The King of War – ตอนที่ 529 เสียงมรณะ

สงสัยอำนาจใหญ่ของตระกูลเย่ เขาคงไม่เคยคิดจะแบ่งให้เธอแม้แต่น้อย

ทั้งหมดคือการใช้ประโยชน์!

เหมือนเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เย่จี้จงขัดขวาง ไม่ให้เธออยู่กับชายคนรัก เพราะต้องการใช้ประโยชน์จากงานแต่งงานเพื่อสร้างเครือข่าย มาทำให้ตระกูลเย่ได้รับผลประโยชน์มากขึ้น

อีกทั้งต่อมา เย่จี้จงยังสั่งให้ฆ่าชายคนรักของเธอ ก็เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลเหมือนกัน

เขาทำถึงขั้นที่ใส่ร้ายชายคนรักของเธอ ทำให้เธอเกลียดผู้ชายที่ยอมสละชีวิตเพื่อตัวเองมาหลายปี

ทั้งหมดนี้ เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลใช่ไหม

“ที่แท้ เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจอมปลอม พ่อบอกจะมอบตำแหน่งเจ้าบ้านให้ฉัน พ่อแค่อยากใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ของฉันกับหยางเฉิน”

“รวมถึงที่พ่อพูดกับหยางเฉินก่อนหน้านี้ ขอแค่เขายอมพาลูกสาวฉันกลับตระกูล พ่อจะให้เขาเป็นเจ้าบ้าน อันที่จริง พ่อแค่หลอกเขา”

“พ่อแค่อยากใช้ประโยชน์จากกำลังของหยางเฉิน มาหาประโยชน์ให้ตระกูลเย่”

“ตอนนี้ คนของสมาคมบูโดมาที่นี่ และข่มขู่ฆ่าหยางเฉิน พ่อคิดว่าหยางเฉินต้องตายแน่นอน เขาจึงไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว แต่ฉันไร้ค่ายิ่งกว่า พ่อเลยทำกับฉันแบบนี้”

“ฉันพูดถูกไหม ท่านพ่อที่เคารพรัก”

เย่ม่านพูดด้วยสีหน้าประชดประชัน แววตาที่มีเยื่อใยต่อเย่จี้จงเพียงเล็กน้อย ได้หายไปหมดแล้ว มีเพียงความเฉยชาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เย่จี้จงส่งเสียงในลำคออย่างไม่พอใจ “แกยังไม่ได้โง่ถึงขั้นนั้นนิ ใช่แล้ว ไอ้หมอนั่นกล้าฆ่าท่านแปด ของสมาคมบูโด มันต้องตายแน่นอน!”

นี่เป็นความคิดในใจเย่จี้จงจริงๆ

เขารู้ว่าหยางเฉินเก่งมาก แต่ถ้าเทียบกัน สมาคมบูโดเหนือกว่า

ถึงวันนี้หยางเฉินจะรอดพ้นเงื้อมมือทรราชได้ ถึงเขาจะฆ่าทรราชได้ แล้วยังไงกันล่ะ

ไม่ว่าคนที่โดนหยางเฉินฆ่า จะเป็นท่านเก้าหรือท่านแปด หรือแม้กระทั่งทรราช แต่ในสมาคมบูโดยังมีผู้แข็งแกร่งกว่านี้

ถึงแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถกำราบสมาคมบูโดได้ มีหรือที่สมาคมบูโดจะรับมือหยางเฉินเพียงคนเดียวไม่ได้

คนในตระกูลเย่ตกตะลึง ตอนแรกพวกเขาคิดว่า เย่จี้จงจะมอบตำแหน่งเจ้าบ้านให้หยางเฉินกับเย่ม่านจริงๆ ตอนนี้เพิ่งรู้ว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก

ตอนนี้คนที่ตื่นเต้นที่สุดคือเย่ชังกับเย่หวูซวง

เย่ชังโดนปลดจากตำแหน่งเจ้าบ้าน เพราะต้องการฆ่าหยางเฉิน ตอนนี้เย่จี้จงสลัดหยางเฉินทิ้งไปแล้ว งั้นผู้สืบทอดตำแหน่งอย่างเขา ก็สามารถเป็นต่อได้สิ

สิ่งที่เย่หวูซวงตื่นเต้นคือ หยางเฉินโดนเย่จี้จงสลัดทิ้ง เย่ชังโดนปลดจากตำแหน่งผู้สืบทอด เย่ม่านไร้อำนาจ งั้นตำแหน่งผู้สืบทอดคนต่อไป ก็ต้องเป็นของเขาเพียงคนเดียว

ทั้งสองต่างมีความคิดอยู่ในใจ แต่ในใจของเย่ม่านกลับรู้สึกโศกเศร้า

“พ่อแน่ใจเหรอว่าคนที่พ่ายแพ้ คือหยางเฉิน”

ผ่านไปนาน เย่ม่านตั้งสติได้ สีหน้าของเธอไร้เยื่อใย เธอมองเย่จี้จงด้วยสีหน้าเย็นชา และถามขึ้น

เย่จี้จงขมวดคิ้ว “ฉันยอมรับว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่สมาคมบูโดน่ากลัวแค่ไหน ฉันรู้ดี หรือแกคิดว่าสมาคมบูโดจะรับมือหยางเฉินไม่ได้”

“หวังว่าพ่อจะไม่เสียใจภายหลัง กับการตัดสินใจโง่ๆ ของตัวเอง” เย่ม่านพูดอย่างเย็นชา

ตอนที่ทรราชปรากฏตัว เย่ม่านสิ้นหวังกับหยางเฉิน แต่จู่ๆ เธอก็รู้สึกมั่นใจในตัวหยางเฉินขึ้นมา

“คำพูดของเธอ ทำให้ฉันไม่สบอารมณ์มาก”

ขณะนั้น เสียงอันเย็นชา ดังเหมือนฟ้าผ่า “ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว ไอ้หมอนั่นยังไม่มา งั้นเธอ ก็ต้องตาย!”

ตอนนี้ทรราช เหมือนพระเจ้า ร่างกายสูงเกือบสองเมตร เต็มไปด้วยพละกำลัง

เขาเดินก้าวเข้ามา เพียงพริบตาเดียวก็มาถึงหน้าเย่ม่าน เขาจับคอของเธอเอาไว้

ต่อจากนั้น ร่างอันบอบบางของเย่ม่านเหมือนกับลูกไก่ เธอถูกยกจนตัวลอย

แขนขาของเธอสะบัดไปมาในอากาศ ใบหน้ามีเพียงความหวาดกลัว เธอมองไปยังเย่จี้จงโดยอัตโนมัติ แววตาแฝงไปด้วยความอ้อนวอน

แต่ทว่า เย่จี้จงมองเย่ม่านอย่างเฉยชา เขาไม่มีทีท่าว่าจะอ้อนวอนขอชีวิต

วินาทีนั้น ในหัวของเย่ม่าน มีภาพอันคุ้นเคยลอยเข้ามา

ยี่สิบกว่าปีก่อนหน้านี้ เป็นค่ำคืนในฤดูร้อน ตอนนั้นเธออายุยี่สิบต้นๆ โดนพวกอันธพาลพูดลวนลาม และจะพาตัวเธอไป

เธอพยายามขอความช่วยเหลือ จากคนที่เดินผ่านไปผ่านมารอบๆ แต่ท่ามกลางผู้คน กลับไม่มีใครช่วยเธอสักคน

ขณะนั้น มีชายหนุ่มแต่งตัวธรรมดา บนไหล่ยังสะพายถุงพลาสติกขนาดใหญ่ เขาพูดออกมาว่า “พวกแกจะทำอะไร”

ชายหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ ใบหน้าของเขาใสซื่อ มีรอยขาดอยู่บนเสื้อผ้าที่สวม และสวมรองเท้าผ้าใบสีดำ เขาพูดติดสำเนียงภาษาถิ่น

“ถ้าไม่อยากตายก็อย่ามายุ่งเรื่องคนอื่น!”

พวกอันธพาลตวาดออกมา ด้วยใบหน้าข่มขู่

“ช่วยฉันด้วย! นายช่วยฉันด้วย ฉันจะตอบแทนนายแน่นอน”

เย่ม่านตะโกนอ้อนวอน

แววตาของชายหนุ่มดูลังเล การแต่งกายแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งมาถึงเมืองใหญ่แห่งนี้

แต่เห็นกับตาว่าพวกอันธพาลลวนลามผู้หญิง คนที่ซื่อสัตย์อย่างเขา จึงตัดสินใจ เข้ามายุ่งเรื่องนี้

“ปล่อยเธอ!”

ชายหนุ่มโยนสัมภาระของตัวเองทิ้ง จากนั้นจึงเดินไปหาเย่ม่าน ในแววตาของเขาดูหวาดกลัว

“ไอ้บ้านนอกนี่มาจากไหน กล้ามายุ่งเรื่องของกู จัดการมันซะ!”

คนที่เป็นหัวหน้าตะโกนออกมา ลูกน้อง 3-4 คน กระโจนเข้าไป

ทันใดนั้นชายหนุ่มโดนรุมจนล้มลงกับพื้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด

ขณะนั้น เสียงไซเรนรถตำรวจดังขึ้น พวกอันธพาลได้ยิน จึงรีบวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน

และเย่ม่านก็ได้รับความช่วยเหลือ โชคชะตาทำให้ทั้งสองพบกันเพราะเหตุนี้

ต่อมา ทั้งสองเริ่มคุ้นเคย สนิทสนมกัน ทั้งสองรู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดความรู้สึกขึ้นในใจ เมื่อเกิดความรู้สึก จึงยากที่จะเก็บไว้

จนกระทั่งเย่ม่านตั้งท้อง และหนีออกมากับชายหนุ่ม

ต่อมาชายหนุ่มรู้ฐานะของเย่ม่าน เขาเป็นฝ่ายมาขอพบ เย่จี้จงที่ตระกูล เพื่อให้เย่ม่านได้มีชีวิตที่มีความสุข เขาคิดว่าจะได้คำอวยพร

แต่กลับไม่เป็นดั่งหวัง การไปครั้งนี้ เขาไม่ได้กลับมาอีก และตายที่บ้านตระกูลเย่ รวมไปถึงโดนตระกูลเย่ใส่ร้าย ทำให้เย่ม่านเกลียดเขามาหลายปี

เมื่อนึกย้อนกลับไป น้ำตาไหลตรงหางตาของเธอ เธอรู้สึกคิดถึงคนรัก และรู้สึกติดหนี้ลูกสาว

เธอแอบสาบานในใจ ถ้าชาติหน้ามีจริง ถึงเธอจะเกิดเป็นอะไร เธอก็จะอยู่ข้างกายลูกสาว เพราะไม่ใช่ลูกสาวของเธอเพียงคนเดียว ลูกสาวยังเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาหลงเหลือไว้บนโลกนี้

“เธอตายซะเถอะ!”

แววตาทรราชเฉยชา เหมือนยกลูกไก่ขึ้นมา ลูกไก่ที่ใกล้จะโดนเขาหักคอ

“ถ้าเธอตาย สมาคมบูโดทั้งหมด ต้องตายไปพร้อมกับเธอ!”

ขณะนั้นเอง เสียงอันเฉยชาดังขึ้น

ปรากฏกายท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิ ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่าน

ร่างอันสง่า เดินเข้ามาท่ามกลางความมืด เหมือนเสียงมรณะอย่างไรอย่างนั้น

ทันใดนั้น แววตาของทุกคน มองไปยังร่างอันสง่างามนั่น

“หยางเฉิน!”

เมื่อร่างนั้นเดินผ่านความมืด เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ในที่สุด คนตระกูลเย่ก็มองเห็นว่าเป็นใคร

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset