสมาแล้วสิ

ตอนที่39 ได้รถบัสมาแล้วสิ
“ฟิว ฟิว ฟิว” เมื่อหนูกลายพันธ์กระโจนเข้ามาอีก6ตัว จางมู่ยิงศรปราณออกไปสามดอก ศรทั่งสามนั้นปักเข้ากลายศีรษะของพวกมันสามตัวตายทันที
“ฉัวะ พุฟ แครก” อีกสามตัวที่เหลือรอดนั้นถูกง้าวของเบลซฟัน กระบองศิลาของชินทุบและการกัดแบบกรามบดขยี่ของเจ้าดาบน้อย
เมื่อทั้งหมดวิ่งอีกไม่นานเมิ่งหยิงหยิงบังเอิญเหยียบ กรวดและลื่นล้มลงไปที่พื้น
“ช่วยฉันด้วย ช่วยฉัน! ฉันเจ็บข้อเท้าฮือๆ”
เมิ่งหยิงหยิงพยายามที่จะลุกขึ้นยืนขณะที่ร้องไห้เสียงดังอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ
เอมิเลียลังเลแล้วมองไปที่รินหญิงสาวทั้ง สองรีบเดินไปยังเมิ่งหยิงหยิงและช่วยเธอขึ้นทั้ง สามคนก้าวไปข้างหน้าด้วยความยากลำบาก
“ขอบคุณ! เอมิ ริน นี่รินฉันขอโทษนะที่ว่าเธอก่อนหน้านี้”
จมูกแดงน้ำตานอง ในช่วงเวลาของวิกฤตคุณสามารถรู้ว่าใครเป็นเพื่อนแท้
เมิ่งหยิงหยิงมีน้ำหนักเกือบ 45 กิโลกรัม เอมิเลียและรินช่วยพยุงเธอความเร็วทั้งสามคนไม่ได้ช้ามาก แต่หลังจากสี่สิบห้าสิบเมตรเมตรพวกเธอเหนื่อยและเริ่มหายใจติดขัด
“ผมอยู่นี่แล้ว! พวกคุณวิ่งตามข้างหน้าให้เร็วที่สุด!”
เบลซกลับมารับเมิ่งหยิงหยิงจากเอมิเลียและริน
“ระวังตัวด้วยหละ”
เอมิเลียและริน ถอนหายใจด้วยความโล่งอก มองไปที่เบลซจากนั้นทั้งสองคนก็วิ่งตามหลังเจ้าดาบน้อย ชินและตัวเบลซเองที่อยู่แถวหน้า
“ขึ้นบนหลังของฉัน!”
เบลซหลังเขาให้กับเธอเมิ่งหยิงหยิงปีนขึ้น ไปบนหลังของเค้าอย่างรวดเร็ว
เพียงแค่เมิ่งหยิงหยิงขึ้นด้านหลังของเบลซ เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาจมลงอย่างหนัก ถ้าพละกำลังของเขาไม่ได้รับการเพิ่มขึ้นหลายครั้งเมิ่งหยิงหยิงบนหลังของเขามันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างคล่องแคล่ว
“กอดให้แน่น ถ้าคุณตกลงไปผมไม่อาจช่วยคุณได้”
เสร็จสิ้นการบอกเบลซหายใจเข้าลึกๆ และวิ่งตรงไปยังทิศทางของรถบัสโรงเรียน
เมิ่งหยิงหยิงกอดเบลซแน่นกับด้านหลังทั้งใจดีและอบอุ่นเธอรู้สึกถึงความปลอดภัยในหัวใจของเธอ
“มันคงจะดีถ้าเขาเป็นแฟนของฉัน”(แอดเขินไปเขียนไปจริงๆนะเนี่ยY_Y)
กลุ่มของเบลซต่างระดมการโจมตีกวาดล้างถนนศพกระเจิงทุกที่ สมอง ครึ่งบน ครึ่งล่าง หัว ลำไส้ ขาหน้า ขาหลัง ฯลฯ กระจายไปทั่ว
ร่างกายของทุกคนได้รับการเสริมสร้างความเข้มแข็งหลายครั้งจากการเลื่อนระดับซักพัก พวกเขาก็เข้ามาภายในโรงรถของมหาวิทยาลัยมันค่อนข้างที่จะมืดเนื่องจากไม่มีไฟฟ้าทำให้หลอดไฟไม่ทำงาน
“แปลกจังเลยทำไมไม่มีหนูกลายพันธ์อยู่ที่นี่?” ชินถามขณะระวังไปรอบๆ
“โฮ่งงงงงงงง” แค่ได้ยินเสียงนี้ทุกคนก็รู้ได้ในทันที สุนัข!
“ระวังด้วยมีสัตว์อสูรประเภทสุนัขอยู่ในนี้” เบลซรีบส่งเสียงบอกเพื่อนๆให้จัดกลุ่มเข้าตำแหน่งอย่างรัดกุมเขาไม่อยากให้อยู่ดีๆมีหมาลอบกระโจนเข้าใส่เพื่อนของเขาแบบไม่ทันตั้งตัว
“โฮ่ง!” ตอนนั้นเองสุนัขสีดำตัวใหญ่สูงราว2เมตรตัวหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่า ขนของมันเป็นสีดำสนิทยกเว้นขนบริเวณหน้าท้องและหูที่เป็นสีเทาเข้มและดวงตาสีส้มสดที่ดูเรียบแต่ดุดันของมัน
“โกร๊วววววววว” ซีฟอสคำรามขู่ก่อนที่จะเตรียมใช้เพลิงอเวจี
“โฮ่ง! โฮ่ง! ฟุดฟิด ฟุดฟิด” สุนัขตัวนั้นเห่าขู่กลับมาก่อนที่จะเงยหน้าและดมกลิ่นบางอย่างสังเกตได้จากจมูกที่ขยับฟุดฟิดไปมา
“บ็อกๆ บ็อกๆ” ซักพักมันก็เห่าเหมือนหมาบ้านเจอเจ้าของกระโดดที่สองทีแล้วก็หันหน้าไปทางเรย์ลินที่กำลังหายตัวอยู่พลางกระดิกหาง “ดุ๊กดิ๊กๆ”
เรย์ลินยกเลิกการหายตัวก่อนที่จะมองด้วยความประหลาดใจ “แกได้กลิ่นฉันด้วยหรอ?”
“หงึกๆ” มันพยักหน้าตอบ
“สเกีย?”
“บ็อกๆๆ” หมา
“เป็นแกหรอเนี่ยเฮ้ย!” เรย์ลินพูดด้วยท่าทางตกใจ
“อะไร? เรย์ลินนี่หมานายหรอ?” เบลซถามด้วยท่าทางสาสัยคนอื่นๆก็เช่นกัน
“เออ คือว่าฉันชอบกินหมูย่างไม่หมดก็เลยเอามาให้หมาจรจัดแถวนี้แล้วก็เป็นมันที่มากินประจำหนะก็เลยตั้งชื่อเล่นๆ นายต้องเข้าใจนะว่าฉันไม่สะดวกจะเลี้ยงสัตว์”
“เรื่องนั้นชั่งมันสรุปว่าเราได้สัตว์อสูรสงครามอีกตัวแล้วแถมเป็นนายด้วย” เบลซพูดด้วยท่าทางดีใจ
“รู้งี้ฉันน่าจะลองเลี้งตัวอะไรดูบ้างนะเนี่ย” ชินพูดด้วยความอิจฉา
“มันเป็นของข้า” เรย์ลินพูดด้วยท่าทางโอ้อวด
“เรย์ลินลองเช็คสิจ๊ะ” เซลินกอนแขนแฟนของเธอก่อนจะเชียร์ให้เค้าลองดูหน้าจอระบบ
“อืมก็ได้ระบบ”
ชื่อ เรย์ลิน ยูบีวัท เหรียญชีวิต76เหรียญ
ระดับ8
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว(0/100) พลังธาตุ
อาชีพ ไม่มี
อาชีพเสริม ไม่มี
ฉายา ไม่มี
Strength(แรงกาย) : 16
Agility(ความว่องไว) : 20
Vitality(พละกำลัง) : 9
Stamina(ความทรหด) : 7
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 10
ทักษะ
การโจมตีจุดสำคัญจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น5%
สัตว์อสูรสงคราม
สเกีย
หมาป่าฝันร้าย ระดับ6
สิ่งมีชีวิตระดับ ขาว
พลังธาตุ มืด ระดับขาว
Strength(แรงกาย) : 16
Agility(ความว่องไว) : 20
Vitality(พละกำลัง) : 29
Stamina(ความทรหด) : 22/22
Spirituality(จิตวิญญาณ) : 9/9
ทักษะ
บิดเบือนแสงอย่างหนักหน่วงจนทำให้เป้าหมายตกอยู่ในภวังแห่งฝันร้าย ใช้Spiritualityตามความแข็งแกร่งระหว่างเจ้าตัวกับเป้าหมาย
“เยี่ยม!” เพื่อนๆต่างชมเชยและแสดงความยินดีกับเรย์ลิน
“เอาหละงั้นให้สเกียหายตัวคอยลอบจัดการช่วยเรย์ลินแล้วกัน” เบลซจัดตำแหน่งให้ก่อนที่จะมุ่งหน้าต่อไป
เนื่องจากก่อนหน้านี้ตรงนี้คงเป็นเขตของสเกียหรือไม่ก็มีสัตว์อสูรน้อยเลยทำให้พวกเขามาถึงรถบัสได้อย่างรวดเร็ว รถบัสที่เบลซจะใช้ก็คือรถบัสขนาดกลางรุ่นประหยัดพลังงานไฟฟ้าสองชั้น ชั้นที่หนึ่งมีห้องน้ำในตัวมี6ที่นั่งและโต๊ะ3ตัว ส่วนชั้นสองมี26ที่นั่งรวมที่นั่งคนขับอีกสอง รวมแล้ว34ที่นั่งพร้อมห้องน้ำ
หลังจากที่ได้ขึ้นมาบนรถบัส เบลซวางเมิ่งหยิงหยิงลงแล้วเอากุญแจโยนมันไปที่เอมิเลีย
“เตรียมขับออกไปให้พร้อมที่สุดฉันจะไปชาร์จไฟฟ้าและตรวจดูสภาพรถ!”
เมิ่งหยิงหยิงถูกวางลงจากด้านหลังของเบลซนั่งลงอย่างกะทันหัน ในหัวใจของเธอรู้สึกถึงการสูญเสีย เธอรู้สึกทั้งเศร้าที่ไม่ได้อยู่บนแผ่นหลังของเขาต่อและโล่งใจในเวลาเดียวกันอารมณ์ผู้หญิงเป็นอะไรที่แปรปวนจริงๆ
เบลซลงดูหน้าจอของรถบัสแน่นอนว่าเข็มแสดงจำนวนพลังงานนั้นเป็น0%
“ไปล่ะนะ”
เอมิเลียนั่งลงบนที่นั่งคนขับใส่กุญแจรถเตรียมตัวในทันที
“คุณสองคนดูแลเมิ่งหยิงหยิง”
เบลซมองที่รินและเซลินแล้วพูดขึ้น และเพื่อนๆที่เหลือกันนั่งกันเป็นคู่ๆตามลำดับ ส่วนเจ้าดาบน้อยและสเกียอยู่ชั้น1เนื่องจากพวกมันตัวใหญ่ชั้นล่างมีพื้นที่กว้างกว่าและเหมาะสมกว่าส่วนเหมียนเหมียนให้อยู่ชั้นสองแต่แน่นอนว่าจะไปชั้นหนึ่งก็ได้ จากนั้นเบลซก็ไปที่ชาร์จพลังงานข้างรถบัส พร้อมกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกจากการต่อสู้ที่ยาวนาน ความแข็งแกร่งของเขาลดลงไป 5 จุด เขาจะต้องยึดทุกนาทีเพื่อการพักผ่อนและการกู้คืนความรงกายของเขาเพื่อให้เขาสามารถรับมือกับการต่อสู้ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้
รินกับเซลินพยักหน้าและเดินไปหาเมิ่งหยิงหยิงส่วนคนอื่นๆที่ปลุกพลังแล้วก็คอยสอดส่องไปรอบๆ ใขณะที่อิฟฟราและอิโนะช่วยกันจัดเก็บสัมภาระและเสบียงต่างๆ
เอาไปสเกียมาดเข้ม

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset