The King of War – ตอนที่ 122 ใครอนุญาตกัน

ทุกคนต่างจ้องไปยังมือของหลิวข่ายตาไม่กะพริบ กลัวว่าจะพลาดฉากระทึกขวัญที่สุดนี้ไป

“ป้าบ!”

หลิวข่ายพลิกไพ่ลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง

“6!”

“คาดไม่ถึงเป็น‘6’จริงด้วย”

“นี่เป็นไปได้อย่างไร?”

ช่วงที่ทุกคนมองเห็นว่าเป็นเลข‘6’จริง ทั้งหมดตาค้างกันไป

ฉินซีกับซูซานทั้งสองสาวก็หน้าตาตื่นตะลึงเช่นกัน เดิมทีพวกเธอคือเด็กหัวกะทิ รู้เกี่ยวกับเรื่องความเป็นไปได้เป็นอย่างดี เรื่องของความเป็นไปได้แบบนี้ แทบจะไม่มีความสามารถเกิดขึ้นได้เลย

รอบแรก ไพ่ของหยางเฉินคือ‘4’ ของหลิวข่ายคือ‘3’

รอบที่สอง ไพ่ของหยางเฉินคือ‘5’ ของหลิวข่ายคือ‘4’

รอบที่สาม ไพ่ของหยางเฉินคือ‘6’ ของหลิวข่ายคือ‘5’

ถ้าเพียงแค่ครั้งสองครั้ง ยังมีความเป็นไปได้ว่าคือความบังเอิญ แต่ว่าเกิดสามครั้งติดกัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นหน้าไพ่ที่น้อยขนาดนี้ โดยเฉพาะห่างกันเพียงตำแหน่งเดียว ความเป็นไปได้แบบนี้ช่างน้อยเหลือเกิน เป็นไปได้อย่างไรกัน?

สิ่งสำคัญคือที่นี่คือเขตอิทธิพลของหลิวข่าย คนที่แจกไพ่ก็เป็นของเขาด้วย ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางเฉินนอกจากแตะต้องไพ่ของตนเองที่เจ้ามือการพนันแจกให้ ก็ไม่ได้แตะต้องไพ่ใบอื่นๆ อีกเลย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขานั่งอยู่ตรงนั้นมาตลอด แม้แต่แลกชิป ยังให้ฉินซีไปทำแทน

ดังนั้นพูดได้ว่าเดิมทีเขาไม่มีโอกาสโกงได้เลย ต่อให้โกง อย่างนั้นก็คงมีแค่เจ้ามือการพนัน

เรื่องนี้แปลกประหลาดเหลือเกิน ไม่มีใครเชื่อว่าจะเกิดเรื่องบังเอิญเช่นนี้ได้ เวลานี้สายตาของทุกคนตกอยู่ที่ตัวของเจ้ามือการพนันกันไม่ขยับ

ตอนที่เจ้ามือการพนันกำลังมองไพ่ของหลิวข่าย ยังตกใจมึนงงถึงที่สุด ทั่วทั้งตัวอ่อนยวบไร้เรี่ยวแรง

“ตุบ!”

เจ้ามือการพนันคุกเข่าลงแทบเท้าของหลิวข่ายโดยตรง พูดจาด้วยหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจ “พี่ข่าย ไม่ใช่ฉันนะ ไม่ใช่ฉันจริงๆ”

“ไม่ใช่เธอ? งั้นเรื่องที่มีความเป็นไปได้ต่ำขนาดนี้ เธอจะอธิบายให้ฉันฟังว่ายังไง?”

หลิวข่ายลุกขึ้นมาฉับพลัน หน้าตาโกรธเคืองเต็มที่ แต่ไหนแต่ไรเขายังไม่เคยโกรธมากเท่าวันนี้มาก่อน

“พี่ข่าย ฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะ”

เดิมทีเจ้ามือการพนันเป็นเพียงหญิงสาวที่สวยงามมากคนหนึ่ง ตกใจจนร้องไห้ขึ้นมาทันใด เครื่องสำอางบนหน้าโดนน้ำตาจนละลายแล้ว

“เถ้าแก่หลิว นี่คุณแพ้แล้วพาล?” หยางเฉินพูดขึ้นมาได้เวลาพอดีมาก

“แกแม่งหุบปากไปเลย!”

หลิวข่ายยื่นมือชี้หน้าหยางเฉิน “กล้ามาโกงอยู่ที่ถิ่นของฉัน แกนี่มันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อจริงๆ สินะ!”

“เถ้าแก่หลิว คุณพูดมาแบบนี้เกินไปหน่อยนะ สถานที่เป็นของคุณ คนที่แจกไพ่ก็เป็นของคุณ หลังจากที่ผมนั่งลงตรงนี้ เดิมทีไม่ได้ลุกออกจากที่นั่งเลย จะโกงได้ยังไงกัน?”

ถูกหลิวข่ายสงสัยว่าโกง หยางเฉินไม่โกรธทว่ากลับยิ้มแล้วพูดว่า “ซื้อลอตเตอรี่ ความเป็นไปได้ที่จะถูกรางวัลน้อยขนาดนั้น แทบจะทุกงวดก็ยังมีคนถูก ผมแค่ชนะคุณติดกันสามรอบ ทำไมถึงไม่ใช่ว่าดวงของผมดีล่ะ!”

“ในเมื่อแกบอกว่านี่คือดวง ฉันจะดูหน่อยสิ รอฉันเปลี่ยนคนแจกไพ่ ดวงแกจะดีขนาดนี้อยู่ได้หรือเปล่า!”

หลิวข่ายหาหลักฐานที่หยางเฉินและเจ้ามือการพนันร่วมมือกันโกงไม่เจอ จึงได้แต่เล่นต่อไป เขาพูดสั่งการลูกน้องด้านหลัง “เจ้าสาม นายมาแจกไพ่!”

เจ้าสามคือผู้จัดการที่รับผิดชอบธุรกิจกาสิโนชั้นบนสุด ถูกจัดให้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าได้รับความไว้วางใจจากหลิวข่ายมากทีเดียว

หยางเฉินหัวเราะแบบไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไร ถึงแม้เถ้าแก่หลิวจะมาแจกไพ่ด้วยตัวเอง ผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเหมือนกัน”

ท่าทางไม่สะทกสะท้านเช่นนี้ของเขา กลับทำให้หลิวข่ายกังวลอยู่บ้าง หรือจะบอกว่าเป็นความบังเอิญจริงเหรอ?

แน่นอนว่าความคิดแบบนี้เขาเพียงแค่คิดเล่นๆ ในใจเท่านั้น ย่อมจะไม่พูดออกมา

“สี่สิบล้าน!”

เหมือนกับก่อนหน้านี้ หยางเฉินยังคงวางเงินเดิมพันทั้งหมดจากชิปที่ชนะมา หลิวข่ายก็ลงไปสี่สิบล้านเช่นกัน

มองชิปวางอยู่เต็มโต๊ะ ลูกน้องของหลิวข่ายที่มุงดูเหล่านั้นพากันดวงตาแดงโร่ นั่นคือเงินแปดสิบล้านเลยนะ

เจ้าสามแกะไพ่โป๊กเกอร์ใหม่สำรับหนึ่งที่ยังไม่ได้เปิด จากนั้นเริ่มสับไพ่

นิ้วมือของเขาทั้งเรียวทั้งยาว มีชีวิตชีวามาก วิธีการสับไพ่พลิกแพลงลื่นไหลมาก

หากเขาไม่พอมีความสามารถอยู่บ้าง เป็นไปได้อย่างไรที่หลิวข่ายจะส่งมาเป็นผู้รับผิดชอบชั้นบนสุดได้?

การกระทำเล็กน้อยบางอย่างของเขาถูกหยางเฉินมองเห็นทั้งหมด เพียงแค่ไม่ได้พูดอะไรออกไปเท่านั้นเอง

แม้แต่กระทั่งเจ้าสามเองยังไม่รู้ ตอนที่เขาสับไพ่อยู่นั้น มือทั้งคู่ของหยางเฉินที่วางใต้โต๊ะมาตลอด ทันใดนั้นงอนิ้วมือหนึ่งลง เศษไม้เล็กกระจิดริดชิ้นหนึ่งลอยไป

“พึ่บ!”

ในเวลานี้เอง เจ้าสามหยุดสับไพ่ลง มองหยางเฉินแบบหยอกเย้าพลางพูดว่า “ต้องการสลับไพ่มั้ย?”

หยางเฉินเอ่ยเรียบนิ่ง “แจกมาเลยเถอะ!”

สายตาของหลิวข่ายจ้องที่หยางเฉินมาตั้งแต่แรก เหมือนกังวลว่าเขาจะซ่อนไพ่ หรือว่ามีการกระทำอะไรอย่างอื่น

ที่ทำให้เขาผิดหวังคือนอกจากตอนที่เจ้าสามแจกไพ่ ช่วงเวลาอื่นนั้น มือทั้งคู่ของหยางเฉินยังคงวางอยู่บนโต๊ะ เดิมทีไม่อาจจะซ่อนไพ่ได้

วินาทีแรกที่หลิวข่ายหยิบไพ่ของตนเองขึ้นมา หลังจากเขาดูไพ่ ในที่สุดโล่งไปทีหนึ่ง

“ป้าบ!”

เขาตบไพ่แจ็คใบหนึ่งลงบนโต๊ะโดยตรง พูดด้วยหน้าตายิ้มเยาะ “รอบนี้ ฉันดูว่าแกจะชนะยังไง?”

“นังแพศยาคนนี้ ที่แท้เธอสมรู้ร่วมคิดกับไอ้หนุ่มคนนั้น คาดไม่ถึงกล้ามาโกงต่อหน้าพี่ข่าย!”

“ฉันบอกแล้ว สามครั้งติดกัน จะบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง?”

“ตอนนี้ถึงรู้ว่านังแพศยาคนนี้กับไอ้หนุ่มคนนั้นเป็นพวกเดียวกัน!”

……

หยางเฉินยังไม่ได้พลิกไพ่กลับ ลูกน้องของหลิวข่ายก็คิดว่าหยางเฉินต้องแพ้แล้ว แต่ละคนโมโหต่อว่าเจ้ามือการพนันที่แจกไพ่ก่อนหน้านี้ขึ้นมาแล้ว

หน้าตาของเจ้ามือการพนันเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว ขอความเมตตาไม่หยุด บอกว่าหล่อนไม่รู้จักหยางเฉิน

“ไอ้หนุ่ม เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้แม้แต่พลิกไพ่กลับยังไม่กล้าเลยหรือไง? กล้ามาโกงที่ถิ่นของฉัน ไม่ว่าแกเป็นใคร ฉันจะไม่ปล่อยไปแน่” หลิวข่ายพูดแบบหน้าตาก้าวร้าว

หยางเฉินหัวเราะเบาๆ “เถ้าแก่หลิว ผมยังยืนยันคำนั้นอยู่ ผมไม่ได้ต้องการให้คุณยอมแพ้ ขอเพียงให้ผมพาผู้หญิงคนนี้ไป เงินที่ชนะมาเมื่อกี้ ผมจะไม่รับสักแดงเดียว”

“แม่งเอ๊ย อยากไป? ไม่มีทาง! เปิดไพ่ของแกออกมาดีกว่า!” หลิวข่ายด่าทอ

หยางเฉินส่ายหน้าด้วยความจำใจ “อยากไว้หน้าคุณสักหน่อย แต่คุณกลับไม่เอา งั้นผมคงทำได้เพียงชนะต่อไปแล้วนะ!”

ทันทีที่พูดจบ เขาพลิกไพ่ของตนเองกลับมาแล้ว

เห็นเพียงไพ่คิงสีสดใบหนึ่งปรากฏขึ้น มองเห็นเหตุการณ์ฉากนี้ ทุกคนต่างเบิกดวงตาโต

ครั้งนี้ ยังเป็นความบังเอิญจริงเหรอ?

เริ่มตั้งแต่รอบแรก นี่คือรอบที่สี่ ติดต่อกันมาสี่รอบ ล้วนเป็นหยางเฉินที่ชนะทั้งหมด แต่ละครั้งจะมากกว่าไพ่ของหลิวข่ายจำนวนหนึ่ง

ชิปจำนวนแปดสิบล้านบนโต๊ะ นอกจากห้าล้านของหยางเฉินที่เดิมพันไว้เริ่มแรก นอกนั้นเป็นที่หลิวข่ายแพ้ให้เขาหมดเลย

“เถ้าแก่หลิว เหมือนว่าดวงผมยังไม่เลวนะ วันนี้น่าจะไปซื้อลอตเตอรี่ดู ไม่แน่อาจจะถูกรางวัลใหญ่ก็ได้”

เสียงของหยางเฉินดังขึ้นฉับพลัน ขัดจังหวะทุกคนที่ตกอยู่ท่ามกลางความตื่นตกใจ

สีหน้าหลิวข่ายก็อึมครึมลงมาขั้นสุด

“พี่ข่าย ไม่ใช่ผม เจ้าหนุ่มนี่มีอะไรผิดปกติ”

เจ้าสามทำหน้าตกใจกลัวเช่นกัน ขณะเดียวกันในใจตื่นตระหนกแบบขั้นสุด จนกระทั่งเวลานี้ เขาเพิ่งรู้สึกตัว และไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้ามือการพนันหลอกหลิวข่าย แต่เป็นปัญหาของหยางเฉิน

หลิวข่ายย่อมระลึกได้ถึงจุดนี้เช่นกัน เพียงแค่เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าทั้งที่หยางเฉินไม่ได้แตะไพ่เลย ทุกอย่างนี้ทำได้อย่างไรกัน?

“เถ้าแก่หลิว เล่นต่อไหม?”

หยางเฉินหัวเราะนิ่งๆ “แปดสิบล้าน ลงไปทั้งหมดเลย!”

“ถ้าเล่นต่อไปอีก เกรงว่าแม้แต่กางเกงในฉันน่าจะต้องแพ้ไปจริงๆ แน่”

หลิวข่ายส่ายหน้า จุดซิการ์ให้ตนเองแท่งหนึ่ง ค่อยๆ พ่นควันออกมา พูดจาด้วยหน้าตาที่สงบนิ่ง “ฉันยอมแพ้! ผู้หญิงสองคนนี้ นายอยากได้ งั้นก็เป็นของนาย”

ลูกน้องของเขาได้ยิน ต่างทำท่าทางอึ้งทึ่ง คาดไม่ถึงว่าหลิวข่ายจะยอมแพ้แล้ว สายตาของทุกคนต่างตกอยู่บนตัวของหยางเฉิน

ชายหนุ่มที่ใส่หน้ากากไว้คนนี้ สรุปเป็นใครกันแน่?

ซูซานมองหยางเฉินด้วยหน้าตาซับซ้อน เริ่มแรก หล่อนไม่ชอบผู้ชายที่ชนะจะพาตัวเพื่อนรักหล่อนไปเอามากๆ

หลังจากที่ผู้ชายคนนี้ใช้ประโยชน์ที่น้อยนิดเอาชนะหลิวข่ายไปได้แต่ละครั้ง ความรู้สึกไม่ชอบของหล่อนหายไปในที่สุด เหลือเพียงความสงสัย ความสงสัยที่มีต่อผู้ชายลึกลับคนนี้

ฉินซีโล่งอกไปทีหนึ่ง ในที่สุดก็สิ้นสุดแล้ว เธอเพียงอยากรีบออกไปจากที่นี่

หยางเฉินค่อยๆ ลุกขึ้นมา “งั้นขอบคุณมากครับ เกมการพนันเมื่อสักครู่แค่ล้อเล่น ผมไม่รับสักแดงเดียว สำหรับห้าล้านที่ผมวางเดิมพัน เอาเป็นค่าขอโทษให้เถ้าแก่หลิวแล้วกัน”

พูดจบแล้ว เขาดึงฉินซีไว้อยากออกไป

“ฉันให้แกออกไปแล้วเหรอ?”

เสียงของหลิวข่ายดังขึ้นมากะทันหันที่ด้านหลังของหยางเฉิน

หยางเฉินหมุนตัว มองเห็นหลิวข่ายถือปืนColt Pistolกระบอกนั้นขึ้น ปากกระบอกปืนที่ดำมืดกำลังเล็งที่ศีรษะของหยางเฉินพอดี

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset