ปี้บ ปี้บ.
ครั้งนี้ อุปกรณ์สื่อสารของเวเรน่าดัง ใบหน้าของประธานสหพันธ์ ลูอิสปรากฏบนจอด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เหล่าผู้นำสามอารยธรรมจักรวาลกำลังดูการถ่ายทอดสดเช่นกันและไม่พอใจกับผลการต่อสู้ก่อนหน้ามาก
พวกคุณทำอะไรกันอยู่?ผมบอกให้พวกคุณไปช่วย ไม่ใช่โดนกระทืบ!
ขอโทษค่ะ เราอยากทดสอบพลังของแบล็คสตาร์ แต่เขาแข็งแกร่งกว่าที่ข้อมูลพูด.. เวเรน่าอธิบาย …อย่าประมาทอีก โอลูแพ้ง่ายขนาดนี้ไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงสหพันธ์เรรา ผมไม่อยากเห็นมันเกิดขึ้นอีก ลูอิสระงับความตกใจและโกรธไว้ในใจ
ค่ะ
เวเรน่าวางสายและถอนหายใจ พวกเขาแพ้แค่การต่อสู้เดียว และนายพวกเขาก็ต่อว่าแล้ว โดยปกติ เบื้องบนเหล่านี้จะไม่หัวร้อนขนาดนี้ พวกเขาอาจตกใจกับการต่อสู้เช่นกันและไม่สามารถรั้งอารมณ์ได้อีก
เธอรู้ดีว่าทำไมเบื้องบนถึงเรียกสมาชิกสายตรงทั้งหมดมาที่นี่ พวกเขาคิดว่าด้วยคนหลายคนที่ร่วมมือกัน อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถข่มแบล็คสตาร์ได้ด้วยจำนวน ตอนแรก เวเรน่ามั่นใจมาก แต่ไม่ใช่อีกต่อไป
เบื้องบนมีความคิดนี้ตามบันทึกพลังของแบล็คสตาร์ แต่ทว่า การต่อสู้สาธารณะสุดท้ายที่แบล็คสตาร์ทำคือหลายสิบปีก่อนตอนเขาสู้กับแมนิสัน ย้อนกลับไป ทั้งสองสู้กันอย่างรุนแรงและแบล็คสตาร์ก็เอาชนะกายสถิตของแมนิสันไปอย่างยากลำบาก
ดังนั้น ในสายตาสามอารยธรรมจักรวาล แบล็คสตาร์แข็งแกร่งกว่าแมนิสันตอนสภาพสูงสุดเล็กน้อย แต่ไม่แข็งแกร่งมาก ดังนั้น สามอารยธรรมจักรวาลจึงรู้สึกว่าตราบเท่าที่พวกเขาส่งสมาชิกสายตรงทั้งหมดมา มันก็มากพอจะสอนบทเรียนให้แบล็คสตาร์ เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขามีสามผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดและบุตรแห่งเทพก็เป็นที่ยอมรับว่าแข็งแกร่งสุด เป็นคนที่สามารถเอาชนะได้แม้แต่จักรพรรดิจักรกล ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะล้มเหลวเลย
แต่ทว่า พลังที่แบล็คสตาร์เพิ่งแสดงได้ปรับความรู้ใหม่กับพวกเขา โอลูผู้ที่มีพลังชั้นนำกลับพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชและแบล็คสตาร์ก็ยังไม่ได้เอาจริงเลย
แม้พวกเขาจะรู้ว่าแบล็คสตาร์เก็บตัวมาตลอด และข้อมูลพวกเขาก็ล้าหลังไปแล้ว ความแตกต่างก็ยังสูงเกินไป ..เอาไงดี?
ผู้คนระงับอารมณ์และสบตากัน
ความตกใจเป็นเรื่องหนึ่ง แต่พวกเขายังต้องทำภารกิจ
เวเรน่าไตร่ตรองสักพักและพูด พลังของเป้าหมายเกินคาด การประลองจะไม่เกิดผลอะไร ดูเหมือนเราไม่มีทางเลือกนอกจากสู้กับเขาเป็นกลุ่ม มาคุยว่าเราควรจัดการกับเขายังไงกันดีกว่า
พวกเขาเริ่มหารือกันราวกับพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่าสะพรึงกลัว
พวกเขาโดนคุกคามด้วยพลังของหานเซี่ยว ต่อให้พวกเขาจะสู้กับเขาพร้อมกัน พวกเขาก็ไม่กล้าโจมตีอย่างประมาทก่อนจะได้แผน
วูร์นอสยืนตรงขอบฝูงชนและไม่เข้าร่วมการพูดคุย เขามองหน้าต่าง เห็นหานเซี่ยวที่ลอยในอวกาศ ดวงตาของเขาไหววูบและเขาก็พึมพำในหัว ขั้นพลังงานอย่างต่ำ 111000 เส้นทางการเปลี่ยนแปลงลักษณะแห่งเทพที่เต็มอย่างน้อยหนึ่งเส้นทาง..เป้าหมายที่คุ้มค่า
ภายในยานหลักของเผ่าจักรกล ลูกยานหลายคนตื่นเต้นกับผลการต่อสู้ฝ่ายเดียวนี้และเริ่มส่งเสียงยินดี
ด้านหน้าหน้าต่าง แมนิสันมองแผ่นหลังหานเซี่ยวเงียบๆ แม้กายสถิตของเขาจะไร้อารมณ์ คลื่นสึนามิก็กำลังปั่นป่วนในหัวเขา เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?แมนิสันตกใจ ความประทับใจของเขาที่มีต่อหานเซี่ยวยังเป็นครั้งก่อนที่พวกเขาสู้กัน มันนานมากแล้ว
แม้เขาจะรู้ว่าเขาอาจไม่ใช่คู่มือของแบล็คสตาร์ เขาก็ไม่คิดว่าความแตกต่างจะสูงขนาดนี้ ต่อให้เขาต้องสู้กับโอลู เขาก็ไม่สามารถทำมันได้ง่ายขนาดนี้ มันจะเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงมาก
แบล็คสตาร์ยิ่งยากจะหยั่งถึง ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งเร็วขนาดนี้?
เมื่อตระหนักว่าแบล็คสตาร์ได้ล้ำหน้าเขาไปมากแล้วและเขาก็ไม่สามารถเห็นขีดจำกัดของหานเซี่ยวได้ แมนิสันก็อดรู้สึกขมขื่นไม่ได้
แต่ทว่า หลังสงบสติสักพัก แมนิสันก็ปล่อยวางและถอนหายใจ
บางทีคงมีแค่คนอย่างนี้ถึงสามารถนำกลุ่มผู้อยู่เหนือไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้…การมีผู้นำอย่างนี้นำเป็นโชคดีสำหรับผู้อยู่เหนือของยุคนี้แล้ว
สิ่งเดียวที่แบล็คสตาร์ขาดอาจเป็นการสะสม..
ดวงตาของแมนิสันหมุน และเขาก็ตัดสินใจ
เขาไม่ใช่คนขี้เหนียว ถ้าแบล็คสตาร์ต้องการ เขาจะให้แบล็คสตาร์ยืมกองทัพของเขา
ด้วยพลังของแบล็คสตาร์และคลังของฉัน เขาอาจจะไร้คู่ต่อกรในจักรวาล
ฉันรู้แล้ว สามอารยธรรมจักรวาลมั่นใจเกินไป พวกเขาจะส่งคนคนเดียวมาสู้กับแบล็คสตาร์ได้ไง?
สี่เทพรวมถึงโจอี้ดูโล่งใจ
พวกเขาสู้กับแบล็คสตาร์ประมาณปีก่อนและเป็นคนที่รู้พลังของแบล็คสตาร์ดีสุดในจักรวาล ย้อนกลับไป ความมั่นใจของพวกเขาโดนบดขยี้และยังไม่หายดี พวกเขารู้สึกตัวสั่นสะท้านทุกครั้งที่เห็นแบล็คสตาร์ ก่อนหน้านี้ ตอนพวกเขาเห็นสามอารยธรรมจักรวาลส่งแค่โอลูมาสู้กับแบล็คสตาร์ พวกเขาแปลกใจ พวกเขาคิดว่าสามอารยธรรมจักรวาลซ่อนสมาชิกสายตรงที่แข็งแกร่งพอๆกับแบล็คสตาร์ไว้
แต่ทว่า ตอนพวกเขาเห็นการต่อสู้ฝ่ายเดียว พวกโจอี้ก็รู้ว่าพวกเขาคิดมากไป
ข้อมูลของสามอารยธรรมจักรวาลล้าหลังเกินไป ผู้อยู่เหนือระดับสูงสุดคนเดียวทำอะไรแบล็คสตาร์ไม่ได้หรอก โจอี้ส่ายหัว
พวกเขาจะต้องส่งคนมามากกว่าหนึ่งถ้าอยากชนะ เหมือนที่เราทำ โจอี้รู้สึกอึดอัด แบล็คสตาร์ดูเหมือนจะไม่เคร่งเครียดเลยตอนสู้กับเราสี่คน มีแค่พระเจ้าถึงรู้ขีดจำกัดของเขา
…พวกนายคิดว่าเขาคาดไว้นานแล้วไหม ซึ่งทำให้เขาเก็บตัวมาเป็นสิบปี?
ใครจะไปรู้?
พวกเขาซุบซิบกัน หลังเอาชนะโอลู สามอารยธรรมจักรวาลดูเหมือนจะตกใจและไม่ส่งคนมาใหม่ทันที หานเซี่ยวนั่งบนบัลลังก์ รอเงียบๆ
ดูเหมือนสามอารยธรรมจักรวาลจะคาดเดาพลังของฉันต่ำไปหน่อย
เมื่อเห็นว่ากองยานสามอารยธรรมจักรวาลไม่ขยับ หานเซี่ยวก็เม้มปาก
ในอดีต เขาเก็บตัวและสะสมพลังเงียบๆ มีแค่เทพอำนวย กลุ่มของโจอี้กับคาซูยิถึงรู้พลังเขา โลกภายนอกไม่รู้อะไร
เหตุผลหลักคือไม่มีโอกาสให้เขาได้สู้ แวดวงผู้อยู่เหนือเล็กมาก มีน้อยคนที่เขาสู้ด้วย
กว่าปีก่อนตอนเขาเล่นงานพวกโจอี้ หานเซี่ยวได้รับการประเมินคร่าวๆถึงพลังของเขา มันต้องใช้ผู้อยู่เหนือระดับสูงอย่างน้อยสิบถึงคุกคามเขาได้
สำหรับตอนนี้ ไม่เพียงพรสวรรค์ของเขาจะเติบโตอย่างมั่นคง แต่เขายังได้รับ(แอนเชี่ยนวัน)และพรสวรรค์เฉพาะแรกของเขา และเขาก็ได้รับเทคโนโลยีใหม่จากSWY-001 พลังของเขาสูงขึ้น และจำนวนผู้อยู่เหนือที่จะทำให้เขาลำบากก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
การสู้กับโอลูไม่มีอะไรนอกจากอาหารกระตุ้นต่อม เขามีความคิดที่จะเริ่ม’เข่นฆ่า’เพื่อแสดงให้โลกภายนอกเห็นถึงพลังของผู้นำสมาคมผู้อยู่เหนือขณะรับพรสวรรค์บางอย่าง
เมื่อเห็นสามอารยธรรมจักรวาลไม่ขยับ หานเซี่ยวก็เปิดหน้าต่างสถานะ ภารกิจท้าทายสำเร็จ เนื่องจากเขาไม่สามารถออกจากจุดนี้ได้และไม่สามารถได้รับโชค เขาจึงเลือกสรุปมันตรงนี้
(ภารกิจท้าทายผู้อยู่เหนือ ‘วงแหวนทองคำ’โอลู)สำเร็จ
ท่านทำข้อกำหนดภารกิจทั้งหมดสำเร็จ ท่านได้รับค่าประสบการณ์86000ล้าน!
ท่านได้รับ(บัตรอัญเชิญตัวละคร ‘วงแหวนทองคำ’โอลู)! บัตรอัญเชิญตัวละคร ‘วงแหวนทองคำ’โอลู(ยานสมบัติทองคำ)ควบแน่นพลังงานของมิติยานสมบัติทองคำในตัวท่านและทำการพุ่งชนจากระยะไกล ท่านจะมีภูมิต้านทานความสามาถรควบคุมกลุ่มทุกรูปแบบระหว่างการชาร์จพลังงาน สร้างเป็นความเสียหายระยะประชิดสูง การใช้ 0/3
โอ้ว ความสามารถไม่เลว
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
น่าเศร้า ก่อนหน้านี้โอลูไม่ได้ใช้มัน เขาจึงไม่มีโอกาสได้ลองของ
ถ้ามีโอกาสในอนาคต ฉันควรลองดูว่าฉันสามารถได้รับความสามารถประเภทยั่วยุไหม ฉันรู้สึกว่านี่คือรูปแบบต่อสู้ของฉัน
ถ้าเขาสามารถตะโกน เข้ามา พวกขี้ขลาด! และศัตรูก็กระโจนหาเขา มันคงน่าทึ่ง
เขาส่ายหัว พับเก็บความคิดเหล่านี้ไปปและมองการแจ้งเตือนที่เหลือ
ท่านได้รับรางวัล : สุ่มหนึ่งในความสามารถ/พรสวรรค์ของโอลู
หมายเหตุ : โอลูคือเอสเปอร์ ส่วนหนึ่งของความสามารถ/พรสวรรค์จะปรับตามสายอาชีพท่าน
กำลังสุ่ม..สำเร็จ!
โปรดเลือกหนึ่งจากห้าตัวเลือกด้านล่างเป็นรางวัล
พรสวรรค์(การควบคุมพลังงานอย่างแม่นยำ) : เพิ่มความสามารถควบคุมพลังงานของท่านอย่างมาก +10%ความต้านทานพลังงาน
พรสวรรค์(ความสัมพันธ์กับมิติที่สอง) : เพิ่มโอกาสสร้างการเชื่อมต่อกับมิติที่สองบางแห่ง ได้รับโบนัสที่ครอบคลุมตอนใช้พลังของมิติที่สอง
ความสามารถ(เพิ่มพลังชีวิต) : กระตุ้นเซลล์ท่าน เพิ่มกิจกรรมเซลล์ชั่วคราว +10%-20%พลังชีวิต พลังงานและความแข็งแกร่ง +50%-100%ความเร็วการฟื้นฟูพลังชีวิต พลังงาน ความแข็งแกร่ง ระยะเวลา 15 นาที
พรสวรรค์ [รสนิยมพิเศษ] +15% ท่านได้รับความโปรดปรานของคนบางคนง่ายขึ้น
ความสามารถ (ก้าวพริบตา) ใช้มิติที่สอง เคลื่อนที่ด้วยการย่างก้าวและหลบการโจมตีส่วนใหญ่ชั่วคราว คูลดาวน์ 6 นาที
หานเซี่ยวหน้ามุ่ย โชคฉันธรรมดาตามเคยถ้าไม่แตะตัวเฟย์ดิน
เหนือสิ่งอื่นใด เนื่องจากความแตกต่างในสายอาชีพ ความสามารถหลักส่วนใหญ่ของเอสเปอรจึงรับไม่ได้ เรื่องน่าแปลกใจอย่างตอนของกอดด์คงไม่เกิดขึ้นบ่อย
หานเซี่ยวตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
ท่านได้รับพรสวรรค์ ความสัมพันธ์กับมิติที่สอง!
เขามีการเชื่อมต่อกับมิติว่างเปล่าและโลกใต้พิภพและพรสวรรค์เผ่าของเขาก็ยังเกี่ยวกับมิติว่างเปล่า ดังนั้นการเลือกพรสวรรค์นี้จึงเสริมพรสวรรค์เผ่าเขาทางอ้อม สำหรับตัวเลือกอื่น พวกมันธรรมดาเกินไป
เทียบกันแล้ว ความสามารถของบัตรอัญเชิญตัวละครนี้ถือว่าดี เหนือสิ่งอื่นใด มันมอบความต้านทานความสามารถควบคุม ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในหลายสถานการณ์
หลังรับรางวัล สามอารยธรรมจักรวาลก็ยังไม่ขยับ หานเซี่ยวจึงเริ่มดูฟอรั่ม
กว่าครึ่งวันผ่านไปทั้งอย่างนั้น เมื่อเวลาเหลือแค่แปดวันครึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็เคลื่อนไหว
ผู้อยู่เหนือสายตรง 13 คนก้าวออกมา จากนั้นหานเซี่ยวถึงปิดฟอรั่มและสำรวจพวกเขา เขาเห็นคล็อตติกับโอลูด้วย เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคือผู้นำ
นี่เป็นกลุ่มที่น่ากลัว ในการต่อสู้ซึ่งๆหน้า นอกจากบุตรแห่งเทพที่ไม่มีใครรู้ขีดจำกัด ไม่มีใครในจักรวาลสามารถสู้กับกลุ่มนี้ได้ แถม ไม่มีนักแสดงในหมู่คนเหล่านี้ พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันและจะไม่ออมมือ โอ้ ไม่ดวลอีกแล้วงั้นเหรอ? หานเซี่ยวพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
โอลูดูอับอาย เขาได้กลับเป็นปกติแล้วหลังพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพช และไม่สามารถอับอายได้มากกว่านี้
ครั้งนี้ คล็อตติพูด แบล็คสตาร์ นายแข็งแกร่งจริงๆ แต่ทว่า เนื่องจากนายก้าวออกมาท้าทาย นายคงไม่ว่าอะไรถ้าเราจะรุมนายสินะ?
แล้วแต่ ไม่ว่าจะส่งคนมามากแค่ไหน ขอแค่เอาชนะฉันได้ก็พอ หานเซี่ยวไม่ว่าอะไร
คล็อตติพยักหน้า เขาพลันเปลี่ยนเรื่อง ท่านผู้ปกครองบอกให้ฉันถามคำถามกับนาย…กอดด์ เป็นนายที่ฆ่าเขาใช่ไหม?
สมาชิกสายตรงคนอื่นแปลกใจ แม้กระทั่งผู้ชมก็ยังตกตะลึง
เหตุการณ์กอดด์เป็นเรื่องใหญ่มากในตอนนั้น และหลายคนก็ยังไม่ลืมมัน ตอนนี้ที่มันโดนหยิบยกขึ้น หลายคนจึงจำมันได้ โอ้?ฉันขอเตือน เราอาจเป็นศัตรูกัน แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้นายใส่ร้ายฉันแบบนี้ หานเซี่ยวพูดด้วยใบหน้าตายด้าน
คล็อตติพูดเสริม เดิม เราไม่สงสัยนายเพราะนายเป็นพันธมิตรจักรวรรดิ แต่ทว่า มีส่วนน่าสงสัยหลายส่วนเกี่ยวกับเหตุการณ์ตอนนั้น เร็วๆนี้ นายยิ่งไร้กฏระเบียบ ข้อสงสัยเราจึงเพิ่มขึ้นด้วย นายมีเหตุผลให้โจมตีกอดด์..โซโรคินอาจไม่ใช่คนร้าย แค่โดนนายใส่ร้าย!’
หานเซี่ยวโบกมือ ขัดเขา นายจะพูดอะไรก็ได้ถ้าไม่มีหลักฐาน ฉันไม่เคยคิดแม้แต่จะฆ่ากอดด์
นายคิดว่านายสามารถล้างข้อสงสัยได้?
ฮี่ๆ ฉันไม่ใช่คนผิด หานเซี่ยวไม่ว่าอะไร
แน่นอน เขาไม่เคยคิดฆ่ากอดด์ ฉันแค่ผนึกเขา เขายังไม่ตาย นี่จึงไม่ใช่คำโกหก
แถม นอกจากเขา อาจไม่มีใครรู้เกี่ยวกับความจริงที่ว่ากอดด์คือเทพเอส เขาไม่เคยเสียใจที่จับตัวชายคนนี้ มันแค่น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้ความดีความชอบของเขา
ขณะพูด หานเซี่ยวก็ลุกจากบัลลังก์ ประตูของกล่องกองทัพมิติที่สองเปิดด้านหลังเขา
แม้กระทั่งหานเซี่ยวก้ไม่กล้าทำตัวมั่นใจนักต่อสถานการณ์นี้ สมาชิกสายตรงทั้ง 13 ไม่ใช่ธรรมดา สามผู้นำอารยธรรมจักรวาลอาจมอบสมบัติจักรวาลให้พวกเขา ดังนั้นพวกเขาอาจมีไพ่ตายบางอย่าง แถม ตอนสู้ด้วยกัน พลังของพวกเขาจะไม่ใช่แค่เสริมกันแต่ยังเท่าทวี
13 ผู้อยู่เหนือ …อย่างน้อยมันก็มากพอจะทำให้ฉันเครื่องติด
ขณะพูด กองทัพจักรกลก็กรูกันออกมา ครั้งนี้ พวกมันรวมกันรอบหานเซี่ยวและประกอบกันเป็นเทพจักรกล
เมื่อเห็น พวกคล็อตติก็กระจายวงล้อม พลังงานของพวกเขาปะทะกับพลังงานของหานเซี่ยว การอ่านค่าพลังงานพุ่งสูงทะลุ และตัวปรับเสถียรมิติเวลาก็เริ่มผันผวน
ในช่วงเวลาตึงเครียดนี้ เทพจักรกลอีกตัวพลันปรกาฏในกองยานเผ่าจักรกล มันคือแมนิสันและเขาก็ดึงดูดความสนใจของทุกคน
วินทีต่อมา แมนิสันก็พลันโยนตรีศูลของเขาให้หานเซี่ยว สมบัตจักรวาลทีท่เหลือบนตัวของเทพจักรกลยังถอดออกและบินไปหาหานเซี่ยว
หานเซี่ยวรับตรีศูลที่ปกคลุมด้วยสายฟ้ามา อาวุธพิเศษของแมนิสันยังแนบติดกับตัวเทพจักรกลของเขาด้วย ประกอบกันอย่างสมบูรณ์แบบ การควบคุมอาวุธเหล่านี้ส่งให้หานเซี่ยวและเทพจักรกลของเขาก็ดูสง่างามขึ้น
เขาหันไปมองแมนิสัน จากนั้นก็ได้ยินแมนิสันพูด
ในเมื่อพวกมันกำลังจะรุมนาย ฉันก็จะให้นายยืมอาวุธฉัน ..ฉันไม่ต้องการ แต่ก็ขอบคุณนะ
หานเซี่ยวชั่งน้ำหนักตรีศูลและรู้สึกซับซ้อน
เฒ่าแมนิสันมักหวงแหนเทคโนโลยีเหล่านี้มากและปฏิบัติต่อสมบัติจักรวาลเหล่านี้เหมือนภรรยาเขา
ฉันทำได้แค่ลอบผนึกพวกมัน แต่ตอนนี้เขาเต็มใจให้ฉันยืม..ฉันประทับใจเป็นบ้า
หานเซี่ยวหันไปมองพวกคล็อตติ พลังงานไซโอนิคหมุนรอบตรีศูล เฒ่าแมนิสัน ในเมื่อนายใจกว้างขนาดนี้ ฉันก็จะอวดของใหม่ให้นายดู
ขณะพูด พลังงานสีเลือดก็ปะทุขึ้นและพัวพันรอบตัวเทพจักรกล รูปลักษณ์มันพลันเปลี่ยน มันราวกับกระแสพลังงานเลือดเหล่านี้คือเลือดเนื้อบนตัวของเทพจักรกล!
ระลอกพลังงานแปลกๆกระจาย ทำให้ผู้อยู่เหนือยิ่งกดดัน
คล็อตติ คนอื่นและแมนิสันต่างมองหานเซี่ยวด้วยความแปลกใจ
เทพจักรกลของเขา..ทำไมมันถึงดูต่างจากคนอื่น? ��
