The Man from Hell – ตอนที่ 118 : นายเข้าใจฉันผิดแล้ว

ศิลาอมตะต้องห้ามบนสรวงสวรรค์!

นี่เป็น 1 ในศิลาอมตะที่พิเศษที่สุดในจักรวาล มันสามารถเอาไว้สลักคาถาต้องห้ามได้และมันก็ยังเป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างเครื่องมือวิเศษระดับหายากอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยพลังที่ยังไม่ค่อยแข็งแรงมากนักในปัจจุบันของเขา เย่เฟิงสามารถทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือวิเศษระดับทั่วไปได้เท่านั้น

“การประมูล ?”

เมื่อเขานึกถึงคำพูดของ อาจารย์กู๋ดวงตาของเย่เฟิงก็เป็นประกาย เขาจึงตัดสินใจที่จะลองเข้าไปข้างในงานนี้สักหน่อย

 

การประมูลของตระกูลกู๋นั้น เป็นการประมูลแบบเป็นความลับ แต่ว่ามีอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งมักจะจัดงานภายในย่านขายของโบราณของทุกเมืองและทุกจังหวัด

เมื่อเย่เฟิง มาถึงประตูทางเข้าของงานประมูลที่ตระกูลกู๋จัดขึ้น เขาสังเกตเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้า ๆ

“ท่านอาจารย์ทวด ?”

เย่เฟิงชะงักเล็กน้อย เขาหันกลับไปและพบว่าคนที่พูดออกมานั้นคือซู่เถิง หลานชายของซู่กวง

ก่อนหน้านี้ขาของซู่เถิงนั้นถูกหักโดยซู่กวงหลังจากที่เขานั้นได้ทำให้เย่เฟิงไม่พอใจ ดูเหมือนว่าเขาเกือบจะหายดีแล้ว

“นายดีขึ้นแล้วเหรอ” เย่เฟิงถามนายน้อยเถิงด้วยรอยยิ้ม

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ซู่เถิงก็รู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันที เมื่อเขานึกถึงความแข็งแกร่งของเย่เฟิง ในครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้เจอกัน เขารีบโค้งคำนับไปทางเย่เฟิง ด้วยใบหน้าสีแดงจาง ๆ และพูดว่า “ท่านอาจารย์ทวดผมช่างโง่เขลานัก ขอโทษที่ทำให้ท่านอาจารย์ทวดไม่พอใจเมื่อครั้งล่าสุด! และก็ขอบคุณที่ช่วยผมเอาไว้!”

หลังจากที่ซู่กวงหักขาของซู่เถิง เขาก็ได้รับยาจากเย่เฟิง มิฉะนั้นซู่เถิงคงยังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงจนถึงตอนนี้

ขณะที่เย่เฟิงยุ่งอยู่กับการสนทนากับซู่เถิง จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงประชดประชัน “โย่ว! นั่นใช่ ไอ้คนงี่เง่าที่เอาหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ไปแลกกับก้อนหินหรือเปล่า ?”

‘หืมม ?’

หลังจากได้ยินเสียงนั่น ซู่เถิงก็ตกตะลึงในทันที จากนั้นเมื่อเขาก็รู้ว่าต้นเสียงนั้นเป็นของใคร ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นมืดมน “โม่เต๋า แกพูดถึงเรื่องอะไร ?”

เป็นผู้ชายสองคนและผู้หญิงคนเดียวกันซึ่ง นำหน้ามาโดยเด็กในชุดขาวที่เย่เฟิงเพิ่งจะเจอมา

หลังจากมองไปที่หน้าของเย่เฟิง เด็กในชุดขาวก็เยาะเย้ยซู่เถิง “เฮ้ เฮ้…นายน้อยเถิง ฉันนึกไม่ถึงว่านายจะรู้จักคนโง่งี่เง่าแบบนี้!”

‘โง่งี่เง่างั้นเหรอ ?’

หลังจากได้ยินคำดูถูกของโม่เต๋า ใบหน้าของซู่เถิงก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มอย่างน่ากลัว เขาตะโกนว่า “โม่เต๋าหุบปาก! ถ้าแกกล้าดูถูกอาจารย์ทวดของฉันอีกครั้ง ฉันจะต่อยแกจนกว่าแกจะหมดลมหายใจ!”

เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ทำให้ซู่เถิงนั้นนับถือเย่เฟิงอย่างมาก

แม้แต่ปู่ของเขาและบลัดดี้โกสท์ต่างก็ยอมจำนนต่อเขา

ซู่เถิงจะไม่ยอมให้โม่เต๋ามาดูถูกคนที่เขานับถือเป็นอันขาด!

เมื่อโม่เต๋าและเพื่อนของเขาได้ยินคำว่า ‘อาจารย์ทวด’ พวกเขาก็ตกตะลึงในทันที จากนั้นพวกเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“อาจารย์ทวด ? ฮ่า ฮ่า… ฉันนึกไม่ถึงว่านายน้อยเถิงผู้โด่งดังทางตอนใต้ของจีน จะยอมรับว่าคนโง่แบบนี้เป็นอาจารย์ทวดของเขาได้! หากข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วตอนใต้ของจีน นายน้อยเถิงจะกลายเป็นตัวตลกที่น่าหัวเราะที่สุดในบรรดานายน้อยรุ่นใหม่อย่างแน่นอน!”

เพื่อนทั้งสามคนนั่นกำลังหัวเราะเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทำให้ซู่เถิงหน้าเริ่มเปลี่ยนสีมากยิ่งขึ้น

จากนั้นเย่เฟิงก็พูดว่า “ไอ้โง่!”

‘อะไรนะ!’

ใบหน้าของโม่เต๋ามึนตึงทันทีเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเย่เฟิง จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่เฟิงด้วยท่าทางแข็งกร้าวและถามว่า “ไอ้สารเลว แกกล้าด่าฉันงั้นเหรอ”

“ไม่ ไม่ ไม่! นายเข้าใจฉันผิดแล้ว!” เย่เฟิงรีบโบกมือและพยายามอธิบายตัวเอง ขณะที่โม่เต๋าและเพื่อน ๆ ของเขากำลังทำหน้าไม่ค่อยพอใจ “ฉันแค่สบถคำว่าไอ้โง่เฉย ๆ!”

‘อะไรนะ!’

หลังจากได้ยินคำแก้ตัวของเย่เฟิง โม่เต๋าและเพื่อนของเขาก็ตกตะลึง พวกเขาคิดตามคำพูดของเย่เฟิง

แล้วพวกเขาก็รู้ว่า เย่เฟิงนั้นสบถคำว่า ‘ไอ้โง่’ ออกมา เพราะต้องการหมายถึงพวกเขาอย่างแน่นอน

‘ไอ้ชั่ว!’

โม่เต๋าและเพื่อนทั้งสองของเขา อยากจะเข้าไปจัดการกับเย่เฟิง!

ตอนนั้นเอง ซู่เถิงเข้ามาขวางเอาไว้ ขณะที่เขาจ้องมองโม่เต๋าด้วยพลังฉีที่รุนแรง แล้วตวาดว่า “โม่เต๋า ถ้าแกกล้าทำร้ายอาจารย์ทวดของฉัน ฉันสัญญาเลยว่าแกจะไม่ได้ออกไปจากตรอกขายของโบราณแห่งนี้แน่นอน!”

หลังจากได้ยินคำพูดของซู่เถิง โม่เต๋าก็ทำหน้าไม่ค่อยพอใจ

เขานั้นไม่ได้กลัวเย่เฟิงเลย แต่เขากลัวซู่เถิง

เขารู้ว่าอิทธิพลของซู่เถิงในเมืองเจียงซีนั้นยิ่งใหญ่กว่าของเขามากนัก

โม่เต๋าและเพื่อน ๆ ของเขา รีบเปลี่ยนสีหน้าของพวกเขา ก่อนจะแสยะยิ้มให้เย่เฟิงและพูดว่า “ไอ้สารเลว นายน้อยเถิงอาจปกป้องแกได้ในตอนนี้ แต่เขาไม่สามารถปกป้องแกได้ตลอดไปหรอก! แล้วเจอกัน!”

ก่อนที่จะเดินจากไป โม่เต๋าและเพื่อน ๆ ของเขาจ้องตาเย่เฟิงอีกครั้ง ก่อนจะหันหน้ากลับและเดินเข้าไปในสถานที่ประมูล

ซู่เถิงบอกกับเย่เฟิงว่า “อาจารย์ทวด เด็กคนนั้นคือโม่เต๋า เขามาจากตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดตระกูลหนึ่งในภาคใต้ของจีน ท่านอาจารย์ทวดระวังตัวไว้ด้วยนะครับ เขามักจะหาทางแก้แค้น ในทุก ๆ เรื่องแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม”

หลังจากได้ยินคำเตือนที่จริงจังของซู่เถิง เย่เฟิงก็พยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ

จากนั้นพวกเขาก็เข้าสู่สถานที่ประมูลของตระกูลกู๋

 

สถานที่ประมูลของตระกูลกู๋นั้นคึกคักมาก!

ทุกที่นั่งถูกจับจ้องโดยผู้มีอิทธิพลที่มาเข้าร่วมงานประมูลนี้ บางส่วนก็มาจากเมืองเจียงซี บางส่วนก็มาจากทางตอนใต้ของจีน และบางส่วนก็มาจากที่อื่น

หลังจากเข้าไปในงานประมูล เย่เฟิงและซู่เถิงก็นั่งลงที่มุม ๆ หนึ่ง

10 นาทีต่อมาที่นั่งทั้งห้องประมูลนั้นก็เต็มแน่นแล้ว การประมูลจึงได้เริ่มต้นขึ้น

บนเวทีนั้นคืออาจารย์กู๋ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการประมูล! และยังเป็นเจ้าของสถานที่ประมูลแห่งนี้ด้วย!

หลังจากกล่าวทักทายสั้น ๆ เขาก็เริ่มต้นการประมูล!

“เพื่อน ๆ ทุกท่าน ของหายากอย่างแรกของวันนี้คือภาพวาด ‘Green Leaves Fall in Autumn Frost’ ที่วาดโดย เต๋าสิเชียน นักวาดภาพและจิตรกรชื่อดังสมัยราชวงศ์หมิง! เราจะเริ่มการประมูลที่ 1 ล้านหยวน เพิ่มราคาครั้งละ 500,000 หยวน! เริ่มกันเลย!”

หลังจากคำพูดของอาจารย์กู๋ การเสนอราคาที่เข้มข้นก็เริ่มต้นขึ้น

เย่เฟิงไม่ได้สนใจสินค้าในรายการแรก

เขานั่งเงียบ ๆ ในขณะที่ลับศิลาอมตะต้องห้ามบนสรวงสวรรค์ด้วยมีดของเขา

มีดเล่มนี้คมมาก

เขาเกือบจะเฉือนนิ้วของตัวเองทุกครั้งที่เขาลับหินนั่นแต่ละที

ซู่เถิงไม่รู้ว่าเย่เฟิงพยายามจะทำอะไร แต่เขารู้ว่าเย่เฟิงนั้นต้องมีเหตุผล ดังนั้นเขาจึงสนใจเรื่องของตัวเองดีกว่า

การเสนอราคาดำเนินไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

“ต่อไปเราจะประมูล หญ้าหวายดำ! สมุนไพรนี้พบได้ในพื้นที่ที่เย็นจัดเช่นภูเขาหิมะ มันเติบโตได้เพียง 1 ซม. ต่อหนึ่งทศวรรษ! ในทางการแพทย์แผนจีนเรียกว่า “หญ้าอายุยืน”! มันสามารถยืดอายุและชำระเลือดและพลังฉีของคน ๆ หนึ่งให้บริสุทธิ์ได้!”

อาจารย์กู๋แนะนำมันอย่างคล่องแคล่ว “ตอนนี้เรามาเริ่มการประมูลกันเลย! ราคาต่ำสุดของ หญ้าหวายดำ คือ 2 ล้านหยวน! เพิ่มราคาครั้งละ 500,000 หยวน!”

หลังจากได้ยินคำพูดของอาจารย์กู๋ เย่เฟิงก็นิ่งไป

เขาเงยหน้าขึ้นมองสมุนไพรบนเวทีด้วยความดีใจ!

‘หญ้าหวายดำ! เป็นหนึ่งในส่วนผสมหลักในการสร้างยาระเบิดพลังกาย!’

“2.5 ล้านหยวน!”

“3 ล้านหยวน!”

“3.5 ล้านหยวน!”

 

เหล่าผู้มีอิทธิพลเริ่มเสนอราคากันอย่างดุเดือด

พวกเขาไม่ได้ขาดเงิน แต่พวกเขาขาดเวลาในการมีชีวิต ดังนั้นพวกเขาจึงคลั่งไคล้สมุนไพรที่ทำให้อายุยืน

ในพริบตาราคาของ หญ้าหวายดำก็สูงถึง 8 ล้านหยวน!

แต่ทันใดนั้น “20 ล้านหยวน!”

การเสนอราคาของ เย่เฟิงทำให้ ทั้งงานประมูลเงียบกริบ

เหล่าผู้มีอิทธิพลที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องเกินจินตนาการของพวกเขาที่จะมีใครบางคนที่ร่ำรวยถึงขนาดยอมจ่ายค่าสมุนไพรถึง 20 ล้านหยวน

แต่เมื่อพวกเขาคิดว่าราคา 20 ล้านหยวนนั้นเป็นราคาสุดท้าย เสียงอีกเสียงก็ดังขึ้น “30 ล้านหยวน!”

 

ทั้งสถานที่ประมูลจึงมีเสียงอื้ออึงดังขึ้นมา!

ทุกคนหันหน้าไปทางผู้ประมูลเมื่อพวกเขาพบว่ามันคือ โม่เต๋า นายน้อยของตระกูลโม่!

โม่เต๋าเผยรอยยิ้มขี้เล่นใส่เย่เฟิง ขณะที่เขาชูมือขึ้นและโบกไปทางเย่เฟิง

ช่างเป็นการยั่วโมโหที่ได้ผล!

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset