The Man from Hell – ตอนที่ 8 : ไม่ ไม่! นายเข้าใจผิดแล้ว

เมื่อเย่เฟิงเดินมาใกล้จะถึงประตูห้องเรียนที่ 2 ของชั้นปีที่ 3 เขาได้ยินเสียงคนคุยกันดังเอะอะมาจากในห้องเรียน

“เฮ้ย! นายได้ข่าวมาหรือยัง? ไอ้คนไร้ค่านั่นเขากลับมาแล้วนะ ไม่รู้กล้ากลับมาได้อย่างไร!”

“เออใช่ แม้ว่าเรื่องอื้อฉาวที่เขาได้นอนกับหลินหลานนั้นจะพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นเรื่องจริง แต่ตระกูลกงก็ประกาศออกมาว่าจะจัดการเขา!”

“ตระกูลเย่ก็โกรธแค้นเช่นกัน! พวกคนระดับสูงของตระกูลเย่ ประกาศว่าพวกเขาจะขับหมอนั่นออกจากตระกูลและไม่ให้เขากลับมาเป็นสมาชิกของตระกูลเย่อีก!”

“บรรดานายน้อยของตระกูลกงที่อยู่ในโรงเรียนจะต้องจัดการเขาอย่างแน่นอน!”

 

หัวข้อของการสนทนาที่ร้อนแรงและเหยียดหยามก็คือเย่เฟิง ราวกับว่าชีวิตเขาเป็นเรื่องตลก

หลังจากได้ยินอย่างนั้นเย่เฟิง ก็เข้ามาในห้องเรียนพร้อมเผยรอยยิ้มเล็กน้อย

 

ทั้งห้องเรียนเงียบลงในทันทีที่เย่เฟิงเข้ามา นักเรียนทุกคนจับจ้องไปที่เขาราวกับว่าพวกเขากำลังดูตัวตลกที่พวกเขาชอบดูถูกที่สุด

นอกจากนี้เย่เฟิงก็เห็นหยูเฟยและจงเฉียงท่ามกลางผู้คนในห้องเรียน

เย่เฟิงและจงเฉียงนั้นเป็นเพื่อนร่วมชั้นของห้อง 2 ชั้นปีที่ 3 ซึ่งจงเฉียงนั้นเป็นหัวหน้าห้องอีกด้วย

หลังจากสังเกตเห็นว่าเย่เฟิงกำลังมองมาที่พวกเขา จงเฉียงและหยูเฟยเปิดเผยความเกลียดชังและความไม่พอใจในทันที

โดยเฉพาะอย่างยิ่งจงเฉียง ที่ตาทั้งคู่ของเขามีประกายของความโกรธแค้น แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเผยแค่รอยยิ้มร่าเริง ราวกับว่าเขาได้ลืมสิ่งที่เกิดขึ้นที่ประตูโรงเรียน

เมื่อเห็นอย่างนั้น เย่เฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย และเขาก็ตรงไปที่มุมหนึ่งของแถวสุดท้ายแล้วนั่งลงโดยไม่ได้ใส่ใจ

 

เมื่อเย่เฟิงนั่งลง จงเฉียงก็หันกลับมามองที่เขาพร้อมทำท่าทางยกมือขึ้นปาดไปที่คอ

ในสายตาของเย่เฟิง จงเฉียงนั้นดูเหมือนคนที่ตายไปแล้ว แม้จะทำท่าทางเยาะเย้ยชั่วร้ายและน่ากลัวนั่น

อืม?

ดวงตาของเย่เฟิงเป็นประกายแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร

ตอนนั้นเอง ผู้ชายที่อ้วนกลมเหมือนลูกบอลวิ่งเข้ามาข้างในแล้วตะโกนว่า “เฟิง! เฟิง!”

ด้วยความสูง 160 ซ.ม. เจ้าอ้วนคนนี้มีหัวโตและหูที่ใหญ่ราวกับว่าตัวเขาพองมาก ซึ่งการเคลื่อนไหวของเขาเหมือนกลิ้งมากกว่าเดิน

เขาเหงื่อไหลท่วมหน้าผากและหอบอย่างหนัก เขาเดินตรงไปที่ด้านหน้าของเย่เฟิงและตั้งใจจะดึงเย่เฟิงให้ออกไป

“เฟิง! ไอ้พวกสารเลวของตระกูลกงกำลังมาที่นี่ พร้อมกับกลุ่มคนที่ดูน่ากลัว ตั้งแต่พวกมันรู้ว่านายกลับมาแล้ว! เร็วเข้า…รีบวิ่งหนีไป!”

เย่เฟิงตกใจเล็กน้อยกับผู้ชายอ้วนที่แสดงท่าทางกังวลนี้ หลังจากนั้นชื่อของชายคนนี้ก็ลอยเข้ามาในความคิดของเขา

เฟยเชี่ยน – เพื่อนคนเดียวของเย่เฟิงในอดีต!

 

แม้ว่าเย่เฟิงในอดีต มักจะโดนเยาะเย้ยเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ แต่เฟยเชี่ยนนั้นเป็นคนเดียวที่ไม่เคยล้อเลียนเขาเลย

เขาจำได้ว่าเย่เฟิงในอดีตนั้นขี้อายเหมือนกระต่ายที่ไม่เคยกล้าตอบโต้ด้วยวาจาหรือร่างกาย และเพราะเย่เฟิงในอดีตมักถูกรังแกอยู่เสมอเฟยเชี่ยนมักจะต่อสู้เพื่อปกป้องเขา

แม้ว่าเฟยเชี่ยนจะบาดเจ็บหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยถอยกลับเลย

เจ้าอ้วนคนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่ปฏิบัติต่อเย่เฟิงในฐานะพี่น้องของเขาเสมอ

เมื่อเย่เฟิงหวนระลึกถึงสิ่งนี้ เขารู้สึกอบอุ่นในทันทีที่เขาบอกกับเฟยเชี่ยนด้วยรอยยิ้ม “เจ้าอ้วน ไม่มีอะไรหรอก! นั่งลงเถอะ!”

“นั่งเหรอ? เฟิง เร็ว รีบวิ่งได้แล้ว!” เฟยเชี่ยนเหงื่อท่วมบนหน้าผากของเขา ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เมื่อเขาเห็นท่าทางที่สงบและสบาย ๆ ของเย่เฟิง

“เฟิง! ข่าวลือของนายกับหลินหลานได้ทำให้ตระกูลกงโมโหมากนะ! นายน้อยของ ตระกูลกงไม่รอที่จะสับนายเป็นชิ้น ๆ แน่ เพื่อที่พวกเขาจะได้ประจบกงหยุ่นเฟย พวกเขาลงมือแน่ถ้านายไม่…”

เฟยเชี่ยนถูกกระตุ้นด้วยความกังวลอย่างมาก

แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบเย่เฟิงกดเขาให้นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยรอยยิ้ม

‘อืม?’

 

เฟยเชี่ยนตกตะลึง

ในฐานะเพื่อนสนิทคนเดียวของเย่เฟิง เฟยเชี่ยนรู้จักเย่เฟิงในอดีตดีกว่าใครคนอื่น เย่เฟิงในอดีตเป็นคนขี้ขลาด ถ้าเขารู้ว่านายน้อยของตระกูลกงกำลังจะมาจัดการเขา เขาคงจะหนีไปนานแล้ว

แต่เย่เฟิงในปัจจุบันดูใจเย็นราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจเลย

นอกจากนี้เฟยเชี่ยนยังพบว่าเขาไม่สามารถต้านแรงของเย่เฟิงได้แม้ว่ามันจะดูเหมือนไม่มีอะไร

ดูเหมือนว่า มือของเย่เฟิงจะมีพละกำลังที่ไม่จำกัด แต่ตัวของเฟยเชี่ยนกลับรู้สึกอ่อนแอเหมือนลูกไก่ที่ไม่สามารถต้านทานเขาได้แม้แต่นิดเดียว

“เฟิง… เฟิงนี่นาย…”

เฟยเชี่ยนมองเย่เฟิงด้วยความตกตะลึงอย่างมาก และเขาต้องการถามเย่เฟิงว่าทำไมถึงไม่หนีไป

แต่ขณะนั้นเอง “ปัง” ประตูห้องเรียนถูกเปิดออกจากด้านนอกเมื่อมีคน 6-7 คนบุกเข้ามาในห้องเรียน

ผู้ที่เดินนำมานั้นเป็นเด็กหนุ่มสวมสูท นาฬิกาข้อมือสีทองของเขานั้นเป็นประกายวิบวับเหมือนกับเศรษฐีที่ร่ำรวย

และด้วยทรงผมที่คล้ายกับทหาร เขาจึงดูเหี้ยมโหดและดุร้ายกว่าปกติ

 

เพื่อนร่วมชั้นทุกคนตกใจเมื่อเห็นคนเหล่านี้เดินเข้ามา

กงหวู่ – นายน้อยที่ยะโสโอหังที่สุดของตระกูลกง เขามักจะข่มขู่และทำร้ายคนอื่นเสมอ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะบุคคลที่ชั่วร้ายที่สุดในห้อง 4 ของชั้นปีที่ 3

ไม่มีใครกล้าที่จะยุ่งกับเขา!

ด้านหลังกงหวู่ตามมาด้วยนักเรียน 5-6 คนที่ดูแข็งแรงและโหดเหี้ยมของห้อง 4 ของชั้นปีที่ 3

เมื่อเห็นสิ่งนี้เพื่อนร่วมชั้นเกือบทุกคนจับจ้องเย่เฟิงด้วยความรู้สึกว่าเขาจะต้องโดนดีแน่ ๆ

ทุกคนได้ยินมานานเกี่ยวกับความโหดร้ายของกงหวู่ แน่นอนพวกเขามั่นใจถึงผลลัพธ์ที่น่าสังเวชของเย่เฟิง

‘มันสายเกินไป!’

หัวใจของเฟยเชี่ยนราวกับถูกทุบ และใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นซีดเผือดเมื่อเห็นกงหวู่และคนของเขาเข้ามายืนขวางหน้าประตู

“ใครคือเย่เฟิง?”

กงหวู่จ้องมองทุก ๆ ขณะที่เขาถามอย่างกระโชกโฮกฮากและไร้ความปราณี

คำพูดของเขามีความตั้งใจที่ดุร้าย ซึ่งทำให้เพื่อนร่วมชั้นทุกคนในห้อง 2 ชั้นปีที่ 3 หดคอกลับมาด้วยความหวาดกลัวอย่างยิ่ง

 

ในเวลานั้นจงเฉียงลุกขึ้นยืนแล้วชี้ไปที่เย่เฟิงด้วยสีหน้าเยาะเย้ยและพูดว่า “หวู่ คนนั้นคือเย่เฟิง!”

ในเวลานั้นจงเฉียงตื่นเต้นมาก

ในตอนเช้าเขากระอักเลือดออกเพราะความอัปยศอดสูจากเย่เฟิง ดังนั้นเขาจึงเกลียดเย่เฟิงมาก อย่างไรก็ตามด้วยความกลัวต่อไป๋ยี่เขาจึงไม่กล้ารังแกเย่เฟิงอีกต่อไป แต่นี่คือกงหวู่

จากความโหดเหี้ยมของกงหวู่หลังจากรู้ว่าเย่เฟิงกลับมาแล้วนั้น อย่างน้อยที่สุดเขาจะต้องทำให้เย่เฟิงพิการ!

หากเย่เฟิงเป็นคนพิการ ไป๋ยี่จะทิ้งเขาไปอย่างแน่นอน จากนั้นจงเฉียงจะทำให้ชายคนนี้ขายหน้าทุกครั้งที่เขาต้องการ

เมื่อเขานึกภาพว่าเขาจะเหยียบย่ำเย่เฟิงอย่างไร จงเฉียงแทบจะหัวเราะออกมา

“หวู่ มันคือไอ้ลูกชายนอกสมรสที่ไร้ค่าที่ทำความเสื่อมเสียให้กับตระกูลกง นายน่าจะสอนบทเรียนให้เขาสักหน่อย!”

จงเฉียงพูดยุยงส่งเสริมในขณะที่เขามองเย่เฟิงด้วยความโหดร้าย

หลังจากได้ยินคำพูดของจงเฉียงแล้ว กงหวู่ก็เข้าเดินเข้าหาเย่เฟิงด้วยสายตาที่เย็นชา

เมื่อเขามาถึงที่ด้านหน้าของเย่เฟิงดวงตาของกงหวู่ก็แสดงความไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจน

“แกคือไอ้ลูกชายนอกสมรสที่ไร้ค่านั่นหรือเปล่า?”

ด้วยท่าทางที่ดุร้าย กงหวู่มองเย่เฟิงราวกับว่าเป็นมดเป็นแมลง

หลังจากได้ยินอย่างนั้น เฟยเชี่ยนก็รู้สึกไม่พอใจขณะที่เขาต้องการลุกขึ้นยืนแต่กลับถูกเย่เฟิงหยุดเขาเอาไว้ก่อน

เฟยเชี่ยนเหลียวมองเย่เฟิงด้วยความสับสน

เย่เฟิงเงยหน้าสบตาอย่างช้า ๆ ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ แล้วตอบว่า “ฉัน เย่เฟิง ยินดีมากที่ได้พบนาย ไอ้คนไร้ค่า”

 

คำพูดของเย่เฟิงทำให้ทั้งห้องเรียนเงียบอีกครั้งราวกับว่าพวกเขาเปิดสวิตช์ปิดเสียง!

‘ยินดีมากที่ได้พบนาย ไอ้คนไร้ค่า!’

‘เย่เฟิงกล้าเรียกกงหวู่ ผู้ชั่วร้ายที่สุดของห้อง 4 ชั้นปีที่ 3 ว่าไอ้คนไร้ค่า’

ขณะนั้นนักเรียนทุกคนต่างตกตะลึงรวมทั้ง จงเฉียงและเฟยเชี่ยน

พวกเขาสงสัยว่าพวกเขาอาจได้ยินผิด!

ในสายตาของพวกเขา เย่เฟิงเป็นคนขี้ขลาด แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนี้กล้าหยาบคายต่อกงหวู่!

 

นี่…นี่ไม่ต่างไปจากการหาเรื่องตาย!

แม้แต่กงหวู่ก็ตกตะลึงเช่นกัน ในไม่ช้าหลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นถมึงทึงอย่างมาก

“ไอ้เด็กเหลือขอ! แกกล้าเรียกฉันว่าไอ้คนไร้ค่าเหรอ?”

กงหวู่ถามเย่เฟิงด้วยเจตนาที่ดุร้ายและเกรี้ยวกราดราวกับว่าเขากำลังจะระบายความโกรธของเขาออกมา

กงหวู่ไม่เชื่อว่าไอ้ลูกชายนอกสมรสของตระกูลเย่จะเรียกเขาแบบนั้น ทั้งที่เขาเป็นคนที่ร้ายกาจที่สุดในห้อง 4 ชั้นปีที่ 3!

หลังจากได้ยินประโยคนี้นักเรียนทุกคนก็จับจ้องไปที่เย่เฟิง

พวกเขาทุกคนเห็นเย่เฟิงรีบลุกขึ้นยืนด้วยอย่างขี้ขลาดและหวาดกลัวขณะที่เขายังคงโบกมือ และอธิบายว่า “ไม่ ไม่! นายเข้าใจผิดแล้ว”

เย่เฟิงดูขี้ขลาดอย่างมากจนกระทั่งคนอื่น ๆ คิดว่าเย่เฟิงพูดผิดไปและต้องการที่จะขอโทษ ดังนั้นพวกเขาจึงเปิดเผยรูปลักษณ์ที่ร้ายกาจและเหยียดหยามอีกครั้ง

นั่นคือภาพของเย่เฟิงคนไร้ค่าที่ทุกคนสามารถดูถูกได้!

แต่ทว่าในตอนนี้!

คำพูดของเย่เฟิงทำให้ทุกคนตกใจอีกครั้ง

“ฉันไม่ได้หมายความว่านายเป็นไอ้คนไร้ค่า แต่ฉันหมายถึง พวกแกทุกคน…เป็นไอ้คนไร้ค่า!”

The Man from Hell

The Man from Hell

จักรวรรดิปีศาจได้ถือกำเนิดขึ้นมาอีกครั้งในจักรวาลแห่งนี้ เหล่าศัตรูต้องคุกเข่าต่อหน้าเขา แลเหล่าหญิงงามควรสยบแทบเท้าของเขา “ข้าคือปีศาจ ผู้ที่เหล่าทวยเทพเทวาทั้งหลายต่างยอมศิโรราบ หากเจ้าไม่ยอมก้มหัวให้ข้า ข้าจักบังคับเจ้าด้วยกำลัง” — เย่เฟิง! The Demon Empire in the universe was reborn and came back! Enemies should kneel down in front of him! Beauties should lie down in front of him! “I am a demon. I ens*ave gods and immortals! If you don’t succumb to me, I will convince you by force!”–Ye Feng!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset