The Legendary Mechanic – ตอนที่ 358

“เผ่าเงิน?”
หานเซี่ยวได้รับข้อความของเฮอลัสขณะอยู่ในห้องซ่อมแซม เขารีบปิดอุปกรณ์เสียงดังรอบตัว และห้องก็เงียบสงัด กลิ่นโลหะร้อนลอยผ่านห้อง
เขารู้ว่าเผ่าเงินเป็นอารยธรรมชั้นสูงที่ได้รับการยกย่องจากอวกาศแถบทะเลวิญญาณสีเงิน พวกเขาเป็นสมาชิกของสมาพันธ์แห่งแสงพร้อมด้วยอารยธรรมชั้นสูงอื่นๆ พวกเขาคำนึงถึงธุรกิจตนเอง และพื้นที่พวกเขาก็ปลอดภัยมาก ไม่เหมือนกับสภาพความเป็นอยู่ของวงแหวนดาวกระจาย
เผ่าเงินมีประวัติศาสตร์ยาวนาน  ราชวงศ์ประเภทนี้ไม่ค่อยมาเยือนสถานที่อย่างวงแหวนดาวกระจาย แต่พวกเขาก็ยังเดินทางมา?หานเซี่ยวไม่รู้จริงๆว่าอะไรที่ดึงดูดชนชั้นสูงแบบนั้น คนเหล่านี้เกิดในอารยธรรมงดงาม พวกเขาอยากเห็นถนนชำรุดของวงแหวนดาวกระจายรึไง?ระดับอันตราย10เต็ม10
การที่สหายพวกเขาถูกลักพาตัวไปเป็นทาสนับว่าน่ากลัวจริงๆ
ความสามารถการสืบพันธ์ของเผ่าเงินทำให้พวกเขาเป็นที่ต้องการมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีประชากรสูงนัก แต่ทว่า พวกเขาเป็นสายพันธ์ที่มีวิวัฒนาการสูงมาก สำหรับกองกำลังต่างๆ DNAของพวกเขาก็เหมือนขุมสมบัติ เต็มไปด้วยความลี้ลับของเผ่าพันธ์และสายเลือดบราณ หนึ่งในสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปของราชวงศ์อวกาศคือพวกเขาหายากมาก เผ่าเงินมีราคาสูงในตลาดทาส และนี่ก็อาจเป็นเหตุผลให้พวกกินซากยอมเสี่ยง
“แบล็คสตาร์ เผ่าเงินเต็มใจจ่ายเงินก้อนโต พวกเขากำลังรับสมัครทหารรับจ้างจำนวนมาก นี่นับเป็นโอกาสทำเงินเลย”เฮอลัสกล่าว เขาไม่ได้ทำอะไร และก็อยากรีบทำเงิน ดังนั้นเขาจึงแจ้งเตือนให้หานเซี่ยวรู้
แต่ทว่า หานเซี่ยวกลับส่ายหัว”เผ่าเงินใจกว้างจริงๆ แต่นี่ไม่ใช่การมอบหมาย เราสามารถรับไดด้ แต่กลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่อย่างกองทัพวงแหวนนภาจะต่อสู้เพื่อรับงานนี้ เราไม่มีโอกาสแข่งขันกับมันหรอก”
“แต่อย่างน้อยเราก็ควรลอง จะต้องมีโอกาส”
 
เกมทหารรับจ้างเต็มไปด้วยการแข่งขัน กลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่ย่อมรับงานใหญ่ได้ง่ายๆ ลูกค้าจะไว้วางในใจชื่อและความน่าเชื่อถือพวกเขา ครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น มีเพียงกลุ่มทหารรับจ้างชื่อดังถึงได้รับการตอบรับของเผ่าเงิน เฮอลัสรู้ว่าสิ่งที่หานเซี่ยวพูดนั้นสมเหตุสมผล แต่เขาก็ไม่คิดยอมแพ้
หานเซี่ยวนิ่งเงียบ เหตุการณ์นี้เหมือนไม่มีในความทรงจำเขา ตามเวลา เหตุการณ์นี้อาจเกิดในช่วงเวอร์ชั่น1.0 และตอนนั้นผู้เล่นทุกคนยังคงกลิ้งเล่นอยู่บนดาวเคราะห์เริ่มต้นตัวเองโดยไม่มีโอกาสได้โต้ตอบกับอวกาศ ไม่มีข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แม้ภายหลังผู้เล่นจะเข้าอวกาศ นี่หมายความว่ามันไม่สลักสำคัญอะไร
เหตุการณ์ฉับพลันเช่นนี้ หานเซี่ยวมีแนวโน้มระวังตัวขึ้น เขามีความรู้ด้านเนื้อเรื่องเต็มไปหมด ดังนั้นเขาจะไปเสี่ยงกับเนื้อเรื่องที่ไม่รู้จักทำไม?มันไม่ใช่ว่าเขากลัวการตกอยู่ในอันตรายหรือการเปลี่ยนของเนื้อเรื่อง เขาเป็นคนที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักผจญภัยและยังเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในความโรแมนติกของผู้ชาย แต่ทว่า งานเร่ง่วนที่สุดตอนนี้คือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น  เขาไม่อยากเกิดปัญหาหากมันหลีกเลี่ยงได้
“ขอฉันคิดก่อน”หานเซี่ยวกล่าว
“ตกลง ฉันจะเตรียมตัวรอ”เฮอลัสพยักหน้า ยังไงหานเซี่ยวก็คือหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างพวกเขา แม้เขาจะเป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งสุดในหมู่พวกเขา เขาไม่เคยปล่อยให้ความทะนงตัวมาตัดสิน
 
หลังปิดเครื่องสื่อสาร หานเซี่ยวก็หันไปตรวจสอบผลไม้จากการใช้แรงงานเขา อาวุธปืนทั้งหมดถูกแทน้วยแบบแม่เหล็กไฟฟ้า รวมถึงปืนพก ปืนไรเฟิลซุ่มยิง และปืนไรเฟิลจู่โจม อาวุธปืนธรรมดาที่เขาสามารถผลิตได้ตอนนี้เป็นอย่างน้อยสีม่วง ด้วยพลังโจมตีประมาณ80-140 อย่างไรก็ตาม แม้อาวุธแม่เหล็กไฟฟ้าที่เขาสร้างจะเป็นแค่สีเขียวหรือฟ้าบ้าง ความเสียหายก็ยังเหนือกว่า230 ช่วงระยะยิงยังเพิ่มขึ้น3-5เท่า
อาวุธแม่เหล็กไฟฟ้านั้นแตกต่างจากอาวุธปืนทั่วไปในโครงสร้าง  ด้านในกระบอกปืนประกอบด้วยชั้นขดลวดแม่เหล็กซับซ้อน ส่วนด้านนอกปกคลุมด้วยวัสุฉนวนที่เชื่อมต่อกับสลัก มันเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมยาว ทุกครั้งที่ยิง สลักจะหดถอยหลังก่อจะดีดกลับตำแหน่งเดิม เนื่องจากกระสุนสำหรับอาวุธแม่เหล็กไฟฟ้ามีแค่โละหะชิ้นเดียว มนัจึงไม่จำเป็นต้องทิ้งกระสุนปืนเหมือนอาวุธปืนทั่วไป ซึ่งเพิ่มอัตรายิงขึ้นมาก ปืนแม่เหล็กไฟฟ้ายังมีพลังทะลุทะลวงสูงด้วย
ดาบรูปเคียววางอยู่บนโต๊ะทำงานด้านขวาเขา อาวุธนี้มีความยาวเกือบสองเมตร และดูเหมือนเคียวที่ใช้โดยยมฑูต หานเซี่ยวถือเคียว และระเบิดพลังงานออกจากฝ่ามือ วินาทีต่อมา ประกายไฟฟ้าก็ระเบิดออกจากด้าม และลวดลายคล้ายสายฟ้าก็ก็สามารถเห็นได้ทั่วใบมีด
ใบมีดของเคียวนั้นเปล่งแสงสีน้ำเงินจางๆพลางส่งเสียง หานเซี่ยวจับมือเขาเหวี่ยงหมุนจนเกิภาพติดตา ประกายไฟฟ้ายังอยู่ในอากาศ ราวกับตัวอากาศมันถูกเผา หลังทำการทดสอบ เขาก็กดมือบนปลายด้ามอย่างแรง และใบมีดที่ยาวกว่าเมตรก็แตกตัวและกลายเป็นงูไฟฟ้าตัวหนา นี่เป็นการเพิ่มระยะของอาวุธ  และชิ้นส่วนมีดแต่ละชิ้นยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกรูปทรง เหมาะกับการโจมตีระยะประชิดทุกประเภท  หานเซี่ยวพยักหน้าพอใจและเติมพลังงานเขา ใบมีดดำหดลงจนกลายเป็นกระบองยาวสี่สิบเซน มันสามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวก
[เคียวรบ-ขอบแหลม]คืออุปกรณ์สุดยอดและทรงพลังมาก เขาสามารถผลิตอาวุธดั้งเดิมนี้ได้โดยการรวมพิมพ์เขียวของเคียวจักรกลบางอย่างกับถุงมือไฟฟ้าโดยใช้ทฤษฏีดาบแม่เหล็กไฟฟ้า นี่เป็นการสร้างของเขาเองและเหมาะกับเขามาก มันมีพลังโจมตีน่าเกรงขาม และกำลังจะเป็นอาวุธระยะประชิดอันใหม่ของเขา
นอกจากนั้น เขายังอัปเกรดชุดจักรกลด้วย โครงร่างภายนอกได้รับการตกแต่งด้วยเกราะหนา เกราะสองชั้นทำให้ชุดนี้สูงกว่า3.5เมตร ทั้งการป้องกันและความเสียหายเพิ่มขึ้นมาก นี่เป็นไพ่ตายของเขา
หานเซี่ยวไม่ได้ให้ชื่อใหม่มัน แต่ทว่า อสรพิษนภาก็มีสองโหมดใหม่ เมื่อติดตั้งปีก มันจะเป็นโหมดบิน และด้วยเกราะหนา มันจึงมีโหมดป้อมปราการ
การาขนส่ง เนื่องจากโครงสร้างภายในสุดซับซ้อนยังผลิตอยู่ แต่ทว่า เขาสามารถทำการสังเคราะห์พิมพ์เขียวสำหรับมันได้ มันเป็นวิธีการขนส่งที่สามารถเคลื่อนที่ในอากาศ พื้น และใต้น้ำ มันเป็นแค่รูปลักษณ์ที่แตกต่างไปจากอุดมคติ
โดยทั่วไป มันคือล”กบอลขนาดใหญ่…
หานเซี่ยวสามารถสร้างอุปกรณ์และเครื่องมือใหม่ๆได้โดยใช้พื้นฐานของความรู้ที่เพิ่งได้รับ แต่ทว่า ส่วนใหญ่เป็นส่วนเสริม และเขายังไม่ได้ทำการปฏิวัติใดๆ ตามระดับปัจจุบันเขา คุณสมบัติของสายช่างกลเขายังเป็นช่วงกลางเกม
ปัจจุบันเขาคือระดับ95 เป็นระดับที่ผู้เล่นบรรลุได้หลังเข้าสู่เวอร์ชั่น3.0 นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าข้อกำหนดการเปลี่ยนสายอาชีพยากแค่ไหน ความสามารถที่หานเซี่ยวอยากได้เป็นความสามารถที่จะทำให้ช่างกลผงานในเวอร์ชั่น3.0 การประกอบทันทีและเทคโนโลยีบีบอัดขั้นสูง
ด้วยการได้รับความสามารถเหล่านั้น ช่างกลถึงจะกลายเป็นหนึ่งคนหนึ่งกองทัพอย่างแท้จริง
การเปิดตัวความสามารถเหล่านั้นจะหมายความว่าผู้เล่นช่างกลได้หลุดออกจากช่วงต้นเกมแล้ว รูปแบบต่อสู้จักรกลมากมายจะขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีบีบอัดต่างๆ
เนื่องเพราะการเพิ่มของน้ำหนักอุปกรณ์ ความคล่องตัวและความสะดวกในการพกพาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนอุปกรณ์ของโกโดร่า เทคโนโลยีบีบอัดสามารถช่วยช่างกลลดขนาดของเครื่องจักรและอุปกรณ์ได้ นี่หมายความว่าจำนวนอุปกรณ์และของที่ช่างกลสามารถพาได้จะเพิ่มขึ้นมาก และพวกเขาก็ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักไปทั่ว พวกเขาสามารถยกป้อมปราการเหล็กออกมาได้ทันที
ตัวอย่างเช่น โครงสร้างใหม่ของชุดจักรกลเขาที่สามารถพับซ้ำไจนกว่าจะมีขนาดน่าพอใจ แต่ทว่า มันก็ยังสามารถปรับเป็นโหมดป้อมปราการได้ตามใจชอบ หรือ ป้อมปืนที่ไม่อาจพกพาไปได้ที่จะถูกบีบอัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม
มีความรู้หลักสามประการสำหรับความสามารถประเภทนี้ [การรื้อและซ่อมแซมทันที] [เทคโนโลยีบีบอัดวัสดุความหนาแน่นสูง] และ[เทคโนโลยีช่องว่างเริ่มต้น] พวกมันล้วนเป็นความรู้ขั้นกลาง
น่าเสียดาย ความรู้สำคัญทั้งสามไม่มีอยู่ในตลาดของวงแหวนดาวกระจาย และการครอบครองพวกมันก็จะถูกจับตาโดยอารยธรรมใหญ่
หานเซี่ยวตกอยู่ในความคิด ความสามารถเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของช่างกล เนื่องจากตลาดในวงแหวนดาวกระจายไมได้เสนอพวกมัน ทางที่จะหามันได้คือเข้าร่วมองค์กรขนาดใหญ่และใช้แต้มเพื่อแลกเปลี่ยนมา นี่เป็นวิธีที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ในอดีตตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม มีวิธีอื่นอยู่ ออกไปจากวงแหวนดาวกระจายและพยายามใช้โชคในพื้นที่อวกาษศอื่น มองหาอารยธรรมขั้นสูงที่ไม่คิดว่าความรู้นี้สำคัญนัก และสามารถรั่วไหลได้ แต่ทว่า การหาพวกมันบนตลาดจะขึ้นอยู่กับโชคอย่างเดียว และโอกาสก็ไม่สูงเลย…
หลังลูบคาง ช่างกลหานก็พึมพำ”เผ่าเงินเป็นเผ่าพันธ์ขั้นสูง พวกเขาย่อมเข้าถึงความรู้ทั้งสามได้ หากเราสามารถช่วยพวกเขาได้  งั้นฉันก็จะสามารถขอความรู้แลกเป็นรางวัลงาน แต่โอกาสย่อมไม่สูง…”
หลังคิสักพัก หานเซี่ยวก็ตัดสินใจลองดู การฝันไม่ผิ ช่างกลหานเป็นคนชอบเสี่ยงโชค แล้วถ้าเขาไม่ชนะละ?อย่างน้อยก็ไม่เสียใจ
หลังแยกแยะอุปกรณ์เขาและจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้ห้องซ่อม เขาก็ออกไปล็อบบี้พันธมิตรทหารรับจ้าง มีคนอยู่มาก และหลายคนก็เป็นทหารรับจ้าง พวกเขาอาจมาเพราะการรับสมัครของเผ่าเงินและอยากลองเสี่ยงโชค
หานเซี่ยวเปิดหน้าต่างสถานะทหารรับจ้างและเห็นการรับสมัครที่ส่งโดยเผ่าเงินด้านบนสุดของกระดานประกาศ แต่ทว่า เขาก็ตกใจทันทีหลังเปิดข้อความ
 
“คะแนนความน่าเชื่อถือขั้นต่ำ : 400”
400?!เรามีไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ หานเซี่ยวพูดไม่ออก นี่คืออะไร?ความฝันฉันถูกบดขยี้ก่อนจะได้ฝัน?
“เห้ย แบล็คสตาร์!’
ขณะที่เขากำลังจะออกไป บางคนก็ร้องเรียกเขาจากด้านข้าง หานเซี่ยวหันไปและเห็นชายผิวฟ้าตัวเตี้ยกำลังวิ่งมา
หานเซี่ยวเบิกตาเขาและตบหน้าผากอย่างรับรู้”เอ่อ นาย…นายใช่ไหม?เดี๋ยว ไม่ต้องบอก ฉันเกือบจำได้แล้ว นาย นาย พวกไนล่อนใช่ไหม?”
“บลูนิ!”
มาร์ตินแทบบ้า และเล็บเหมือนผมเขาก็ยาวขึ้น เปลี่ยนจากเล็บเป็นเข็มโลหะ นี่เป็นสัญญาณว่าบลูนิกำลังโกรธ
“ว่าไงนะ…”ดวงตาหานเซี่ยวสั่นไหว เขารู้สึกดีใจที่ไม่เผลอพูดออกไปว่าเม่น