The Strongest Hokage – ตอนที่ 187

ตลอดทางในทะเลทราย

ตอนนี้ ดาบคุซานางิ 2 เล่ม อยู่ที่ ไนโตะ และเขาก็ผนึกมันไว้ที่มือด้านซ้าย 1 เล่ม และมือด้านขวา 1 เล่ม

ทันทีที่ ไนโตะ ได้ดาบเล่มที่ 2 มา เขาก็รู้สึกถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างดาบทั้ง 2 เล่มนี้

ดาบ 2 เล่มนี้ มีลักษณะคล้ายกันมาก ทั้ง 2 เล่มมีรูปร่างและคมดาบคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันบางอย่าง

และสิ่งที่แตกต่างกันของทั้ง 2 เล่มก็คือ

เล่มแรก คือเล่มที่ใช้โดย โอโรจิมารุ มันมีความสามารถในการยืดและหดตัวโดยการส่งจักระของผู้ใช้เข้าไปในดาบ มันเป็นดาบที่พิเศษ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้มีพลังเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

ส่วนดาบเล่มที่ 2 ที่ได้มาจาก หมู่บ้านซึนะ มันไม่สามารถยืดหดได้ แต่มันมีความสามารถในการเพิ่มพลังโจมตีให้กับผู้ใช้!

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ถ้าใช้ดาบเล่มที่ 2 ร่วมกับ พลังสั่นสะเทือน ก็จะทำให้การโจมตีของ ไนโตะ รุนแรงกว่าการใช้ พลังสั่นสะเทือน ร่วมกับดาบเล่มแรก

ที่จริงแล้ว ไนโตะ ก็ยังไม่เคยใช้ความสามารถของดาบเล่มแรกเลย

อย่างไรก็ตาม ไนโตะ ก็ยังต้องการที่จะหาดาบเล่มที่ 3 ต่อไปอยู่ดี

ตอนที่ ไนโตะ ถือดาบทั้ง 2 เล่มไว้ในมือ เขารู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างดาบทั้ง 2 เล่มนี้เล็กน้อย และเขาก็รู้ว่าถ้าเขารวมได้ครบทั้ง 3 เล่ม มันน่าจะทำให้เกิดผลบางอย่างขึ้น

ในที่สุด ไนโตะ ก็เดินมาจนมองเห็นสนามรบที่ โคโนฮะ และ ซึนะ ต่อสู้กันอยู่

หลังจากที่ ไนโตะ เดินไปอีกครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ก้าวเข้าสู่สนามรบ มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด พื้นดินถูกทำลายและมีศพจำนวนมากกระจัดกระจายอยู่เต็มสนามรบ

ไนโตะ มองไปรอบ ๆ สนามรบ แต่ก็ไม่เห็นใครกำลังต่อสู้อยู่เลย และดูเหมือนว่าตอนนี้จะอยู่ระว่างพักรบเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรบครั้งต่อไป

ในตอนนี้ดูเหมือนว่า ไนโตะ จะเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่ในสนามรบ

เมื่อเห็นแบบนั้น ไนโตะ จึงเดินไปที่ ค่ายของโคโนฮะ ทันที

เดินไปไม่กี่ก้าว ไนโตะ ก็มองเห็นอาคารชั่วคราวที่อยู่ใน ค่ายโคโนฮะ

……

ค่ายโคโนฮะ

สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่กลางค่าย ผู้บัญชาการยังคงเป็น ซาคุโมะ เช่นเดิม ส่วน ดันโซ ก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาให้เห็นในด่านหน้าเป็นเวลานานแล้วและไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

ในห้องบัญชาการมีแผนที่ขนาดใหญ่ของ แคว้นแห่งลม วางอยู่บนโต๊ะที่กลางห้อง ในขณะที่ ซาคุโมะ และ ซึนาเดะ กำลังยืนมองมันอยู่เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ในสนามรบ

“เราไม่ได้คืบหน้าไปเลยสักนิด”

ซึนาเดะ และ ซาคุโมะ ยังคงจ้องไปที่แผนที่นั้นอยู่ จากนั้น ซาคุโมะ ก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ

ซาคุโมะ ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะท่านกับทีมแพทย์ของท่าน ที่ทำยาแก้พิษของ ย่าโจ ไว้ ป่านนี้พวกเราคงบาดเจ็บล้มตายไปมากกว่านี้มาก”

ซึนาเดะ พยักหน้าและพูดว่า “อื้ม สิ่งแวดล้อมที่นี่เป็นใจให้พวกมันจริง ๆ ถึงกองทัพของเราจะแกร่งกว่า แต่ถ้าต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนี้นาน ๆ ก็คงจะไม่ไหว”

เธอพูดคำเหล่านี้ แล้วตบโต๊ะด้วยความโกรธ

ซาคุโมะ มองไปหาเธอ จากนั้นเขาก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “มันยากกว่าที่เราคาดไว้ และต่อให้เราบุกเข้าไปใน แคว้นแห่งลม ได้ เราก็ต้องเข้าไปในทะเลทรายที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดที่ไหน ซึ่งจะทำให้เราเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง”

“นินจาซึนะ ใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดีมาก พวกเขาสามารถซุ่มโจมตีและดูการเคลื่อนไหวของเราได้อย่างง่ายดาย นั้นเป็นอีก 1 ปัญหาใหญ่ของเรา”

เมื่อฟังคำพูดของ ซาคุโมะ แล้ว ซึนาเดะ ก็แสดงออกอย่างหมดหนทางและพูดว่า “ถึงเราจะสามารถเอาชนะ ซึนะ ได้ในสนามรบ แต่ทันทีที่พวกมันล่าถอยกลับไปในทะเลทราย ถ้าเราตามไปเราก็จะเสียเปรียบและพลาดท่าในที่สุด”

“เราจะต้องเอาชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ สิ่งเดียวที่เราทำได้ก็คือเราคงต้องเอาชนะต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าพวกมันจะไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป”

 

“If we just can backstab them and attack their village directly, this way they will have no longer a reason to fight.”
“ถ้าเราสามารถหนุนหลังพวกเขาและโจมตีหมู่บ้านของพวกเขาโดยตรงวิธีนี้พวกเขาจะไม่มีเหตุผลที่จะต่อสู้”

“แล้วถ้าเราลอบเข้าไปโจมตีหมู่บ้านพวกมันละ พวกมันจะต้องกลับไปป้องกันหมู่บ้านอย่างแน่นอน”

ซึนาเดะ นึกเรื่องนี้ขึ้นมาได้ จากนั้นเธอก็มองไปยังที่ตั้งของพวกเขาที่อยู่ขอบชายแดนกับที่ต้องของหมู่บ้านที่อยู่กลางทะเลทราย จากนั้นเธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวเราะออกมา

เธอรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถไปถึงใจกลางของทะเลทรายได้ แล้วพวกเขาจะไปโจมตี หมู่บ้านซึนะ ได้ยังไง!

“ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ต่อให้ โฮคาเงะ มาช่วยเราทีนี่ มันก็ยังยากที่จะบุกเข้าไปจนถึง หมู่บ้านซึนะ ได้อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น ต่อให้เราไปถึงที่นั่นได้ในที่สุด เราก็จะหมดแรงและถูกพวกมันฆ่าได้อย่างง่ายดาย”

ซาคุโมะ พูด แล้วถอนหายใจและส่ายหัว

แม้ว่าพวกเขาจะไปถึง หมู่บ้านซึนะ ได้ แต่พวกเขาจะต่อสู้กับ คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 ได้อย่างไร ในขณะที่เขาอยู่ใน แคว้นแห่งลม ที่มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้เขา?

แม้แต่ ฮันโซ ก็ไม่สามารถเอาชนะ คาเสะคาเงะ รุ่นที่ 3 ได้ในสภาพแวดล้อมแบบนี้

ทันใดนั้น ในขณะที่พวกเขาทั้ง 2 กำลังคุยกันเรื่องสถานการณ์ในสนามรบ นินจาคนหนึ่งก็เคาะประตูแล้วรายงานกลับ ซาคุโมะ ว่า

“ท่านซาคุโมะ ไนโตะ มาถึงแล้วครับ”

“ไนโตะคุง งั้นเหรอ?!”

ทั้ง ซาคุโมะ และ ซึนาเดะ ก็รู้สึกประหลาดใจ พวกเขามองหน้ากันและกัน ในขณะที่ดวงตาของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังดีใจอยู่

เกือบหนึ่งปีแล้วนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ ซึนาเดะ เห็น ไนโตะ เดินทางไปยัง แคว้นแห่งฝน และเธอรู้สึกมีความสุขที่เธอจะได้เจอกับ ไนโตะ อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น การที่ ไนโตะ มาที่นี่ก็ทำให้เธอมั่นใจว่า กองทัพโคโนฮะ จะต้องรุกคืบเข้าไปใน แคว้นแห่งลม ได้บ้างไม่มากก็น้อย

ซาคุโมะ และ ซึนาเดะ กำลังคิดในสิ่งเดียวกัน

ไนโตะ ถือได้ว่าเป็นไพ่ตายใบสำคัญ เมื่อเขามาที่นี่ แม้ว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามแผน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะสามารถเอาชนะได้และคืบหน้าไปอย่างช้า ๆ

“ให้เขาเข้ามา”

ซาคุโมะ พูดกับนินจาคนนั้น

ไนโตะ รอคำอนุญาตจาก ซาคุโมะ อยู่ข้างนอก เขาสามารถเข้าไปได้ในทันที แต่เขาก็ให้ความเคารพต่อ ซาคุโมะ

หลังจากที่ ไนโตะ ผลักประตูเข้าไป เขาก็เดินเข้ามาในห้อง และเมื่อเขาเห็น ซึนาเดะ เขาก็ยิ้มให้เธอแล้วพูดว่า “นานแล้วสินะครับ”

ซึนาเดะ มองไปหาเขาและหัวเราะเบา ๆ “ก็ใช่นะสิ เธอโตขึ้นมากเลยนะ”

ตอนนี้ดูเหมือนว่าพลังของ ซึนาเดะ จะอยู่ในระดับเดียวกับ คาเงะ แล้ว และตอนนี้เธอก็มีรอยสักรูปข้าวหลามตัดสีเขียวบนหน้าผาก นั้นก็หมายความว่าตอนนี้เธอฝึก วิชาเบียคุโก ได้สำเร็จแล้วนั้นเอง

ด้าน ซึนาเดะ เองก็รู้สึกได้ว่า ไนโตะ แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เขาก้าวหน้าขึ้นมากในปีนี้

เธอสงสัยว่าบางที่ ไนโตะ อาจจะแข็งแกร่งว่า ซาคุโมะ ไปแล้ว

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset