The King of War – ตอนที่ 734 ฉินซีไปตามนัด

ในห้องประชุมของตระกูลหลี หลีจื้อที่เพิ่งขึ้นรับตำแหน่งเจ้าบ้านกำลังจัดการประชุมทายาทสายตรงของตระกูล ทันใดนั้นประตูห้องประชุมก็ถูกผลักเปิดออก หลีเจ๋อเดินกลับมา

“หลีเจ๋อ คุณกลับมาอีกทำไม?”

หลีจื้อที่นั่งอยู่บนที่นั่งประธาน ยิ้มร่ามองหลีเจ๋อแล้วพูดว่า “อย่าบอกผมนะว่าคุณยังไม่ยอมจำนน ยังคิดจะต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้านกับผม?”

“เขาทำให้ตระกูลหลีสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่าครึ่ง ยังคิดจะแย่งชิงตำแหน่งเจ้าบ้าน? ฝันไปเถอะ!”

“หลีเจ๋อ คุณเป็นคนบาปของตระกูลหลี ในเมื่อคุณไม่ใช่เจ้าบ้านแล้วก็รีบไสหัวออกไปจากที่นี่ ที่นี่ไม่ต้องรับคุณ!”

“ใช่ รีบไสหัวออกไป! คนบาปของตระกูลไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมภายในวงศ์ตระกูล!”

ภายในชั่วพริบตา ทุกคนต่างพากันขับไล่หลีเจ๋อ

หลีเจ๋อมองคนเหล่านี้ด้วยสีหน้าเฉยชา ก่อนจะมาถึงวันนี้ สมาชิกทุกคนในตระกูลหลียังก้มหัวคุกเข่าให้เขาอย่างไร้ศักดิ์ศรี

ตอนนี้เขาได้สูญเสียตำแหน่งเจ้าบ้านไปแล้ว ทายาทสายตรงที่เคยประจบประแจงเขามาก่อน ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“หุบปากให้หมด!”

ทันใดนั้นหลีเจ๋อก็ตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธจัด

ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องประชุมก็สงบเงียบลง

ทุกคนเกิดภาพหลอนขึ้นมาอย่างฉับพลัน หลีเจ๋อต่างหากที่เป็นเจ้าบ้านของตระกูลหลี

สีหน้าของหลีจื้อบึ้งตึง เขาคิดไม่ถึงว่าแค่ประโยคเดียวของหลีเจ๋อ จะสะกดผู้คนเหล่านี้ได้

“หลีเจ๋อ คุณคิดจะทำอะไร?”

หลีจื้อกัดฟันถาม

ประกายความเยือกเย็นฉายผ่านสองตาของหลีเจ๋อ เขาออกคำสั่งทันที “ฆ่าเขา!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หลีจื้อก็เบิกตาโพลงทันที ถามอย่างไม่เชื่อสายตา “คุณจะฆ่าผมเหรอ?”

แต่ทว่า ทันทีที่เขาพูดจบ หนึ่งในชายวัยกลางคนสวมชุดผ้าสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังหลีเจ๋อมาตลอดก็ขยับตัว

ท่ามกลางความประหลาดใจของผู้คนในตระกูลหลี ชายวัยกลางคนสวมชุดผ้าดูเหมือนจะกลายเป็นเงา ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตอบโต้ อีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าหลีจื้อแล้ว

“พลั่ก!”

เห็นเพียงยอดฝีมือชุดผ้าเหวี่ยงหมัดออกไป กระแทกเข้ากับหน้าอกของหลีจื้อ

วินาทีถัดมา ร่างของหลีจื้อก็กระเด็นออกไปและร่วงลงกับพื้นอย่างแรง นิ่งไม่ไหวติง

ในขณะนี้ ทั่วทั้งห้องเงียบกริบ!

ทุกคนจับจ้องไปที่หลีจื้อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น

“นี่ ตายแล้วเหรอ?”

ผ่านไปสักพักก็มีคนถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

แต่ทว่าไม่มีใครตอบ

หลีเจ๋อกลับไปนั่งที่ตำแหน่งประธาน แววตาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เขากวาดสายตามองดูผู้คนและกล่าวว่า “ต่อจากนี้ไป ตระกูลหลีจะอยู่ในการตัดสินใจของผม ใครกล้าไม่เคารพ จุดจบของพวกคุณจะเหมือนกับหลีจื้อ!”

“ครับ ท่านเจ้าบ้าน!”

ทายาทสายตรงของตระกูลหลีที่เมื่อครู่ยังเยาะเย้ยและขับไล่หลีเจ๋อต่างๆ นานา ในเวลานี้กลับมีท่าทีเคารพนบนอบกันทุกคน

ยอดฝีมือในชุดผ้าสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังหลีเจ๋อ คือเรื่องที่น่าตกใจที่สุด

การสังหารผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนัก 160-170 ชั่งได้ด้วยฝ่ามือเดียว แม้แต่ยอดฝีมือของแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ก็อาจจะไม่มีความสามารถในเรื่องนี้ก็ได้?

สิ่งที่หยางเฉินไม่รู้ก็คือ คนของตระกูลป้าได้มาติดต่อหลีเจ๋อแล้ว

วันรุ่งขึ้น ฉินซีกำลังอยู่บนโต๊ะทำงานในห้องรองผู้จัดการทั่วไป ยังมีเอกสารกองเล็กๆ วางอยู่บนโต๊ะ ทั้งหมดเป็นงานในช่วงนี้ของฉินซี

อย่างไรก็ตาม มันเป็นวันที่สองของเธอในการทำงานในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ยังมีงานอีกมากที่ฉินซีไม่ค่อยเข้าใจ จึงต้องพยายามทำความเข้าใจให้ดีที่สุดก่อน

“ประธานฉิน กำลังยุ่งอยู่หรือเปล่า?”

จู่ๆ ลั่วปิงก็เคาะประตูเข้ามา เมื่อเห็นว่าฉินซีกำลังยุ่งอยู่กับงาน จึงถามด้วยรอยยิ้ม

ฉินซีรู้ว่าลั่วปิงเป็นคนที่สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป เธอจึงไม่กล้าที่จะดูหมิ่นลั่วปิงด้วยฐานะเถ้าแก่หญิง เธอรีบลุกขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “กำลังดูงบการเงินของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปในไตรมาสที่แล้ว”

ลั่วปิงยิ้มๆ “ตอนนี้การพัฒนาของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมีเสถียรภาพมากแล้ว ประธานฉินอย่าหักโหมเกินไป งานบางอย่างต้องค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับมัน”

“หยางเฉินขอให้คุณมาดูแลฉันเหรอ?”

ฉินซีถามด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ

ลั่วปิงก็ไม่ได้ปิดบัง เขากล่าวยิ้มๆ “ท่านประธานไม่ต้องการให้คุณหักโหมเกินไป ถ้าประธานฉินมีอะไรให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลยนะครับ”

“ถ้ายังมีตรงไหนไม่เข้าใจ ฉันจะไปรบกวนประธานลั่วแน่นอนค่ะ” ฉินซีกล่าว

“ครับ ถ้าอย่างนั้นประธานฉินทำงานต่อเถอะ ผมขอตัวไปทำงานเหมือนกัน”

ลั่วปิงพูดจบก็เดินออกจากห้องทำงาน

ฉินซีนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน กล่าวด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม “ทำไมถึงมีความรู้สึกว่าฉันต่างหากที่เป็นผู้จัดการทั่วไปของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป?”

ตอนนี้ลั่วปิงเป็นผู้จัดการทั่วไปของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป คอยมองภาพรวมของสถานการณ์ทุกด้าน

ส่วนฉินซีและฉินยี ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้จัดการทั่วไป คอยช่วยงานลั่วปิงในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป

เมื่อวานเป็นวันแรกที่ฉินซีมาทำงานในเยี่ยนเฉินกรุ๊ป วันนี้เป็นวันที่สอง

แต่ทุกวันลั่วปิงจะมาหาฉินซีเป็นประจำ เพื่อถามว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่

“สงสัยว่าฉันต้องหาวิธีสร้างผลงานสักหน่อย มิฉะนั้นจะไม่คู่ควรกับตำแหน่งรองผู้จัดการทั่วไปของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป!”

ใบหน้าอันละเอียดลออของฉินซีเต็มไปด้วยความแน่วแน่

“ประธานฉิน ประธานลือจากเซิ่งเทียนกรุ๊ป บอกว่าต้องการพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับความร่วมมือ ตอนนี้มารออยู่ที่ชั้นล่างแล้ว คุณต้องการพบเธอไหม?”

และในเวลานี้ เลขาของฉินซีก็เดินเข้ามาถามด้วยความเคารพ

“รีบเชิญขึ้นมา!”

ฉินซีรีบบอก

แม้ว่าเธอจะไม่เคยติดต่อกับเซิ่งเทียนกรุ๊ปมาก่อน แต่ก็ได้ยินมาว่าเป็นหนึ่งในกิจการห้าร้อยอันดับแรกของโลก มีศักยภาพไม่ได้ด้อยไปกว่าเยี่ยนเฉินกรุ๊ปเลยแม้แต่น้อย

ฉินซีกำลังต้องการสร้างผลงานให้กับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป และเซิ่งเทียนกรุ๊ปก็เข้ามาขอความร่วมมือด้วยตัวเอง

ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตูห้องทำงาน

“เชิญค่ะ!”

ฉินซีจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วเอ่ยขึ้น

ประตูห้องทำงานถูกผลักเปิดออก หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีค่ะประธานฉิน ฉันคือลือหยิง รองผู้จัดการทั่วไปของเซิ่งเทียนกรุ๊ป!”

ใบหน้าของลือหยิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม รีบก้าวไปข้างหน้าและเอื้อมมือไปหาฉินซี

ฉินซีรีบจับมือกับอีกฝ่ายทันทีและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ยินดีต้อนรับประธานลือ! เชิญนั่งค่ะ!”

“ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่า จะมีรองประธานสาวสวยของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปมาใหม่ ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อ พอวันนี้ได้เห็น ก็เป็นไปดังคาด ความงดงามของประธานฉินนั้น พวกดาราดังๆ ในวงการบันเทิงนั้นเทียบไม่ติดเลย!”

ลือหยิงนั่งลงแล้วกล่าวด้วยสีหน้าชื่นชม

ฉินซีถูกชมจนรู้สึกอึดอัด กล่าวยิ้มๆ ว่า “ประธานลือก็สวยมากเช่นกัน ฉันเคยวิเคราะห์ผลงานที่ประสบความสำเร็จของประธานลือมาก่อนและชื่นชมประธานลือมาก!”

หลังจากผู้หญิงสองคนทักทายกันแล้ว ลือหยิงจึงกล่าวยิ้มๆ ว่า “วันนี้ที่ฉันมา ก็เพราะว่าอยากคุยเรื่องทำธุรกิจกับเยี่ยนเฉินกรุ๊ป”

“ไม่ทราบว่าประธานลือจะคุยเรื่องธุรกิจประเภทไหนคะ?”

ในใจฉินซีแอบดีใจ แต่ภายนอกก็ยังถามอย่างใจเย็น

ลือหยิงยกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ประธานฉิน คุณดูสิ ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว เราออกไปกินข้าวข้างนอกไปพร้อมๆ กับพูดคุยเรื่องธุรกิจดีไหม?”

พูดจบลือหยิงก็กล่าวเสริมว่า “แค่เราสองคน ไม่มีใครอยู่กับเรา”

ฉินซีตกตะลึง โดยทั่วไปแล้ว เวลาพูดคุยเรื่องธุรกิจ ผู้บริหารระดับสูงจะพาผู้ใต้บังคับบัญชาไปด้วยกัน

ลือหยิงอธิบายอีกว่า “ครั้งนี้ ฉันวิ่งมาหาคุณโดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้เวลาฉันคุยเรื่องความร่วมมือกับนักธุรกิจหนุ่มพวกนั้น ถ้าไม่ดื่มเหล้าก็พูดเรื่องลามก มันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดมาก”

“ฉันคิดว่าคงจะมีความสุขมากถ้าได้พูดคุยเรื่องธุรกิจกับผู้หญิงสะอาดสะอ้านอย่างประธานฉิน!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ความสงสัยในใจของฉินซีหายไป เธอลุกขึ้นและพูดว่า “โอเค วันนี้จะไปกินข้าวกับประธานลือตามลำพัง เพื่อเป็นการผูกมิตร!”

The King of War

The King of War

ห้าปีก่อน หยางเฉินเพื่อให้ตัวเองคู่ควรกับฉินซี เขาจากไปโดยไม่ร่ำลา ห้าปีต่อมา เขาพกความสามารถอันน่าทึ่ง กลับมาอย่างรุ่งโรจน์ เพียงแต่ว่าพอมาถึง กลับพบว่าตนมีลูกสาวเพิ่มขึ้นมาอีกคน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset