The Man from Hell – ตอนที่ 58 : นายจะต้องเป็นหมัน!

“โปรดยอมรับผมในฐานะลูกศิษย์ของคุณด้วย !”

เมื่อคำพูดของซู่กวงดังก้องออกมา ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ

ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าซู่กวง ผู้ที่ต่อต้านเย่เฟิงมากที่สุด ในตอนนี้เขากลับต้องการเป็นลูกศิษย์ของเย่เฟิง

พวกเขาทั้งหมดมีสีหน้าประหลาดใจ เหมือนว่าพวกเขานั้นเป็นประจักษ์พยานของการปรากฏตัวของพระเจ้า

เย่เฟิงปฏิเสธเขาในทันที

แต่แล้วชายชรากลับพยายามเกลี้ยกล่อมเขาว่า “สหายน้อย อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ดร.ซู่เลย! เขาไม่เพียงแต่เป็นหมอ แต่เขาอาจจะเป็นประโยชน์กับนายในอนาคต!”

‘หืมมม?’

หลังจากได้ยินคำแนะนำของชายชรา เย่เฟิงก็ชะงักไปเล็กน้อยเพราะเขารู้ว่าชายชราหมายถึงอะไรบางอย่าง

‘หมอคนนี้มีอะไรพิเศษอย่างอื่นอีกเหรอ ?’

เย่เฟิงลังเลในขณะที่เขาตอบว่า “ฉันไม่เคยยอมรับใครในฐานะลูกศิษย์ของฉัน ฉันยอมรับเฉพาะคนที่ยอมเป็นทาสของฉันเท่านั้น! เพราะอย่างนั้นฉันจึงไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้!”

หลังจากพูดแล้วเย่เฟิง ก็เดินไปที่โต๊ะทำงานแล้วหยิบปากกาขึ้นมาก่อนที่จะเขียนอะไรลงบนกระดาษ หลังจากนั้นเขาก็มอบแผ่นกระดาษนั้นให้กับดร.ซู่ พลางกล่าวว่า “มีส่วนผสมของสมุนไพร 50 ชนิดในแผ่นกระดาษ ตราบใดที่นายสามารถช่วยฉันรวบรวมได้สัก 10 ชนิด ฉันจะยอมรับนายในฐานะลูกศิษย์ของฉันและ สร้างความก้าวหน้าในอาชีพของนายให้!”

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ดร.ซู่ก็ดีใจมาก เขารีบหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาทันที หลังจากมองดูมันแล้วเขาก็โค้งคำนับต่อเย่เฟิง “เชื่อผมได้เลยครับอาจารย์ ผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรวบรวมพวกมัน!”

เย่เฟิงพยักหน้า

ตราบใดที่มีการรวบรวมส่วนผสมของสมุนไพรได้ 10 จาก 50 ชนิด ตัวของเย่เฟิงสามารถนำมาทำเป็นยาที่มีศักยภาพได้ แต่ด้วยชื่อของเขาเองไม่สามารถพอที่จะรวบรวมสมุนไพรได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ

แม้ว่าเย่เฟิงจะทรงพลังมากพอที่จะกวาดล้างไปได้ทั้งภูมิภาค แต่เขาก็รู้สึกว่าโลกนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเพราะความน่ากลัวและความซับซ้อนของพลังฉีที่กระจายตัวอยู่รอบ ๆ ในบรรยากาศของเมือง

ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

“ตาแก่ อาการบาดเจ็บเก่าของนายเพิ่มมากขึ้นทุกวันเนื่องจากวิธีลับ ๆ ที่นายกำลังฝึกฝนอยู่! นายช่วยแสดงให้ฉันดูหน่อยได้ไหม”

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ชายชราและสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลไป๋ก็รีบตอบทันที

“ได้!”

เมื่อชายชรายังอายุน้อยกว่านี้ เขาเป็นทหารระดับสูงในกองกำลังพิเศษของประเทศ!

แม้ว่าจะเกษียณแล้ว ไป๋เจิงกัวก็ยังคงมีอำนาจอยู่เช่นกัน

ดังนั้นรากฐานของตระกูลไป๋จึงมีความเสถียรภาพเหมือนกับภูเขาไท่

อย่างไรก็ตามมีความลับของตระกูลไป๋ ซึ่งคนภายนอกไม่สามารถรู้ได้ แต่เย่เฟิงนั้นคู่ควรที่จะรู้

หลังจากมองดูเย่เฟิงอย่างลึกซึ้งแล้ว ชายชราก็เผยรอยยิ้มอันขมขื่นจาง ๆ ในขณะที่เขาพูดว่า “สหายน้อย ฉันขอชื่นชมการรับรู้ที่คมชัดของนาย!”

หลังจากพูดชายชราโบกมือไปหาไป๋เจิงกัวแล้วพูดว่า “เจิงกัว ไปหาหนังสือที่เป็นมรดกของเรามา!”

หลังจากได้ยินคำสั่งแล้วสีหน้าของไป๋เจิงกัวและไป๋กังก็เปลี่ยนไปราวกับเขาได้ยินถึงสิ่งที่ไม่คาดคิด

ส่วนใหญ่ของสาเหตุหลักที่ว่าทำไม ตระกูลไป๋ถึงสามารถเป็นตระกูลที่มีอำนาจอันดับต้น ๆ ในเมืองเจียงซีได้นั้น อยู่ในหนังสือที่เป็นมรดกตกทอด

แต่ตอนนี้ชายชรากับต้องการแสดงให้เย่เฟิงรับรู้!

 

ไป๋เจิงกัวแสดงสีหน้าลังเล ขณะที่ใบหน้าของ ไป๋กังเปลี่ยนเป็นสีแดงเนื่องจากความวิตกกังวล เขาพูดเสียงดังออกมาว่า “คุณปู่ นี่คุณปู่พูดจริงใช่ไหม หนังสือเล่มนั้นเป็นมรดกที่หายากของเรา ปู่จะแสดงให้คนนอกดูได้อย่างไร”

คำพูดของไป๋กังนั้นได้ คุณอื่น ๆ ในตระกูลไป๋ก็รู้สึกเห็นชอบด้วย

ทว่าหลังจากได้ยินคำพูดของไป๋กัง ชายชราก็โกรธพร้อมตอบว่า “บังอาจนัก! เย่เฟิงเป็นคนที่ช่วยชีวิตของฉัน! เขาย่อมไม่ใช่คนนอก!”

หลังจากพูดอย่างนั้น ชายชราจ้องมองไปยังสมาชิกของตระกูลไป๋อย่างเย็นชาแล้วเขาตวาดเสียงดังว่า “จำใส่สมองเอาไว้! เย่เฟิงจะเป็นมิตรของตระกูลไป๋ตลอดไป! พวกแกทุกคนควรปฏิบัติตัวต่อเขาเหมือนที่พวกแกปฏิบัติต่อหัวหน้าของตระกูลเรา! และถ้าพวกแกกล้าดูถูกเขาแม้แต่น้อย ฉันจะขับไล่แกออกไปจากตระกูลของเรา! “

 

หลังจากได้ยินคำพูดของชายชรา ใบหน้าของสมาชิกทุกคนของตระกูลไป๋ก็ซีดลงอย่างน่ากลัว

พวกเขาพบว่าชายชราโกรธมากและพวกเขารู้ว่าไม่มีทางที่จะต่อต้านเขาได้

พวกเขาไม่คิดว่าชายชราจะเห็นคุณค่าของเย่เฟิงมากขนาดนี้

ไป๋เจิงกัวรีบออกจากห้องไปทันที จากนั้นเขาก็กลับมาพร้อมกับหนังสือโบราณเล่มสีเหลืองก่อนยื่นให้กับเย่เฟิง

มหาเวทย์สวรรค์โลกา!

เมื่อเห็นชื่อของหนังสือเล่มนี้ดวงตาของเย่เฟิงก็เปล่งประกายทันที เขาจึงรีบเปิดมันออกดู

“สหายน้อย หนังสือมรดกนี้ถูกนำมาโดยปู่ของฉันจากสุสานโบราณ! มันถูกเขียนโดยสวีจื้อหมัว ผู้เชี่ยวชาญด้านกังฟูที่มีชื่อเสียงของราชวงศ์หมิง! ด้วยความช่วยเหลือของหนังสือเล่มนี้ ตระกูลไป๋จึงยังมีพลังและอำนาจมากนานกว่า 100 ปี! “

ชายชราบอกเย่เฟิงด้วยความภาคภูมิใจ พลางถามว่า “สหายน้อย นายคิดยังไงกับหนังสือเล่มนี้ ?”

หลังจากได้ยินคำพูดของชายชรา ทุกคนในห้องจับจ้องไปที่เย่เฟิง พวกเขาปรารถนาจะได้ยินความคิดเห็นของเย่เฟิงเกี่ยวกับหนังสือมรดกนี้

อย่างไรก็ตามคำตอบสั้น ๆ ของ เย่เฟิง ก็ทำให้ทุกคนตกใจอีกครั้ง!

“ไร้สาระ! ขยะ! ผู้เขียนฆ่าลูกศิษย์และตัวเองตายเพราะหนังสือเล่มนี้!

‘อะไรนะ!’

หลังจากคำตอบสั้น ๆ ของเย่เฟิง คนในห้องส่งเสียงดังฮือฮาราวกับฟ้าร้อง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซู่กวงที่เกือบจะสำลักน้ำลายของตัวเอง ในขณะที่เขายังคงไออย่างหนัก

‘แม่ง นายน้อยคนนี้ไม่มีความกลัวเลยจริง ๆ !’

‘เขาเรียกว่าหนังสือมรดกของเราว่าขยะ! นั่น…อวดดีเกินไปแล้ว’

ซู่กวงนั้นชื่นชมเย่เฟิงเป็นอย่างมาก

ในขณะที่ใบหน้าของไป๋ยี่เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าไอ้งั่งนี่จะไม่พูดเรื่องอะไรดี ๆ

“อะแฮ่ม อะแฮ่ม … สหายน้อย นายช่วยบอกเหตุผลของนายหน่อยได้ไหม?”

ชายชราถามเข้าประเด็นในทันที เขาคิดว่าเย่เฟิงจะชื่นชมหนังสือของเขา แต่เขาคาดไม่ถึงว่าเย่เฟิงจะไม่ได้พูดอะไรที่ดีเลย นอกจากคำก่นด่า

หลังจากได้ยินคำพูดของชายชรา เย่เฟิงเบะริมฝีปากของเขา และอธิบายว่า “จากการคาดการณ์ของฉันเมื่อตอนที่ปู่ของนายตาย เขาน่าจะอายุน้อยกว่า 50 ปีและมีเลือดออกมาจากทั้งหู ตา ปาก และจมูก ปู่ของนายตายอย่างทรมานก่อนอายุ 50 ปีเป็นเวลา 3 วัน! พ่อของนายก็ตายตอนอายุน้อยกว่า 50 ปีเป็นเวลา 3 วันเช่นกันและที่นายสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนี้เป็นเพราะว่านายไม่ได้ฝึกฝนอย่างถูกต้องตามหนังสือ!”

 

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง หัวของชายชราก็ว่างเปล่า

ไป๋เจิงกัว ไป๋กังและไป๋ยี่ตัวแข็งเป็นหิน

‘ถูกทั้งหมด!’

สิ่งที่เย่เฟิง อธิบายนั้นถูกต้องรวมถึงอาการก่อนตายและอายุ ราวกับว่าเขาได้เห็นมันด้วยตาตัวเอง!

‘เป็น…เป็นไปไม่ได้!’

“นาย…นายรู้ได้อย่างไร?”

ชายชราถามเย่เฟิง ด้วยท่าทางที่เหลือเชื่อ

ตระกูลไป๋เป็นกลุ่มที่มีอำนาจมาตั้งแต่อดีต การตายของหัวหน้าตระกูลไป๋ ล้วนเป็นความลับสุดยอดของตระกูลนี้ นอกจากสมาชิกของตระกูลไป๋แล้ว ไม่มีใครอื่นในเมืองเจียงซีที่รู้เรื่องนี้

แต่เย่เฟิงสามารถระบุอาการตายและอายุของหัวหน้าตระกูลไป๋คนก่อน ๆ ได้อย่างถูกต้อง

“นั่นเป็นเพราะ…เพราะหนังสือมรดกนี้หรือไม่?” ชายชราจับจ้องไปที่หนังสือด้วยท่าทางทึ่ง ๆ

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เย่เฟิงพยักหน้าขณะที่ใบหน้าของเขาเริ่มมืดมนและพูดว่า “หนังสือเล่มนี้เป็นอันตรายถึงชีวิต! โดยการฝึกฝนมัน พลังฉีและเลือดของผู้ฝึกฝนจะเหมือนถอยหลังลงคลอง ในขณะที่กระดูกของพวกเขาเริ่มป่นกลายเป็นทราย! ยิ่งพวกเขาฝึกฝนตามหนังสือเล่มนี้นานเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งทรมานมากเท่านั้น! ตระกูลที่เลือกฝึกฝนมันจะกลายเป็นพวกมีบุตรยากในชั่วอายุคนที่ 6 !”

หลังจากคำพูดของเขา เย่เฟิงก็จับจ้องไปที่ไป๋กัง พลางพูดเยาะเย้ยลึก ๆ ว่า “นั่นแปลว่า นายจะต้องเป็นหมัน!”

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset