The Man from Hell – ตอนที่ 52 : คุณอยากได้ยินมันจริงๆเหรอ ?

ในตอนบ่ายข่าวก็ได้แพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซีอย่างรวดเร็วราวกับว่าข่าวนั้นติดปีกบิน —— โค้ชปีศาจ ขายหน้าหน้าหนัก ถูกทุบตีโดยเย่เฟิง!

นั่นทำให้ชื่อเสียงของเย่เฟิงโด่งดังไปทั่วภายในไม่กี่ชั่วโมง!

ครูและนักเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซีรู้ว่าเย่เฟิงนั้นเป็นเพียงลูกชายนอกสมรสของตระกูลเย่เท่านั้น

และยังมีข่าวว่า เมื่อไม่กี่วันก่อนเย่เฟิงได้ให้บทเรียนกับจงเฉียงที่หน้าประตูโรงเรียนและสามารถบังคับให้กงหวู่ นักเรียนชายที่มีนิสัยอันธพาลที่สุดของชั้นปีที่ 3 ให้มาคุกเข่าต่อหน้าเขาได้อีกด้วย

และยิ่งไปกว่านั้นวันนี้ ลิ้นของกงเหวิน นายน้อยรูปหล่อของกระกูลกงก็ได้ถูกตัดออกไปตามคำสั่งของเย่เฟิง

ข่าวดังกล่าวนี้กลายเป็นประเด็นสุดร้อนแรงในโรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซีในระยะเวลาอันสั้น

นักเรียนหลายคนถึงกับยกเอาเย่เฟิงมาเป็นไอดอลของพวกเขา และมีนักเรียนบางคนที่มาห้องเรียนของเย่เฟิงเพื่อขอลายเซ็นและรูปถ่ายของเย่เฟิงอีกด้วย

นั่นเป็นผลให้เย่เฟิง ยิ่งกลายเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโรงเรียนมัธยมปลายเมืองเจียงซีเพียงชั่วข้ามวัน!

 

หลังจากสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโรงเรียน เย่เฟิงก็ไปที่ร้านอาหารสไตล์ตะวันตกแห่งหนึ่งในตัวเมือง

‘ทำไมครูฝางถึงอยากจะชวนฉันไปทานอาหารเย็น?’

เมื่อตอนเที่ยง เย่เฟิงได้รับโทรศัพท์จากฝางยิ่งว่าจะเชิญเขาไปทานอาหารเย็น

ดังนั้นเขาจึงรีบเดินออกจากโรงเรียนหลังเลิกเรียนวันนี้

เมื่อเขามาถึงที่ร้านอาหาร เย่เฟิงก็เห็นเปียโนหลังหนึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของร้านอาหาร ขณะที่บรรดาแขกกำลังเพลิดเพลินกับอาหารอยู่รอบ ๆ ร้าน

“ตรงนี้ เย่เฟิง!”

เมื่อเย่เฟิงเข้ามา ฝางยิ่งยืนขึ้นและทักทายเขาที่มุมหนึ่งของร้าน

ด้วยการแต่งกายในชุดเครื่องแบบที่เป็นทางการ แว่นสายตาสีดำ ผมยาวและรูปร่างที่ร้อนแรง ฝางยิ่งดึงดูดสายตาของทุกคนในร้านอาหาร

และเย่เฟิงยังเห็นชายหนุ่มอีกคนในชุดเครื่องแบบสไตล์ตะวันตกและสวมแว่นตา อยู่ข้าง ๆ ฝางยิ่ง

นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ตรงนั้น

โดยรวมแล้ว เย่เฟิงเห็นคนสามคนที่โต๊ะ —— ฝางยิ่ง ชายหนุ่มและผู้หญิงแปลก ๆ

“ครูฝาง!” เย่เฟิงเดินตรงไปที่ด้านหน้าของฝางยิ่งในขณะที่เขาทักทายเธอ

เมื่อเห็นเย่เฟิงตรงหน้า ฝางยิ่งก็รู้สึกหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเธอระลึกได้ว่าเย่เฟิงนั้นได้เคยตบก้นเธอในวันนั้น แต่เธอก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เชิญนั่งก่อน เย่เฟิง!”

เย่เฟิงยักไหล่ขณะเขาเลือกนั่งลงบนเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่

จากนั้นฝางยิ่งก็เริ่มแนะนำชายใส่แว่นให้กับเย่เฟิง “เย่เฟิงนี่คือ ลี่จือเชียงผู้จัดการทั่วไปของบริษัทนำเข้า-ส่งออก หงไห่!”

หลังจากได้ยินคำพูดของฝางยิ่ง ลี่จือเชียงก็ยื่นมือไปที่เย่เฟิงด้วยรอยยิ้มและกล่าวทักทายเย่เฟิง “ยินดีที่ได้รู้จัก ผมลี่จือเชียง ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทนำเข้า-ส่งออก หงไห่ และยังเป็นผู้ที่หลงไหลในตัวของฝางยิ่ง!”

‘หืมม?’

‘ผู้ที่หลงไหล?’

หลังจากได้ยินคำทักทายของลี่จือเชียง เย่เฟิงก็รู้สึกสับสนเพราะเขาไม่รู้ว่าทำไมชายคนนี้จึงเปิดเผยข้อมูลรสนิยมส่วนตัวออกมา

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก ขณะที่จับมือกับลี่จือเชียงเขาแค่พูดว่า “เย่เฟิง!”

คำแนะนำสั้น ๆ ของ เย่เฟิงนั้นทำให้สีหน้าของลี่จือเชียง เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมเล็กน้อยเนื่องจากเขารู้สึกว่า เย่เฟิงนั้นไม่ได้แสดงความจริงใจต่อเขาเลย ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างรู้สึกไม่พอใจ

แต่เย่เฟิงนั้นไม่สนใจว่า ลี่จือเชียงกำลังคิดอะไรอยู่ ขณะที่เขาเอ่ยปากถามฝางยิ่งว่า “ครูฝาง ที่นัดผมมาวันนี้มีธุระอะไรหรือเปล่า ?”

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ฝางยิ่งตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ว่า “เพื่อนสนิทหญิงของฉัน ต้องการพบเธอ!”

‘เพื่อนสนิทหญิง?’

เย่เฟิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยขณะที่เขามองผู้หญิงที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เขาพยักหน้าให้เล็กน้อย

เปรี๊ยะ!

จากนั้นฝางยิ่ง ก็ดีดนิ้วของเธอออกเพื่อส่งสัญญาณ หลังจากนั้นบริกรก็เดินมาหาพวกเขาพร้อมกับสเต็กชิ้นหนึ่งแล้ววางไว้ตรงหน้าเย่เฟิงด้วยความนอบน้อม

“เย่เฟิง นี่คือทีโบนสเต็กที่ฉันสั่งเป็นพิเศษสำหรับเธอ! สเต็กของพวกเขานั้นดีที่สุดในเมืองเจียงซี เร็วเข้าลองชิมดู!”

ฝางยิ่งปฏิบัติกับเย่เฟิงอย่างกระตือรือร้น เพราะที่ผ่านมาเย่เฟิงเคยช่วยชีวิตของเธอเอาไว้

หลังจากได้ยินคำแนะนำของเธอแล้ว เย่เฟิงก็พยักหน้าขณะที่เขาหยิบส้อมแล้วหั่นเข้าไปที่เนื้อสเต็กก่อนที่จะกินมัน

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเยาะเย้ยของลี่จือเชียง

“น้องชาย ส้อมและมีดไม่ได้ใช้แบบนั้น! นายไม่สามารถจะกินสเต็กแบบนั้นได้!”

ลี่จือเชียงพูดด้วยอาการดูถูก เนื่องจากเย่เฟิงนั้นดูบ้านนอกในสายตาของเขา และเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะใช้ส้อมกับมีดได้อย่างไร

ลี่จือเชียงพูดต่อด้วยท่าทางตลกขบขัน “นายควรใช้มีดด้วยมือขวาและใช้ส้อมด้วยมือซ้าย จับสเต็กไว้ด้วยส้อมของนาย แล้วค่อยหั่นแบ่งสเต็กออกมาสักชิ้น ก่อนที่จะใส่มันเข้าไปในปากของนาย! นี่เป็นวิธีที่ถูกต้องในการรับประทานอาหารสไตล์ตะวันตก! “

หลังจากพูดลี่จือเชียงก็เบะปากของเขา ขณะที่เขาหันไปคุยกับฝางยิ่งด้วยน้ำเสียงที่ดูหมิ่น “ฝางยิ่ง นี่คงเป็นครั้งแรกของเด็กชายคนนี้ที่เข้ามาในเมือง! เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกินอาหารแบบตะวันตกยังไง!”

เมื่อเขาเห็นว่าฝางยิ่งนั้นปฏิบัติกับเย่เฟิงอย่างกระตือรือร้น เขาก็รู้สึกอิจฉา แน่นอนเขาต้องคว้าโอกาสนี้เพื่อที่จะโจมตีเย่เฟิงด้วยปากเปล่าและพยายามแสดงตัวตนต่อหน้าฝางยิ่ง

หลังจากได้ยินคำพูดที่แสดงความดูถูกของลี่จือเชียง ฝางยิ่งขมวดคิ้วขณะที่เธอตั้งใจจะโต้แย้งกับเขา

ทันใดนั้น เย่เฟิงก็พูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “ขอโทษนะ! ผมมาที่นี่เพื่อกินอาหาร ไม่ได้มาเพื่อโอ้อวดอะไร”

‘อะไรนะ!’

หลังได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ลี่จือเชียงก็ตกตะลึงในไม่ช้า

เขาไม่คาดคิดว่า คนโง่เง่าจากบ้านนอกจะกล้าโต้แย้งกับเขา

“ไอ้เด็กเหลือขอ แกพูดว่าอะไรนะ!”

ใบหน้าของ ลี่จือเชียง เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ

เย่เฟิงเผยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่เขายักไหล่เงียบเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ผมกำลังกินสเต็ก แค่กินสเต็ก! แต่คุณกำลังคุยโวและโอ้อวด!

“แก…”

ลี่จือเชียงต้องการที่จะชกเย่เฟิงในทันที

แต่เสียงเปียโนที่ไพเราะและมีชีวิตชีวาก็ดังขึ้นขัดจังหวะเอาไว้

ลี่จือเชียงค่อย ๆ นั่งลง แต่อย่างไรก็ตามเขายังคงจ้องมองเย่เฟิงด้วยเจตนาที่ชั่วร้าย

ฝางยิ่งแสดงสีหน้ารังเกียจใส่ลี่จือเชียง

เธอนั้นไม่ต้องการพา ลี่จือเชียงมาเป็นเพื่อนของเธอด้วยเลย แต่เขาเอาแต่ติดตามเธอเหมือนกับแมลงวันที่น่ารำคาญ ดังนั้นเธอมีทางเลือกเดียวเท่านั้น ก็คือพาเขามาด้วย

แต่เธอไม่คาดคิดว่า เขาจะเริ่มที่จะแสดงอาการโอ้อวดข่มคนอื่นเมื่อเขาได้พบกับเย่เฟิง

ฝางยิ่งไม่สนใจลี่จือเชียง ขณะที่เธอยังคงพูดคุยกับเย่เฟิง “เย่เฟิง คนที่เล่นเปียโนคือเพื่อนสนิทหญิงของฉัน”

‘หืมม?’

เย่เฟิงชะงักไปนิดนึง ขณะที่เขาสังเกตเห็นสาวงามคนหนึ่ง กำลังเล่นเปียโนในชุดสีขาวบริสุทธิ์และสะอาดราวกับหิมะ!

ขณะที่เธอกำลังเล่นเปียโนอย่างใจเย็นนั้น โน้ตดนตรีที่ไพเราะแต่ละคีย์นั้น ก็ค่อย ๆ ลอยเข้ามาในหูของทุก ๆ ในร้านอาหารแห่งนี้

ราวกับเสียงของคริสตัลเนื้อดี ที่ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกหลงใหล!

เสียงเพลงที่ไพเราะและสาวงามที่กำลังบรรเลง มันเป็นภาพที่สวยงามอย่างมากซึ่งดึงดูดสายตาของทุกคน และเมื่อเพลงจบลงเธอก็ได้รับเสียงปรบมือดังก้องไปทั่วร้านอาหาร

หลังจากได้ฟังเพลงนี้ลี่จือเชียงก็พูดกับเย่เฟิงอย่างแดกดัน “เย่เฟิง มองดูแล้ว นายคงจะต้องไม่เคยได้ยินเสียงแกรนด์เปียโนมาก่อน! นายรู้สึกยังไงบ้าง?”

เห็นได้ชัดว่าลี่จือเชียงต้องการที่จะจี้ในจุดนี้ของเย่เฟิง

เย่เฟิงใจเย็นและมองไปที่ลี่จือเชียงราวกับว่าเขากำลังมองคนโง่ เขาไม่สนใจที่จะตอบคำถามของลี่จือเชียง

เมื่อเห็นเย่เฟิงแสดงท่าทางแบบนั้น ใบหน้าของ ลี่จือเชียงนั้นดูมืดมนลงอย่างมาก

จากนั้นเสียงฝีเท้าก็เดินมาทางเขา เขาเห็นสาวงามในชุดสีขาวกำลังเดินมาที่นี่ จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ นั่งลงข้าง ๆ เย่เฟิงในขณะที่เธอยิ้มพร้อมกับพูดว่า “เธอคงเป็นเย่เฟิง ? เธอรู้สึกยังไงบ้าง กับการเล่นเปียโนของฉัน ?”

สาวงามในชุดขาวเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย่อหยิ่ง เห็นได้ชัดว่าเธอต้องการให้นักเรียนที่ไม่เชื่อฟังคนนี้ของฝางยิ่งกล่าวชื่นชมเธอ

เย่เฟิงเข้าใจในทันทีว่าเป็นสาวงามในชุดสีขาวคนนี้ที่ต้องการพบเขา

“คุณอยากได้ยินมันจริง ๆ เหรอ ?” เย่เฟิง ถามอย่างลังเล

เมื่อดูท่าทางที่ลังเลของเขาไม่เพียงแต่ลี่จือเชียงและสาวงามในชุดสีขาว แต่แม้แต่ฝางยิ่งเองก็เริ่มสนใจในคำตอบของเขา

“พูดมาเลย!”

ฝางยิ่งเผยรอยยิ้มขณะที่เธอต้องการได้ยินความคิดเห็นของคนที่ลึกลับมากเช่นเขา

อย่างไรก็ตามคำตอบสั้น ๆ ของ เย่เฟิง นั้นทำให้ทุกคนตัวแข็งทื่อ!

“ขยะ!”

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset