หลังจากค่ำคืนอันเร่าร้อนของทั้งสองคน วันต่อมาเทียนหลางก็ได้ออกไปเที่ยวรอบๆเมืองกับเฟิงหยวน ก่อนที่ในตอนเย็นจะกลับมาที่โรงแรมเพื่อเตรียมตัวไปงานประมูลในคืนนี้
หลังจากทั้งคู่แต่งตัวเสร็จซึ่งเทียนหลางมาในคลุมสีดำคาดทองที่เขามักจะใส่ประจำตอนอยู่ในแดนสวรรค์ ส่วนทางด้านของเฟิงหยวนนั้นอยู่ในชุดคลุมสีฟ้าครามที่งดงาม มันยิ่งทำให้เฟิงหยวนนั้นดูโดดเด่นกว่าเดิมทีเสียอีก
เนื่องด้วยนี้เป็นงานประมูลขนาดใหญ่ของประเทศทำให้ผู้เข้าร่วมงานประมูลทั้งหมดมีรถมารับถึงโรงแรม ทำให้ทั้งคู่ไม่จำเป็นจะต้องเดินทางไปไหนไกล เพียงแค่โทรออกไปยังเบอร์ที่ทางโรงประมูลมอบมาให้พร้อมกับบัตรเข้างาน เพียงไม่นานก็มีรถมารับทั้งคู่ถึงหน้าโรงแรม
ไม่นานนักรถก็มาส่งเทียนหลางและเฟิงหยวนที่งานประมูล เมื่อมาถึงเทียนหลางก็พบเจอกับผู้คนมากมายที่มาเข้าร่วมงาน
หลายคนเป็นมหาเศรษฐีจากต่างแดน หลายคนก็เป็นผู้บ่มเพาะ แต่เทียนหลางก็ไม่ได้สนใจมากนักเพราะสำหรับเขาคนพวกนี้ไม่ใช่คนที่น่าสนใจอะไรสำหรับเขา
เมื่อทั้งคู่เข้ามาในงานก็ได้รับการต้อนรับจากพนักงานสาวสวยทันที
“สวัสดีคะ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ ?”
เฟิงหยวนยื่นบัตรให้กับพนักงาน เมื่อพนักงานรับมาก็แสดงสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ห้องพิเศษที่สามสินะคะ โปรดตามดิฉันมาทางเลยนี้ได้เลยค่ะ”
ทั้งคู่พยักหน้าก่อนจะเดินตามพนักงานสาวไป ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาถึงห้องพิเศษ จากนั้นพนักงานก็ได้อธิบายเกี่ยวกับกฏและวิธีการประมูล และพูดขึ้นอีกว่า
“อีกไม่นานงานประมูลก็จะเริ่มแล้ว หากท่านทั้งสองต้องการสิ่งใดโปรดแจ้งดิฉันผ่านทางนี้ หรือหากท่านต้องการอาหารหรือเครื่องดื่มก็สามารถดูได้ที่เมนูทางนี้นะคะ”
เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะกล่าวขอบคุณพนักงานและยื่นทิปให้กับเธอ พนักงานกล่าวขอบคุณก่อนจะจากไป
จากนั้นเทียนหลางก็หันมาพูดคุยกับเฟิงหยวนที่กำลังพลิกหนังสือรายละเอียดของสินค้าที่ถูกนำเข้ามาในงานประมูลอยู่
“คุณหิวหรือยัง ?”
เฟิงหยวนพยักหน้าเล็กน้อย เทียนหลางก็ยิ้มพร้อมกับสั่งอาหารมาทาน ไม่นานนักอาหารก็มาถึงพร้อมกับงานประมูลที่เริ่มขึ้น
หญิงสาวงดงามคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับกล่าวเปิดงานประมูล จากนั้นสินค้าชิ้นแรกก็ถูกนำขึ้นมาซึ่งมันเป็นก้อนแร่หยกขนาดเท่าใหญ่
มันถูกประมูลออกไปอย่างรวดเร็วด้วยราคาเกือบแสนเหรียญ จากนั้นก็มีสินค้าอีกมากมายที่ถูกนำขึ้นมาประมูลซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นก้อนแร่ขนาดใหญ่และตัวของเทียนหลางเองก็ได้ประมูลมันไปสองสามชิ้นเพราะเห็นว่าสามารถนำไปสร้างเป็นเครื่องประดับวางขายที่ร้านค้าของเขาได้
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เริ่มมีสินค้าเกี่ยวกับผู้บ่มเพาะออกมามีทั้งเม็ดยา เทคนิคการบ่มเพาะ และเคล็ดวิชาต่างๆมากมาย รวมถึงสมบัติจำนวนมากอีกด้วย
แต่สิ่งของเหล่านั้นก็ไม่ได้มีอะไรที่สามารถเรียกความสนใจของเขาได้เลยสักนิด ดังนั้นสำหรับเทียนหลางแล้วงานประมูลนี้จึงค่อนข้างจะน่าเบื่อเสียเหลือเกิน
และสำหรับเฟิงหยวนนั้นก็ไม่แตกต่างกันในตอนแรกที่เธอสนใจงานประมูลนี้เพราะคิดว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจ แต่มันกลับน่าผิดหวังเสียเหลือเกิน
ไม่ว่าจะเป็นเม็ดยาและเคล็ดวิชาระดับต่ำที่ถูกประมูลไปในราคาที่สูงจนน่าแปลกใจแล้ว และยังมีสิ่งของที่มันไม่สมควรจะอยู่ในรายการประมูลอีกด้วย
อย่างเช่นเม็ดยาที่มีผลข้างเคียง หรือเทคนิคบ่มเพาะและวิชาการต่อสู้ที่ไม่สมบูรณ์
ในฐานะที่เฟิงหยวนเป็นถึงเทพธิดาสวรรค์และเจ้าสำนักร่วมของสำนักสวรรค์นิรันดิ์ เมื่อเธอได้มาเห็นสิ่งเหล่านี้มันทำให้เธอแทบจะทนไม่ได้
โชคดีที่สิ่งของพวกนี้ไม่ได้ปรากฏออกมามากนัก ไม่อย่างงั้นเฟิงหยวนคงจะพังงานประมูลนี้ไปแล้วด้วยเหตุผลที่สิ่งของเหล่านี้มันช่างหลอกลวงเสียเหลือเกิน
และที่น่าปวดหัวไปมากกว่านั้นก็คือ ยังมีคนที่กล้าจะแย่งกันประมูลของพวกนั้นไปด้วยเงินจำนวนมหาศาล และเมื่อคนเหล่านั้นได้รับของไปแล้วก็แสดงสีหน้าดีใจกันเสียยกใหญ่ราวกับว่าได้สมบัติสวรรค์มาครอบครอง
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายอยู่นั้นก็ได้มีสินค้าชิ้นหนึ่งที่สามารถเรียกความสนใจจากทั้งคู่ได้ มันคือก้อนแร่ขนาดไม่ใหญ่มากนักเพียงแค่สามสิบเซนติเมตรแต่กลับมีประกายอันงดงาม พร้อมกับแผ่ออร่ากันน่าหลงใหลออกมา
เทียนหลางจ้องมองไปที่มันอย่างสนใจเล็กน้อยก่อนจะพูดกับเฟิงหยวน
“ไม่คิดเลยว่าจะพบมันในโลกนี้นะเนี้ย”
เฟิงหยวนพยักหน้าพร้อมกับตอบกลับ
“คิดไม่ถึงจริงๆจะได้พบเจอกับแร่จิตวิญญาณในที่แบบนี้ ดูเหมือนประเทศดาราแห่งนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยคุณว่างั้นไหม ?”
เทียนหลางพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเฟิงหยวน เพราะแร่จิตวิญญาณนั้นแม้แต่ในแดนสวรรค์ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะหายาก
เพราะแร่จิตวิญญาณนั้นเป็นวัตถุดิบที่ล้ำค่าเพราะมันเป็นวัตถุดิบในการหลอมศาสตราวุธวิญญาณ และยังสามารถนำมาหลอมเป็นส่วนผสมในการสร้างเม็ดยาจิตวิญญาณอีกด้วย
และการที่จะได้รับมันมาสักก้อนนึงนั้นเป็นอะไรที่หาได้ยาก แม้แต่บนแดนสวรรค์ก็ยังโผล่มานานๆครั้ง และเมื่อโผล่มาก็มักจะถูกนำมาประมูลในราคาที่สูงลิ่วจนสามารถทำให้เทพระดับล่างสักคนล้มละลายได้เลย
มันล้ำค่าถึงขั้นแม้แต่มหาเทพก็ยังลงมาประมูลด้วยตัวเองเลยทีเดียว
ในขณะนั้นการประมูลแร่จิตวิญญาณก็ได้เริ่มต้นขึ้น
