The King of War – ตอนที่ 629 ตระกูลซ่งแปลกใจ

ซ่งหวายี่กับซ่งหวาหย่าก็เช่นกัน ต่างพูดขึ้นมาว่า“จากนี้ไป รบกวนประธานลั่วด้วยนะคะ!”

“ใช้เวลาไม่นานหรอกครับ พวกคุณจะต้องภูมิใจกับการตัดสินใจในวันนี้!”

ลั่วปิงใบหน้าเปื้อนยิ้ม แล้วพูดอย่างสะท้อนใจ

คำพูดนี้ ทำให้ซ่งหวายี่พวกเขารู้สึกแปลกใจมาก

ถ้าคำพูดประโยคนี้ออกจากปากของหยางเฉิน พวกเขาอาจจะคิดว่าหยางเฉินหลงตัวเอง แต่เมื่อออกจากปากของลั่วปิง จะทำให้พวกเขาเชื่อใจมากยิ่งขึ้น ว่าเบื้องหลังของหยางเฉินแข็งแกร่ง

“ประธานลั่วคะ แย่แล้วค่ะ คนของตระกูลซ่งมาแล้วค่ะ บอกว่าจะมาแก้แค้นประธานหยางค่ะ!”

เวลานี้เอง เลขาสาวที่มีท่าทีลนลาน ก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องทำงาน แล้วพูดอย่างตื่นตระหนก

เมื่อได้ยินดังนั้น พวกของซ่งหวายี่ก็ถึงกับตกใจ ตระกูลซ่ง จะมาแก้แค้นหยางเฉินงั้นหรอ?

“ตกใจทำไม?”

ลั่วปิงขมวดคิ้ว แล้วกล่าวตำหนิ“ตระกูลซ่งแล้วยังไง?ถึงแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูจะร่วมมือกันดาหน้าเข้ามา มีท่านประธานอยู่ที่นี่ ใกล้มันกล้าบังอาจ?”

ซ่งหวายี่กับหลี่ไห่หรงสบตากัน ทั้งคู่ก็เห็นความประหลาดใจในสายตาของกันและกัน

ตำพูดของลั่วปิง เป็นการบอกกับพวกเขาถึง เบื้องหลังของหยางเฉิน ว่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน

ถ้าลั่วปิงล่วงรู้ความคิดของทั้งสามคน จะต้องตะโกนว่าถูกปรักปรำเป็นแน่ เขาไม่ได้ตั้งใจแสดงให้เห็นแบบนั้น เพียงแต่กำลังพูดความจริงเท่านั้น

“แม่ครับ ผมออกไปดูหน่อยนะครับ แม่กับเสียวหย่าอย่าออกไปนะครับ”ซ่งหวายี่เป็นกังวลเล็กน้อย จึงกล่าวออกมาแบบนั้น

พูดจบ เขาก็รีบหันหลังเดินจากไปทันที

ลั่วปิงไม่เป็นกังวลเลย หยางเฉินยังอยู่ในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป จะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“คุณยายหลี่ครับ เรามาคุยเรื่องงานกันต่อเถอะครับ!”ลั่วปิงพูดอย่างยิ้มๆ

หลี่ไห่หรงรีบพูดขึ้นมาว่า“จากนี้ไป ประธานลั่วเรียกชื่อของฉันก็พอแล้วค่ะ”

ในขณะเดียวกัน ในล็อบบี้ชั้นหนึ่งของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป มีรปภ.กว่าสิบคนล้มลงเต็มไปหมด

ซ่งหวาเหว่ยกำลังยืนอยู่กลางล็อบบี้ มีผู้แข็งแกร่งของตระกูลซ่งยืนขนาบข้างทั้งซ้ายและขวา นอกจากผู้แข็งแกร่งแล้ว ด้านหลังยังมีผู้ติดตามอีกหกคน ทั้งหมดเป็นผู้แข็งแกร่งสูงสุดของตระกูลซ่ง

“บอกให้ประธานของพวกแกไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างงั้นเราจะพังเยี่ยนเฉินกรุ๊ปให้ราบเป็นหน้ากลอง!”

ซ่งหวาเหว่ยพูดด้วยสีหน้าจองหอง

มีผู้แข็งแกร่งสูงสุดของตระกูลอยู่ด้วย เขาไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย อยากพบหน้าหยางเฉินเร็วๆ หลังจากนั้นหักแขนขามันทิ้ง ค่อยพากลับตระกูลซ่ง

พนักงานภายในล็อบบี้ เต็มไปด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“ซ่งหวาเหว่ย แกกำลังทำอะไรน่ะ?”

ในเวลานี้เอ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธเคืองก็ดังขึ้น ซ่งหวายี่ก้าวเดินออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

ในตอนที่ซ่งหวาเหว่ยมองเห็นซ่งหวายี่ เขาถึงกับตกตะลึง“แกอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

เพียงแต่ ในตอนที่เขาถามคำถามนี้ออกไป ก็เดาคำตอบได้แล้ว

ไม่รอให้ซ่งหวายี่ได้ตอบกลับ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า“ฉันก็ว่าทำไมพวกแกรีบออกจากตระกูลซ่งเร็วนัก ที่แท้ก็มาที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปนี่เอง ทำไม?หลังจากถูกตระกูลซ่งขับไล่ออกจากตระกูล คิดจะมาพึ่งพิงบารมีของไอ้เด็กเมื่อวานซืนหยางเฉินงั้นหรอ แล้วเป็นหมาของเขางั้นสินะ?”

“แกหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”

ซ่งหวายี่ทั้งโกรธและอับอาย ถ้าไม่ทำเพื่อปกป้องตระกูลซ่ง ตอนนี้เขาจะสนใจเรื่องที่หยางเฉินจะล้างโคตรตระกูลซ่งไปทำไม?

ผู้ชมที่กำลังเฝ้ามองดูเหตุการณ์อย่างระทึก ต่างเต็มไปด้วยสีหน้าแปลกใจ

“คนหนุ่มผู้นี้คือซ่งหวายี่ เขาถูกตระกูลซ่งขับไล่ออกจากตระกูลอย่างนั้นหรอ?”

“ซ่งหวาเหว่ยคุณชายใหญ่ตระกูลซ่งพาคนบุกเข้ามาในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป แต่คุณชายรองซ่งหวายี่กลับอยู่ในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ซ่งหวายี่เข้าร่วมเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว?”

“ซ่งหวายี่เป็นคุณชายรองตระกูลซ่ง ถึงจะถูกตระกูลซ่งขับไล่ แต่คงไม่ถึงกับต้องทำงานให้กับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป?”

……

ผู้คนรอบๆต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นพนักงานของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป แต่จากมุมมองของพวกเขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลซ่งที่เป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู เยี่ยนเฉินกรุ๊ปดูเล็กมากๆ

“ซ่งหวายี่ ในเมื่อแกอยู่ที่นี่ งั้นก็ดี แกจะต้องติดต่อหยางเฉินได้แน่ๆ รีบบอกให้มันไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้ คุณปู่ให้ฉันหักแขนขามันทิ้ง หลังจากนั้นค่อยพามันกลับไปรับโทษที่ตระกูลซ่ง”

ซ่งหวาเหว่ยพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

“ซ่งหวาเหว่ย ฉันขอเตือนแกให้พาคนออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นมันจะนำหายนะมาสู่ตระกูลซ่งจริงๆ แกจะเป็นคนบาปที่ตระกูลซ่งไม่ให้อภัย!”

ซ่งหวายี่สูดอากาศหายใจเข้าลึกๆ พยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด

ถึงแม้ว่าหยางเฉินจะรับปากแล้วว่า จะยอมปล่อยตระกูลซ่งไปสักครั้ง แต่เขาไม่กล้ารับประกันว่าถ้าตระกูลซ่งทำลายเส้นตายของหยางเฉิน ตั้งแต่นั้นมาตระกูลซ่ง

“ฮ่าๆๆ……”

ซ่งหวาเหว่ยถึงกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง“ซ่งหวายี่ แกกำลังขู่ฉันงั้นหรอ?แค่หยางเฉินคนเดียว จะทำล้างโคตรตระกูลซ่ง?”

“แกจะเอายังไงกันแน่ ถึงจะยอมออกไป?”ซ่งหวายี่เริ่มจะหมดความอดทน เขาพูดด้วยความโกรธ

ซ่งหวาเหว่ยหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“ฉันพูดยังไม่ชัดเจนอีกงั้นหรอ?บอกให้หยางเฉินไสหัวออกมา รอจัดการเขาได้แล้ว ฉันจะพามันกลับตระกูลซ่ง”

“ดูท่า ทุกอย่างที่ฉันพยายามมา จะเสียเปล่าแล้วล่ะ!”จู่ๆซ่งหวายี่ก็หัวเราะเยาะตัวเอง

เขาน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วว่า ความหยิ่งยโสของตระกูลซ่ง ถึงเขาจะบอกการคาดเดาตัวตนของหยางเฉินให้กับตระกูลซ่งรับฟัง ตระกูลซ่งก็คงไม่จบเพียงเท่านี้

ในขณะเดียวกัน ที่คฤหาสน์ตระกูลซ่ง

ภายในคฤหาสน์ของซ่งชิงซานผู้เป็นผู้นำตระกูล ซ่งชิงซานกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หวาย โดยที่ยังคงเปิดเพลงละครงิ้ว บนจอทีวียักษ์ใหญ่ในคฤหาสน์

เขาเอนหลังพิงกับเก้าอี้หวาย สบายอารมณ์

ฟังเพลงงิ้ว เป็นสิ่งที่ซ่งชิงซานโปรดปรานที่สุด มาวันนี้อายุมากแล้ว และเขาก็ได้ค่อยๆวางอำนาจในมือของเขาลง เขาว่างมากขึ้นเรื่อยๆ

“ผู้นำครับ แย่แล้วครับ อวี้เหวินเกาหยางพาคนมาครับ บอกว่าตระกูลซ่งแตะต้องลูกชายของเขา และต้องการคำอธิบายจากตระกูลซ่ง!”

ทันใดนั้น ก็มีเงาร่างหนึ่งโผล่มา รีบตรงเข้าคฤหาสน์ของซ่งชิงซาน แล้วพูดอย่างรีบร้อน

“ไอ้สารเลว ใครให้พลุ่งพล่านเข้ามา?ก็แค่อวี้เหวินเกาหยางมาที่ตระกูลซ่งเองไม่ใช่หรอ?มีอะไรให้กลัว?”ซ่งชิงซานตะโกนอย่างโกรธเคือง

แต่ต่อมา ก็มีเงาร่างหนึ่งเข้ามา แล้วพูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนก“ผู้นำครับ เย่ม่านผู้นำตระกูลเย่มาครับ บอกว่าตระกูลซ่งลงมือทำร้ายลูกเขยของเขาครับ จะให้ตระกูลซ่งอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นครับ!”

เสียงของคนผู้นี้ยังไม่ทันพูดจบ ก็มีคนรุดเข้ามาพูดว่า“ผู้นำครับ หวงเทียบเชิงผู้นำตระกูลหวงก็มาแล้วครับ บอกว่าหยางเฉิงเป็นเพื่อนของเขา ถ้าตระกูลซ่งกล้าลงมือกับหยางเฉิน ก็เท่ากับเป็นปริปักษ์กับตระกูลหวง!”

ปึ้ง!

บรรดาผู้นำเศรษฐีแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูต่างพากันเข้ามาเรื่อยๆ พาคนเข้ามาด้วยตัวเอง อีกทั้งยังทำเพื่อหยางเฉินทุกคน ซ่งชิงซานถึงกับสมองดังวิ้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

ถ้าเป็นแค่ตระกูลอวี้เหวิน ตระกูลซ่งไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย แต่มาวันนี้ สามตระกูลเศรษฐีในแปดตระกูล ต่างร่วมแรงร่วมใจกันดาหน้าเข้ามา

เมื่อมองไปที่จิ่วโจว มีใครที่มีสิทธิ์ให้ผู้นำของสามตระกูลเศรษฐีในแปดตระกูล มาด้วยตัวเองแบบนี้?

หยางเฉิน เขากลับทำได้!

หลังจากที่ซ่งชิงซานเหม่อลอยอยู่หนึ่ง แล้วรีบลุกขึ้นวิ่งออกไปข้างนอก

รอจนเขาเดินออกมาจากคฤหาสน์ เห็นเพียงแค่กลุ่มคนจำนวนมากยืนอยู่ข้างหน้าเต็มไปหมด แบ่งออกเป็นสามกลุ่ม

แต่ผู้นำแต่ละฝ่าย อวี้เหวินเกาหยางผู้นำตระกูลอวี้เหวิน เย่ม่านผู้นำตระกูลเย่ หวงเทียนเชิงผู้นำตระกูลหวง

สิ่งที่ทำให้ซ่งชิงซานตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ การ์ดรักษาความปลอดภัยของตระกูลซ่ง ล้มระเนระนาดกองกับพื้นทั้งหมด กระทั่งแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นมายังไม่มี

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset