The Great Geneticist in Apocalypse – ตอนที่ 46 เข้ายึดแล้วสิ

ตอนที่46 เข้ายึดแล้วสิ
 
“ครึก ครก ครึก ครก ครึก ครก” กลุ่มจู่โจมที่ประกอบด้วยเบลซ เรย์ลิน ซีฟอส สเกีย และ เหมียนเหมียนแยกตัวออกจากรถบัส
 
เบลซมองไกลๆรถบัสนั้นเปลี่ยนทิศทางไปตามแผนที่วางไว้ในขณะที่ฝูงกิ้งกาเอลลิเกเตอร์แม็กซิกันยักษ์ไล่ตามรถบัสอย่างกับหมาบ้า
 
“ตอนนี้แกนกลางฐานคงเหลือแค่หัวหน้าเขตกับลูกน้องไม่กี่ตัว” เบลซคิดในใจก่อนที่จะลอบเข้าไปใจกลางฐานกับกลุ่ม 
 
“นั้นไง” เบลซเห็นตัวที่เป็นหัวหน้าฝูงมันยังอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนกับลูกน้องอีกสองสามตัว
 
“ประเมิน”
 
“กิ้งก่าจรเข้แม็กซิกันคราม วารี (ขาว)ระดับ11”
 
“กิ้งก่าแมกไม้ขจี พืช>(ขาว)ระดับ12”
 
“กิ้งก่าจรเข้พสุธางดิน (ขาว)ระดับ13”
 
“อสูรกิ้งก่ารุกข์วารี(เขียวอ่อน)ระดับ10” (TL ทุกข์แปลว่าต้นไม้)
 
“ว่าแล้วจริงด้วยว่าหัวหน้าเขตที่พิทักษ์ฐานหนะต้องไม่ธรรมดาขนาดระดับสิบยังสามารถทําให้พวกสีขาวที่มีธาตุระดับสิบกว่ายอมจํานนได้ตั้งสามตัวถ้ารวมกับอีกสามตัวที่ไล่รถบัสอยู่ก็หกตัวแต่ว่ามันก็คงจะสบายๆสําหรับสีเขียวอ่อนหละนะ” เบลซส่ายหน้าก่อนจะตบหัวเจ้าดาบน้อยเบาๆ
 
“เอาหละเจ้าดาบน้อยนายจัดการกับลูกน้องตัวนึ่งเจ้าตัวสีเขียวนั้นนะ” เบลซชี้ไปทางกิ้งก่าธาตุพืช
 
“กรู้ววว”
 
“เรย์ลิน สเกีย เหมียนเหมียน ช่วยกันจัดการเจ้าตัวธาตุดิน ก็แล้วกัน หัวหน้าเขตกับอีกตัวเป็นของฉัน” เบลซพูดจากนั้นทุ กคนก็เข้าสู่โหมดต่อสู้
 
“วูบบบ วูบบบ วูบบบบ” เบลซวิ่งไปทางกิ้งก่าจรเข้แม็กซิกนครามธาตุน้ําด้วยความเร็วสูงก่อนที่จะเรียกเถาโลหิตออกมาทั้ง7เถาแล้วพุ่งเข้าใส่ทุกส่วนบนร่างกายของมันเหมือนกับหอกมรกตทั้ง7เล่ม
“ฉีก ฉีก ฉีก ฉีก ฉีก ฉีก ฉีก” เถาโลหิตพิษทั้ง7แทงใส่ร่างของมันอย่างไร้ปราณีทั้งหัว ลําตัว ขา หาง กิ้งก่าจรเข้แม็กซิกันครามตายทันทีแม้มันจะรู้ตัวว่าถูกโจมตีแต่ว่ามันไม่สามารถขยับตัวหลบตามความเร็วของเบลซทันและถูกโจมตีจังๆหลายที่โดยมันยังแทบจะไม่ได้ขยับตัวด้วยซ้ํา
 
จากนั้นเถาพิษโลหิตเถาหนึ่งที่แทงเข้าไปในหัวของมันก็ออกมาพร้อมกับคริสตัลน้ําและเลือดสีดําที่เสียจากพิษไหลออกมา
 
“ พุฟ พุฟ พุฟ พุฟ พุฟ พุฟ” เถาพิษโลหิตที่เหลือดึงกระชากออกมาตามเลือดสีแดงปนดําไหลออกมาเรื่อยๆ กลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้งไปทั่ว
 
“โฮก”
 
“โฮกกก”
 
“โฮกกกกกก!”
 
กิ้งก่าแมกไม้ขจี กิ้งก่าจรเข้พสุธา อสูรกิ้งก่ารุกข์วารี ที่เหลือต่างคํารามด้วยความโกรธเกรี้ยวก่อนที่จะพุ่งเข้าหาเบลซด้วยความเร็วสูง
 
“โกร็วววว โครม! โกรัวว!” ชีฟอสคํารามลั่นก่อนจะพุ่งชาร์จใส่ทิ้งก่าแมกไม้ขจี จนกิ้งก่ายักษ์สีเขียวกระเด็นออกไปแล้วซีฟอสก็คํารามลั่นเป็นการประกาศศักดาและคําท้าสู้ ของมัน
 
“โฮกกกก” ก้าก่าแมกไม้ขจีก็หันกลับมามันคํารามกลับและทั้งสองตัวเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้และวิ่งเข้าหากัน
 
อีกข้างหนึ่งในขณะเดียวกัน
 
“วูบบบ วูบบบบ ฉีบ ฉีบ” เรย์ลินและสเกียโผล่มาข้างๆ ก่าจรเข้พสุธา สเกียใช้กรงเล็บของมันเฉือนข้อเท้าหน้าข้างขวาไปได้ในขณะที่เรย์ลินปรากฏตัวออกมาทางด้านซ้าย มีเลาะกระดูกแทงเข้าไปยังเบ้าตาเลือดกระเฉาะออกมาเล็กน้อย 
 
“” เหมียนเหมียนตามมาด้านหลังลําแสงสีชมพูยิ่งไปที่โคนหางของมันส่วนหนึ่งกลายเป็นขนมปุยฝ้ายและถูกเหมียนเหมียนกระชากตัดออกมาจากลําตัวของมัน
 
“โฮกกกกกก” กิ้งก่าจรเข้พสุธาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดประสิทธิภาพในการต่อสู้ของมันลดลงเป็นอย่างมาก
 
“โฮกกกกกกกก” สุดท้ายอสูรกิ้งก่ารุกข์วารีเข้ามาถึงตัวเบลซได้และตะปบกรงเล็บใส่เต็มแรง
“แคร้ง” กรงเล็บปะทะเข้ากับเถาพิษโลหิตสองสามเถาการโจมตีของมันไม่สามารถทําอะไรเถาพิษโลหิตได้ “แคร้ง แคร้ง แคร้ง” ที่นี้เบลซเอาเถาพิษโลหิตสามเถาแทงไปยังหัวของมันปลายเถากระทบกับเกล็ดและกระเด้งออกไม่สามารถทําอะไรได้เหมือนกัน แต่ด้วยแรงปะทะทําให้เบลซกระเด็นถอยหลังไปประมาณ 5 เมตร
 
“ว่าแล้วจริงๆด้วย ระดับสีของเราตอนนี้เท่ากัน แต่ว่าแรงและพลังป้องกันจากเกล็ดของมันก็ยังมากกว่าเราอยู่ดี” เบลซคํานวนในใจเขาคงต้องโจมตีพลางหาจุดอ่อนของมันอย่างเช่น..ใต้ท้อง!
 
“แครก ฉีก” เถาพิษโลหิตเถาสุดท้ายเบลซเอาไปแอบไว้ใต้ดินและแทงขึ้นมาพิษกัดกร่อนซึมเข้าไปตามบาดแผลทันที
 
“โฮกกกกกก” อสูรกิ้งก่ารุกข์วารีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแม้ว่าแผลของมันจะตื่นแต่ว่าพิษกัดกร่อนนั้นลามไปบริเวณรอบๆและเริ่มลามไปยังส่วนอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียง
 
“ซึบ” เบลซเอาเถาฟิษโลหิตที่พึ่งโจมตีสําเร็จมาดูแวบนึงเขาเห็นว่ารอยเลือดที่ติดอยู่ที่ปลายเถามันแค่ราวๆคืบนึ่งเท่านั้น
 
“ใต้ท้องมันอะไรกันอยู่รึปล่าวเนี่ยทําไมแทงเข้าไปแค่นิดเดียวชักจะไม่ดีแล้วแฮะ” เบลซคิดถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปหมายความว่าเขาต้องใช้เวลานานมากค่อยๆใช้พิษกัดกร่อนที่ละนิดที่ละนิดเพราเขาไม่สามารถสร้างบาดแผลสาหัสให้มันได้ดูแล้วเขาเองมากกว่าที่จะหมดแรงก่อนล้มมันได้
 
ทางฝั่งรถบัส
 
“พวกมันมากันแล้ว” เพิ่งหยิ่งหยิงพูดด้วยความระทึกขณะที่เห็นกิ้งก่ายักษ์กลหลายสิบตัววิ่งไล่รถบัสที่เธอกําลังวิ่งอยู่ 
 
“ฟิวว” จางมู่ยิงลูกศรสีเขียวออกไปมันเคลือบด้วย ยาชาศรปราณที่คมกริบบวกกับความแม่นยําของจางม่ ศรปราณแทงเข้าไปตรงช่องว่างระหว่างเกล็ดตรงขาหน้าของมันพ
อดี
 
“ฉีก! โฮกกกกก” กิ้งก่าเอลลิเกเตอร์แม็กซิกันตัวนั้นคํารามด้วยความเจ็บปวดก่อนที่มันจะรู้สึกว่าขาหน้าที่โดนยิงมันเกร็งจนไม่สามารถขยับได้ มันเดินกระโผงกระเผกก่อนที่จะถูกทิ้งห่างจากกลุ่มไปในที่สุด
 
“ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก” กิ้งก่าเอลลิเกเตอร์แม็กซิก นตัวหนึ่งเร่งความเร็วขึ้นแล้วกระโจนเข้าใส่รถบัสกรงเล็บทั้งสองและฟันอันแหลมคมต่างก็เล็งไปที่ท้ายรถบัส
 
“แครก แครก แครก” แต่ก็ไม่สําเร็จเพราะรอบรถบัสเต็มไปด้วยเกราะหนามศิลาที่ชินสร้างเอาไว้ เกล็ดของมันเกิดรอยสีขาวและหนามศิลาที่ปริแตกบางส่วนจากการปะทะ
 
เรียกได้ว่าความแข็งของเกล็ดและศิลาของชินพอๆกัน 
 
“ฟิว ฟิว” ปราณศรเคลือบยาพิษที่ทําให้เป็นอัมพาตชั่วคราวสองดอกปักเข้าไประหว่างเกล็ดของมันก่อนที่จะขยับไม่ได้และถูกทิ้งจากกลุ่มไปอีกตัว
 
“ไฟร์เออร์บอล” เอมิเลียบังคับพวงมาลัยมือเดียวอีกมือสีขาวผ่องอีกข้างยื่นออกมาจากหน้าต่างรถบัสและเล็งไปที่กิ้งก่าแมกไม้ขจี
 
บอลเพลิงขนาดใหญ่เป็นสามเท่าของลูกบาสเก็ตบอลพุ่งไปทางหัวมันด้วยความเร็วปานกลางค่อนไปทางสูง
 
“ตูมมมม โฮกกกก!” แม้ว่ากิ้งก่าแมกไม้ขจีจะพยายามโยกหัวหลบแต่ก็ยังโดนระหว่างต้นขากับลําคออยู่ดี บอลเพลิงเผาไหม้เกล็ดสีเขียวใบไม้ของมันเป็นแผลสาหัสจนมันไม่สามารถไล่ตามต่อได้
 
“ พยายามเข้านะทุกคนต้องล่อมันจนกว่าพวกเบลซจะ ยึดฐานได้” จางม่พูดพลางยิ่งศรปราณไปอีกดอก
 
กลับมาด้านทีมจู่โจม
 
“โกรัววววว” ซีฟอสคํารามลั่นมันสู้กับกิ้งก่าแมกไม้ขจีมาซักพักนึงแล้วเนื่องจากอีกฝ่ายเป็นพลังธาตุพืชการโจมตีธาตุพืชของมันล้วนไม่มีผลเพราะซีฟอสใช้เพลิงอเวจีครอบทั้งตัวทุกการโจมตีที่เข้ามาต่างโดนเพลิงอเวจีสีม่วงเข้มแผดเผากลายเป็นเถ้าไปหมด เลยทําให้มันค่อนข้างได้เปรียบมันกรงเล็บที่ท่วมด้วยเพลิงอเวจีกระซวกเข้าไปสามารถทําลายการป้องกันของเกล็ดสร้างบาดแผลให้กิ้งก่าแมกไม้ขจีได้อยู่หลาครั้ง 
 
“โฮกกกกกกก” กิ้งก่าแมกไม้ขจีคํารามด้วยความเจ็บปวดครั้งนี้มันจะใช้การโจมตีแบบทุ่มพลังหมดตัวเพราะมันไม่สามารถทําอะไรซีฟอสได้เลย
 
ทางด้านเบลซและเรย์ลิน
 
โปรดติดตามตอนต่อไป ดูซีรีย์
 

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse

The Great Geneticist in Apocalypse เบลซ แร็คน่าร์ (Blaze Ragnar) เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่ฉลาดมากในโลกยุคปี3xxx เขาเป็นคนที่หลงใหลในโลกยุคโบราณตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ยันยุคเหล็ก ในชีวิตของเขามีความฝันอยากจะไปสัมผัสยุคเหล่านั้นด้วยตเอง แต่ด้วยวิทยาการปัจจุบันและด้วยความที่เขาเป็นหนึ่งในคนที่อัจฉริยะที่สุดในโลกเขารู้ได้ในทันทีว่าต่อให้เขารวบรวมอัจฉริยะระดับโลกมาทั้งหมดก็ไม่สามารถคิดค้นวิธีการย้อนเวลากลับไปหรือหามิติอื่นที่ยังอยู่ในยุคโบราณได้ก่อนที่เขาจะตาย แต่ด้วยความฝันของเขา อย่างน้อยๆเขาก็อยากจะลองที่จะขี่ไดโนเสาร์ เสือเขียวดาบ และก็ แมมมอธดูซักครั้ง เขาเลยตั้งหน้าตั้งตา เป็นนักบรรพชีวิตวิทยาเพื่อสร้างไดโนเสาร์ที่สูญพันธ์ไปแล้วขึ้นมาในยุคปัจจุบัน ซึ่งด้วยสมองระดับเขามันคงเป็นไปได้ใน 5-10 ปีแต่ในขณะที่เขากำลังหาตัวอย่างยีนในหน้าผาแห่งหนึ่งแต่เขากลับเผลอหยิบชิพประหลาดขึ้นมาหนะสิ แต่ว่ามันจะเป็นอย่างงั้นจริงๆรึปล่าวนะ? และแล้วการเข้าสู่ยุคมืดก็เริ่มขึ้น “พวกมนุษย์ปุถุชนตัวเล็กๆทั้งหลาย ข้าคือ อิกดราซิล! บัดนี้โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งพลังธาตุและวิวัฒนาการแล้ว จงต่อสู้! การต่อสู้ที่ ยากลำบากจะกลายเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์สำหรับพวกเจ้า จงเอาตัวรอดและวิวัฒนาการตัวเอง มีเพียงความแข็งแกร่งที่จะสามารถนำพาชีวิตพวกเจ้าให้อยู่รอด หากไม่แข็งแกร่งพอพวกเจ้าก็จงเป็นเหยื่อ ให้กับโลกที่โหดร้ายใบนี้ซะเถอะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset