The King of War – ตอนที่ 708 เพื่อนนักเรียนเน็ตไอดอล

ข้าง ๆ สวีเหว่ยไฉ ตามมาด้วยสาววัยรุ่นแต่งตัวแซปเว่อร์ ยืนอิงแนบติดสวีเหว่ยไฉ

“คุณคะ คนบ้านนอกคนนี้ใครอ่ะ?คุณนี่ก้อเที่ยวไปทักใครต่อใครไม่รู้เป็นเพื่อนนักเรียน?ไม่กลัวว่าจะทักผิดเหรอ?”

สาวแซปเว่อร์นั่นมองหยางเฉินตั้งแต่หัวจรดตีน แล้วครอบตำแหน่งคนบ้านนอกใส่ให้หยางเฉิน

ที่ให้หยางเฉินรู้สึกผิดหวังก็คือ สวีเหว่ยไฉแทนที่จะปรามแฟนสาวของเขา แต่ยังกลับพูดด้วยสีหน้าเย้ยเยาะว่า “เธอจ๋า ก็จริงอย่างเธอว่านะ ตอนสมัยอยู่มัธยมปลาย เขาเป็นคนบ้านนอกจริง ๆ ด้วย ไม่คิดว่าสิบกว่าปีผ่านไปแล้ว เขาก็ยังดูบ้านนอกเหมือนเดิม”

“มิน่าละว่าคุณมองปุ๊บก็จำได้ปั๊บ เพราะความบ้านนอกนี่เอง!”สาวแซปเว่อร์ปิดปากหัวเราะไปพลางพูดพลาง

ดูท่าทางสวีเหว่ยไฉแล้วน่าจะไปได้ไม่เลว เครื่องประดับฟุ่มเฟือยเต็มตัว เวลามองหยางเฉิน ก็เชิดให้ดูตัวเองอยู่เหนือชั้นกว่า

“หยางเฉิน อย่าโมโหนะ!พวกเรามันคนสนิทกัน ล้อเล่นกันแบบนี้ จะได้ไม่ดูห่างเหิน ใช่มั้ย?” สวีเหว่ยไฉพูดน้ำเสียงหัวเราะ

ที่เห็นเขาหัวเราะ แต่ดูในแววตา เจตนาไม่ใช่จะดีเลย

กับพวกเพื่อนนักเรียนเก่าที่ชอบมองคนต่ำด้วยตาหมาเมินแบบนี้ หยางเฉินคงไม่ไปเสียอารมณ์ด้วย เพียงแต่ให้รู้สึกผิดหวังหน่อย ๆ เท่านั้น

“ถ้าไม่มีธุระอะไร ก็ขอตัวก่อนนะ!”

หยางเฉินพูดเสียงเรียบ ๆ

“หยางเฉิน แกอย่าบอกนะว่าแกจะมากินข้าวที่นี่?”

สวีเหว่ยไฉวางมาดอย่างเว่อร์ถาม “แกรู้มั้ย ร้านอาหารแซ่เฉินนี่เป็นร้านสำหรับคนระดับเน็ตไอดอลเขาเช็คอินกันเลยนะ แค่ว่าอาหารจานถูกที่สุด ก็ต้องพันเหรียญขึ้นไปนะ”

“ข้ามานี่ไม่กินข้าว แล้วจะให้มาเข้าส้วมรึไง?”หยางเฉินถามไปด้วยใบหน้าดูประหลาด

สวีเหว่ยไฉอึ้งไปนิด แล้วก็หัวเราะออกมาลั่น “แกถึงขนาดมากินข้าวที่นี่เลยรึ?”

“คุณคะ อย่าดูถูกคนสิคะ อาหารที่นี่แม้ว่าจะต้องระดับพันขึ้นไป แต่เขามีข้าวฟรีนะ!”

สาวแซปเวอร์นั่นพูด “คุณอย่าลืมสิว่า ที่นี่ที่ดังขึ้นมาเพราะอะไร?ก็เพราะเขาเคยช่วยคนจรจัดอยู่หลายคน กลายเป็นหนึ่งเดียวของร้านอาหารระดับห้าดาวที่ให้คนจรจัดเข้าได้”

“เออใช่!นี่ถ้าเธอไม่พูดผมก็เกือบลืมซะแล้ว” สวีเหว่ยไฉพูดเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้

ต่อให้หยางเฉินจะเป็นคนอารมณ์เย็นแค่ไหน ปล่อยให้อีกฝ่ายมาพูดหยามซ้ำแล้วซ้ำอีก ก็ขมวดคิ้วย่น “ผมขอเตือนพวกคุณนะ การเป็นคนควรวางตัวให้ติดดินหน่อย!”

พูดจบ หยางเฉินก็เดินผ่านหน้าสองคนนั้น มุ่งหน้าเข้าไปห้องข้างใน

“เชอะ ให้เกียรติแกมากแล้วนะ!หยุดตรงนั้นก่อน!”

สวีเหว่ยไฉพูดอย่างเกรี้ยวกราด ตรงดิ่งไปขวางหน้าหยางเฉิน

ตาทั้งคู่ของหยางเฉินหยีขึ้นมา จ้องใส่สวีเหว่ยไฉถามว่า “มีเรื่องหรือ?”

“หยางเฉิน แกก็แค่คนจรจัดคนนึง จะวางมาดอะไรนักหนา?รู้หรือเปล่าว่าข้านี่ตอนนี้อยู่ในฐานะอะไร?” สวีเหว่ยไฉตะคอกถามใส่

“คุณมีชื่อเสียงมากเหรอ?”

คำพูดของสวีเหว่ยไฉ ก็ทำให้หยางเฉินเกิดความอยากรู้ขึ้นมา หรือเขาเป็นดาราดัง?

โดยปกติแล้วเขาไม่เคยสนใจกับวงการบันเทิงเอาเลย ต่อให้สวีเหว่ยไฉเป็นดาราดังจริง ๆ เขาก็ไม่รู้จัก

“ข้านี่ละเว้ยพิธีกรใหญ่รายการอาหารชวนชิมคนดังรายการหนึ่ง ออกรายการแต่ละครั้งรายรับหลักแสน ค่ากินข้าวของข้ามื้อมื้อหนึ่ง มันคงเท่ากับค่าแรงของแกที่ต้องทำอยู่หลายปี” สวีเหว่ยไฉพูดอย่างภาคภูมิใจ

หยางเฉินจึงได้เข้าใจ ที่แท้เขาเป็นพิธีกร

“ที่แท้คุณยอดเยี่ยมขนาดนั้นเลยหรือ?”หยางฉินแกล้งทำหน้าตื่นแล้วพูด

สวีเหว่ยไฉพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “นับว่าแกยังรู้เรื่อง ในเมื่อเราได้มาเจอกันที่เยี่ยนตู ถือว่าเรามีวาสนาต่อกัน เดี๋ยวข้าจะเลี้ยงแกสักมื้อ ให้รู้รสมั่งว่าชีวิตหรูหรามันเป็นยังไง”

ไม่รอให้หยางเฉินปฏิเสธ หญิงสาวแซปเวอร์คนนั้นเปิดมือถือ เล็งไปที่สวีเหว่ยไฉ

“แฟน ๆ ทุกท่าน ราตรีสวัสดิ์ ผมเหว่ยไฉผู้ที่ได้ชิมอาหารครบเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าชนิดของร้านอาหารแซ่เฉิน วันนี้เป็นรายการถ่ายทอดสดครั้งที่เก้าสิบเก้าของผมที่ทำในร้านอาหารแซ่เฉิน”

“บังเอิญวันนี้โชคช่วย ทำให้ผมได้มาพบกับเพื่อนนักเรียนเก่าสมัยมัธยมปลายเมื่อสิบกว่าปีก่อน เพียงแต่ว่า กาลเวลาเปลี่ยนผ่าน ไม่คิดว่าเพื่อนผมคนนี้ ตอนนี้กลับตกลงกลายมาเป็นคนจรจัด พอดีเขาเข้ามาที่นี่เพื่อรับของแจกฟรีจากร้านอาหารแซ่เฉิน จึงให้ผมได้พบเข้า”

“พบกันแบบไหนก็ไม่สู้บังเอิญมาพบกัน วันนี้เลยตั้งใจเลี้ยงอาหารหรูหราชุดใหญ่ให้กับเพื่อนคนนี้สักมื้อ”

หลังจากสวีเหว่ยไฉพูดใส่หน้ากล้องจบ ก็มองไปที่หยางเฉินพูดว่า “มา พี่น้อง ทักทายกับแฟนคลับของผมที่อยู่ในรายการถ่ายทอดสดกันหน่อย”

หญิงสาวในชุดแซปเวอร์รีบแพนกล้องไปที่หยางเฉิน

หยางเฉินไหนเลยจะไปคิดใส่ใจ หันหลังแล้วก็เดินออกไป

“พี่น้อง อย่าไปไหนสิ!เดี๋ยวข้าเลี้ยงมื้อใหญ่เลยนะ พลาดจากวันนี้ ชาตินี้ทั้งชาติแกจะไม่มีโอกาสอีกเลยนะ!”

สวีเหว่ยไฉรีบพูด

แต่ หยางเฉินไม่สนใจเอาเลย ชั่วเดี๋ยวเดียวก็หายเข้าไปในร้านอาหาร

“เพื่อนนักเรียนผมคนนี้ อายกล้องไปหน่อย ไม่ยอมออกหน้าจอ ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวผมจะไปสั่งอาหารให้เขาไปกินเองสักชุด”

เพื่อแสดงความใจกว้างของเขาโชว์ให้แฟนคลับดู เขาจึงพูดออกไปอย่างเต็มภาคภูมิ

บัดเดี๋ยวนั้น ในห้องส่งเต็มไปด้วยเสียงเสนอให้ของรางวัล แล้วยังคำเยินยอชมความใจดีของพิธีกร ยิ่งกว่านั้นยังมีตบรางวัลเพื่อแสดงน้ำใจอันเป็นกุศลทานให้หยางเฉิน

สวีเหว่ยไฉให้รู้สึกดีใจเจียนจะบ้า ทำรายการสดนี้มานานนม ยังไม่เคยมีการตบรางวัลมากมายกันขนาดนี้

“ไม่ได้การละ ต้องเอาหยางเฉินมาในห้องถ่ายทอดสดนี้ให้ได้ ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้เราจะได้ติดอันดับท็อปฮิทอีก จั่วหัวเลยว่า ‘ซุปเปอร์เน็ตไอดอลรายการถ่ายทอดสดเหว่ยไฉ เลี้ยงรับรองมื้อหรูให้กับเพื่อนนักเรียนเก่าที่เป็นคนจรจัด’”

ในใจสวีเหว่ยไฉคิดเสร็จสะระตะถึงข้อความพาดหัวยอดฮ็อท

ในเวลาเดียวกันนั้น หยางเฉินเข้าไปถึงในห้องอาหาร

ตอนนี้ตระกูลหานกับตระกูลกวนเข้ามาอยู่เยี่ยนตูแล้ว วันนี้หยางเฉินก็มาถึงเยี่ยนตู เฉินซิงไห่ถือโอกาสเป็นเจ้ามือ เชิญหยางเฉิน และหานเซี่ยวเทียนกับกวนเจิ้งซานมาสังสรรค์กัน

แต่เวลาที่นัดคือสองทุ่ม เวลานี้แค่หนึ่งทุ่มเลยเล็กน้อย

ด้วยเพราะหยางเฉินกับฉินซีไปทำอะไรกุ๊กกิ๊กกันตอนกลางวัน โดนฉินยีไปรู้เรื่องเข้า หยางเฉินเลยเขินอายไม่อยากอยู่ในบ้าน ก็เลยรีบออกมาก่อนเวลา

เขากำลังนั่งอยู่บริเวณสาธารณะส่วนกลาง เสียงคุ้น ๆ หูดังขึ้น

“แล้วก็หามาเจอเพื่อนนักเรียนเก่าขี้อายคนนี้จนได้ ใช่มั้ย เขามานั่งอยู่บริเวณสาธารณะนี่ ทุกท่านดูได้นะ ที่นี่ยังมีคนจรจัดอยู่อีกมากมาย”

สวีเหว่ยไฉยิ้มจ้องใส่กล้อง ผายมือชี้ไปที่หยางเฉิง และก็คนจรจัดที่แต่งตัวธรรมดาอีกหลายคนที่อยู่ไม่ไกลจากหยางเฉิน

หยางเฉินก็เพิ่งรู้สึกตัวว่า รอบข้างตัวเขายังมีคนจรจัดจริง ๆ หลายคน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนแก่แต่งตัวมอซอ คนหนุ่มอย่างหยางเฉิน เห็นทีจะมีอยู่คนเดียว

“หยางเฉิน แกร่วมในการแสดงกับข้าหน่อย ข้าให้แกร้อยหนึ่ง”

สวีเหว่ยไฉให้สาวในชุดแซปเว่อร์นั่นแพนกล้องไปด้านอื่น แล้วเขาค่อยเข้ามาข้าง ๆ หยางเฉิน ควักแบงค์ร้อยออกมา เอ่ยปากพูดไป

หยางเฉินมองหน้าสวีเหว่ยไฉเหมือนมองพวกหน้าโง่ “ผมให้คุณพันหนึ่งนะ แล้วแกไสหัวออกไป ได้ไหม?”

สวีเหว่ยไฉมึนทื่อกับที่ หลังจากนั้นก็ควักแบงค์ร้อยออกมาอีกหลายใบ กัดฟันพูดไปว่า “หยางเฉิน แกอย่าโลภมากไปหน่อยเลย เล่นละครกับข้าตอนเดียวเอง ห้าร้อยนี้ข้าให้แกเลย”

หยางเฉินขี้เกียจรำคาญจะใส่ใจด้วย ควักมือถือออกมาขยับเล่นในมือ

สวีเหว่ยไฉโมโหจนได้แต่กัดฟัน เสียตรงที่เขากำลังออกอากาศอยู่ และที่นี่ก็ยังเป็นที่สาธารณะ เขาไม่สามารถออกอาการได้ ยังต้องวางมาดในการให้การอุปการะกับคนจรจัดอยู่

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset