The Strongest Hokage – ตอนที่ 249

“การใช้อาวุธนี้ไม่ใช่แค่ทำให้ พลังสั่นสะเทือน รุนแรงกว่าตอนที่ใช้หมัด แต่มันยังเพิ่มระยะทำลายล้างให้กว้างขึ้นอีกด้วย”

เมื่อ ไนโตะ กำลังตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้า ๆ ลงสู่พื้น เขาก็มองไปที่หลุดขนาดมหึมาที่เขาทำ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ทันใดนั้น ค้อนทองคำ ก็เปลี่ยนรูปร่างและกลายเป็นถุงมือทองคำที่ ไนโตะ สวมอยู่

หลังจากนั้น ไนโตะ ก็มองอย่างจริงจังไปที่ก้นหลุมและเขาก็รวบรวมพลังอีกครั้ง แล้วต่อยหมัดออกไป

ตู้ม!!!

ไนโตะ มุ้งเป้าไปที่ก้นหลุม ด้วยการโจมตีนี้ของเขาทำให้หลุมยุบลึกลงไปลึกมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว เห็นได้ชัดว่าระยะการทำลายของมันน้อยกว่าการโจมตีครั้งก่อนหน้า แต่พลังของมันก็รุนแรงกว่า!

ผนังด้านในหลุมค่อย ๆ ทรุดตัวลงเรื่อย ๆ ขณะที่หลุมทะลุลงไปจนถึงน้ำบาดาลใต้ดินจนทำให้เกิดเป็นน้ำพุพุ่งขึ้นมา!

เฮ้ย!

น้ำไหลออกจากหลุมเป็นจำนวนมากจนทั้งผืนป่ากลาเป็นทะเลสาบอันกว้างใหญ่!

……

หลังจากที่ ไนโตะ ทดสอบอาวุธใหม่ของเขาต่อไป เขาก็ไม่ได้ก่อความเสียหายใด ๆ เพิ่มเติม เมื่อทดสอบเสร็จเขาก็ยักไหล่และหันหลังเพื่อเดินกลับหมู่บ้าน

ลูกแก้วแห่งการกำเนิด สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามต้องการ และเมื่อใดที่ผู้ใช้ไม่ได้ส่งจักระเข้าไป มันก็จะรักษาสภาพเป็นลูกแก้วเช่นเดิม และทันทีที่ผู้ใช้ส่งจักระเข้าไป มันก็จะเปลี่ยนรูปร่างได้ตามผู้ใช้ต้องการ

ยิ่งเปลี่ยนเป็นของที่ขนาดใหญ่เท่าไรก็ยิ่งใช้จักระมากเท่านั้น ถ้าคุณต้องการสร้างเกราะขนาดใหญ่คุณก็จะต้องใช้จักระเป็นจำนวนมากในการทำเช่นนั้น

แม้ว่า ไนโตะ จะเรียนรู้โหมดเซียน และจักระของเขาก็พัฒนาขึ้นอย่างน่าประทับใจ แต่ก็ยังสูงกว่าระดับของ คาเงะ ไม่เท่าไรนัก

ไนโตะ ต้องพัฒนาให้มากกว่านี้ อย่างน้อยก็ต้องให้เข้าใกล้ระดับพลังของ ฮาชิรามะ เมื่อนั้นเขาก็จะเข้าถึง โหมดเซียนขั้นที่ 2 และได้ร่างกายที่เป็นอมตะ หลังจากนั้นเขาก็สามารถ เปิดประตูด่านพลังบานที่ 6 ได้

อย่างไรก็ตาม ลูกแก้วแห่งการกำเนิด นั้นก็น่าทึ่งเป็นอย่างมาก

ยิ่งจำนวนจักระมากเท่าไร การโจมตีของอาวุธนี้ก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น มันง่ายที่จะใช้มัน แต่มันก็แข็งแกร่งและทุกคนก็สามารถใช้มันได้

เป็นเรื่องน่าเสียดายที่คนที่สร้างอาวุธนี้ไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อดูพลังของมัน

หาก ไนโตะ ไม่ได้พยายามอย่างหนักเพื่อรวบรวมดาบทั้ง 3 นี้มารวมกัน อาวุธนี้ก็จะหายไปตลอดการในสายน้ำแห่งประวัติศาสตร์

ไนโตะ ไม่จำเป็นต้องผนึกดาบอีกต่อไป สิ่งที่เขาต้องทำก็แค่คิดว่า ให้อาวุธหดตัวลงและกลายเป็นแหวนสวมไว้ที่นิ้วของเขา

ตราบใดที่เขาเก็บมันไว้ที่นิ้วของเขา เมื่อเข้าต้องการใช้อาวุธเขาก็แค่ส่งจักระเข้าไปในแหวน มันก็จะเปลี่ยนรูปร่างอีกครั้งและกลายเป็นสิ่งที่เขาต้องการ

ไนโตะ รู้สึกมีความสุขกับอาวุธชิ้นใหม่ชิ้นนี้

ไนโตะ เดินออกจากพื้นที่นั้นและมุ่งหน้ากลับไปยัง โคโนฮะ

เขาไล่ล่า มือเลือด อยู่นานจนกระทั่งเขาไล่มาจนถึงชายแดนของ แคว้นแห่งไฟ

อย่างไรก็ตาม ระยะทางก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ ไนโตะ ด้วยความเร็วสูงสุดของเขา เขาสามารถเคลื่อนที่ได้ไกลขึ้นด้วยการก้าวเพียงก้าวเดียว และเนื่องจากโหมดเซียนของเขาเปิดใช้อยู่ตลอดเวลา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกินอะไรเลย

ในการ์ตูน นารูโจะ ต้องกินแมลงเข้าไปเพื่อให้อยู่รอดในการฝึกของเขา แต่ไม่ใช่สำหรับ ไนโตะ เพราะเขาผสานพลังงานธรรมชาติกับเซลล์ของเขา ผลลัพธ์จึงแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

เส้นทางของ นารูโตะ ตามในการ์ตูนไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

หากเขาไม่ได้เป็นผู้สืบทอดสายเลือดของ อาชูร่า และปลุกพลังของ เซียน 6 วิถี มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะก้าวข้ามโหมดเซียนขั้นที่ 2 และไปถึงระดับนั้นได้

แต่เส้นทางของ ไนโตะ นั้นแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการรวม พลังงานธรรมชาติ เข้ากับ กระบวนท่าเปิดประตูด่านพลังทั้ง 8 แบบย้อนกลับ มันจะทำให้เขาสามารถเข้าถึงโหมดเซียนขั้นที่ 2 ได้

ตลอดทาง ไนโตะ เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงโดยไม่จำเป็นต้องใช้ เหยียบเวหา เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ด้วยเหตุนี้เขาจึงอดไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับความเร็วของเขา

“ความเร็วของเราเพิ่มขึ้นมากเลยสิน่ะ แต่เราก็ยังไม่รู้ว่า เหยียบเวหาขั้นสูง พอจะสู้กับ เทพอัสนีเวหา ได้รึเปล่า”

ไนโตะ พึมพำกับตัวเอง เขาอดไม่ได้ที่จะคิดเกี่ยวกับ มินาโตะ เพราะ ไนโตะ ไม่รู้ว่าตอนนี้ มินาโตะ ได้เรียนวิชา เทพอัสนีเวหา แล้วหรือยัง

เทพอัสนีเวหา เป็นวิชาลับที่ผู้ใช้ต้องมี มีดคุไนพิเศษ ปักไว้ในที่ที่ต้องการไป จากนั้นมันก็จะส่งผ่านผู้ใช้ไปยังจุดนั้นทันที เทพอัสนีเวหา ไม่จำเป็นต้องประสานอิน เพียงแค่คิดว่าจะใช้ก็สามารถใช้ได้เลย

อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีข้อเสียอยู่

ในระยะทางสั้น ๆ มินาโตะ จะต้องค้นหาตำแหน่งและนำ คุไน ไปที่นั่นก่อนเขาจึงจะสามารถเคลื่อนย้ายไปที่ตำแหน่งนั้นได้

อาจกล่าวได้ว่าในระยะทางสั้น ๆ ความเร็วของ ไนโตะ สามารถเทียบได้กับ เทพอัสนีเวหา และในบางสถานการณ์ก็ยิ่งทำได้เร็วกว่า!

แน่นอนว่า เทพอัสนีเวหา ไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ตราบใดที่มี คุไนพิเศษ นั้นอยู่ ก็สามารถไปที่นั่นได้ทันที

ในทางกลับกัน แม้ว่า ไนโตะ จะมีความเร็วมากแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางตามความเร็วของ เทพอัสนีเวหา ในระยะไกลได้ทัน

แต่ ไนโตะ ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นสักเท่าไร

ไนโตะ มุ่งเน้นไปที่การสั่นสะเทือนของพลังงานธรรมชาติในอากาศมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้วยสัมผัสพิเศษของเขา เขายังคงสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติได้ในขณะเคลื่อนที่

ในขณะที่ ไนโตะ กำลังมุ่งหน้ากลับ โคโนฮะ เขาก็สังเกตเห็นภูเขาลูกใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป

ภูเขาลูกนั้นกว้างใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่สัมผัสพิเศษของเขาก็ไม่สามารถมองเห็นมันได้ทั้งหมด

และสิ่งที่น่าแปลกกว่าก็คือ ที่ภูเขาลูกนั้นเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความหนาแน่นของพลังงานธรรมชาติที่มีอยู่อย่างมหาศาล!

ยิ่งเขาเข้าไปใกล้ภูเขาลูกนั้นมากเท่าไหร่ เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานธรรมชาติที่มากขึ้นเท่านั้น

หลังจากค้นพบภูเขาที่แปลกประหลาดนี้ ไนโตะ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปดูที่นั่น ปริมาณพลังงานธรรมชาติในสถานที่นั้นดึงดูดความสนใจของ ไนโตะ อย่างแท้จริง

เมื่อ ไนโตะ เข้าใกล้มันทีละน้อย ๆ ความลึกลับของภูเขานี้ก็ค่อย ๆ เปิดเผย และในที่สุด ไนโตะ ก็จำสถานที่แห่งนี้ได้

ภูเขาเมียวโบคุ!

มันเป็นสถานที่ที่ นารูโตะ ใช้ในการฝึก โหมดเซียน ในการ์ตูน นอกจากนี้มันยังเป็นที่อยู่อาศัยของกบอีกด้วย

 

ติดตามข่าวสาร และ อ่านก่อนใคร ได้ที่เพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset