The Strongest Hokage – ตอนที่ 321

“นี่เป็นวิธีการควบคุมจักระ”

ไม่ไกลจากค่ายโคโนฮะ

ระหว่างต้นไม้มีคน 2 คนยืนอยู่ที่นั่นและคนที่กำลังอธิบายวิธีการควบคุมจักระก็คือ ไนโตะ

อังโกะ ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา เผยให้เห็นการแสดงออกอย่างเคารพของเธอ

ไนโตะ ไม่ได้ทำอะไรในขณะที่ โอโรจิมารุ กำลังทำการวิจัย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจช่วย อังโกะ ในการฝึกฝนของเธอ

แน่นอนว่านี่ไม่ใช้เหตุผลของเรื่องราวทั้งหมด ประเด็นหลักก็คือ ไนโตะ มีทฤษฎีบางอย่างและเขาต้องการลองใช้กับ อังโกะ

อ้างอิงจาก โอโรจิมารุ ในการ์ตูน เขาได้พัฒนาอักขระสาปแล้วกดลองกับคน 10 คน และเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้ก็คือ อังโกะ

ไนโตะ ไม่สนใจ อักขระสาป เขาสนใจเพียงแค่วิธีการแปลงพลังธรรมชาติไปสู่ร่างกายของผู้อื่นและเสริมพลังให้กับคนคนนั้น

ปัจจุบัน ไนโตะ ยังอายุไม่มากนัก แต่เขาก็ไม่ใช่นินจาที่มีอายุน้อยที่สุดอีกต่อไป แม้แต่ คุชินะ ที่แข็งแกร่งขึ้นเพราะความแข็งแกร่งของ คุรามะ แต่เธอก็จะมีอายุมากขึ้นและไม่ช้าก็เร็วเธอต้องตายอยู่ดี!

สิ่งที่ ไนโตะ ต้องการก็คือหาวิธีช่วย คุชินะ ให้พ้นจากชะตากรรมนั้น

วิชาเบียคุโก ของ ซึนาเดะ สามารถใช้ในการรักษาได้เท่านั้น มันสามารถป้องกันความตาย แต่มันไม่สามารถให้ความเป็นอมตะได้

ด้วย โหมดเซียนขั้นสมบูรณ์ ของ ไนโตะ ทำให้แม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่อีกเป็นหลายร้อยปี ร่างกายของเขาก็จะไม่มีวันชรา เพราะพลังของ ไนโตะ นั้นแข็งแกร่งเกิดกว่าเรื่องพวกนั้นมาก และเขาก็สามารถดูดซับ พลังงานธรรมชาติ ได้ไม่ว่าจะจากสวรรค์และโลกได้เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการ

อย่างไรก็ตามพลังชนิดนี้ไม่สามารถส่งผ่านไปยังผู้อื่นได้ เพราะมันเป็นพลังที่เฉพาะตัว แต่พลังธรรมชาติจำเป็นสามารถทำได้ แต่ก็ยังคงควบคุมได้ยากอยู่ดี

การที่จะควบคุมพลังงานธรรมชาติให้ได้นั้นจะต้องใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝนโหมดเซียนให้สำเร็จ และมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ

สิ่งที่ ไนโตะ พยายามทำคือการสร้าง อักขระสาป เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซับพลังงานธรรมชาติได้

ก่อนอื่นเขาสอนให้ อังโกะ ทราบถึงวิธีการควบคุมจักระที่แม่นยำ ความเฉลียวฉลาดของเด็กสาวคนนี้ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ในเวลาสั้น ๆ เธอก็เข้าใจทุกอย่างที่ ไนโตะ อธิบายและตอนนี้เธอมาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการฝึกแล้ว

“ขอบคุณค่ะ ครูไนโตะ”

อังโกะ มีความสุขมากที่ ไนโตะ ใช้เวลาส่วนหนึ่งของเขาในการสอนสิ่งเหล่านี้ให้กับเธอ นั่นทำให้เธอยิ่งรู้สึกเคารพเขามากขึ้นไปอีก เธอโค้งคำนับ ไนโตะ อย่างอ่อนน้อมด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายแห่งปัญญาและความสุข

“ไม่เป็นไร”

ไนโตะ ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “โอโรจิมารุ ยุ่งอยู่กับการทำวิจัยของเขา และเพราะเธอเป็นลูกศิษย์ของเขา ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ฉันจะดูแลเธอในตอนนี้”

ถึงยังไง อังโกะ ก็ยังรู้สึกขอบคุณเขาไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะดูเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ อังโกะ ก็รู้ว่าถ้าเขาไม่สอนเธอมันคงต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่เธอจะคิดออกทั้งหมด

“ถ้างั้นก็จงฝึกต่อไปน่ะ”

ไนโตะ พยักหน้าให้เธอ จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปบนยอดไม้แล้วนั่งเอนหลังพิงลำต้นของต้นไม้

เธอเฝ้าดูเขาด้วยความชื่นชมจากนั้นเธอก็เริ่มฝึกฝน

หลังจากที่ อังโกะ สามารถควบคุมจักระได้ถึงขีดจำกัดตามอายุของเธอแล้ว ไนโตะ เลือกที่จะไม่ปกปิดอะไรจากเธอและบอกกับเธอโดยตรงว่าเขาสามารถช่วยให้เธอแข็งแกร่งขึ้นได้มากกว่านี้ แต่การทำแบบนั้นก็มีความเสี่ยง

สิ่งที่ทำให้ ไนโตะ ประหลาดใจก็คือ อังโกะ ไม่กลัวความเสี่ยงเหล่านี้ เธอเห็นด้วยทันทีและเธอบอกว่าเธอยินดีที่ที่จะให้ ไนโตะ ทดลองกับเธอ

แน่นอนว่าคุณไม่สามารถคาดหวังอะไรจากศิษย์ของ โอโรจิมารุ ได้

อังโกะ เชื่อฟังคำสั่งมาก แต่ทัศนคติของ ไนโตะ แตกต่างจากเจ้านายของเธอ เขาไม่ต้องการให้เธอเป็นอะไรไป ดังนั้นเขาจึงขอเธอวาสเมื่อเธอรู้สึกเจ็บปวดหรือรู้สึกทนไม่ไหวให้เธอบอกเขา เขาจะหยุดทันที

เขาไม่รู้ว่าเขาโชคดีหรือไม่ เพราะ อังโกะ นั้นพิเศษจริง ๆ ทันทีที่เขาฉีดพลังงานธรรมชาติบางส่วนเข้าสู่ร่างกายของเธอ สัญลักษณ์ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ! เธอดูดซับพลังงานธรรมชาติได้จริง ๆ!

เนื่องจากนี้ไม่ใช่ อักขระที่ถูกสาป มันจึงไม่ใช่สัญลักษณ์ที่เป็นรูปหยดน้ำ 3 หยดเหมือน อักขระสาปของ โอโรจิมารุ แต่มันเป็นจุดแสงเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นมาบนหน้าผากของเธอ ซึ่งคล้ายกับ วิชาเบียคุโก ของ ซึนาเดะ

ขั้นตอนแรกของความพยายามนั้นประสบความสำเร็จและความแข็งแกร่งของ อังโกะ ก็เพิ่มขึ้นอย่างงดงาม ความสามารถของเธอก้าวกระโดดจนก้าวข้ามระดับ จูนิน ได้และใกล้ถึงระดับของ โจนิน อย่างมาก

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวนจักระหรือความแข็งแกร่งก็ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น

เมื่อเห็นแบบนั้น โอโรจิมารุ ก็ค่อนข้างประหลาดใจกับสิ่งที่เขาทำ แต่เขาก็ไม่ได้คิดจะหยุดมัน แต่เขาสนใจสิ่งที่ ไนโตะ ทำแทน

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ โอโรจิมารุ กำลังศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างวิญญาณกับจักระ อยู่ เขาก็ยังมีเวลาศึกษาพลังงานธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพดังนั้นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ อังโกะ จึงไม่ได้ดึงดูดความตั้งใจของเขามากนัก

การพัฒนาที่เธอได้รับและพลังที่ ไนโตะ มอบให้แก่เธอทำให้เธอยิ่งชื่นชมเขามากยิ่งขึ้น นั่นทำให้ ไนโตะ รู้สึกว่าเขาไม่ควรทำแบบนี้ เพราะมันเป็นการเข้าไปเปลี่ยนความคิดของ อังโกะ จนความคิดของเธอเปลี่ยนไปจากในการ์ตูน

หลังจากทดลองหลายครั้ง ไนโตะ ก็สรุปได้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่มีผลกับแค่ความแข็งแกร่งของ อังโกะ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ และอัตราความสำเร็จนั้นสูงมากอีกด้วย และแม้ว่ามันจะล้มเหลว ไนโตะ ก็สามารถระงับพลังงานธรรมชาติได้อย่างรวดเร็วในทุกครั้งที่เกิดข้อผิดพลาด

การเปลี่ยนแปลงนี้สามารถพัฒนาเซลล์มนุษย์ได้เล็กน้อย แม้ว่ามันจะปรับปรุงได้เพียงเล็กน้อย แต่ ไนโตะ ก็คาดการณ์ว่าอัตราการพัฒนานี้จะอยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งหมายความว่าถ้าบุคคลนั้นมีอายุไขอยู่ที่ 100 ปี หลังจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เขาจะมีอายุไขอยู่ที่ 130 ปี

ความสำเร็จของขั้นแรกทำให้ ไนโตะ มองโลกในแง่ดีขึ้นดังนั้นเขาจึงเริ่มต้นทันทีด้วยขั้นตอนต่อไปของการทดลอง และ อังโกะ ก็ยังคงตอบตกลงเช่นกัน แม้ว่ามันจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นก็ตาม

เพราะเรื่องนี้ ไนโตะ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

-ดูเหมือนว่าตอนนี้ ไนโตะ จะปล้นลุกศิษย์ของ โอโรจิมารุ มาเป็นของตัวเองแล้ว…และพูดได้เลยว่านี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องเมื่อคิดว่า โอโรจิมารุ จะทำอะไรกับเธอในอนาคต

ระยะที่ 2 ของการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ ไนโตะ จะเพิ่มพลังเข้าไปมากขึ้นเท่านั้น เขาล้มเหลวมากกว่า 10 ครั้งติดต่อกันและเหตุผลของความล้มเหลวก็คือเมื่อใดก็ตามที่ ไนโตะ เห็นว่า อังโกะ เจ็บปวด เขาก็จะหยุดทันที เพราะเขาไม่อยากให้เธอได้สัมผัสกับความเจ็บปวดใด ๆ

แม้ว่าเธอจะเสนอไปว่าไม่จำเป็นต้องหยุด แต่ ไนโตะ ก็ตอบเธอกลับด้วยรอยยิ้มและปฏิเสธเสมอ นั่นทำให้ อังโกะ รู้สึกของคุณ ไนโตะ มากขึ้นไปอีก

วิธีการของ ไนโตะ นั้นค่อนข้างแตกต่างจาก โอโรจิมารุ เพราะหลังจากที่ โอโรจิมารุ พัฒนา อักขระสาป สำเร็จแล้ว เขาก็พบว่ามันสะดวกกว่าที่จะหาคนอื่นมาทดสอบและเขาไม่สนใจว่าคน ๆ นั้นจะเจ็บปวดหรือตาย เขาสนใจแค่ผลลัพธ์เท่านั้น

แต่ตามความคิดของ ไนโตะ แล้วเขาคิดว่าถ้าคนที่เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงรู้สึกไม่สบายมันพิสูจน์ได้ว่ากระบวนการนั้นไม่สมบูรณ์ และจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาต่อไป

หลังจากล้มเหลวหลายครั้ง ไนโตะ ก็ประสบความสำเร็จในที่สุด แต่คราวนี้ดูเหมือนว่ามันเป็นเพราะลักษณะเฉพาะของ อังโกะ

ในการ์ตูน เธอเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการมีชีวิตรอดมาจากการใช้ อักขระสาป และ ไนโตะ ก็ต้องการรู้องค์ประกอบที่ไม่เหมือนใครนี้

The Strongest Hokage

The Strongest Hokage

ผลปีศาจ เป็นที่รู้จักกันดีว่ามันเป็นผลไม้ที่ให้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่ง One Piece… ขีดจำกัดสายเลือด เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนินจา Naruto… แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ผลปีศาจ ถูกพบในโลกแห่งนินจา Naruto และถ้าหากมันถูกกินมันจะให้พลังแก่ผู้ที่กินมันเทียบเท่ากับพลังของขีดจำกัดสายเลือดหรือไม่ แล้วผู้ที่กินผลปีศาจเข้าไปจะทำอย่างไรกับพลังที่เขาได้รับมาบ้าง เรื่องราวที่เกิดขึ้นย้อนกลับไปก่อนมหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset