The King of War – ตอนที่ 725 เสี้ยวเสี้ยวถูกทำร้าย

นับตั้งแต่หยางเฉินกลับมา และหลังจากที่เสี้ยวเสี้ยวมีพ่อ บุคลิกของเธอก็สดใสขึ้นมาก

ในไม่ช้า เธอก็เข้าถึงเด็กๆ ทุกคนในนั้น วิ่งเล่นกันอย่างมีความสุข

ฉินต้าหย่งนั่งบนม้านั่งหินด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก และสายตาของเขาไม่เคยละจากเสี้ยวเสี้ยวเลย

เวลาผ่านไปทีละนาที และเวลาครึ่งชั่วโมงก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“เสี้ยวเสี้ยว เรากลับบ้านกันเถอะ!”

ฉินต้าหย่งเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

“คุณปู่คะ เสี่ยวจูนมีปัญหาแล้ว!”

ฉินต้าหย่งที่เพิ่งเดินเข้ามา เสี้ยวเสี้ยวก็พูดกับเขาด้วยสีหน้าขมขื่น

“มีปัญหาอะไรเหรอ?”

ฉินต้าหย่งถามด้วยความสงสัย

และเขาเพิ่งสังเกตเห็นเพื่อนที่เล่นกับเสี้ยวเสี้ยวก่อนหน้านี้ นอกจากเด็กชายคนหนึ่งที่ยังอยู่ คนอื่นๆ ก็ได้เดินหนีกันไปหมด

โดยที่ไม่คาดคิด หลังจากเสี้ยวเสี้ยวเพิ่งพูดจบ เสี่ยวจูนก็เดินเข้ามาพูดด้วยความโกรธ “เราไม่ได้มีปัญหาหรอก เธอนั่นแหละที่มีปัญหา!”

“เธอเป็นคนหักหุ่นตัวนี้เองนะ! เธอสิที่ต้องมีปัญหา!”

เสี้ยวเสี้ยวรู้สึกโกรธมาก ทั้งๆ ที่เสี่ยวจูนเป็นคนผิด แต่ทำไมเสี่ยวจูนถึงใส่ร้ายเธอด้วย

ฉินต้าหย่งที่เห็นแบบนี้ก็เพิ่งสังเกตเห็นรถโรลส์รอยซ์สุดหรูคันหนึ่งจอดอยู่ข้างๆ แต่โลโก้หน้ารถถูกหักออกไป และโลโก้นั้นอยู่ในมือของเสี่ยวจูนอีกด้วย

“หุ่นโลโก้อยู่ในมือเราไม่ใช่เหรอ? เด็กคนนี้ ทำไมถึงใส่ร้ายคนอื่นได้?”

ฉินต้าหย่งมั่นใจว่าเสี้ยวเสี้ยวไม่มีทางโกหกอยู่แล้ว หุ่นหน้ารถมันอยู่ในมือของเสี่ยวจูน แสดงว่าเสี่ยวจูนเป็นคนหักมัน

“แง!”

ฉินต้าหย่งทำให้เสี่ยวจูนรู้สึกตกใจมาก เขาจึงยัดโลโก้ในมือให้กับเสี้ยวเสี้ยวแล้วร้องไห้ออกมาอย่างเสียงดัง

“เสี่ยวจูน ลูกเป็นอะไร? ใครรังแกลูกเหรอ?”

ในเวลานี้ สาววัยสามสิบวิ่งเข้ามาแล้วกอดเสี่ยวจูนไว้และถามเขา

เสี่ยวจูนก็ตอบด้วยน้ำตา “คุณแม่ครับ เสี้ยวเสี้ยวเป็นคนหักโลโก้ แต่เขายังโทษผม แล้วก็ตาแก่คนนี้ยังตีผมด้วยครับ! คุณแม่ครับ พวกมันรังแกผมครับ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวจูน ฉินต้าหย่งก็แทบจะเป็นบ้า จากนั้นเขาพูดอย่างไม่พอใจว่า “เด็กคนนี้ ทำไมถึงพูดจาโกหกได้?”

“ผั๊วะ!”

ในขณะที่ความสนใจของฉินต้าหย่งอยู่ที่เสี่ยวจูน และก่อนที่เขาจะตั้งตัวได้ แม่ของเสี่ยวจูนก็เข้ามาตบหน้าเสี้ยวเสี้ยวโดยไม่ลังเล

“นังตัวแสบ แกกล้ารังแกลูกชายฉันงั้นเหรอ ฉันจะสั่งสอนแกเอง!”

แม่ของเสี่ยวจูนด่าไปด้วยแล้วยกมือขึ้นเพื่อจะตบเสี้ยวเสี้ยว

“แง!”

เสี้ยวเสี้ยวที่ถูกตบหน้าก็ร้องไห้ออกมาทันที

ฉินต้าหย่งเพิ่งตั้งสติได้ เขารู้สึกโกรธมาก เขาก็ผลักแม่ของเสี่ยวจูนออกไปแล้วกอดเสี้ยวเสี้ยวไว้และพูดด้วยความโกรธว่า “ผู้หญิงคนนี้ ทำไมถึงทำร้ายเด็ก?”

“ไอ้แก่ แกกล้าทำร้ายฉันเหรอ! แกรู้ไหมว่าสามีฉันคือใคร? เขาคือคนของตระกูลหลีเชียวนะ!”

แม่ของเสี่ยวจูนเหมือนผีบ้าคนหนึ่ง เธอตะโกนด่าไปด้วยแล้วสองมือก็ยื่นออกไปเพื่อหยิกตัวของฉินต้าหย่งไปด้วย

ฉินต้าหย่งได้แต่ปกป้องเสี้ยวเสี้ยวไว้ในอ้อมแขนของเขา และทนกับการขีดข่วนจากแม่ของเสี่ยวจูนเท่านั้น

ผู้คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุอยากเข้ามาห้ามคนทะเลาะกันมาก แต่หลังจากแม่ของเสี่ยวจูนบอกว่าสามีเธอเป็นคนของตระกูลหลี ทุกคนก็กลัวจนไม่กล้าทำอะไร

หลังจากที่ตระกูลไช่ถูกแทนที่โดยตระกูลเฉินแล้ว ตระกูลหลีก็กลายเป็นที่สนใจ ซึ่งนอกจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูแล้ว จะมีใครกล้าต่อกรกับคนของตระกูลหลีอีก?

ในไม่ช้า ใบหน้าและแขนของฉินต้าหย่งก็ถูกแม่ของเสี่ยวจูนขีดข่วนจนเป็นแผล และในที่สุดเธอก็สงบลง

“ไอ้แก่ รถคันนี้ราคาเท่าไหร่แกรู้ไหม? นี่มันรถโรลส์-รอยซ์ โกสท์ รุ่นลิมิเต็ดเชียวนะ ตอนนี้มูลค่ามันอยู่ที่ห้าสิบล้านหยวนแล้ว”

แม่ของเสี่ยวจูนพูดอย่างโกรธเคือง “ไอ้เด็กเวรนี่มันทำรถฉันพัง ถ้าแกไม่จ่ายฉันห้าสิบล้านในวันนี้ แกก็ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!”

ฉินต้าหย่งเพิ่งเข้าใจว่ารถคันนี้เป็นของแม่เสี่ยวจูน

แต่ว่าคำด่าของผู้หญิงคนนี้ทำให้ฉินต้าหย่งยิ่งโกรธมากขึ้น “คุณช่วยระวังปากให้ดีนะ! ไม่อย่างนั้นคุณจะเสียใจ!”

“โอ้โห! กล้าเถียงฉันด้วยเหรอ?”

แม่ของเสี่ยวจูนแสยะยิ้มออกมา “ได้สิ ฉันจะไม่พูดมากกับแก ฉันจะเรียกสามีฉันมาเคลียร์เรื่องนี้เอง แต่ฉันจะเตือนแกไว้ก่อนนะ สามีฉันนิสัยไม่ได้ดีอย่างที่คิด เดี๋ยวถ้าเขามาแล้ว เขาจะไม่ปล่อยแกไปง่ายๆ แน่นอน”

จากนั้นแม่ของเสี่ยวจูนก็กดโทรออก “ที่รัก ลูกชายคุณถูกเขารังแกที่สวน คุณรีบพาคนมาที่นี่เลยนะ!”

ฉินต้าหย่งไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะบ้าอำนาจขนาดนี้ ไม่พอใจก็เรียกคนมาขู่เลยหรือ?

คู่กรณีไม่เพียงแต่ตีเสี้ยวเสี้ยว แต่ยังให้เขาชดใช้ค่าเสียหายอีก

ตอนนี้เสี้ยวเสี้ยวก็หวาดกลัวมาก เธอได้แต่หลบอยู่ในอ้อมแขนของฉินต้าหย่งแล้วมองแม่ของเสี่ยวจูนด้วยความกลัว

“พี่ชาย คุณรีบขอโทษเขาเถอะนะ! ตระกูลหลีไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปนะ มันไม่ใช่คนต่างถิ่งอย่างคุณจะท้าทายได้หรอก”

“ใช่น่ะสิ ขอโทษให้จบๆ ไปจะดีกว่า! ถ้ารอให้คนของตระกูลหลีมาแล้ว พวกคุณจะแย่กว่านี้นะ!”

ผู้สูงอายุที่อยู่ในเหตุการณ์ก็พยายามเกลี้ยกล่อมด้วยความหวังดี

และแม่ของเสี่ยวจูนดูหยิ่งผยองมาก ด้วยท่าทีที่เย่อหยิ่งของเธอ เธอก็มองไปที่ฉินต้าหย่งอย่างรังเกียจ

ฉินต้าหย่งที่เต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อเห็นท่าทีของเธอแบบนี้ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

เขาถูกทำร้ายก็แล้วไป แต่นี่เสี้ยวเสี้ยวยังถูกตบหน้า แถมยังฝากรอยตบไว้บนใบหน้าของเด็กอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านี้ เขาเลือกที่จะเกษียณอายุก็เพื่อจะตามหยางเฉินมาเยี่ยนตูและตั้งใจมาดูแลเสี้ยวเสี้ยว

แต่เสี้ยวเสี้ยวเพิ่งเข้าเรียนได้วันแรกก็ถูกคนอื่นทำร้ายแล้ว แล้วเขาจะทนได้อย่างไร?

“ในเมื่อคุณอยากให้เรื่องมันใหญ่กว่านี้ ผมจะเล่นกับคุณเอง!”

ฉินต้าหย่งกัดฟันพูด

“ไอ้แก่ แกกล้าท้าทายฉันงั้นเหรอ? แก่ปางตายอยู่แล้ว ยังกล้ามาต่อกรกับตระกูลหลี? เอาสิ! ในเมื่อแกเก่งมากนัก ก็เรียกคนของแกมาเลย!”

แม่ของเสี่ยวจูนพูดอย่างเย้ยหยันต่อ “ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าตาแก่ยังแกจะเรียกคนอะไรมาช่วย?”

เมื่อเห็นแบบนี้ ผู้คนในเหตุการณ์ก็โกรธมาก พวกเขาคิดว่าฉินต้าหย่งหัวแข็ง ที่เลือกต่อกรกับตระกูลหลี รนหาที่ตายชัดๆ!

แต่ฉินต้าหย่งไม่ได้สนใจใคร และกดโทรออกทันที “หยางเฉิน พ่อกับเสี้ยวเสี้ยวถูกกักอยู่ที่สวนในบริเวณวิลล่า แล้วก็เสี้ยวเสี้ยวยังถูกคนอื่นตบอีกด้วย!”

“ว่าไงนะครับ?”

หยางเฉินที่อยู่ในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เมื่อได้ยินว่าลูกสายถูกทำร้าย เขาก็ลุกขึ้นทันทีและพูดด้วยความโกรธ “กล้าทำร้ายลูกสาวผม อยากตายนักใช่ไหม?”

เดิมทีเขารู้สึกผิดต่อลูกสาวอยู่แล้ว และลูกสาวคนนี้ก็เป็นเหมือนชีวิตของเขา

แค่เสี้ยวเสี้ยวน้อยใจ หัวใจของเขาก็แทบจะแตกสลายอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เสี้ยวเสี้ยวกลับถูกคนอื่นตบหน้าแบบนี้ ใครที่รู้ก็สามารถนึกภาพความโกรธในใจของหยางเฉินได้

“พ่อครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะยังไง พ่ออย่าเพิ่งทะเลาะกับพวกมันนะ ให้เสี้ยวเสี้ยวปลอดภัยไว้ก่อน รอผมไปถึงค่อยว่ากัน!”

แม้หยางเฉินจะโกรธมาก แต่เขาเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ดี

“นายไม่ต้องห่วง ตอนนี้เสี้ยวเสี้ยวอยู่กับพ่อแล้ว ต่อให้พ่อต้องตาย พวกมันก็จะทำอะไรเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้!”

ฉินต้าหย่งรับประกัน

“ครับ!”

ระหว่างที่หยางเฉินคุยโทรศัพท์กับฉินต้าหย่ง เขาก็ได้ออกจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแล้ว

รถกำลังแล่นไปตลอดทาง ด้วยความโกรธของหยางเฉิน เขาแทบจะทำให้รถบินขึ้นบนฟ้า

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset