ทันทีที่กระบวนการฟ้องร้องเริ่มขึ้น โลกการเมืองของโมโดก็อึกทึก ทุกฝ่ายถูกลากเข้ามา บังคับให้เลือกข้าง โมโดไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปลี่ยนจุดสนใจกลับไปยังภายในประเทศ จัดการกับการฟ้องร้อง สามราชาถูกบังคับให้ต้องส่งคนเข้าร่วมสงครามการเมือง โชคดี หลังผ่านไปหลายปี ตำแหน่งพวกเขาจึงมั่นคงและแข็งแกร่ง พวกเขาจะไม่โดนโค่นง่ายๆ
มีอารยธรรมขั้นสูงน้อยมากที่อยู่ในระบอบเผด็จการ การอยู่ในตำแหน่งผู้นำสูงสุดไม่ได้หมายความว่าจะได้รับอำนาจสูงสุด การเมืองเป็นศิลปะแห่งการประนีประนอม อำนาจมาจากการเชื่อฟัง แม้ในฐานะผู้นำอารยธรรม เพื่อรักษาตำแหน่ง พวกเขาก็ยังต้องสู้เพื่อแรงสนับสนุนจากฝ่ายต่างๆ จากนั้นอำนาจพวกเขาถึงเป็นรูปธรรม
ไม่งั้น ไม่ว่าพวกเขาจะสั่งอะไร พวกเขาก็จะโดนขัดขวางด้วยศัตรูทางการเมือง การเป็นผู้นำสูงสุดไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเชื่อฟังพวกเขาอย่างไร้เงื่อนไข มีหลายคนที่หมายตาตำแหน่งพวกเขาด้วย
วันต่อมา พลเมืองได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในโลกการเมืองกับตา สามราชาโมโดและฝ่ายตรงข้ามดึงไพ่ออกมาทีละใบ เมื่อวานซืน บางคนลาออก เมื่อวาน บางคนโดนเรียกตัว วันนี้มีเรื่องอื้อฉาว มีแค่พระเจ้าถึงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้ พลเมืองมีเรื่องราวใหม่มากมายให้ติดตาม
เมื่อได้ยินว่าสภาสามเผ่าจะเป็นผู้ตัดสิน ฝ่ายค้านก็งัดหลักฐานออกมามาก บางคนยังนำความลับบางอย่างที่ประชาชนไม่ควรรู้ออกมา ทำให้เกิดความโกลาหล
เหตุการณ์เผ่าคุนเด้เป็นหนึ่งในนั้น ฝ่ายคัดค้านเรียกพยานสำคัญ ให้พวกเขามอบลายเซ็นของสามราชาโมโดที่อนุมัติแผนการนี้ จากนั้นก็ใช้มันเป็นหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าเหตุการณ์คุนเด้คือสาเหตุที่แบล็คสตาร์โจมตีโมโด ดังนั้น พวกเขาจึงได้รับข้อสรุปว่าสามราชาโมโดได้นำความเกลียดชังของแบล็คสตาร์มาสู่อารยธรรม พวกเขาคือตัวการที่ทำให้โมโดตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ฝ่ายคัดค้านอ้างว่าสามราชาโมโดได้ตัดสินใจเองและสามราชาก็ไม่มีความสามารถพอจะรักษาตำแหน่งผู้นำ
มีหลักฐานทำนองเดียวกันมากขึ้น ฝ่ายค้านโทษความผิดทั้งหมดให้สามราชา ย้ำต่อวุฒิสภาสามเผ่าว่าสามราชาไร้ความสามารถและเสนอให้เปลี่ยน
นี่ไม่ใช่การใส่ร้ายสามราชาโมโด ในฐานะผู้นำสูงสุด ต่อให้ทั้งสามจะไม่เสนอแผนเอา พวกเขาก็ต้องเป็นคนอนุมัติ
พยานไร้สิ้นสุดทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายต่อสามราชา แต่ทว่า ตำแหน่งพวกเขาก็ไม่ได้สั่นคลอนง่ายๆ สายสัมพันธ์ของพวกเขาครอบคลุมมาก รวมถึงทหาร หลายฝ่ายเป็นผู้สนับสนุนอย่างมั่นคง ฝ่ายเหล่านี้ล้วนเป็นสมาชิกในสภาสามเผ่า พวกเขาร่วมมือกันเพื่อขัดขวางการฟ้องร้อง
ทหารอยู่ข้างสนับสนุนสงคราม ซึ่งนำมาซึ่งการสนับสนุนของเบื้องบนคนสำคัญ เทียบกับผู้สนับสนุนสามราชา ฝ่ายค้านที่นำโดยมาร์โกไม่ใช่คู่ต่อกร การสืบสวนจะชนเข้ากับกำแพงในไม่ช้า ดังนั้นฝ่ายค้านต้องหันไปสนใจกลุ่มว่าที่สามราชาโมโดคนใหม่ หวังจะได้รับการสนับสนุนของพวกเขา ซึ่งล้มเหลวเช่นกัน
ด้วยการฟ้องร้อง เรื่องนี้จึงนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง สามราชาโมโดเสียเวลาไปมาก พวกเขาไม่อยากเสียพลังงานไปกับเรื่องนี้ พวกเขาจึงไม่อดกลั้นเลย
ดังนั้น เรื่องไร้สาระนี้จึงคงอยู่ไม่นานนัก สุดท้าย สภาสามเผ่าก็ปฏิเสธคำฟ้องร้องของฝ่ายค้าน ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการสูญเสียของทั้งสองฝ่าย
เมื่อการเมืองโดนจัดการ เพื่อฟื้นชื่อเสียง สามราชาโมโดจึงตัดสินใจจัดงานแถลงต่อสาธารณะ จัตุรัสเบนิด เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองหลวงอารยธรรมโมโด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเยี่ยมชมมากมายทุกวัน วันนี้ มันถูกใช้โดยรัฐบาลกลางเป็นสถานที่จัดงานแถลงของสามราชา
เนื่องจากภาพลักษณ์ด้านลบต่อสาธารณะ สามราชาจึงไม่พูดเรื่องการเมืองในครั้งนี้ แต่เลือกกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าสาธารณชนแทน สร้างภาพลักษณ์ว่าพวกเขาใกล้ชิดกับพลเมืองพวกเขา
มีการตั้งวงล้อมรอบจัตุรัส เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากประจำการอยู่โดยรอบ ปกป้องด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ตอนนี้ ผู้ชมที่ขยายออกไปสุดสายตามารวมกันรอบนอก
หลายคนชูป้าย’ โค่นสามราชา’ พวกเขาเป็นผู้ประท้วง…แม้ฝ่ายค้านจะแพ้ พวกเขาก็ยังสร้างความเสียหายที่ยากจะลบต่อชื่อเสียงของสามราชา
ที่นั่งของเจ้าหน้าที่อยู่รอบแท่น และที่นั่งของฝ่ายค้านก็อยู่ตรงขอบ ซึ่งจงใจจัดไว้ คนอื่นไม่เต็มใจมองปทางนั้น ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายค้านที่พ่ายแพ้
“ไม่คิดเลยว่าสามราชาจะเชิญเรา” สมาชิกคนหนึ่งของฝ่ายค้านพึมพำ” พวกเขาอยากทำให้เราอับอายต่อหน้าสาธารณะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพูด”
มาร์โกอารมณ์ไม่ดี
เขารู้เต็มอกว่าตอนนี้ ไม่มีทางที่สามราชาจะเชิญพวกเขามาเพื่อฟื้นความสัมพันธ์ พวกเขาจะประณามการกระทำของพวกเขาในฐานะผู้ชนะ
แน่นอน ฝ่ายค้านก้าวออกมาฟ้องร้องสามราชาเพราะพวกเขามั่นใจว่าจะชนะได้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายพวกเขากลับแพ้ ไพ่ตายที่พวกเขาดึงออกมาโดนจัดการไปทีละใบ และพยานบางคนยังโดนซื้อ มาร์โกทำได้แค่ยอมรับมัน มีบางคนที่มีความคิดเหมือนเขา แต่ไม่กล้ายืนหยัดเพราะไม่กล้าเสี่ยง เพื่อเปลี่ยนเส้นทางของอารยธรรม มาร์โกเต็มใจเสี่ยง ในอีกด้านหนึ่ง คนที่ซ่อนตัวเพื่อปกป้องตำแหน่งพวกเขาไม่ได้ลงมือใดๆ แม้พวกเขาจะค้านการตัดสินใจของสามราชาและเฝ้าดูกองทัพที่ละลายหายไปอย่างไร้ความหมาย แม้เขาจะแพ้ เขาก็ยังดูถูกพวกขี้ขลาดเหล่านี้
หลังจากนั้นไม่นาน สามราชาก็เข้ามาใกล้แท่น แสงไฟส่องไปที่พวกเขา
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วจัตุรัส กลบเสียงโห่ร้องโกรธเกรี้ยวของผู้ชมนับไม่ถ้วนนอกจัตุรัส ทั้งสามโบกมือพร้อมกัน มองผู้ชมภายในจัตุรัสด้วยรอยยิ้ม
ขณะที่ทั้งสามกวาดมอง สายตาของพวกเขาก็จงใจหยุดที่ฝ่ายค้านก่อนเบือนหน้าหนี จากนั้นกล้องก็หันไปทางฝ่ายค้าน แสดงรอยยิ้มฝืนหรือใบหน้าเฉยชาของพวกเขา
“ฮึ่ม…” มาร์โกแค่นเสียงขณะปรบมือเสียงดัง
เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจแววตาของสามราชา มันคือแววตาของผู้ชนะ ขณะที่เสียงปรบมือค่อยๆ เบา หนึ่งในสามราชาก็พูด” ประชาชนของฉัน โมโดคืออารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ เราเป็นหนึ่งเดียวกันมาตั้งแต่ยุคสำรวจ และสามราชาหลายชั่วอายุคนก็ได้นำเราไปข้างหน้า…”
ทั้งสามท่องตามบทที่เขียนไว้ พวกเขาตัดบทบางส่วน พูดถึงความไม่สงบในสังคมและเหตุการณ์ฟ้องร้อง พวกเขายอมรับว่าพวกเขาตัดสินใจพลาด แต่พวกเขาก็ยังย้ำว่ามันเป็นแผนร้ายของศัตรู พวกเขาอ้างว่า” โมโดกำลังเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง ศัตรูอยากให้เราถอย พวกเขาจึงใช้แผนร้ายทุกประเภท หวังทำให้เรากลัว”
ทั้งสามอธิบายว่าทำไมถึงส่งทหารไปโลกริบหรี่ บอกว่ามันเพื่ออนาคตของอารยธรรม ระหว่างการพูด สามราชาอธิบายและโต้แย้งเรื่องที่ฝ่ายค้านนำเสนอระหว่างการฟ้องร้อง พยายามกอบกู้ชื่อเสียงให้ได้มากที่สุด
คำพูดของสามราชาฟังมีเหตุผล คนในจัตุรัสปรบมือเป็นบางครั้ง ผู้ชมรอบนอกยังโดนโน้มน้าวด้วย ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งค่อยๆ ลดป้ายลง นอกจากนักข่าว ผู้ชมยังเริ่มบันทึกภาพ
นฝูงชนนอกแท่น ชายตัวสูงถืออุปกรณ์สื่อสารไว้และบันทึกการปราศรัย เขาดูเหมือนผู้ชมทั่วไป แต่จริงๆ แล้วเป็นหนึ่งในสายของสหพันธ์แห่งแสงที่รับผิดชอบการรับเอาข้อมูล เขาถูกส่งมาตั้งนานแล้ว
ขณะทำงานของเขา สายคนนี้ยังคิด ฝ่ายค้านแพ้ แต่สามราชาก็เจ็บหนัก มันเป็นข่าวดี…
ฝุ่นเริ่มสลาย ไม่มีข่าวน่าตกใจอีก มีแค่คำปราศรัยจากผู้ชนะ สายคนนี้ไม่คิดว่าเขาจะพบข่าวล้ำค่าอะไร เขาแค่มาเพราะหน้าที่
แต่ทว่า ตอนนั้นเอง แสงวูบวาบพลันพุ่งผ่านหางตาเขาไป สายจึงหันไปมองโดยไม่รู้ตัว
ดวงตาของเขาทะลุผ่านฝูงชน เห็นแสงสลัวด้านหลังมือของชายสวมฮูด วินาทีถัดมา แสงสีทองแหลมก็พุ่งผ่านสายตาเขา ยิงออกไปเหมือนสายฟ้าฟาด สายพลันหันไป เห็นแสงนี้ไปถึงตรงหน้าสามราชาโมโดที่กำลังพูด
เกร๊ง!
โล่เวทมนตร์สีฟ้าพลันเปิดออก หยุดลำแสงนี้ คาถาป้องกันผู้อยู่เหนือบนตัวสามราชาโมโดทำงาน มันสามารถป้องกันการโจมตีได้หลายรูปแบบ
การพูดปราศรัยหยุดลง จากนั้นสามราชาโมโดถึงรู้ตัวว่าของที่โจมตีพวกเขาเป็นหอกสีทอง มันคืออาวุธของล็อตแฮร์ เทพสังหาร
“นักฆ่า!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตะโกน ผู้คุ้มกันระดับภัยพิบัติหลายคนที่ยืนด้านหลังสามราชาตกใจ พวกเขารีบกระตุ้นความสามารถเพื่อปกป้องสามราชา
แม้การตอบสนองของพวกเขาจะเร็ว มันก็ไม่เร็วพอ คาถาป้องกันผู้อยู่เหนือหยุดเทพสังหารได้แค่ครู่เดียวก่อนจะโดนเจาะ หอกปักหนึ่งในสามราชาลงกับพื้น ความตกใจและความกลัวยังฉายชัดบนหน้าเขา
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทำให้ทุกคนตกตะลึง มีใครบางคนพยายามลอบสังหารสามราชา?
ความคิดของพวกเขาย่อยเต็มที่ ความกลัวฉายชัดบนหน้าคนนับไม่ถ้วน
“วิ่ง!”
“มีคนตาย!”
“เรียกหมอ!”
“ปิดตายจัตุรัสเดี๋ยวนี้..ไม่สิ ปิดตายทั้งดาว!”
วินาทีถัดมา ทั้งสถานที่ก็ยุ่งเหยิง ผู้ชมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกจัตุรัสต่างตื่นตระหนกและหนี ขณะตะโกน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้พาราชาที่เหลืออีกสองออกไปขณะค้นหาคนร้าย เจ้าหน้าที่ต่างกลัวและหนีไปภายใต้การคุ้มครองของคนพวกเขา
“ใครส่งนักฆ่าคนนี้มา? นี่มันบ้าไปแล้ว!” มาร์โกหนีสุดความสามารถ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
การลอบสังหารผู้นำสูงสุดของอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดบนดาวแม่เท่ากับการฆ่าตัวตาย!
มีเพียงพระเจ้าถึงรู้ว่ามันผ่านมานานแค่ไหนแล้วที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แม้กระทั่งสามอารยธรรมจักรวาลก็ไม่ทำเช่นนี้ ไม่มีใครสามารถคาดคิดได้ สามราชาโมโดมักอยู่ในอาคารกลาง แต่วันนี้ พวกเขาจัดงานแถลงที่สาธารณะ และกลายเป็นโอกาสให้มือสังหาร
ส่วนที่ไม่น่าเชื่อคือมือสังหารทำสำเร็จ คาถาป้องกันระดับผู้อยู่เหนือบนตัวสามราชาเป็นเหมือนกระดาษ
ท่ามกลางฝูงชนที่ตื่นตระหนก สายของสหพันธ์แห่งแสงเบิกตากว้าง พยายามหาตัวชายสวมฮูด แต่ก็ไม่พบเสียแล้ว
“เขาเป็นใครกัน? นี่เป็นภารกิจฆ่าตัวตายชัดๆ! ไม่มีทางที่เขาจะหลบหนีออกดาวแม่โมโดได้!” ใบหน้าของสายกระตุก ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
เขาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นเรื่องใหญ่เช่นนี้เข้าด้วยตาตัวเอง
แทบจะทันที ความรู้สายอาชีพทำให้เขาตระหนักถึงโอกาสของเหตุการณ์นี้
มีอารยธรรมขั้นสูงน้อยมากที่อยู่ในระบอบเผด็จการ การอยู่ในตำแหน่งผู้นำสูงสุดไม่ได้หมายความว่าจะได้รับอำนาจสูงสุด การเมืองเป็นศิลปะแห่งการประนีประนอม อำนาจมาจากการเชื่อฟัง แม้ในฐานะผู้นำอารยธรรม เพื่อรักษาตำแหน่ง พวกเขาก็ยังต้องสู้เพื่อแรงสนับสนุนจากฝ่ายต่างๆ จากนั้นอำนาจพวกเขาถึงเป็นรูปธรรม
ไม่งั้น ไม่ว่าพวกเขาจะสั่งอะไร พวกเขาก็จะโดนขัดขวางด้วยศัตรูทางการเมือง การเป็นผู้นำสูงสุดไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะเชื่อฟังพวกเขาอย่างไร้เงื่อนไข มีหลายคนที่หมายตาตำแหน่งพวกเขาด้วย
วันต่อมา พลเมืองได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในโลกการเมืองกับตา สามราชาโมโดและฝ่ายตรงข้ามดึงไพ่ออกมาทีละใบ เมื่อวานซืน บางคนลาออก เมื่อวาน บางคนโดนเรียกตัว วันนี้มีเรื่องอื้อฉาว มีแค่พระเจ้าถึงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้ พลเมืองมีเรื่องราวใหม่มากมายให้ติดตาม
เมื่อได้ยินว่าสภาสามเผ่าจะเป็นผู้ตัดสิน ฝ่ายค้านก็งัดหลักฐานออกมามาก บางคนยังนำความลับบางอย่างที่ประชาชนไม่ควรรู้ออกมา ทำให้เกิดความโกลาหล
เหตุการณ์เผ่าคุนเด้เป็นหนึ่งในนั้น ฝ่ายคัดค้านเรียกพยานสำคัญ ให้พวกเขามอบลายเซ็นของสามราชาโมโดที่อนุมัติแผนการนี้ จากนั้นก็ใช้มันเป็นหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าเหตุการณ์คุนเด้คือสาเหตุที่แบล็คสตาร์โจมตีโมโด ดังนั้น พวกเขาจึงได้รับข้อสรุปว่าสามราชาโมโดได้นำความเกลียดชังของแบล็คสตาร์มาสู่อารยธรรม พวกเขาคือตัวการที่ทำให้โมโดตกอยู่ในสถานการณ์นี้ ฝ่ายคัดค้านอ้างว่าสามราชาโมโดได้ตัดสินใจเองและสามราชาก็ไม่มีความสามารถพอจะรักษาตำแหน่งผู้นำ
มีหลักฐานทำนองเดียวกันมากขึ้น ฝ่ายค้านโทษความผิดทั้งหมดให้สามราชา ย้ำต่อวุฒิสภาสามเผ่าว่าสามราชาไร้ความสามารถและเสนอให้เปลี่ยน
นี่ไม่ใช่การใส่ร้ายสามราชาโมโด ในฐานะผู้นำสูงสุด ต่อให้ทั้งสามจะไม่เสนอแผนเอา พวกเขาก็ต้องเป็นคนอนุมัติ
พยานไร้สิ้นสุดทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายต่อสามราชา แต่ทว่า ตำแหน่งพวกเขาก็ไม่ได้สั่นคลอนง่ายๆ สายสัมพันธ์ของพวกเขาครอบคลุมมาก รวมถึงทหาร หลายฝ่ายเป็นผู้สนับสนุนอย่างมั่นคง ฝ่ายเหล่านี้ล้วนเป็นสมาชิกในสภาสามเผ่า พวกเขาร่วมมือกันเพื่อขัดขวางการฟ้องร้อง
ทหารอยู่ข้างสนับสนุนสงคราม ซึ่งนำมาซึ่งการสนับสนุนของเบื้องบนคนสำคัญ เทียบกับผู้สนับสนุนสามราชา ฝ่ายค้านที่นำโดยมาร์โกไม่ใช่คู่ต่อกร การสืบสวนจะชนเข้ากับกำแพงในไม่ช้า ดังนั้นฝ่ายค้านต้องหันไปสนใจกลุ่มว่าที่สามราชาโมโดคนใหม่ หวังจะได้รับการสนับสนุนของพวกเขา ซึ่งล้มเหลวเช่นกัน
ด้วยการฟ้องร้อง เรื่องนี้จึงนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง สามราชาโมโดเสียเวลาไปมาก พวกเขาไม่อยากเสียพลังงานไปกับเรื่องนี้ พวกเขาจึงไม่อดกลั้นเลย
ดังนั้น เรื่องไร้สาระนี้จึงคงอยู่ไม่นานนัก สุดท้าย สภาสามเผ่าก็ปฏิเสธคำฟ้องร้องของฝ่ายค้าน ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการสูญเสียของทั้งสองฝ่าย
เมื่อการเมืองโดนจัดการ เพื่อฟื้นชื่อเสียง สามราชาโมโดจึงตัดสินใจจัดงานแถลงต่อสาธารณะ จัตุรัสเบนิด เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของเมืองหลวงอารยธรรมโมโด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเยี่ยมชมมากมายทุกวัน วันนี้ มันถูกใช้โดยรัฐบาลกลางเป็นสถานที่จัดงานแถลงของสามราชา
เนื่องจากภาพลักษณ์ด้านลบต่อสาธารณะ สามราชาจึงไม่พูดเรื่องการเมืองในครั้งนี้ แต่เลือกกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าสาธารณชนแทน สร้างภาพลักษณ์ว่าพวกเขาใกล้ชิดกับพลเมืองพวกเขา
มีการตั้งวงล้อมรอบจัตุรัส เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากประจำการอยู่โดยรอบ ปกป้องด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ตอนนี้ ผู้ชมที่ขยายออกไปสุดสายตามารวมกันรอบนอก
หลายคนชูป้าย’ โค่นสามราชา’ พวกเขาเป็นผู้ประท้วง…แม้ฝ่ายค้านจะแพ้ พวกเขาก็ยังสร้างความเสียหายที่ยากจะลบต่อชื่อเสียงของสามราชา
ที่นั่งของเจ้าหน้าที่อยู่รอบแท่น และที่นั่งของฝ่ายค้านก็อยู่ตรงขอบ ซึ่งจงใจจัดไว้ คนอื่นไม่เต็มใจมองปทางนั้น ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายค้านที่พ่ายแพ้
“ไม่คิดเลยว่าสามราชาจะเชิญเรา” สมาชิกคนหนึ่งของฝ่ายค้านพึมพำ” พวกเขาอยากทำให้เราอับอายต่อหน้าสาธารณะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพูด”
มาร์โกอารมณ์ไม่ดี
เขารู้เต็มอกว่าตอนนี้ ไม่มีทางที่สามราชาจะเชิญพวกเขามาเพื่อฟื้นความสัมพันธ์ พวกเขาจะประณามการกระทำของพวกเขาในฐานะผู้ชนะ
แน่นอน ฝ่ายค้านก้าวออกมาฟ้องร้องสามราชาเพราะพวกเขามั่นใจว่าจะชนะได้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายพวกเขากลับแพ้ ไพ่ตายที่พวกเขาดึงออกมาโดนจัดการไปทีละใบ และพยานบางคนยังโดนซื้อ มาร์โกทำได้แค่ยอมรับมัน มีบางคนที่มีความคิดเหมือนเขา แต่ไม่กล้ายืนหยัดเพราะไม่กล้าเสี่ยง เพื่อเปลี่ยนเส้นทางของอารยธรรม มาร์โกเต็มใจเสี่ยง ในอีกด้านหนึ่ง คนที่ซ่อนตัวเพื่อปกป้องตำแหน่งพวกเขาไม่ได้ลงมือใดๆ แม้พวกเขาจะค้านการตัดสินใจของสามราชาและเฝ้าดูกองทัพที่ละลายหายไปอย่างไร้ความหมาย แม้เขาจะแพ้ เขาก็ยังดูถูกพวกขี้ขลาดเหล่านี้
หลังจากนั้นไม่นาน สามราชาก็เข้ามาใกล้แท่น แสงไฟส่องไปที่พวกเขา
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วจัตุรัส กลบเสียงโห่ร้องโกรธเกรี้ยวของผู้ชมนับไม่ถ้วนนอกจัตุรัส ทั้งสามโบกมือพร้อมกัน มองผู้ชมภายในจัตุรัสด้วยรอยยิ้ม
ขณะที่ทั้งสามกวาดมอง สายตาของพวกเขาก็จงใจหยุดที่ฝ่ายค้านก่อนเบือนหน้าหนี จากนั้นกล้องก็หันไปทางฝ่ายค้าน แสดงรอยยิ้มฝืนหรือใบหน้าเฉยชาของพวกเขา
“ฮึ่ม…” มาร์โกแค่นเสียงขณะปรบมือเสียงดัง
เห็นได้ชัดว่าเขาเข้าใจแววตาของสามราชา มันคือแววตาของผู้ชนะ ขณะที่เสียงปรบมือค่อยๆ เบา หนึ่งในสามราชาก็พูด” ประชาชนของฉัน โมโดคืออารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ เราเป็นหนึ่งเดียวกันมาตั้งแต่ยุคสำรวจ และสามราชาหลายชั่วอายุคนก็ได้นำเราไปข้างหน้า…”
ทั้งสามท่องตามบทที่เขียนไว้ พวกเขาตัดบทบางส่วน พูดถึงความไม่สงบในสังคมและเหตุการณ์ฟ้องร้อง พวกเขายอมรับว่าพวกเขาตัดสินใจพลาด แต่พวกเขาก็ยังย้ำว่ามันเป็นแผนร้ายของศัตรู พวกเขาอ้างว่า” โมโดกำลังเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง ศัตรูอยากให้เราถอย พวกเขาจึงใช้แผนร้ายทุกประเภท หวังทำให้เรากลัว”
ทั้งสามอธิบายว่าทำไมถึงส่งทหารไปโลกริบหรี่ บอกว่ามันเพื่ออนาคตของอารยธรรม ระหว่างการพูด สามราชาอธิบายและโต้แย้งเรื่องที่ฝ่ายค้านนำเสนอระหว่างการฟ้องร้อง พยายามกอบกู้ชื่อเสียงให้ได้มากที่สุด
คำพูดของสามราชาฟังมีเหตุผล คนในจัตุรัสปรบมือเป็นบางครั้ง ผู้ชมรอบนอกยังโดนโน้มน้าวด้วย ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งค่อยๆ ลดป้ายลง นอกจากนักข่าว ผู้ชมยังเริ่มบันทึกภาพ
นฝูงชนนอกแท่น ชายตัวสูงถืออุปกรณ์สื่อสารไว้และบันทึกการปราศรัย เขาดูเหมือนผู้ชมทั่วไป แต่จริงๆ แล้วเป็นหนึ่งในสายของสหพันธ์แห่งแสงที่รับผิดชอบการรับเอาข้อมูล เขาถูกส่งมาตั้งนานแล้ว
ขณะทำงานของเขา สายคนนี้ยังคิด ฝ่ายค้านแพ้ แต่สามราชาก็เจ็บหนัก มันเป็นข่าวดี…
ฝุ่นเริ่มสลาย ไม่มีข่าวน่าตกใจอีก มีแค่คำปราศรัยจากผู้ชนะ สายคนนี้ไม่คิดว่าเขาจะพบข่าวล้ำค่าอะไร เขาแค่มาเพราะหน้าที่
แต่ทว่า ตอนนั้นเอง แสงวูบวาบพลันพุ่งผ่านหางตาเขาไป สายจึงหันไปมองโดยไม่รู้ตัว
ดวงตาของเขาทะลุผ่านฝูงชน เห็นแสงสลัวด้านหลังมือของชายสวมฮูด วินาทีถัดมา แสงสีทองแหลมก็พุ่งผ่านสายตาเขา ยิงออกไปเหมือนสายฟ้าฟาด สายพลันหันไป เห็นแสงนี้ไปถึงตรงหน้าสามราชาโมโดที่กำลังพูด
เกร๊ง!
โล่เวทมนตร์สีฟ้าพลันเปิดออก หยุดลำแสงนี้ คาถาป้องกันผู้อยู่เหนือบนตัวสามราชาโมโดทำงาน มันสามารถป้องกันการโจมตีได้หลายรูปแบบ
การพูดปราศรัยหยุดลง จากนั้นสามราชาโมโดถึงรู้ตัวว่าของที่โจมตีพวกเขาเป็นหอกสีทอง มันคืออาวุธของล็อตแฮร์ เทพสังหาร
“นักฆ่า!” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตะโกน ผู้คุ้มกันระดับภัยพิบัติหลายคนที่ยืนด้านหลังสามราชาตกใจ พวกเขารีบกระตุ้นความสามารถเพื่อปกป้องสามราชา
แม้การตอบสนองของพวกเขาจะเร็ว มันก็ไม่เร็วพอ คาถาป้องกันผู้อยู่เหนือหยุดเทพสังหารได้แค่ครู่เดียวก่อนจะโดนเจาะ หอกปักหนึ่งในสามราชาลงกับพื้น ความตกใจและความกลัวยังฉายชัดบนหน้าเขา
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทำให้ทุกคนตกตะลึง มีใครบางคนพยายามลอบสังหารสามราชา?
ความคิดของพวกเขาย่อยเต็มที่ ความกลัวฉายชัดบนหน้าคนนับไม่ถ้วน
“วิ่ง!”
“มีคนตาย!”
“เรียกหมอ!”
“ปิดตายจัตุรัสเดี๋ยวนี้..ไม่สิ ปิดตายทั้งดาว!”
วินาทีถัดมา ทั้งสถานที่ก็ยุ่งเหยิง ผู้ชมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในหรือนอกจัตุรัสต่างตื่นตระหนกและหนี ขณะตะโกน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้พาราชาที่เหลืออีกสองออกไปขณะค้นหาคนร้าย เจ้าหน้าที่ต่างกลัวและหนีไปภายใต้การคุ้มครองของคนพวกเขา
“ใครส่งนักฆ่าคนนี้มา? นี่มันบ้าไปแล้ว!” มาร์โกหนีสุดความสามารถ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกลัว
การลอบสังหารผู้นำสูงสุดของอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดบนดาวแม่เท่ากับการฆ่าตัวตาย!
มีเพียงพระเจ้าถึงรู้ว่ามันผ่านมานานแค่ไหนแล้วที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แม้กระทั่งสามอารยธรรมจักรวาลก็ไม่ทำเช่นนี้ ไม่มีใครสามารถคาดคิดได้ สามราชาโมโดมักอยู่ในอาคารกลาง แต่วันนี้ พวกเขาจัดงานแถลงที่สาธารณะ และกลายเป็นโอกาสให้มือสังหาร
ส่วนที่ไม่น่าเชื่อคือมือสังหารทำสำเร็จ คาถาป้องกันระดับผู้อยู่เหนือบนตัวสามราชาเป็นเหมือนกระดาษ
ท่ามกลางฝูงชนที่ตื่นตระหนก สายของสหพันธ์แห่งแสงเบิกตากว้าง พยายามหาตัวชายสวมฮูด แต่ก็ไม่พบเสียแล้ว
“เขาเป็นใครกัน? นี่เป็นภารกิจฆ่าตัวตายชัดๆ! ไม่มีทางที่เขาจะหลบหนีออกดาวแม่โมโดได้!” ใบหน้าของสายกระตุก ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
เขาไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นเรื่องใหญ่เช่นนี้เข้าด้วยตาตัวเอง
แทบจะทันที ความรู้สายอาชีพทำให้เขาตระหนักถึงโอกาสของเหตุการณ์นี้
