The King of War – ตอนที่ 357 ลูกชายที่โง่เง่า

เวลานี้ หยางเฉินได้รับโทรศัพท์ของกวนเจิ้งซานและเฉินซิงไห่ที่โทรเข้ามาหา เล่าจุดประสงค์ที่หานเยี่ยนโทรศัพท์หาพวกเขาให้หยางเฉินฟังทั้งหมดแล้ว

หยางเฉินเพียงแค่ตอบมานิ่งๆ “ผมรู้แล้ว!”

“เฟยเฟย ฉันจะไปเยี่ยมเจ้าบ้านหานสักหน่อยนะ จากนั้นก็จะกลับเลย”

หยางเฉินเดินมาถึงข้างกายหานเฟยเฟย พูดจาแบบยิ้มแย้ม

“อ่า? ไวขนาดนี้ก็จะกลับแล้วเหรอคะ? ตอนค่ำยังมีกิจกรรมอีกนะคะ!”

เห็นหยางเฉินจะไปแล้ว หานเฟยเฟยจึงทำหน้าอาลัยอาวรณ์

หยางเฉินหัวเราะนิดหน่อย “กิจกรรมอื่นๆ ฉันคงไม่เข้าร่วมแล้ว”

ถึงแม้ว่าหานเฟยเฟยจะไม่ยินยอมเท่าไร แต่ยังรู้ดีว่าระหว่างตนเองและหยางเฉิน เดิมทีไม่มีความหวังใดๆ เธอจึงไม่ฝืนขอร้องอีก

หลังจากตามคนที่หานเฟยเฟยส่งมา ใช้เวลาเพียงห้านาทีก็มาถึงในบ้านเล็กของคฤหาสน์แยกเดี่ยวหลังหนึ่งแล้ว

นี่คือส่วนหลบมุมเล็กๆ ที่ธรรมดามากแห่งหนึ่ง รอบด้านของตัวบ้าน คาดไม่ถึงว่าปลูกพืชผักไว้ส่วนหนึ่ง

ตอนที่หยางเฉินเดินมาถึงบ้านน้อย หานเซี่ยวเทียนกำลังถือพลั่วเหล็กอันหนึ่ง ขุดแปลงผักอยู่

“เจ้าบ้านหาน!”

หยางเฉินเอ่ยปากกะทันหัน

“หยางเฉิน?”

มองเห็นหยางเฉิน หานเซี่ยวเทียนแปลกใจอยู่บ้าง

หยางเฉินหัวเราะแล้วเดินเข้ามา “วันนี้มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของเฟยเฟย เลยถือโอกาสมาเยี่ยมท่านสักหน่อยครับ”

“ฮ่าๆ หยางเฉินมีน้ำใจจริงๆ!”

หานเซี่ยวเทียนหัวเราะชัดแจ๋ว “หยางเฉิน นายรอก่อนนะ ฉันขอขุดมันเทศสักหน่อย เดี๋ยวจะทำมันเทศเผาให้นายกิน”

ที่แท้เขากำลังขุดมันเทศอยู่ ทันใดนั้นหยางเฉินอิจฉาวิถีชีวิตของหานเซี่ยวเทียนอยู่บ้าง

เขากำลังคิดมาทันใด ถ้ารอให้ตนเองแก่แล้ว จะสามารถหาสถานที่เล็กๆ บรรยากาศสงบสักแห่งได้หรือไม่ ซื้อที่ดินการเกษตรใหญ่ๆ สักผืน สร้างคฤหาสน์เล็กๆ สองชั้นหลังหนึ่ง หน้าบ้านและสวนหลังบ้าน ล้วนปลูกพืชผักและผลไม้ที่ฉินซีและเสี้ยวเสี้ยวชอบกินเอาไว้ให้หมด

ไม่นานหานเซี่ยวเทียนก็หิ้วตะกร้าผักใบหนึ่งเข้ามา บนหน้าเผยรอยยิ้มที่มีความสุขออกมา “พืชผักของที่นี่ ล้วนเป็นฉันปลูกด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่ได้ใส่ยาฆ่าแมลงสักนิด เป็นผักสีเขียวธรรมชาติ”

“ชีวิตของเจ้าบ้านหาน ยังเป็นชีวิตในอุดมคติจริงๆ นะครับ!”

หยางเฉินหัวเราะพลางพูดขึ้น จากนั้นยื่นมือไปช่วยหานเซี่ยวเทียนหิ้วตะกร้าผักเข้าไปในบ้าน

หานเซี่ยวเทียนในฐานะผู้นำของตระกูล กลับไม่มีการวางมาดสักนิด

คฤหาสน์หลังน้อยสองชั้นที่เขาพักอาศัยก็ดูธรรมดาอย่างมาก ภายในบ้านตกแต่งแบบจีนแสนเรียบง่าย ผนังคือทาด้วยสีอิมัลชั่นที่จืดชืดมากเช่นกัน

“หยางเฉิน นายนั่งก่อนสิ ฉันจะไปเผามันเทศ เดี๋ยวก็สุก!”

หลังหานเซี่ยวเทียนจัดแจงให้หยางเฉินนั่งลง ก็ถือมันเทศไปในห้องครัวแล้ว

ในขณะเดียวกัน คฤหาสน์ตระกูลหาน ในบ้านเดี่ยวหลังหนึ่ง

หานเยี่ยนพึ่งกลับมาถึงที่บ้าน คนคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาแล้ว “ประธานหานครับ เจ้าหมอนั่นไม่ได้ออกไปจากคฤหาสน์ครับ แต่ว่าไปที่เซียงซีหยวนครับ!”

เซียงซีหยวนคือบ้านเล็กที่หานเซี่ยวเทียนพักอาศัย

หานเยี่ยนรีบลุกขึ้นมาทันที ก่อนจะตะโกนว่า “มันไปที่บ้านคุณพ่อฉันทางนั้นแล้ว? สารเลว เห็นว่าฉันไม่ได้สั่งสอนมันไปสักหน่อย ก็มากำเริบเสิบสานที่ตระกูลหานของฉันได้แล้วเหรอ?”

ก่อนหน้านี้ถูกกวนเจิ้งซานและเฉินซิงไห่ตัดสายโทรศัพท์ไป เดิมทียังโกรธเคืองมากอยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าหยางเฉินไม่เพียงไม่ได้เชื่อฟังคำพูดของตนเอง ทว่าไปหาหานเซี่ยวเทียนแล้ว

“ไปที่เซียงซีหยวนกับฉันสักเที่ยว! ฉันอยากจะดูหน่อยสิ รอฉันอยู่ต่อหน้าคุณพ่อ เปิดโปงเนื้อแท้ของแกแล้ว คุณพ่อฉันยังจะเกรงใจแกอยู่ขนาดนี้ไหม?”

ระหว่างที่พูด หานเยี่ยนก็ออกไปจากคฤหาสน์แล้ว

คู่ชีวิตของหานเซี่ยวเทียนเสียไปตั้งนานแล้ว หลายปีมานี้ เขาพักอยู่คนเดียวมาโดยตลอด

ถึงแม้จะไม่ได้มอบหมายอำนาจให้หานเยี่ยนถึงที่สุด แต่เรื่องราวของตระกูล โดยพื้นฐานมอบให้หานเยี่ยนและภรรยาของเขาถงเจินจัดการทั้งหมด

เพียงแค่เรื่องที่สำคัญ จำเป็นต้องรายงานต่อเขา

ในช่วงปกติ หานเซี่ยวเทียนจะอยู่ที่เซียงซีหยวนของตนเอง ปลูกพืชผักผลไม้ไป วันเวลาช่างมีความรู้สึกสุขใจอย่างมาก

“มันเทศเผาเรียบร้อยแล้ว ขอแค่ยี่สิบนาที ก็สามารถกินได้แล้ว”

ไม่นานหานเซี่ยวเทียนเดินออกมาจากห้องครัว ยิ้มบอกไป

หยางเฉินหัวเราะพูดว่า “นึกไม่ถึงเลยนะครับว่าผมจะโชคดีได้ชิมฝีมือของเจ้าบ้านหาน ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปแล้วล่ะก็ เกรงว่าผู้คนมากมายคงอิจฉาผมแย่แน่!”

“ฮ่าๆ!”

หานเซี่ยวเทียนหัวเราะเสียงดังขึ้นมา ช่วยเทน้ำชาให้หยางเฉินแก้วหนึ่ง นี่ถึงได้ถามว่า “ทำไมนายถึงคิดมาเยี่ยมฉันกะทันหันได้ล่ะ?”

“นี่ไม่ได้เป็นวันเกิดเฟยเฟยเหรอครับ เป็นครั้งแรกที่ผมมาตระกูลหาน ไม่ว่าอย่างไรก็ควรจะมาเยี่ยมเยือนท่านเจ้าบ้านหานสักหน่อย!” หยางเฉินหัวเราะตอบไป

“ใช่แล้วครับ นี่คือของขวัญที่ผมเตรียมมาให้ท่านครับ”

หยางเฉินหยิบกล่องเล็กที่งดงามใบหนึ่งออกมา บนกล่องยังมี“เมืองเทียนฝู่”สามคำนี้ประทับอยู่

หานเซี่ยวเทียนเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง รับของขวัญมาด้วยความดีใจอย่างมาก แกะกล่องของขวัญออกต่อหน้าหยางเฉินเลย

เห็นเพียงกำไลมุกเทียนบัวที่เรียบง่ายแบบโบราณชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นในกล่องของขวัญ

“นี่คือ กำไลมุกเทียนบัว?”

หานเซี่ยวเทียนหายใจแบบเร่งถี่อยู่บ้าง พูดจาด้วยหน้าตาตื่นเต้นเต็มที่ “เฉินซิงไห่ตาแก่คนนั้น ครั้งก่อนที่ไปเมืองเทียนฝู่ ฉันสนใจกำไลมุกเทียนบัวอันนี้แล้ว ฉันเสนอราคาไปห้าสิบล้าน เขากลับไม่ยอมขาย บอกว่านี่คือกำไลมุกเทียนบัวเพียงหนึ่งเดียวของเมืองเทียนฝู่ แค่แสดงโชว์ไม่ขาย”

“นึกไม่ถึงว่าตอนนี้ถูกนายซื้อส่งมาให้ฉันแล้ว ถ้าเฉินซิงไห่ตาแก่คนนั้นรู้เข้าว่านายเป็นคนซื้อมาให้ฉัน ต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่ ฮ่าๆๆๆ!”

หานเซี่ยวเทียนหัวเราะขึ้นมายกใหญ่

หานเซี่ยวเทียนกับเฉินซิงไห่สองคนนี้ เดิมทีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และมีงานอดิเรกที่เหมือนกัน แถมยังมีความสัมพันธ์ขั้นนี้กับหยางเฉินอีกด้วย หลังจากงานที่เมืองโจวเฉิงครั้งก่อน ทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้ว

หยางเฉินนึกไม่ถึงเช่นกันว่ากำไลมุกเทียนบัวชิ้นนี้ หานเซี่ยวเทียนอยากจะซื้อมาตั้งนานแล้ว ยิ่งนึกไม่ถึงว่าเฉินซิงไห่ไม่ยินยอมขาย

“เจ้าบ้านหานชอบก็ดีเลยครับ!” หยางเฉินหัวเราะบอก

หานเซี่ยวเทียนไม่ปฏิเสธน้ำใจ รับของขวัญเอาไว้ทันที ถือไว้ในมือ ท่าทางชอบจนวางไม่ลงทีเดียว

เวลานี้ กลิ่นหอมที่เข้มข้นอย่างมากกลิ่นหนึ่งลอยเข้ามาแล้ว หานเซี่ยวเทียนถึงได้เก็บกำไลมุกเทียนบัวลงไปด้วยความระมัดระวัง ยิ้มบอกว่า “ถึงเวลาแล้ว มันเทศเผาออกจากเตาได้แล้ว!”

ไม่นานหานเซี่ยวเทียนจึงยกมันเผาเข้ามา ด้านในยังมีมันเทศเผาหลายลูก

“นายลองชิมดู รสชาติเป็นยังไงบ้าง?”

หานเซี่ยวเทียนเป่าไอร้อนบนมันเทศอยู่ สองมือสลับไปมาไม่หยุดหยิบมันเทศลูกหนึ่งส่งให้หยางเฉินไป “ร้อนเหลือเกิน นายระวังหน่อยนะ!”

หยางเฉินปอกเปลือกมันเทศที่ไหม้นิดหน่อยออก ชั่วขณะนั้นกลิ่นหอมกรุ่นของมันเทศที่เข้มข้นก็โชยเข้าจมูกมาเต็มที่

“ดูแค่สีสันนี้ ก็รู้ว่ามันเทศนี่รสชาติต้องเยี่ยมมากแน่ครับ!”

หยางเฉินหัวเราะอยู่พลางพูดขึ้น จากนั้นกัดเข้าไปเบาๆ คำหนึ่ง

พอกัดไปคำหนึ่ง ในปากเต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวานของมันเทศ หยางเฉินสูดกลิ่นไปด้วยพลางเคี้ยวไปด้วย “อืม หอม!”

“ฮ่าๆ อร่อยก็ดี!”

ผลลัพธ์การทำงานของตนเองได้รับคำชมแล้ว หานเซี่ยวเทียนรู้สึกหอมหวานยิ่งกว่ามันเทศที่ตนเองกินเสียอีก

ตอนที่ทั้งสองกำลังกินมันเทศเผาอยู่ ประตูของคฤหาสน์ถูกเคาะดังกะทันหัน

“เข้ามา!”

หานเซี่ยวเทียนตะโกนไปทีหนึ่ง

ตามมาด้วยประตูคฤหาสน์ถูกเปิดออก ภาพคนที่คุ้นเคยคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู

“แกมาได้ยังไงกัน?”

มองเห็นหานเยี่ยน หานเซี่ยวเทียนขมวดคิ้วถามขึ้น

หานเยี่ยนไม่ได้ตอบ จ้องหยางเฉินที่นั่งอยู่ข้างกายหานเซี่ยวเทียน และในมือยังถือมันเทศเผาไว้แบบตาไม่กะพริบ

มันเทศที่หานเซี่ยวเทียนเผาด้วยตนเอง แม้แต่เขายังไม่เคยกินมาก่อน หยางเฉินที่ไม่มีคุณธรรมและฝีมือ นึกไม่ถึงจะสามารถกินได้?

“พ่อครับ ทำไมพ่อถึงให้เขามาที่นี่ได้? แถมยังให้เขากินมันเทศที่พ่อเผาด้วยตัวเองอีกครับ?”

อารมณ์ของหานเยี่ยนฮึกเหิมอยู่บ้าง

ที่จริงเขาไม่เข้าใจ สวะที่ถูกตระกูลทอดทิ้งคนหนึ่ง ทำไมถึงสามารถได้รับการต้อนรับอย่างดีของตระกูลกวนและตระกูลเฉิน ปัจจุบันนี้แม้แต่บิดาของตนเอง ยังชื่นชอบเขาอย่างยิ่งเหมือนกัน?

ในใจเขาไม่กระจ่าง และไม่พอใจอย่างมากด้วย!

หานเซี่ยวเทียนได้ยิน รอยยิ้มบนหน้าหายไปในที่สุด หรี่ตาพูดว่า “หยางเฉินเป็นแขกพิเศษของฉัน แกว่าทำไมฉันถึงให้เขามาที่นี่ล่ะ?”

“พ่อครับ เส้นสนกลในของเขา ผมค้นมาชัดเจนหมดแล้ว ถึงแม้เขาจะเป็นคนของตระกูลอวี๋เหวิน แต่เมื่อสิบแปดปีก่อน ถูกไล่ออกจากตระกูลแล้ว ตอนนี้เป็นแค่ลูกเขยแต่งเข้าบ้านผู้หญิงของตระกูลเล็กที่เมืองเจียงโจว”

“เขาเคยช่วยชีวิตของพ่อ แต่ถ้าไม่มีพ่อ เขาจะสามารถคบค้าสมาคมกับตระกูลกวนและตระกูลเฉินได้อย่างไรครับ?”

“ถ้านับกันจริงๆ บุญคุณช่วยชีวิตที่เขามีต่อพ่อ พ่อก็ชดใช้ให้เป็นเท่าตัวตั้งแต่แรกแล้วนี่ครับ เดิมทีไม่จำเป็นต้องไปมาหาสู่กับคนประเภทนี้”

หานเยี่ยนอดทนไม่ไหวนำทุกอย่างที่ตนเองไปตรวจสอบมา บอกหานเซี่ยวเทียนไปทั้งหมดแล้ว

“หุบปาก!”

หานเซี่ยวเทียนโกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว ทันใดนั้นส่งเสียงตวาดขึ้น “ใครให้แกตรวจสอบหยางเฉินกัน?”

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset