The Overlord of Blood and Iron – ตอนที่ 34: ปรับระดับขึ้นเรื่อย ๆ

ตอนที่ 34: ปรับระดับขึ้นเรื่อย ๆ

 

“เจ้าคือจอมราชันย์งั้นสินะ?”

 

บุรุษที่ดูเหมือนขอทานกล่าวถาม

 

“ยินดีที่ได้พบ ทักษะการต่อสู้ของเจ้าช่างเหลือร้ายเสียจริง ๆ”

 

จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปใกล้คังชอลอินเพื่อขอจับมือ

 

“ข้าคือผู้ที่ใช้นามว่า ‘Lumpen’ ที่ช่องทางการสื่อสารบนโลก ชื่อของข้าคือโดเรียน โดเรียน เอกซ์พลอเรอร์”

 

คังชอลอินไม่คิดเข้าไปจับมือกับโดเรียนแต่อย่างใดเพราะตอนนี้เขาสกปรกเป็นอย่างมากและไม่มีหนทางใดที่คังชอลอินจะปฏิบัติต่อเขาด้วยความปรารถนาดีเนื่องจากการมาสายของเขา

 

“ข้าคังชอลอิน เหตุใดเจ้าถึงมาสายเช่นนี้?” เขาเอ่ยถามกลับไปแทนการจับมือ

 

“เอ่อ นั่นเพราะ…” โดเรียนเริ่มทำการแก้ตัวอย่างน่าสงสาร

 

“นั่นเพราะข้าตื่นเต้นมากเกินไปหน่อย … ทันทีที่ข้าได้รับข้อความจากเจ้า ข้าได้ขอยืมการใช้ประตูมิติเพื่อมาที่นี่ในทันที … แต่ … ก็อย่างที่เจ้าเห็น ข้าไม่มีอะไรติดตัวมาด้วยสักอย่างทั้งอาหาร…หรือย่าม จากนั้นข้าก็สังเกตเห็นสัตว์ประหลาดได้ข้าเลยเดินตามมันไปรอบ ๆ และในที่สุดวันนั้นก็จบลง ข้าหิวมาก…และขณะที่ข้ากำลังมองหาอาหารการกิน…”

 

สรุปความแล้วมันหมายความว่าเขามาที่โลกนี้ด้วยตัวเปล่าและลงเอยด้วยการวิ่งไปรอบ ๆ ในป่า

 

‘ไอ้บ้านี่’

 

เส้นเลือดที่หน้าผากของคังชอลอินปูดนูนขณะที่ฟังข้อแก้ตัวของโดเรียน

 

‘สำหรับชายผู้มาจากกองกำลังพิเศษเช่นนี้ทำไมถึงได้ชอบหลงทางนัก?’

 

เริ่มตั้งแต่ปี 2020 โดเรียนในวัย 25 ปีได้เป็นส่วนหนึ่งของ SAS ที่มีชื่อเสียงในกองทัพอังกฤษและเป็นสัตว์ประหลาดตัวจริงที่มีประสบการณ์มากมายในสนามรบจากแถบอัฟกานิสถาน โซมาเลีย ฯลฯ

 

แม้ว่าจะเป็นเรื่องแปลกที่บุคคลที่มีความสามารถมากขนาดนี้จะหลงทาง แต่ตัวตนของโดเรียนที่แท้จริงมักจะหลงทายอยู่บ่อย ๆ

 

“ดังนั้นข้าจึงรีบมาที่จุดนัดพบเร็วให้ที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ดูเหมือนว่าทุกคนได้จากไปแล้ว สิ่งเดียวที่ข้าทำได้คือติดตามรอยเท้าจนลงเอยมาถึงที่นี่ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดแต่ข้าต้องขอโทษจากใจจริงที่มาช้า”

 

โดเรียนขอโทษกับการมาสายของเขา

 

“แล้วการจับมือ? ข้าบอกขอโทษเจ้าไปแล้วนะ… เจ้ากำลังทำให้ข้าอับอายอยู่รู้หรือไม่?”

 

“ก่อนที่เจ้าจะยื่นมือหาใครเจ้าควรไปล้างตัวให้สะอาดเสียก่อน” คังชอลอินว่าก่อนจะโต้กลับอีกครั้ง

 

“ลืมเรื่องการจับมือไปได้เลย แม้แต่คนจรก็ยังต้องร้องไห้หลังได้มองสารรูปของเจ้า”

 

“มันแย่ขนาดนั้นเชียว?”

 

“ไม่ มันสรกปรก … เจ้าเองก็เป็นราชันย์เช่นกัน จะดีกว่าหรือไม่ถ้าเจ้าพาผู้ใต้บังคับบัญชามาด้วยกันกับเจ้าสักสองคน”

 

“อ่า … ข้าเห็นพวกเขากำลังนอนหลับอย่างสบาย ข้าเลยรู้สึกแย่ที่ต้องไปปลุกพวกเขาเช่นนั้นข้าเลยออกมาเพียงลำพัง”

 

คังชอลอินเข้าใจดี เห็นได้ชัดว่าโดเรียนย่องหนีออกมากลางดึกในขณะที่ผู้รับใช้ส่วนตัวของเขากำลังนอนหลับ โดเรียนเป็นเจ้านายที่ทั้งน่าเบื่อและไร้ความรับผิดชอบในสายตาของพวกผู้รับใช้อย่างมาก

 

‘ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนักสำหรับคนอย่างเจ้า ตั้งแต่ไหนแต่ไรเจ้าก็เป็นเช่นนี้อยู่เสมอ’

 

มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเพียงครั้งหรือสองครั้ง

 

‘ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าชายผู้นี้ไปมีชีวิตทางทหารได้อย่างไร’

 

ถึงอย่างไรก็ยังมีบางสิ่งที่คังชอลอินไม่ทราบที่มาเช่นกัน

 

ทั้งเนวีซีลหรือเดลต้าฟอร์ซต่างก็เป็นกองกำลังพิเศษที่มีชื่อเสียงเช่น SAS เพียงแต่มีภาพลักษณ์ที่แตกต่างไปจากที่พลเรือนทั่วไปจะรู้ คนส่วนใหญ่ในกองกำลังเหล่านี้เต็มไปด้วยคนที่แย่ยิ่งกว่าอันธพาลเสียอีก

แน่นอนว่าเมื่อใดที่การฝึกเริ่มต้น บุคลิกลักษณะของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปแบบ 180 องศาแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวินัยทางทหารของพวกเขานั้นแย่มาก

 

เช่นกันกับโดเรียนที่โดยปกติแล้วดูเหมือนจะเป็นคนที่มึนงงอยู่ตลอดแต่เมื่อใดที่เขาต้องต่อสู้หรือต้องฆ่าสัตว์ประหลาด เขาจะเปลี่ยนเป็นคนที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

 

การปลิดชีพ… ถ้ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำโดเรียนก็สามารถฆ่าคนได้อย่างไร้ความปราณี

 

“อ่ะ จะว่าไปแล้ว…”

 

โดเรียนร้องตกใจราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้สักอย่าง

 

“ตอนนั้นน่ะ”

 

“ตอนนั้น?”

 

“ตอนที่เจ้าฆ่าโครคิวต้า”

 

“…?”

 

“เจ้าได้ถือดาบไปข้างหลังเพื่อบังคับน้ำหนักใส่มันมากขึ้นใช่หรือไม่? แล้วเจ้าได้หันร่างกายของตัวเองไปทางขวาเพื่อที่เจ้าจะได้หลบการโต้กลับจากโครคิวต้างั้นหรือ? มันดูเหมือนการเคลื่อนไหวที่เตรียมไว้สำหรับความเป็นไปได้ที่จะถูกกัดเนื่องจากเจ้าจะต้องเข้าไปใกล้ร่างกายของมันเพราะดาบที่เจ้าได้เจาะเข้าไป เจ้ามีเป้าหมายที่จะโจมตีเพื่อจัดการกับความเสียหายให้ได้มากที่สุดในขณะที่หลบการโต้กลับไปพร้อมกัน มันคือการเคลื่อนไหวของความสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างการโจมตีและการป้องกันงั้นรึ? อย่างน้อย ๆ นั่นก็เป็นสิ่งที่ข้ารู้สึกแต่ก็ไม่เป็นไรถ้ามันไม่ใช่”

 

เขามีดวงตาแห่งความหยั่งรู้ที่สามารถมองเจตนาของคังชอลอินได้โดยสมบูรณ์ แน่นอนว่าเขาเป็นนักยุทธศาสตร์การจู่โจมดันเจี้ยน(เมื่อครั้งก่อน)ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่คมชัดได้เพราะสิ่งเหล่านี้

 

“อ่า มันดูเป็นเช่นนั้นนี่เอง”

 

“แล้วเช่นนั้นมันคืออะไร?”

 

“มันสมเหตุสมผลหลังจากที่เขาได้อธิบายมาแบบนั้น…”

 

“นั่นเป็นเหตุผลที่ท่านแม่ทัพเคลื่อนย้ายตัวไปทางขวาเมื่อเขาตัดร่างของโครคิวต้าอย่างนั้นหรือ?”

 

นักผจญภัยที่ได้ฟังคำอธิบายของโดเรียนเริ่มเข้าใจถึงวิธีการสาธิตของคังชอลอินขึ้นมาบ้าง

 

“เจ้าคิดอย่างไรกับคำพูดของข้า?”

 

“แม่นยำมาก”

 

คังชอลอินผงกศีรษะ

 

‘อย่างที่คิด เขามีประโยชน์มากจริง ๆ ในฐานะผู้ช่วยสอน’

 

คังชอลอินรู้สึกมีความสุขมากและเชื่อว่าเป็นเพราะพระเจ้าที่ทำให้เขาสามารถได้ตัวโดเรียนมา

 

คำถามของโดเรียนมีผลอย่างมากเช่นเดียวกับที่เขาสามารถอธิบายความสับสนให้กับนักผจญภัยได้ คังชอลอินเชื่อว่าถ้าเขาใช้โดเรียนได้อย่างถูกต้องเขาจะสามารถสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ในการฝึกสอนให้กับนักผจญภัยกลุ่มนี้

 

‘ดีล่ะ เช่นนั้นข้าจะใช้เจ้าอย่างเต็มที่เลยโดเรียน’

 

แม้ว่าเขาจะมาสาย แต่ตั้งแต่ที่โดเรียนเข้าร่วมกลุ่มมา คังชอลอินได้ย้ำคำสาบานในใจว่าจะใช้เขาอย่างเต็มที่แทนที่จะทำลายเขา แม้ว่านั่นจะเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขามาตั้งแต่เริ่มต้นก็ตาม

 

ด้วยการอธิบายเพิ่มเติมจากโดเรียน “ผู้พิชิต” ในครั้งนี้ต่างได้รับแรงกระตุ้นที่มากยิ่งขึ้น

 

มันเหมือนกับการบรรยายในรูปแบบหนึ่ง

 

หากคังชอลอินต่อสู้กับสัตว์ประหลาดแบบตัวต่อตัว โดเรียนจะตั้งคำถามในสิ่งเขาสงสัยและแบ่งปันความคิดเห็นของเขาให้กับคนอื่นได้รู้ต่อ ถ้าคังชอลอินเป็นดั่งอาจารย์ โดเรียนก็เป็นเหมือนผู้ช่วยหรือผู้มีเกียรติแก่นักเรียน

 

ต้องขอบคุณการสนทนาระหว่างทั้งสองคนที่ทำให้นักผจญภัยสามารถหาวิธีแก้ปัญหาสำหรับส่วนที่พวกเขาสงสัยและค่อย ๆ เรียนรู้ต่อไปได้

 

ด้วยเหตุนี้ ประสิทธิภาพการเรียนรู้ของพวกเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากพร้อมกับสถานะระดับของพวกเขาที่เติบโตไปอย่างรวดเร็วโดยที่เหล่านักผจญภัยไม่รู้ตัวเลยว่าขณะนี้พวกเขากำลังได้รับบทเรียนเป็นการส่วนตัวจากตัวละครที่เต็มไปด้วยกลโกงจากคังชอลอินและและอัจฉริยะจากโดเรียนอยู่

 

[บรรลุระดับ 15!]

 

[บรรลุระดับ 16!]

 

[บรรลุระดับ 17!]

 

[บรรลุระดับ 18!]

 

[บรรลุระดับ 19!]

 

คังชอลอินขึ้นไปถึงระดับ 19 ได้ภายหลังการออกล่าประมาณหนึ่งสัปดาห์ หากไม่นับการกินและการนอน ตลอดเวลาจากสองช่วงนี้เขาได้ทำการล่าอย่างไม่หยุดพัก

 

อย่างไรก็ตามคังชอลอินยังคงไม่พอใจ

 

เขาได้ตั้งมาตรฐานที่ต้องการทำให้สำเร็จไว้สูงมากและมันยังเป็นหนทางอีกยาวไกลกว่าจะขึ้นไปถึงระดับ 100 ได้ นอกจากนี้ด้วยระดับ 19 ที่เขาเพิ่งข้ามมามันไม่มากพอจะให้ไปต่อสู้กับมังกรพีคอคได้เลย

 

‘ยังอีกไกลเกินไป แน่นอนว่าตอนนี้เราไม่สามารถจัดการกับมันได้เว้นแต่อย่างน้อยจะขึ้นไปถึงระดับ 25’

 

ตกดึก คังชอลอินยังคงตกอยู่ในวังวนแห่งความคิดขณะที่คนอื่น ๆ ทยอยกันหลับไปจนหมด

 

เมื่อได้ฟังรายงานจากโพดอลส์กี้ผู้ซึ่งเดินทางไปมาระหว่างดินแดนและค่ายการฝึก มังกรพีคอคยังคงมองหาอาหารอยู่รอบ ๆ อาณาเขตแม้ว่าดินแดนจะถูกพรางตัวไปแล้วก็ตาม

 

‘จะเป็นการดีที่สุดหากสามารถเข้าถึงระดับ 30 ได้ … แต่ถึงตอนนั้นก็คงช้าเกินไป’

 

‘ขณะเดียวกันทองคำก็กำลังถูกใช้จ่ายออกไปเป็นจำนวนมาก’

 

ยิ่งดินแดนถูกพรางตัวไว้นานเท่าไหร่ คังชอลอินก็จะได้รับความสูญเสียมากยิ่งขึ้นตามเท่านั้น

 

“นี่เจ้ากำลังคิดถึงเรื่องอะไรอยู่?”

 

โดเรียนเดินเข้ามาใกล้แล้วถาม

 

“เฮ้อ มันช่างยากเหลือเกิน ข้าไม่คิดว่ามันจะลำบากถึงขนาดนี้แม้ข้าจะเป็นถึงทหารในชีวิตจริงด้วยก็ตาม การล่าสัตว์ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยพับผ่าสิ”

 

เห็นได้ชัดว่าโดเรียนเองก็เริ่มหมดแรงและกำลังใจ

 

เพราะคังชอลอินเอาแต่จ้องมองไปที่โดเรียนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเขาเสียให้ได้ นักผจญภัยที่เฝ้าดูจากด้านข้างจึงรู้สึกสงสารโดเรียนกันเป็นอย่างมากเพราะเขากำลังถูกเอาเปรียบอย่างรุนแรง หากเป็นคนอื่นคงมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะหลบหนีไปตั้งแต่ตอนนี้แล้ว

 

“ดูเหมือนว่าเจ้ากำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างนั้นสิ?”

 

“จะถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่หากนี่ไม่ใช่สิ่งที่ยากลำบาก? มันคงง่ายมากสำหรับเจ้ากับการสาธิตวิธีแบบครึ่งทางล่ะสิ ห๊ะ? หรือจริง ๆ แล้วเจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรกันแน่? เฮ้อ! ข้าไม่ได้เหมือนอัจฉริยะอะไรพวกนั้นสักหน่อย!”

 

โดเรียนพร่ำบ่น

 

‘เจ้าคืออัจฉริยะโดเรียน เพียงแต่เป็นอัจฉริยะที่ซุ่มซ่ามและแปลกประหลาดเกินคน’

 

คังชอลอินคิดเพียงลำพังพร้อมกับหัวเราะอยู่ในใจ

 

“หากเป็นเรื่องยากขนาดนั้นทำไมเจ้าไม่กลับบ้านไปเสียเล่า? ข้าจะไม่ห้ามเจ้าถึงเรื่องนั้นแน่นอน”

 

คำพูดที่ดูมีเมตตาของคังชอลอินไม่สามารถเชื่อใจได้อย่างแท้จริง

 

“เจ้าพูดอะไรออกมา! ข้าจะไม่กลับจนกว่าข้าจะได้ต่อสู้กับมังกรพีคอคนั่น! แน่นอนแม้ว่ามันจะยากเพียงใดก็ตาม … ข้าได้เรียนรู้จากเจ้ามามากมายและข้าก็รู้สึกว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่ได้มา”

 

โดเรียนดูเหมือนจะเพลิดเพลินไปกับตัวเองได้อย่างแท้จริงในช่วงขณะนี้

 

‘ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ข้าได้เรียนรู้จากเจ้า’

 

ในหลาย ๆ ทาง คังชอลอินเองก็รู้สึกสนุกไปกับมันเช่นกัน

 

เจ้าของที่เป็นเหมือนลูกค้าและลูกค้าที่เป็นเหมือนเจ้าของ มันเป็นสถานการณ์ที่บทบาทของพวกเขาสลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

ในอดีตผู้เรียนรู้คือคังชอลอินเพียงแต่เวลานี้ผู้เรียนรู้คือโดเรียน

 

มันเป็นดั่งแฝงนัยเชิงโชคล้อ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีการสำรองวิญญาณ มันเป็นสถานการณ์ที่โดเรียนคาดไม่ถึง

 

“เพื่อนข้า” โดเรียนพูด

 

“ข้าขอถามอะไรเจ้าสักอย่างได้หรือไม่?”

 

“หากนั่นเป็นสิ่งที่ข้าตอบได้แล้วล่ะก็”

 

“ทำไมเจ้าไม่บอกเป้าหมายสุดท้ายแก่นักผจญภัย? ถึงแม้คนอื่นจะไม่พูดอะไรเพราะพวกเขาไม่มั่นใจแต่เป้าหมายของพวกเขาคงไม่ใช่แค่การเลื่อนระดับง่าย ๆ หรอกใช่ไหม?”

 

“มันเป็นปัญหาของความมั่นใจ”

 

“ความมั่นใจ?”

 

“แม้มังกรพีคอคจะอ่อนแอที่สุดในบรรดาสายพันธุ์มังกร แต่มันก็ยังเป็นสัตว์ประหลาดระดับ 40 ถ้าข้าบอกพวกเขาไปว่าเรากำลังจะต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่เลวร้ายเช่นนั้นเจ้าคิดว่าพวกเขาจะยังติดตามข้าต่อไปหรือไม่?”

 

“หืม?”

 

โดเรียนทำท่าครุ่นคิดโง่ ๆ

 

“พวกเขาจะหนีหรือไม่ก็จะยกเลิกไม่ทำมันต่อ”

 

“เอ่อ เจ้าหมายถึงอะไรที่ว่าหนี? ข้าแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องตอบตกลงกันอย่างแน่นอนหากเราบอกพวกเขาไปว่าเรากำลังจะได้ไปสู้กับมังกร”

 

“งี่เง่า ไม่ใช่ทุกคนที่เขาจะคิดแบบเจ้า เป้าหมายของนักผจญภัยคือเงิน สิ่งของต่าง ๆ และต้องไม่ตายไปกับการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดระดับสูง”

 

“ยะ อย่างนั้นเองหรอกหรือ?”

 

โดเรียนสามารถเข้าใจคำพูดของคังชอลอินได้ในที่สุด

 

ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม มันมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างความมั่นใจและไม่มั่นใจ

 

“ในวันพรุ่งนี้ทั้งเจ้าและข้าควรจะขึ้นเป็นระดับ 20 ได้ในขณะที่นักผจญภัยจะเป็นระดับ 15”

 

คังชอลอินกำลังวางแผนที่จะต่อสู้กับมังกรพีคอคเมื่อเขาเข้าสู่ระดับ 25 และนักผจญภัยอยู่ในระดับ 20

 

“ข้าคิดว่าเราสามารถปรับเข้ารับการอบรมแบบพิเศษได้แล้ว”

 

“การฝึกอบรมพิเศษ? มีการฝึกอบรมอะไรเป็นพิเศษด้วยหรือ? หรือว่าเจ้าได้คิดกลยุทธ์ที่ใช้ในการต่อสู้กับมังกรพีคอคโดยเฉพาะขึ้นมา?”

 

“น่าชื่นชมมากที่เจ้าสามารถคิดไปได้ไกลเช่นนั้น”

 

“… ข้าไม่ใช่คนโง่”

 

“แน่นอนว่าเจ้าเป็น”

 

… ในขณะที่คังชอลอินตอบกลับไปเช่นนั้นเขากำลังคิดอะไรบางอย่างกับตัวเอง

 

‘หากเจ้าไม่ใช่คนโง่แล้วจะเป็นใครไปได้?’

 

มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่พวกเขาได้พบกันจนได้ข้องเกี่ยวกับโดเรียนอีกครั้ง

 

ขณะนั้นเอง โดเรียนก็เริ่มพูดราวกับว่าเขาสงสัยอะไรในบางสิ่ง

 

“เดี๋ยวนะ ข้าว่ามันชักมีอะไรแปลก ๆ ”

 

“อะไรที่เจ้าว่าแปลก?”

 

“เจ้า … จริง ๆ แล้วจุดประสงค์ของเจ้าคืออะไรกันแน่? มีบางอย่างที่แปลกมาก ๆ อยู่ เจ้าจะรู้วิธีการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดทุกตัวที่เราเจอได้อย่างไร? เจ้ารู้ถึงการดำรงอยู่ของมังกรพีคอคและวิธีการต่อสู้กับมันว่าเป็นเช่นไรได้จากไหน? ไอเทมที่เจ้าแจกจ่ายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการต่อสู้กับมังกรพีคอคโดยเฉพาะเลยหรือไม่?”

 

ครู่หนึ่ง คังชอลอินก็ต้องรู้สึกประหลาดใจกับความคิดความอ่านของโดเรียน เขาไม่รู้ถึงเนื้อแท้ว่าโดเรียนนั้นแหลมคมมากเพียงใดเพราะเขาเห็นเพียงโดเรียนเป็นเหมือนปลาซื่อ ๆ ที่สามารถเล่นด้วยได้อย่างง่ายดาย

 

“มันน่าสงสัยจริง ๆ แค่เพียงหนึ่งเดือนนับจากการอัญเชิญครั้งใหญ่แต่เจ้ากลับรู้มากเกินกว่าใคร หรือว่าเจ้าจะบังเอิญ…?”

 

ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของโดเรียนจ้องมองไปที่คังชอลอิน

 

‘ไอ้เจ้านี่ พอฉลาดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็เป็นอย่างนี้ไปซะทุกที แต่ถึงอย่างไร…’

 

ขณะที่คังชอลอินกำลังสูญเสียทางความคิด โดเรียนก็เริ่มพูดต่อ

 

“เจ้าได้รับการฝึกมาก่อนงั้นหรือ? เจ้าคงต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นเร็ว ๆ เลยต้องการออกไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดระดับสูงเช่นนั้น?”

 

คังชอลอินรู้สึกประหม่าสุด ๆ แต่ก็ยังเป็นไปตามที่เขาคาด โดเรียนเดาทางผิดไป

 

“เจ้าคงถามผู้ช่วยส่วนตัวของเจ้าและหากมีบางสิ่งที่พวกเขาไม่รู้จักเจ้าก็ออกไปค้นคว้าข้อมูลที่โลกอีกฝั่ง ข้าคิดถูกหรือไม่?”

 

ขณะนั้นคังชอลอินก็คิดขึ้นว่า “ใช่ เจ้ามันโง่และงี่เง่ามาก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเจ้าถึงกลายเป็นของเล่นในกำมือข้ามาโดยตลอด” ก่อนจะยอมรับออกไปอย่างกระตือรือร้น

 

“… ถูกจับได้จนได้”

 

“เฮอะ! อย่างที่ข้าคิดไม่มีผิด!”

 

โดเรียนเชิดไหล่ขึ้นสูงด้วยความภาคภูมิใจ คนโง่ก็มักมีความสุขกับการกระทำแบบโง่ ๆ อยู่ร่ำไป

 

“อย่างที่เจ้าว่า อย่างไรก็ตามเราต้องได้รับทักษะที่จำเป็นต่อการสู้กับมังกรพีคอค หรือต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่มีลักษณะคล้ายกับมังกรพีคอค”

 

โดเรียนใช้ทักษะการล่าสัตว์ประหลาดที่มีมาแต่กำเนิดเพื่อเข้าใจเจตนาของคังชอลอิน

 

“นั่นคือสิ่งที่ข้าวางแผนไว้”

 

คังชอลอินได้วางแผนการฆ่าสัตว์ประหลาดตามที่เขาต้องการสังหารไว้อยู่ก่อนแล้ว อย่างช้า ๆ มีรายการของสัตว์ประหลาดในหัวของคังชอลอินที่เขาต้องการตามล่าภายในสัปดาห์หน้าอยู่

 

‘เมื่อมาถึงตรงนี้การออกล่าครั้งต่อไปต้องมุ่งเน้นไปที่สัตว์ประหลาดที่มีขนาดใหญ่ขึ้น’

 

เพื่อที่จะต่อสู้กับมังกรพีคอค นักผจญภัยทั้ง 40 คนจะต้องผ่านการปราบสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ที่สามารถโจมตีทุกคนได้ในครั้งเดียวให้ได้เสียก่อน ตัวอย่างเช่นสัตว์ประหลาดที่อยู่ในระดับ 30 ขึ้นไป

 

แต่สิ่งหนึ่งที่คังชอลอินไม่เคยรู้ก็คือโอกาสในการล่าสัตว์ประหลาดระดับสูงขนาดนั้นจะมาถึงเร็วกว่าที่เขาคิดถึงไว้

.

.

สามารถกดติดตามเพื่อรับอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับนิยายได้ก่อนใครที่ทาง แปลได้แปลเถอะ

The Overlord of Blood and Iron

The Overlord of Blood and Iron

Author:
มหาศึกจอมราชันย์ The Overlord of Blood and Iron บทนำ คังชอลอิน จอมราชันย์ผู้แกร่งกล้าจนใครต่างต้องสยบ เหตุสูญเสียทำให้เขาต้องย้อนเวลากลับไปเพื่อพิชิตกับความท้าทายอีกครั้งในการขึ้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่และผู้ควมคุมทวีปแพนเจีย คังชอลอินจะสามารถเอาชนะจอมราชันย์ทั้งเก้าเพื่อปกครองทวีปแพนเจียได้หรือไม่?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset